ตอนที่ 45 เป็นอันตกลง!!
"สะ..สองร้อยล้าน!!"
ซูซ่งหยู ตกตะลึง เผลอลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว เล้งซานเห็นเช่นนั้นก็แอบหัวร่อในใจ แต่สีหน้าที่แสดงออกมายังคงนิ่งเฉย จากนั้นก็ยกมือขึ้นประสานให้ ซูซ่งหยู อีกครั้ง
"ใช่แล้วท่านซู และกำหนดการครั้งหน้าที่จะส่งมอบ ขาแห่งเทพนี้คืออีก 3 เดือนข้างหน้า แต่ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากที่นี่ข้าจำต้องออกเดินทางในอีก 3 วันจากนี้ ข้ามิได้บังคับให้ท่านซื้อแต่อย่างใด ข้าเพียงยื่นข้อเสนอให้ท่านรับไว้พิจารณา จริงอยู่ที่ทางนั้นเสนอราคามาที่ สองร้อยล้านเหรียญทอง แต่หากท่านเสนอให้ข้าในราคาเดียวกัน ข้าก็คงไม่อาจขายมันให้แก่ท่านได้ เพราะหากไม่ได้กำไรการค้ามากพอ ข้าเลือกที่จะส่งมอบตามสัญญาเสียดีกว่า"
ซูซ่งหยู หน้าซีดเซียวทันที ราคามหาศาลถึงสองร้อยล้านเหรียญทองนั้น มีค่าเทียบเท่าผลกำไรของกิจการพรรคมันถึง 10 ปี เป็นอย่างน้อย และเล้งซานยังพูดอีกว่าหากไม่ได้มากกว่านั้น จะไม่ยอมขาย!! ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดเพียงแค่ 3 วันยิ่งทำให้ซูซ่งหยูลังเลใจอย่างมาก แต่สิ่งนี้ จะแลกมาด้วยความหวังที่จะมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของน้องชายมัน ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีอาจารย์ผู้ฝึกสอนในพรรคป้อมอัคคีวิ่งเข้ามาที่ห้องรับแขก
"เรียนท่านผู้นำ อาวุโสซูจ้าว พยายามฆ่าตัวตายอีกแล้ว"
"อะไรนะ!!" ซูซ่งหยูฉายแววตาที่วิตกกังวลขึ้นมาทันที
'โอ้ววว...ไอแก่ซูจ้าวมันช่างเลือกเวลาได้เหมาะเจาะเสียจริงๆ ฮ่าๆ'
เล้งซานหัวร่อในใจ ในคราแรกมันกังวลเล็กน้อยว่าเสนอราคามากเกินไปหน่อยอาจทำให้ซูซ่งหยูไม่ยอมซื้อ
"รีบตามพาข้าไป!!" ซูซ่งหยู ลุกจากเก้าอี้ทันที จากนั้นก็หันมายกประสานมือ ให้แก่เล้งซานเป็นเชิงขอเวลาสักครู่
"ท่านซูข้าขอตามไปด้วย ด้วยวิชาแพทย์ของข้าอาจช่วยอะไรได้บ้าง" เล้งซานเสนอตัวติดตาม
"รบกวนแล้ว ท่านหลี่มู่"
ทั้งสองรีบไปยังห้องพักของซูจ้าว เมื่อมาถึงห้องพักก็พบซูจ้าวพยายามเอาศีรษะโขกกับเสาภายในห้อง โดยมีผู้ฝึกสอนของพรรคป้อมอัคคี 2 คนช่วยกันจับตัวไว้ แม้ซูจ้าวจะมีพลังลมปราณชั้นสีเขียว แต่ด้วยร่างกายที่พิการแขนขาการจะขัดขืนผู้ใช้ลมปราณชั้นสีน้ำเงิน 2 คนนั้นนับว่าทำได้ยาก เล้งซานเห็นภาพดังกล่าวกลับรู้สึกหัวร่อชอบใจ ในการแสดงของซูจ้าว
'ไอแก่ซูจ้าวมันเรียกร้องความสนใจชัดๆ ปราณคุ้มกันชั้นสีเขียวของมันจะทำให้มันตายโดยการโขกเสาได้ยังไง ฮ่าๆ สงสัยว่าตอนนี้มันจะกลายเป็นส่วนเกินของพรรคจริงๆ ไม่งั้นคงไม่ลงทุนแสดงละครน้ำเน่าถึงเพียงนี้'
ในความจริงแล้ว ก่อนที่เล้งซานจะเข้าพบซูซ่งหยู มันแอบติดต่อกับศิษย์สายในผู้หนึ่งภายในพรรคป้อมอัคคี จ้างวานศิษย์คนนั้นด้วยเงินมหาศาลกว่า 1 ล้านเหรียญทอง เพื่อให้แอบนำข่าวของ ขาแห่งเทพ มาบอกแก่ซูจ้าวเป็นการส่วนตัว
ซึ่งเมื่อซูจ้าวทราบเรื่องนี้ ความหวังหนึ่งเดียวของมันก็สาดส่องประกายออกมา ด้วยความอัปยศ อดสูกว่า 1 ปี สภาพจิตใจของมันจึงย่ำแย่ถึงขีดสุด เมื่อได้รับแรงกระตุ้นเล็กน้อยด้วยความหวัง มันจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อการนั้น และทั้งหมดนี้อยู่ในการคำนวนของเล้งซาน
"ซูจ้าว ใจเย็นๆก่อน ทำไมเจ้าถึงต้องทำเช่นนี้"
ซูซ่งหยูเดินเข้าไปปลอบซูจ้าว สายตาที่วิตกกังวลฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรซะซูจ้าวก็นับเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของมัน การที่เห็นน้องชายทำเรื่องเช่นนี้นั้น สร้างความหนักใจให้แก่มันผู้เป็นพี่ชายอย่างมาก
"ท่านพี่ ขะ...ข้านั้นมันไร้ประโยชน์อยู่ไปก็ลังแต่จะจะเพิ่มความอัปยศแก่พรรค หากไร้ซึ่งความหวัง ข้าสู้ตกตายไปเสียดีกว่า" ซูจ้าวที่อายุร่วม 50 แววตาซึมเศร้า น้ำเสียงสั่นเครือ ในดวงตาค่อยๆมีน้ำซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เล้งซานแทบจะลงไปนอนกลิ้งหัวร่อกับพื้นเมื่อได้ยินคำพูด และเห็นการกระทำของซูจ้าว
'หลังจากกลับไปข้าคงต้องใช้แร่โลหะคงกระพัน ปั้นตุ๊กตาให้มันเสียแล้ว ฮ่าๆ'
ซูซ่งหยู ถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ จากนั้นมันก็ถอนหายใจเล็กน้อย และชำเลืองมองมาที่เล้งซาน
"ท่านหลี่มู่ ข้าขอเสนอราคา สองร้อยห้าสิบล้านเหรียญทอง สำหรับอาวุธอักขระขาแห่งเทพชิ้นนี้ หวังว่าราคานี้ท่านจะให้เกียรติยอมขายมันให้แก่พรรคของข้า"
"เป็นอันตกลง!! ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน"
เล้งซานประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ จากนั้นซูซ่งหยูก็สั่งให้คนไปรวบรวมเงิน จากกิจการต่างๆภายในเมือง ใช้เวลากว่า 2 ชั่วยามได้เงินมาจำนวน หนึ่งร้อยแปดสิบล้านเหรียญทอง จากนั้นก็ไปขอกู้ยืมเงินจากพรรคตระกูลเซี่ยวหลิน อีกเจ็ดสิบล้าน จึงได้ครบตามจำนวน กล่าวได้ว่าเงินจำนวนนี้ของมันนั้น นับเป็นเงินที่มีในพรรคทั้งหมดขณะนี้ อีกทั้งยังทำให้มันเป็นหนี้มหาศาลอีกด้วย
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเล้งซานก็กลับเข้ามาที่ร้านของมันด้วยรอยยิ้มที่เปอะเปื้อนใบหน้า มันนั้นยังตื่นเต้นไม่หาย จากการได้เงินมหาศาลโดยแลกกับขาเทียมสั่วๆข้างเดียว!!
"ฮ่า ๆ สำเร็จ!! เท่านี้ข้าก็มีเงินให้ใช้อย่างไร้กังวล และยังทำให้พรรคป้อมอัคคีไร้เงินทุนในการซื้ออาวุธอักขระของข้า หากนำวางขายอีกด้วย"
"เฮ้อ.....เจ้านี่มันเป็นตัวอันตรายต่อทุกเผ่าพันธุ์จริง ๆ ทักษะวิชาการปลิ้นปล้อนของเจ้านี่มันไร้เทียมทานกว่าร่างสถิตมังกรฟ้าในกายเจ้าเสียด้วยซ้ำ"
เฟรย่า บ่นพลางถอนหายใจ
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับคำชม" เล้งซานแสยะยิ้ม
"ใครชมเจ้ากัน!!! เหอะ และจะเอายังไงต่อ จะสร้างอาวุธอักขระขายหรืออย่างไร"
"ขายแน่ แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ข้ามิได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่จำเป็นต้องรีบนำมันออกขาย"
เล้งซาน นำแร่โลหะคงกระพันออกมาจากมิติ จำนวนหนึ่ง ใช้เวลากว่า 5 วันหล่อหลอมโลหะออกมา 5 ชิ้น ได้แก่ปลอกแขน 2 ข้าง ปลอกขา 2 ข้าง และเสื้อเกราะ 1 ตัว โลหะแต่ละชิ้นนั้นถูกหล่อหลอมอย่างประณีตด้วยความระมัดระวัง มีความหนาไม่ต่างจากเสื้อผ้า มันทดลองสวมใส่ และใส่เสื้อผ้าปิดทับอีกชั้นก็ไม่ได้ดูผิดสังเกตแม้แน่ต้อง จากนั้นก็นั่งครุ่นคิดพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสมควรจะใส่พลังอักขระชนิดใดลงไป
วิชาอักขระกำกับที่เผยแพร่ออกไปนั้นมีด้วยกันทั้งสิ้น 7 รูปแบบ
1 รูปแบบการขว้าง โจมตีระยะไกลรุนแรง
2 รูปแบบการยิง โจมตีระยะไกลแม่นยำ
3 รูปแบบเสริมพลัง เพิ่มความรุนแรงในการโจมตีกวัดแกว่ง
4 รูปแบบเสริมความเร็ว โดยลดแรงต้านและน้ำหนัก
5 รูปแบบเสริมความแกร่ง ใช้กับอุปกรณ์ป้องกัน
6 รูปแบบระเบิดพลัง จะระเบิดพลังสิบเท่าของอักขระ
7 รูปแบบเปิดมิติ ใช้กับจำพวกแหวนมิติเก็บของ
ทั้ง 7 รูปแบบนี้ การระเบิดพลังเป็นการโจมตีที่น่ากลัวที่สุด ความรุนแรงของมันขึ้นอยู่กับสีของอักขระ และขนาดของแร่โลหะคงกระพัน แต่ก็จำต้องเสียอาวุธอักขระชิ้นนั้นไปในการใช้เพียงครั้งเดียว ด้วยทรัพยากรที่มีค่ามหาศาลของแร่โลหะคงกระพัน จึงไม่มีผู้ใดใช้รูปแบบนี้มากนัก
เล้งซาน ตั้งใจจะใช้พลังที่นอกเหนือจากทั้ง 7 รูปแบบในขั้นต้นเพื่อจะได้ไม่ถูกผู้ใดรับรู้ความสามารถของมัน จากการวิเคราะห์ที่ใช้เวลากว่า 3 วันมันจึงได้อักขระอีก 3 รูปแบบ กำกับลงบนปลอกแขน ปลอกขา และเสื้อเกราะทุกชิ้นเป็นอักษรอักขระชั้นสีเขียว จากนั้นก็สวมใส่เสื้อผ้าปรกติ ปิดทับไว้อย่างมิดชิด....
............................................................