ตอนที่ 47 ฐานใต้ดินของลัทธิมืด(อ่านฟรี)
ตอนที่ 47 ฐานใต้ดินของลัทธิมืด
ทางเชื่อมท่อระบายอากาศยาวนับร้อยเมตร เรย์สลายบอลแสงและเหลือไว้เพียงดวงเดียวเท่านั้น เพราะแสงที่มากไปจะไปกระตุ้นความสนใจเจ้าของสถานที่แห่งนี้โดยใช่เหตุ
เรย์เดินไปตามอุโมงค์ท่อระบายอากาศ จนกระทั่งในที่สุดก็เจอกับทางออกจากช่องลม มันเป็นช่องกว้างประมาณหนึ่งเมตรอยู่บนพื้น มีบันไดเหล็กขึ้นสนิมปีนลงไปได้ สุดปลายทางมีแสงสว่างที่สลัวอยู่เล็กน้อย แต่ก็เพียงพอให้มองออกมาแสงพวกนั้นมาจากหลอดไฟไม่ผิดอย่างแน่นอน
เรย์ไม่รอช้าปีนลงไปทางบันได พอมาสุดบันไดมันมีกรงเหล็กปิดอยู่ เรย์ค่อย ๆ ยกกรงเหล็กออกอย่างเบามือแอบไว้ข้าง ๆ เขาไม่ได้กระโดดลงไปในทันที แต่ค่อย ๆ โผล่หัวออกไปดูก่อนว่ามีอันตรายหรือใครอยู่หรือไม่
ไม่มีใคร...ดูเหมือนจะเป็นทางเดินตรงไหนสักแห่ง
เรย์โรยตัวลงมาจากช่องบันไดด้านบน ก่อนจะปล่อยมือทิ้งตัวลงมาอย่างเบามือที่สุด
ตุบ!
แต่เสียงเท้าเรย์กระทบกับพื้นก็ยังดังพอสมควร เพราะเพดานที่เขาโรยตัวลงมานั้นสูงจากพื้นประมาณ 3 เมตรเห็นจะได้
เรย์กวาดตามองซ้ายขวา ตอนนี้เขามาอยู่บนทางเดินแล้ว ทางเดินเป็นเหมือนกับเส้นทางเดินเก่า ๆ กว้างประมาณ 5 เมตร ที่เพดานทางเดินมีหลอดไฟแบบโคมแขวนอยู่ทุกระยะ 10 เมตร มีสายไฟเชื่อมติดอย่างลวก ๆ ด้านบน
ทางเดินน่าจะเป็นของเก่า ส่วนแสงจากหลอดไฟที่ส่องสว่างอยู่นี้ ดูเหมือนเป็นของที่พึ่งเอามาติดตั้งทีหลัง
หน้าหรือหลัง...หน้าแล้วกัน
เรย์กำลังตัดสินใจว่าจะไปทางไหนก่อน แต่เขาก็เลือกจะไปทางด้านหน้า มันไม่มีเหตุผลอะไรรองรับ เพราะสองทิศทางมันเหมือนกันหมดยากจะระบุทางได้นอกจากลองเดินไปดูเท่านั้น
หลังจากเลือกไปข้างหน้าเรย์ก็เดินตามเส้นทางไปในทันที ตลอดทางในมือของเรย์ถือปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911A1 นำหน้าตลอด ขนาดที่ว่าเขาเจอทางแยกที่ห่างไปไม่ไกล เรย์ยังโผล่ปากกระบอกปืนนำไปก่อน
ถ้าเจอคนที่ไม่ใช่ทีมของเขาเรย์พร้อมที่จะเหนี่ยวไกในทันที
หลังจากสำรวจแล้วว่าไม่มีใคร เรย์ก็โผล่หน้าออกมาในทันที เขาต้องเลือกอีกครั้งว่าจะไปซ้ายหรือขวา แต่ในครั้งนี้ต่างออกไป
เพราะทางขวามือของเรย์นั้นเป็นประตูเหล็กมีป้ายเขียนว่า “ทางออก” ติดไว้อย่างชัดเจน
ในที่สุดก็เจอทางออก...เรย์วิ่งไปที่เข้าหาประตูทางออกอย่างรวดเร็ว
เมื่อลองเปิดดูปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อกไว้ เรย์แง้มประตูเปิดออกไปอย่างเบามือที่สุด สายตาของเรย์สอดส่องไปด้านนอก
หลังประตูเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ทอดยาวไปหลายกิโลเมตร แต่อุโมงค์นี้ถูกปรับแต่งให้เป็นโกดังเก็บของขนาดใหญ่แทน มีการสร้างกำแพงและประตูขึ้นมาปิดปากอุโมงค์ทางเข้า
ภายในอุโมงค์โกดังแห่งนี้มีกล่องและลังอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความจุของพื้นที่ในโกดัง ด้านนอกเรย์เห็นรถบรรทุกทหาร รุ่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ แอล 4500 ประมาณ 3 คันและรถมอเตอร์ไซค์รุ่นฟลายอิ้ง ฟลีจอดนิ่งเรียงรายอยู่ 5 คัน
ซึ่งมันหายากมากในยุคนี้และรถทั้งหมดถูกดัดแปลงให้ใช้พลังงานไฟฟ้า
แต่ที่ทำให้เรย์ขมวดคิ้วยิ่งกว่านั้นคือมีกองกำลังขนาดสิบคนถืออาวุธปืนครบมือ
มีทั้งปืน M1 Thompson หรือที่รู้จักในชื่อ ปืนกลมือThompson อยู่สองกระบอกที่เหลือเป็นปืนเอ็ม1903 สปริงฟิลด์ แบบที่ทหารของเมืองเรซีใช้งานกัน
พวกนี้มีอาวุธปืนของกองทัพใช้งานด้วย...ถึงแบบนั้นจากท่าทางแล้วดูเหมือนจะเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่ผู้มีพลังพิเศษอะไร น่าจะเป็นระดับสูงกว่าพวกคนเร่ร่อนของลัทธิมืดที่เราเคยเจอ
ถ้าอย่างนั้นก็ยืนยันได้เต็มร้อยแล้วว่าที่นี่คือที่ซ่อนของลัทธิมืดและน่าจะมีคนระดับสูงพอควรในการจัดหาปืนพวกนี้ให้ลัทธิมืด
แต่กลับไม่เห็นเจ้านายที่ลัทธิมืดกล่าวถึง เจ้านายอะไรนั้นก็น่าจะเป็นผู้มีพลังพิเศษเช่นกัน แต่ผู้มีพลังพิเศษแบบไหนถึงสามารถทำให้ซอมบี้ไม่สนใจโจมตีพวกมันได้?
อยากรู้แล้วสิ...
เรย์มีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหันกลับมาสนใจทางหนีของตนเอง
ทางออกหน้าจะอยู่ที่โกดังนี้เพราะมันมีรถบรรทุกจอดอยู่ ดังนั้นเราหมดห่วงเรื่องโดนขังตายในนี้ได้เลย แต่จะออกไปปะทะกับคนพวกนี้ก็เสี่ยงเกินไป ซวยละสิพวกมันเดินกลับเข้ามาทางนี้
เรย์รีบปิดประตูกับเข้าที่ก่อนจะถอยหลังวิ่งกลับไปอีกทาง เขาไม่ได้ไปยังทางที่เดินมาจากช่องลม แต่ไปยังทางอีกเส้นที่มีประตูห้องอยู่ ก่อนที่จะทำการสุ่มเปิดไปสักห้องเข้าไปหลบสาวกของลัทธิมืด
หลังจากเข้ามาในห้องเรย์ยื่นมือออกไปกำบอลแสงเพื่อไม่ใช้แสงของมันส่องสว่างออกมา ก่อนที่ทั้งห้องจะมืดสนิทเหมือนกับก่อนหน้า
ตึก!ตึก!ตึก!
เสียงฝีเท้าของสาวกลัทธิมืดเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ เสียงฝีเท้าพวกนั้นทำเอาใจเรย์เต้นอย่างรุนแรง เรย์ที่สวมหมวกเกราะอยู่ในตอนนี้พยายามปรับลมหายใจให้เบาที่สุด มือจับปืนพกไว้แน่ ขณะที่มืออีกข้างถือหนังสือเวทมนตร์
สาวกลัทธิมืดเดินมาถึงหน้าประตูห้องที่เรย์ซ่อนอยู่ แต่แล้วอยู่ ๆ สาวกนายหนึ่งจะหยุดนิ่ง
เดินต่อไป...เดินต่อไป...เดินต่อไปสิวะ เรย์ตะโกนในใจ
ตอนนี้เขาเตรียมใจต่อสู้แล้ว ถ้าเกิดว่าสาวกลัทธิมืดสองคนนี้เปิดประตูเข้ามาเรย์จะลงมือด้วยคาถาบอลเพลิงทันทีโดยไม่สนใจเสียงดังที่เกิดขึ้น
“มีอะไรหรือเปล่า”
สาวกอีกคนหันมาถาม
“เปล่าแค่รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ในห้อง”
“จะมีใครอยู่ได้ยังไง ในนั้นมีแต่เลือด รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวแผนการใกล้จะเริ่มแล้ว เราต้องเตรียมตัวระเบิดประตูเมืองเพื่อให้ซอมบี้กระจายตัวออกมาจากเมืองเรซี”
สาวกทั้งสองเดินกันต่อ ส่วนเรย์ตอนนี้ถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลังจากได้ยินข้อมูลนี้
ระเบิดกำแพงเมืองเพื่อให้ซอมบี้ออกมา พวกมันคิดจะทำบ้าอะไรกัน
หรือว่าพวกลัทธิมืดคิดจะใช้เมืองเรซีในการเพราะพันธุ์ซอมบี้ โดยการเปลี่ยนคนทั้งหมดภายในเมืองเป็นซอมบี้ ถ้าทำแบบนั้นจะต้องเปิดรอยแยกจำนวนมาก เพราะถ้าไม่กี่รอยแยกน่าจะโดนหน่วยงานนักล่าความตายตามเก็บจนหมดและหยุดเชื้อได้
เดี๋ยวก่อน แบบนี้นี่เองพวกมันเล็งจะเปิดรอยแยกมิติจำนวนมากอยู่แล้ว พร้อมกันนั้นก็ล่อให้ทีมของหัวหน้าเอ็ดการ์ดเข้ามาติดกับเพื่อจัดการกับหนึ่งในทีมของหน่วยงานนักล่าความตายสาขาเมืองเรซีและใช้การหายไปของทีมหัวหน้าเอ็ดการ์ดเป็นตัวล่อให้อีกทีมออกมา
ส่วนที่พวกมันลงทุนระเบิดซากตึกในภูเขาทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โดยไม่คำนึกว่าคนที่รอดออกมาได้อย่างเราจะพบกับที่มีที่ซ่อนของพวกมัน ก็เพราะลัทธิมืดไม่จำเป็นต้องใช้ที่นี่แล้ว
แผนการในครั้งนี้ของพวกมันถือว่าสำเร็จได้อย่างดี เพราะสามารถจัดการสองทีมของหน่วยงานนักล่าความตายสาขาเมืองเรซีไปได้ ไม่สิได้แค่ 1 ทีม ส่วนทีมอย่างเรายังติดอยู่ที่นี่
แต่ยังมีเรื่องหนึ่งต่อให้พวกมันไม่ใช่ที่นี่เป็นที่ซ่อนแล้ว อะไรอยู่ในโกดังก่อนหน้านี้
เรย์ตกอยู่ในภวังค์ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้
เปิดรอยแยกมิติ! ดวงตามิติ! การลักลอบขนส่งของผิดกฎหมาย! แบบนี้นี่เอง!!! พวกมันจะเปิดรอยแยกมิติด้วยดวงตามิติที่แอบลักลอบเข้าไป ถ้าอย่างนั้นดวงตามิติก็ถูกเก็บไว้ที่นี่ ก่อนจะถูกขนออกไป
ยังมีเวลาหยุดพวกสาวกของลัทธิมืดที่จะเปลี่ยนให้เมืองเรซีกลายเป็นเมืองซอมบี้ เรามีเวลาจนกว่าพวกมันจะเปิดรอยแยกมิติ
เรย์กำมือแน่นเขาต้องไปเตือนคนอื่น ๆ ขณะที่เรย์กำลังจะเปิดประตูห้องออกไป อยู่ ๆ เขาก็นิ่งไป
เดี๋ยวเราพลาดไป ในเมื่อมันไม่สนใจว่าใครจะมาพบที่นี่แล้วทำไมถึงยังมีคนเฝ้าอยู่
หรือว่า...พวกมันรอคนของหน่วยงานนักล่าความตายที่รอดชีวิต ถ้าอย่างนั้น คนทั้ง 10 ที่อยู่ในโกดังนั้นก็แค่ตัวล่อสินะ หรือก็คือแผนการเผื่อมีพวกเรายังไม่ตาย บางที่อาจจะมีระเบิดจำนวนมากฝั่งไว้ที่นี่หรือไม่ก็เจ้านายที่พวกมันกล่าวถึง
และทางที่เข้ามาที่นี่ก็ไม่น่าจะไม่ใช่ทางช่องลมที่เราเข้ามา
ยิ่งคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้มากเท่าไหร่ เรย์ก็ยิ่งค้นพบความจริง พวกลัทธิมืดคือพวกที่อยู่ในความมืดจริง ๆ ส่วนหน่วยงานนักล่าความตายนั้น แม้จะปกปิดคนนอกแต่ถ้ามีฐานะระดับสูงพอก็ทราบถึงการมีอยู่ได้
ที่ผ่านมาหน่วยงานนักล่าความตาย สาขาเมืองเรซีกำลังเดินเข้าสู้กับดักทีละก้าว
หลังจากรู้แล้วว่าที่นี่เป็นกับดัก เรย์ก็เริ่มคิดหาทางใหม่
ก่อนอื่นต้องรีบติดต่อกับหัวหน้าคอนราดและคนอื่น ๆ แจ้งเรื่องนี้ให้หัวหน้ารู้ เขาน่าจะมีความคิด ๆ ในการจัดการกับสถานการณ์ตรงนี้
เรย์แบมืออก แสงไฟจากบอลแสงในมืดส่องสว่างไปทั้งห้อง เรย์เริ่มมองหาของที่ตนต้องการนั้นคือ วิทยุ แต่ในห้องนี้มันกลับไม่มีวิทยุ เพียงแต่มีบางสิ่งที่ทำให้เรย์รู้สึกตกใจอีกครั้ง
ทำไมถึงมีเลือดอยู่เต็มไปหมด
เรย์เดินมองดูถุงเลือดที่แช่อยู่ในตู้แช่เย็น นอกจากเลือดแล้วก็ไม่มีอะไรอื่นอีก
“เลือด!” เรย์พึมพำออกมา สิ่งนี้เหมือนสะกิดใจของเรย์ แต่แล้วเขาก็รีบคว้าบอลแสงและเก็บมันไว้ในมือเพราะตอนนี้ สาวกลัทธิมืดที่เดินตรวจตราอยู่นั้นพากันเดินออกไปพร้อมกับเข็นบางอย่างออกมาด้วย
เรย์แอบดูผ่านช่องเล็ก ๆ ของประตู
ศพนี่มัน...
เรย์มองใบหน้าที่ซีดของศพ เขาจำได้ในทันที ชายคนนี้คือหนึ่งในคนที่มาโรงแรมนักล่าภายใต้การชักชวนของคอนราดเช่นเดียวกับเรย์ ตอนนั้นพวกเขาเคยพูดคุยกันแต่ไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะมาตายที่นี่
เขาคงเข้าร่วมกับทีมของหัวหน้าเอ็ดการ์ด แต่พวกมันกำลังจะเอาศพไปทำอะไร
เรย์ขมวดคิ้วชนกันไม่รู้ตัว...ศพนี้ทำให้เรย์นึกถึงซอมบี้เจค หรือซอมบี้นักกล้ามครึ่งซอมบี้ซากศพ เขาเงียบไปโดยไม่กล่าวอะไรเพราะต่อให้รู้ก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากสาวกทั้งสองพากันออกไป เรย์ก็ออกจากห้องเก็บเลือด ก่อนจะเดินสำรวจห้องอื่น ๆ จนในที่สุดเรย์ก็เจอกับห้องที่มีวิทยุสื่อสาร