367 - ดินแดนแห่งความสันโดษของราชามังกรเขียว
367 - ดินแดนแห่งความสันโดษของราชามังกรเขียว
เย่ฟ่านอยู่ต่อหน้าผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ในแคว้นซ่ง ข่าวการสังหารศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตระกูลขุนนางดูเหมือนจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทำให้เกิดปัญหามากมาย
แคว้นซ่งปั่นป่วนราวกับพายุ ทุกคนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ตระกูลจี้ได้ส่งผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งหลายคนมาที่พื้นที่สีเขียวแห่งนี้
ร่างศักดิ์สิทธิ์จี้ฮ่าวเยว่ก็มาเยือนเช่นกัน ในขณะเดียวกันบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ดูเหมือนจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ด้วย
ไม่นานข่าวก็ออกมาอีกครั้ง สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาซีก็มาปรากฏตัวที่เมืองสุริยันรุ่งอรุณ สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ชุมนุมที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
ทั่วทั้งแคว้นซ่งผู้คนล้วนพูดถึงเย่ฟ่าน
“ชายหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์มาก เขาไม่เพียงแต่หลบหนีจากการตามล่าของสำนักใหญ่เท่านั้น เขายังหนีจากภาคใต้มาถึงภาคเหนืออีกด้วย”
“เขาได้รับเคล็ดวิชาความว่างเปล่าของตระกูลจี้ และยังเผาผู้อาวุโสไท่ซ่างของตระกูลจี้จนตาย นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
ผู้คนต่างประหลาดใจมากขึ้นเมื่อการกระทำในอดีตของเย่ฟ่านถูกเปิดเผย มันน่าเหลือเชื่อมาก
"เขาสร้างหม้อวิเศษด้วยปราณปฐพีต้นกำเนิด สมบัติดังกล่าวจะทำให้เขาถูกตามล่าไปตลอดชีวิต"
“น่าเสียดายร่างเซียนโบราณของเขาที่ไม่สามารถพัฒนาต่อได้ ไม่เช่นนั้นคนนี้อาจจะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในสักวันหนึ่ง!”
มีหลายคนที่รู้สึกเสียดายโอกาสของเย่ฟ่านเป็นอย่างมาก เขามีพรสวรรค์ล้นเหลือ แต่น่าเสียดายที่ร่างเซียนโบราณของเขามาถึงจุดสูงสุดแล้ว
“กล้าหันคมมีดใส่ตระกูลจี้ข้ายังคิดจะคาดหวังถึงอนาคตอีกหรือ?”
"ตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว ร่างเซียนโบราณนั้นไม่เคยบ่มเพาะจนถึงระดับผู้สูงสุดได้ ต่อให้เขาแข็งแกร่งกว่านี้สุดท้ายก็เป็นเพียงคนพิการคนหนึ่ง”
ผู้คนของตระกูลจี้ที่ลาดตระเวนอยู่ทั่วเมืองต่างก็ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
ตอนนี้เย่ฟ่านและตู้เฟยออกจากพื้นที่แคว้นซ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขานั่งอยู่บนหลังของสิงโตสีเขียวและให้มันบินอยู่กลางอากาศ
เย่ฟ่านแต่งกายด้วยชุดสีม่วง รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมก็คืออายุของเขาที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปกับการเปลี่ยนรูปลักษณ์
ตู้เฟยหัวเราะและพูดว่า "เจ้าเป็นคนดังในพื้นที่รอบๆแคว้นซ่งไปแล้ว ผู้ฝึกฝนทั้งหมดกำลังพูดถึงเจ้า ครั้งต่อไปถ้าเราไปถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์จะต้องมีเรื่องสนุกสนานอย่างแน่นอน”
ภาคเหนือมีขนาดใหญ่เกินไปและไม่มีที่สิ้นสุด โชคดีที่สถานที่สันโดษของราชามังกรเขียวอยู่ไม่ไกลนัก
“เจ้าจะไปที่นั่นเพื่ออะไร” ตู้เฟยไม่เชื่อว่าเย่ฟ่านกำลังไปเยี่ยมสหายเก่า
“ไปหลบภัย ตระกูลจี้ไล่ตามข้าไปทั่วโลก อยู่ข้างนอกไม่ปลอดภัยมากนัก” เย่ฟ่านไม่ได้พูดความจริง คราวนี้เขามีความตั้งใจจะจัดการกับร่างอวตารของจักรพรรดิอสูร
“ขอเตือนเจ้าก่อน ร่างกายของเจ้ามีหม้อวิเศษที่ทำจากปราณปฐพีต้นกำเนิด บางทีเมื่อเข้าไปถึงที่นั่นพวกเขาอาจจะลงมือต่อเจ้าก็ได้”
“เจ้าหมายถึงราชานกยูง?” เย่ฟ่านขมวดคิ้ว
เอี๋ยนหรูหยูมีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในมืออยู่แล้ว ดังนั้นนางคงไม่สนใจอาวุธของเขา ราชานกยูงและราชามังกรเขียวก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่ผู้ฝึกตนอสูรคนอื่นๆนั้นยากที่จะรับประกันได้
“ถ้าไม่ใช่เพราะอาวุธเต๋าสุดขั้วของปู่ข้า บางทีข้าอาจจะไม่มีคุณสมบัติอยู่ร่วมกับพวกเขาด้วยซ้ำ” ตู้เฟยถอนหายใจ
“อะไรนะตระกูลของเจ้ามีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในครอบครอง” ดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่เปล่งประกายขึ้นทันที
"ขอเตือนเจ้าเลย ปู่ของข้าไม่ใช่ว่าจะเป็นคนใจดีหรอกนะ!" ตู้เฟยเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อสุนัขตัวใหญ่ตัวนี้
เย่ฟ่านขมวดคิ้ว หลังจากที่เขามาที่ภาคเหนือ เขาไม่ได้ไปหาราชานกยูงตั้งแต่แรกเพราะกลัวว่าจักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่โจมตีเขา
แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องช่วยเหลือผังป๋อ เขารอต่อไปไม่ไหวแล้ว เขากลัวว่าจะไม่ได้เจอสหายคนนี้อีก
แม้ว่าคนของจักรพรรดิอสูรจะบอกว่าผังป๋อจะได้รับประโยชน์มหาศาล แต่เย่ฟ่านไม่เชื่อคำพูดนี้แม้แต่น้อย
คำพูดของอสูรเชื่อถือไม่ได้ เขาไม่ต้องการให้ผังป๋อเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยง ผังป๋อต้องได้รับการช่วยเหลือ
ในอดีตนั้นเย่ฟ่านมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ แต่ตอนนี้เขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขาจะต้องสร้างความประหลาดใจให้กับอสูรพวกนั้นอย่างแน่นอน
เอี๋ยนหรูหยูเคยกล่าวไว้ว่าผังป๋อและวิญญาณของจักรพรรดิอสูรจะหลอมรวมกันได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว เย่ฟ่านรอไม่ไหวอีกต่อไป
แม้ชีวิตจะตกอยู่ในอันตราย แม้จะเผชิญความตายก็ต้องลงมือ เขาไม่อยากเสียสหายคนนี้ไปอีก
แคว้นทะเลหมอกมีหมอกปกคลุมหลายหมื่นลี้ ผ่านไปครึ่งเดือนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่นี่
พื้นที่สีเขียวของแคว้นนี้มีขนาดใหญ่มาก มันถือได้ว่าเป็นดินแดนพื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดติดสิบอันดับแรกของภาคเหนือ ที่แห่งนี้คือถิ่นกำเนิดของน้ำโดยแท้จริง
“ราชามังกรเขียวคือสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุด(ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์) เป็นผู้ปกครองของเผ่าพันธุ์อสูรทั้งมวล เขามีชีวิตอยู่มานับพันปีแล้ว ไม่ว่าพวกเจ้าจะพูดอะไรก็ต้องระมัดระวังคำพูดด้วย” ตู้เฟยกล่าวอย่างเคร่งขรึม
สองวันต่อมา พวกเขามาถึงดินแดนแห่งความสันโดษของราชามังกรเขียว
ตู้เฟยหยิบจี้หยกชิ้นหนึ่งออกมา บนนั้นมีตัวอักษรที่ถูกแกะสลักโดยมหาโจรตู้เทียน โจรผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่เจ็ด
เมื่อเขาหยิบจี้หยกนั้นออกมามันก็ส่องแสงสว่างวาบ ทันใดนั้นพื้นที่ด้านหน้าของพวกเขาก็ปรากฏความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
"พื้นที่ที่สร้างขึ้นโดยปราชญ์โบราณ!" ดวงตาของสุนัขตัวใหญ่สีดำเป็นประกาย
"เจ้ารู้มากจริงๆ" ตู้เฟยโกรธ
"เป็นผู้ใดบุกรุกเข้ามา?” ในดินแดนปิดผนึกแห่งนี้มีเสียงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
"ข้าเอง ข้าชื่อตู้เฟยไม่ใช่คนอื่นคนไกล" ตู้เฟยตอบ
เมื่อได้ยินคำตอบจากเขาชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งที่มีใบหน้างดงามก็บินลงมาจากยอดเขา ร่างกายของพวกเขาตลบอบอวลไปด้วยปราณอสูร
“ที่แท้ก็ทายาทของผู้อาวุโสตู้เทียน”
หลังจากตรวจสอบความถูกต้องของจี้หยกแล้ว พวกเขาก็ชักนำทั้งสามเดินเข้าไปในส่วนลึกของดินแดนปิดผนึกนี้
“กลายเป็นว่าเป็นผู้สืบทอดของตระกูลตู้ เจ้าไม่ได้มาที่นี่นานแล้ววันนี้ลมอะไรหอบเจ้ามา?”
“คารวะผู้อาวุโสลู่”
ตู้เฟยประสานมือคำนับชายชราคนหนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ฝึกฝนเผ่าพันธุ์อสูรมากมาย
“ฮ่าฮ่า... พี่ตู้อยู่นี่แล้ว คิดถึงท่านจริงๆ” ชายหนุ่มจากเผ่าพันธุ์อสูรคนหนึ่งบินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เขามีรูปร่างที่แข็งแรงสวมชุดเกราะสีเงินโอ่อ่าภูมิฐาน ดวงตาของเขาสว่างไสวราวกับดวงดาว สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือท่ามกลางเส้นผมสีฟ้าของเขานั้นมีเขามังกรอยู่คู่หนึ่ง
นี่คือมังกรวารี!
ในดินแดนรกร้างตะวันออก ทายาทของมังกรที่แท้จริงเช่นมังกรวารีถือได้ว่ามีสายเลือดอสูรที่สูงส่งเป็นอย่างมาก
“พี่ซิงยี่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาก” ตู้เฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มที่ชื่อว่าซิงยี่คนนี้คือทายาทของราชามังกรเขียวนั่นเอง
"ไม่ทราบว่าน้องชายคนนี้คือ?" ซิงยี่หันมามองเย่ฟ่านที่เป็นผู้ฝึกฝนมนุษย์ด้วยความสนใจ
“นี่คือเย่ฟ่าน ท่านราชานกยูงชื่นชมเขามาก” ตู้เฟยแนะนำ
ในแววตาของซิงยี่เปล่งประกายสดใสขึ้นทันที เขายิ้มและพูดว่า
"ข้าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ที่แท้ก็คือศัตรูอันดับหนึ่งของเด็กรุ่นหลังตระกูลจี้นี่เอง!”
ฝึกฝนเผ่าพันธุ์อสูรรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าเย่ฟ่านมาถึงดินแดนของพวกเขาด้วยตัวเอง
“เข้าไปข้างในเถอะ นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุย” ซิงยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาโบกมือเบาๆและนกกระเรียนตัวใหญ่ก็บินลงมาจากท้องฟ้าเพื่อพาทุกคนเข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขา
ในส่วนลึกของหุบเขานี้มีพระราชวังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซิงยี่เดินนำหน้าทุกคนด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
“ไม่ทราบว่าเป็นมนุษย์คนใดที่กล้ามาเยี่ยมเยียนดินแดนแห่งความสันโดษของราชามังกรเขียว” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังมาจากด้านในของพระราชวังที่งดงาม
“นั่นใคร?” ตู้เฟยถามซิงยี่
"ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากของเผ่าพันธุ์อสูรเราราชาเผิงน้อยปีกทอง"
ตู้เฟยรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขาอุทานออกมาว่า
"ทายาทของราชาเผิงน่ะเหรอ?"
"ใช่แล้ว นี่คือลูกหลานของราชาเผิงของดินแดนภาคกลางนั่นเอง รากฐานการบ่มเพาะของเขาลึกซึ้งเป็นอย่างมาก เขามาที่นี่ก็เพื่อจะต่อสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงในทะเลสาบหยก" ซิงยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม