ตอนที่แล้วตอนที่ 169+170 ความประทับใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 173+174 ให้ผมชิมความหวานของคุณหน่อย

ตอนที่ 171+172 พักอยู่ที่โรงแรม


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 171 พักอยู่ที่โรงแรม

เจียงเหยาจ้องมองผู้ป่วยที่ไม่ได้สติบนเตียงข้าง ๆ เฉินจื่อบิ่น ผมของเธอขาวราวกับหิมะ ใบหน้าของเธอมีรอยย่น สายไฟและท่อต่าง ๆ กระจัดกระจายไปทั่วร่างกายของเธอ หากเธอไม่ได้ยินจากลู่ชิงสีมากก่อน เธอคงคิดว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นคุณย่าของเฉินจื่อบิ่น

เจียงเหยาสังเกตความขัดแย้งของผู้ชายทั้งสองอย่างใกล้ชิด ลู่ชิงสีเป็นสิบเอกในกองทัพที่จินโด ซึ่งเป็นเมืองที่ห่างไกลจากหนานเจียง หากแม่ของสหายคนหนึ่งล้มป่วยลงภายใต้สถานการณ์ปกติ กองทัพคงไม่ส่งสิบเอกลงมาเยี่ยมสหายของเขา

อีกอย่าง ดูเหมือนว่าลู่ชิงสีจะรีบมาที่นี่ทันทีด้วย

ต้องมีเหตุผลเบื้องหลังอย่างแน่นอน

“โรงพยาบาลได้มอบหมายพยาบาลให้ดูแลแม่ของนายแล้ว นายก็ผลัดเวรเฝ้ากับพยาบาลก็แล้วกัน” ลู่ชิงสีกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติแม้จะขาดความสุภาพ ตามแบบฉบับการพูดกับลูกน้อง เขาตบไหล่ของเฉินจื่อบิ่นและพูดต่อ “โรงพยาบาลจะจัดแผนกใหม่ให้นาย แล้วฉันจะกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง”

“สิบเอก ไม่ต้องมาหรอกครับ..” เฉินจื่อบิ่นกัดฟันและยอมจำนนความในใจของเขา “ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไม่กลับไปเป็นทหารอีกแล้ว”

“เฉินจื่อบิ่น ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำจะได้ไหม ฟังให้ดี การตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่นาย” ลู่ชิงสีคำราม “นาย! อยู่ที่นี่ และรอฟังข่าว!”

ลู่ชิงสีเดินออกจากห้องพักคนป่วย พร้อมกับเจียงเหยา ท่าทางไม่พอใจของเขาเป็นเหมือนรถพยาบาลที่หมอและพยายามทุกคนที่เดินผ่านต้องหลีกทางให้

ในทำนองเดียวกัน เจียงเหยาก็ตกใจกับอารมณ์ฉุนเฉียวของลู่ชิงสี เขาไม่ใช่คนประเภทไร้เหตุผล ที่เมื่อโกรธจะตะคอกใส่หน้าใคร เขามักจะระงับความโกรธไว้ในใจ ทำหน้านิ่งไม่แสดงความรู้สึกออกมา แต่ดวงตาของเขาจะเย็นชาและมีรัศมีอันตรายแผ่ออกมาแทน รัศมีที่แผนออกมานั่นจะทำให้คนรอบข้างหายใจไม่ออก

“ชิงสี” เจียงเหยาสะกิดเขาอย่างระมัดระวังและพึมพำ “เกิดอะไรขึ้นกับสหายของคุณ?”

ลู่ชิงสีหยุดเดินกะทันหัน เขาหันศีรษะไปทางเจียงเหยา แต่ดวงตาของเขาอยู่ในความงุนงงราวกับว่าเขากำลังสูญเสียโฟกัสขณะที่สะดุดอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาสงบสติอารมณ์และมองไปที่เจียงเหยาอีกครั้งราวกับว่าเขากำลังพยายามกำหนดอะไรบางอย่าง ในเวลาเดียวกัน เขาก็คลายอารมณ์ที่โกรธจัดของเขา

ลู่ชิงสีรู้สึกตื่นเต้นกับคำพูดของเฉินจื่อบิ่น จนลืมไปว่าเจียงเหยาอยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลา กระทั่งเสียงของเธอดังก้องเข้ามาในหู และนั่นทำให้เขาประหลาดใจ

“ผมจะกลับกองทัพอย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้บ่าย ผมคิดว่าเฉินจื่อบิ่นจะไม่กลับไปด้วย หลังจากที่ผมกลับไปแล้ว ถ้าคุณว่างก็แวะมาเยี่ยมเขาและแม่ของเขาที่โรงพยาบาลหน่อยสิ จับตาดูพวกเขาให้ผมที” ลู่ชิงสีกล่าว

เจียงเหยาพยักหน้า เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่รู้ว่าลู่ชิงสีจะกลับวันพรุ่งนี้แล้ว “งั้นคืนนี้คุณจะค้างที่นี่เหรอ? แล้วจะพักที่ไหน?”

“โรงแรม” ลู่ชิงสีไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเจียงเหยา ในขณะที่เขากังวลกับเรื่องที่อยู่ในมือ “คุณมีอะไรต้องทำอีกไหม? ถ้าไม่มี ผมจะพาคุณกับหอพัก เพื่อเก็บเสื้อผ้า คืนนี้มาอยู่ที่โรงแรมกับผมนะ แล้วผมจะกลับมาส่งคุณพรุ่งนี้ช่วงบ่าย”

“ไม่มีค่ะ ฉันว่าง”

หลังจากพิธีเปิดในช่วงเช้า เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ไม่สำคัญอะไร เธอสามารถให้เวินเสวี่ยฮุ่ยช่วยเธอจัดการแทนได้ บังเอิญวันนี้เป็นวันศุกร์ อีกสองวันข้างหน้าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และชั้นเรียนของเธอจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันจันทร์หน้า

หลังจากที่พวกเขาออกจากหอพัก พวกเขาก็ตรงไปที่โรงแรมที่ลู่ชิงสีพัก เขาพักที่โรงแรมห้าดาวในเมืองหนานเจียง

เมื่อพวกเขาเช็คอินเข้าห้องพักแล้ว ลู่ชิงสีก็เริ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับเฉินจื่อบิ่นให้เจียงเหยาฟัง

__

ตอนที่ 172 โศกนาฏกรรม

พ่อของเฉินจื่อบิ่นเสียชีวิตเมื่อตอนที่เขายังเด็ก แม่เขาจึงเลี้ยงดูเขาเพียงลำพัง ครอบครัวเฉินมาจากชนบทที่คนส่วนใหญ่ไม่มีการศึกษาและไม่รู้หนังสือ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว แม่ของเขาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดในเมืองหนานเจียง ทุก ๆ วันเธอทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูเฉินจื่อบิ่นและตัวเธอด้วยเงินเดือนเพียงน้อยนิด

เพื่อลดภาระของแม่และช่วยให้ฐานะทางการเงินของครัวดีขึ้น เฉินจื่อบิ่นจึงเข้าร่วมกองทัพทันทีหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เขามีร่างกายที่ยอดเยี่ยมและมีพรสวรรค์ที่ดี ผู้นำของกองทัพแต่ละคนต่างมองว่าเขาเป็นทหารที่มีศักยภาพตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมกับกองทัพครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นคุณค่าของเด็กหนุ่มอย่างมาก และเริ่มระบบฝึกฝนพิเศษแก่เขา

เมื่อไม่กี่วัน จู่ ๆ เฉินจื่อบิ่นก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล แม่ของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ร้ายแรงและถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาล เธอไม่ฟื้นมาหลายวันแล้ว และยังอยู่ในอาการโคม่า

โรงพยาบาลได้ออกแจ้งวิกฤตทางการแพทย์หลายครั้ง ทำให้เฉินจื่อบิ่นรีบเดินทางจากกองทัพมาที่บ้าน เขาได้รู้ความจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุของแม่เขาว่าเธอถูกเด็กร่ำรวยของเมืองหนานเจียงที่เมาสุราขับรถชน จากคำให้การของพยาน หลังจากที่ผู้กระทำผิดชนแม่ของเขา แล้วยังกลับรถมาทับเธอซ้ำ เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ตาย ในเวลาเดียวกัน พยานได้ยินคนร้ายตะโกนว่าเขาตั้งใจจะฆ่าเธอเพราะเขาไม่ต้องการให้คนจนพิการกลับมาหลอกหลอนเขาเพื่อขอค่าชดเชยในภายหลัง โชคดีที่ผู้เห็นเหตุการณ์มีหลายคน จึงหยุดฉากที่น่าสยดสยองนั้นได้ทันเวลา

หลังจากมีข่าวนี้ออกมา ผู้กระทำผิดก็ได้ส่งแพะรับบาปมามอบตัว เมื่อเฉินจื่อบิ่นไปเจอตัวคนร้าย เขายังทุบตีเฉินจื่อบิ่นและขู่ว่าจะฆ่าเขา หากเขายังยืนกรานจะเอาเรื่อง

ครอบครัวเฉินเป็นเพียงหนึ่งในคนยากจนจำนวนมากในเมืองหนานเจียง เมื่อไม่มีอิทธิพล ไม่มีคอนเนกชั่น และไม่มีเงิน ผู้กระทำผิดจ่ายเงินก้อนหนึ่งให้กับทางโรงพยาบาลและไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดของแผนร้ายของผู้ทำผิด ยังไม่แน่ใจว่าผู้ทำผิดจัดการกับคดีนี้อย่างไร แต่เขาให้พยานเปลี่ยนคำให้การและอ้างว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะแม่ของเฉินจื่อบิ่นเป็นนักต้มตุ๋นที่พยายามจะขอค่าชดเชยโดยแสร้งทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ ในที่สุด แพะรับบาปก็ถูกปล่อยตัวให้พ้นผิด หลังจากนั้นอีกสองวันต่อมา คดีนี้ปิดไป

“นั่นคือเหตุผลที่เฉินจื่อบิ่นจะไม่กลับไปที่กองทัพเหรอ?” เจียงเหยาถาม เธอคาดการณ์ว่าทหารได้ส่งสิบเอกลู่ชิงสีมา ก็เพื่อเตือนสติเฉินจื่อบิ่น เพราะพวกเขาใช้เงินและความพยายามในการฝึกฝนทหารชั้นยอดไปตั้งเท่าไหร่แล้ว

หลังจากพูดคำถามของเธอออกไป อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าสะท้อนกลับมา มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิด “ทหารมีความตั้งใจจะแทรกแซงเรื่องนี้ใช่ไหม”

ลู่ชิงสีพยักหน้า “แน่นอน”

คดีนี้มันน่ากลัวและโหดร้ายเกินไป ในฐานะทหารที่ปกป้องประเทศ พวกเขาปกป้องพลเมืองทุกคนด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อ แต่ครอบครัวของพวกเขากลับถูกรังแกถึงเพียงนี้ ใครเล่าจะยอมจำนนต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเช่นนี้ได้?

ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมลู่ชิงสีถึงรีบมาที่หนานเจียง ในชั่วข้ามคืน

เขามาเพื่อเกลี้ยกล่อมเฉินจื่อบิ่นและเฝ้าดูอีกฝ่ายด้วย

“ดูจากวิธีที่เขารายงานไปยังกองทัพทางโทรศัพท์ มีแนวโน้มอย่างมากว่าเขากำลังจะหาทางแก้แค้นให้กับแม่ของเขา” ลู่ชิงสีกล่าว “คงจะดี ถ้าแม่ของเขาฟื้น แต่ถ้าเธอไม่ฟื้นล่ะ ผมกลัวว่าเฉินจื่อบิ่นจะเสียสติ”

กองทัพกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฉินจื่อบิ่นจะตอบโต้อย่างรุนแรง

เขาเป็นทหารชั้นยอดที่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษจากกองทัพ ด้วยทักษะของเขา ถ้าเขาวางแผนที่จะดำเนินการตอบโต้ต่อสังคมหรือผู้คนอย่างต่อเนื่อง จะไม่มีใครหยุดเขาได้ แม้ว่าพวกเขาจะส่งทีมตำรวจมาจับตาดูเขาตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เว้นวันหยุดก็ตาม

หากเฉินจื่อบิ่นใช้การกระทำดังกล่าว มันจะไม่เพียงแค่สูญเสียทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชีวิตและอนาคตของเขาด้วย

“ผมกำลังจะไปสถานีตำรวจ รอผมที่นี่นะ ผมจะกลับมาก่อนเที่ยง แล้วเราไปทานข้าวด้วยกัน”

ลู่ชิงสีหยุดชั่วคราวและขมวดคิ้ว “อยู่โรงแรมคนเดียวได้ใช่ไหม? กลัวรึเปล่า? ให้ผมไปส่งคุณกลับหอพักก่อนไหม เสร็จธุระแล้วผมจะแวะไปรับ”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด