ตอนที่ 1143-1144 ต่อให้เป็นแค่ข่าวโคมลอย ผมก็ไม่ชอบ
เขาอยากจะเปลี่ยนใจเธอเสียตอนนี้ เขาไม่ต้องการปิดบังอีกต่อไป และไม่ต้องการให้เธออยู่ในวงการบันเทิงอีกต่อไปแล้ว
เฉียวเมียนเมียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คิดว่าเธอหูฝาดไป
“เหมาเยซื่อคุณพูดว่าอะไรนะคะ?” เธอพึมพำด้วยความประหลาดใจ “ออกจากวงการบันเทิงเหรอ? ฉัน...ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?”
เธอจะไม่แปลกใจหากมีใครพูดแบบนั้นกับเธอ
แต่ถ้าเป็นเหมาเยซื่อ...
เหมาเยซื่อมองเข้าไปในดวงตาที่เลิกลักและลังเลของเธอ
ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาสนับสนุนอาชีพนักแสดงของเธอเพราะเขารู้ว่าเธอชอบการแสดงจริง ๆ
ตอนนี้เขาต้องกรให้เธอเลิกทำในสิ่งที่เธอชองเพียงเพราะเขาไม่ชอบอาชีพของเธอ มันมากเกินไปหรือเปล่า?
เขามีสิทธิอะไรที่จะกีดกันความชอบของเธอ?
เขาเป็นสามีของเธอนะ คนที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุด ถ้าเขาไม่สนับสนุนเธอ เธอก็ต้องผิดหวัง
เหมาเยซื่อเปลี่ยนใจในทันทีทันใด
เขาไม่สามารถพรากความชอบของเธอไปด้วยความเห็นแก่ตัวของเขา เพียงเพราะความชอบของเขาเอง
สุดท้าย หากเธอยังคงอยากอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เขายังคงสานสัมพันธ์กับเธอแบบลับ ๆ ต่อไป
ไปพร้อมกับที่เธอจะมีข่าวอื้อฉาวทุกประเภทกับผู้ชายคนอื่นไปด้วย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับทุกคนที่อยู่ในวงการบันเทิง
เขาไม่รู้ว่าเขาจะสามารถระงับตัวเองเวลาที่เธอจะมีข่าวอื้อฉาวกับผู้ชายคนอื่น ๆ ต่อไปในอนาคตอีกได้หรือเปล่า
ท้ายที่สุด เขาเป็นห่วงเธอและหวงแหนเธอ เขาหลับตาและพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เอาเถอะ ถือว่าผมพูดไร้สาระก็แล้วกัน ไม่ต้องคิดมาก”
แต่เฉียวเมียนเมียนได้ยินเขาชัดเจนและรู้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรแบบนี้
เธอนึกถึงเรื่องข่าวฉาวทั้งหมดบนเว่ยป๋อ และมองดูท่าทางของเขา เธอกัดริมฝีปากและถามเบา ๆ “คุณโกรธที่คนอื่นพูดกันในเว่ยป๋อใช่ไหม?”
ไม่นานมานี้ เธอมีข่าวฉาวมากเกินไป
ต่อให้เชื่อใจเธอมากแค่ไหน เขาก็คงต้องมีคิดบาง
“เมียนเมียน” เหมาเยซื่อมองมาที่เธอ จับศีรษะของเธอ และถอนหายใจเบา ๆ “ผมไม่อยากโกหกคุณหรอกนะ ผมใจร้อนไปหน่อย ผมคิดว่าตัวเองจะไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น ผมเองก็รู้ดีว่าข่าวพวกนั้นเป็นข่าวโคมลอย”
“แต่ผมขอโทษจริง ๆ ผมไม่สามารถควบคุมใจของผมได้เลย ยิ่งเมื่อเห็นคนมากมายคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับกงที่สี่ที่ไม่ธรรมดาแบบนั้น ผมอดรู้สึกไม่ได้จริง ๆ คุณรู้ไหมว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ ผมอยากลุกคนและบอกกับทุกคน ว่าคุณเป็นของผม”
มือใหญ่ของเขาแตะเบา ๆ บนแก้มของเธอ และลูบไล้ผิวที่อ่อนนุ่มของเธอ เขาถอนหายใจเบา ๆ อีกครั้งอย่างขมขื่น “ที่รัก คุณเป็นของผม อกจากผมแล้ว ผมไม่อยากให้คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนอื่น แม้ว่าจะเป็นแค่ข่าวโคมลอยก็ตาม ผมไม่ชอบมันเลยจริง ๆ”
“อีกอย่าง กงที่สี่ยังเป็นน้องของผม คุณเข้าใจความรู้สึกของผมใช่ไหม”
เช่นเดียวกับที่เธอรู้ดีว่าไม่มีอะไรระหว่างเขากับเซินโย่ว แต่ถ้ามีข่าวลือเกี่ยวกับพวกเขาอยู่เรื่อย ๆ เธอก็ไม่อาจไม่คิดอะไรได้หรอก
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิด” เหมาเยซื่อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยมือและหันหลังกลับ
“ลืมมันไปเถอะ คิดเสียว่าผมไม่ได้พูดก็แล้วกัน สายมากแล้ว ไปทานข้าวกันดีกว่า”
__
เขาบอกว่าไม่ได้ใส่ใจ
แต่หญิงสาวหาใช่คนโง่ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจเขา?
ตรงกันข้าม เขาใส่ใจเธอมากจริง ๆ
จูบนั้นเต็มไปด้วยความโกรธและความคับข้องใจเป็นภาพสะท้อนของความรู้สึกภายในใจปัจจุบันของเขา
เขาคงไม่ได้ล้อเล่นที่พูดออกมาว่า เธอไม่ควรอยู่ในวงการบันเทิงอีกต่อไป
บางทีเขาอาจจะหมดความอดทนกับเรื่องนี้มาสักพักใหญ่แล้ว
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีเรื่องอื้อฉาวกับตู่อี้เล่ย เขาก็อดทนกับมันมาตลอด
เฉียวเมียนเมียนรู้ว่าเหมาเยซื่อเป็นคนขี้หึงและหวงแหนเพียงใด ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์
แน่นอนเพราะเธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวของเธอกับตู่อี้เล่ยหรือว่าเรื่องอื้อฉาวระหว่าเธอกับกงเซลี เขาคงจะใส่ใจอย่างมากแน่นอน เขาคงรู้สึกไม่ใจสบายกับข่าวเหล่านั้นมาก
แม้ว่าจะเป็นข่าวโคมลอยก็ตามทีเถอะ
เขาทำเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ใส่ใจจริง ๆ
เพียงเพราะเขาห่วงใยเธอ
เพราะเขาแคร์เธอมาก แม้จะกังวลมาก ก็ยังอดทน
หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย
เขาเป็นขึ้หึงและหวง แต่เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะออกมาแสดงความเป็นเจ้าของได้เลย เมื่อเห็นเรื่องอื้อฉาวของเธอกับผู้ชายคนอื่น
เพราะเธอ ไม่ว่าเขาจะอึดอัดสักเพียงไหน เขาก็อดทน
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องประนีประนอมเพื่อเห็นแก่เธอ
มีเพียงเขาที่คิดถึงความรู้สึกของเธอ ส่วนเธอไม่ได้คิดถึงเขาเลย เขาเป็นสามีของเธอนะ
เพราะอาชีพของหญิงสาว ทำให้เธอต้องเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไว้เป็นความลับ
ด้วยบุคลิกของเหมาเยซื่อ เขาจะต้องรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน ถ้าเขาต้องทำเช่นนั้น
เฉียวเมียนเมียนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอคิดถึงแต่ตัวเอง เพราะชายหนุ่มอดทนและเชื่อฟังเธออย่างดีมาตลอด
เธอไม่เคยรู้สึกว่าเขาได้เสียสละอะไรมากมายเลย
และยังรู้สึกไปเองว่าถ้าเขารักเธอและห่วงใยเธอจริง ๆ เขาควรจะเข้าใจเธอ
แต่ดูเหมือนจะเป็นเธอที่ไม่เข้าใจเขาเอาเสียเลย
“เหมาเยซื่อ รอก่อนค่ะ” เฉียวเมียนเมียนนึกถึงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ยิ่งเธอคิดถึงเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกว่าเธอทำให้เขาผิดหวัง เธอค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับมือเขาไว้ “เดี๋ยวก่อน ได้ไหม?”
เหมาเยซื่อหยุดและหันกลับมามองเธอ
เฉียวเมียนเมียนมองตรงไปที่เขาและจับมือเขาแน่น “ขอเวลาแปบเดียว ได้ไหมคะ?”
จู่ ๆ เธอก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง
เธอไม่สามารถเป็นรักข้างเดียวของชายหนุ่มได้เสมอไป เธอชอบที่เขารักและปกป้องเธอ
ส่วนเธอไม่ได้ทำอะไรเลย
ความสัมพันธ์ของคนเราจะดำเนินไปได้ ต้องเกิดจากการทุ่มเทและใส่ใจของทั้งสองฝ่าย
หากเป็นความพยายามของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียวอยู่ตลอด แม้อีกฝ่ายจะเต็มใจสักแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องมีสักวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า
หลังจากที่เขาได้ทำเพื่อเธอแล้ว ก็ถึงเวลาที่เธอต้องทำอะไรเพื่อเขาเสียบ้าง
ดวงตาสีเข้มของเหมาเยซื่อเต็มไปด้วยความสงสัย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร แต่เขาก็พยักหน้า “อืม”
เฉียวเมียนเมียนหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา แล้วส่งข้อความถึงลินดา
เธอออกจากระบบ wechat และเข้าสู่เว่ยป๋อ โดยไม่รอคำตอบจากเธอ
เธอเพิ่งเข้าสู่ระบบ หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากโพสต์เว่ยป๋อ
กงเซลีได้โพสต์ข้อความบนเว่ยป๋อ
บัญชีเว่ยป๋อของกงเซลีนั้นนาน ๆ เขาถึงจะเข้าใช้งานเสียที
ทว่าก็มีแฟนคลับมากมายบนเว่ยป๋อทุกครั้งที่เขาโพสต์อะไรลงไป และกลายเป็นเทรนด์ในทันที