บทที่ 38 ภาษาชา 1
เชิ่งจื๋อเหยียนสามารถยืนยันได้ในทันที ว่าน้องสาวคนนี้สวยกว่าเด็กผู้หญิงในโรงเรียนอนุบาลของเขาซะอีก และเธอก็เป็นเด็กดีมาก ไม่เหมือนเด็กผู้หญิงบางคนที่ดุร้าย ซึ่งเขาไม่ต้องการเล่นกับพวกเธอแม้แต่น้อย
เขายกคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “เธอพูดถูกแล้ว!”
เมื่อสาวใช้เห็นว่าเขาดูอารมณ์ดี เธอจึงพูดขึ้นว่า “นายน้อยดื่มนมก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยเล่นกับน้องสาว”
เชิ่งจื๋อเหยียนมีท่าทีต่อต้านทันที “ไม่! นมมันไม่อร่อย!”
ซูจิ่วกระพริบตาปริบๆ และพูดขึ้นว่า “พี่ชาย ป๊ะป๋าบอกว่าการดื่มนมจะสามารถช่วยให้เด็กอย่างเราเติบโตขึ้นได้ และเด็กที่เชื่อฟังก็เป็นเด็กดี”
เชิ่งจื๋อเหยียน "..."
สาวใช้ยิ้มและพูดว่า “ใช่แล้วนายน้อย คุณดูน้องสาวสิ เธอมีอายุน้อยกว่าคุณ แต่เธอก็ยังรู้ว่าการดื่มนมเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น คุณต้องเชื่อฟัง และที่สำคัญ คุณเป็นพี่ชายที่รู้ความและมีเหตุผลมากกว่าน้องสาว”
เชิ่งจื๋อเหยียนยืนกรานและไม่ยอมแพ้ เขาจ้องเขม็งไปที่สาวใช้ แต่พอหันกลับไปมองน้องสาวที่กำลังมองเขาอยู่ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาไม่สามารถห้ามใบหน้าของตัวเองไม่ให้แดงได้ ก่อนที่จะพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “ฉันเป็นคนไม่รู้ความเหรอ?”
ซูจิ่วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายเป็นคนที่รู้ความมากที่สุด”
เชิ่งจื๋อเหยียนรู้สึกเขินอายกับสิ่งที่เธอพูดออกมา และเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองรู้ความแค่ไหน เขาจึงหันไปดื่มนมจนหมดแก้ว
ในที่สุด สาวใช้ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ยิ่งมองเธอก็ยิ่งชอบซูจิ่ว และเธอก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ “คุณชายสาม เด็กน้อยคนนี้เป็นลูกของเพื่อนคุณเหรอคะ? คุณจะให้ดิฉันช่วยดูแลเธอไหม?”
เชิ่งเทียนสื่อพยักหน้าทันที “อือ ชงนมให้เธอด้วย แล้วให้ห้องครัวทําขนมที่เหมาะกับเด็กๆ ให้หน่อย”
สาวใช้คิดว่ามันแปลกมากที่คุณชายสามเสเพล และไม่ค่อยมีงานทําคนนี้กลับมีน้ำใจแบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีศักยภาพที่จะเป็นพ่อคนได้แล้ว
ก่อนที่จะเดินจากไป เธอมองไปที่ซูจิ่วอีกสองครั้ง อา…ช่างเป็นนางฟ้าตัวน้อยจริงๆ พ่อแม่ของเธอจะมีความสุขเกินไปแล้ว!
## ติดตามเรื่องราวของเด็กหญิงตัวเล็กได้ที่ thai-novel.com หรือ mynovel.co ได้เลยนะคะ
ซูจิ่วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเธอไม่ได้วิ่งไปรอบๆ เหมือนเด็กทั่วไป แต่กลับนั่งอย่างเชื่อฟังอยู่บนโซฟาและมองไปรอบๆ แทน “พี่ชาย บ้านของนายหลังใหญ่และสวยงามมาก”
เชิ่งจื๋อเหยียนรู้สึกภูมิใจมาก “แน่นอน! บ้านของเธอไม่ใหญ่และสวยแบบนี้เหรอ?”
ขนตายาวของซูจิ่วห้อยลงมา เธอมีสีหน้าผิดหวังและเศร้าเล็กน้อย จากนั้น เธอก็ส่ายหน้าและพูดว่า “บ้านของฉันเล็กและทรุดโทรมมาก เพราะป๊ะป๋าไม่มีเงินที่จะซื้อบ้านหลังใหญ่แบบนี้ พี่ชาย อย่ารังเกียจเสี่ยวจิ่วเลยนะ? หรือนายจะไม่เล่นกับเสี่ยวจิ่วแล้ว?”
ซูจิ่วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนชาเขียว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นภาษาชาชัดๆ
แต่เพื่ออนาคตของป๊ะป๋าและตัวเอง เธอต้องรวบรวมกองกำลังทั้งหมดที่สามารถทำได้ ซึ่งการผูกมิตร ดีกว่าการสร้างศัตรูจริงไหม?
ในเวลานี้ ใบหน้าของเธอดูกังวลและระมัดระวังเป็นอย่างมาก และดวงตากลมโตของเธอดูเหมือนจะมีหมอกบางๆ ปกคลุมอยู่ ซึ่งทําให้ผู้คนรู้สึกสงสาร และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ไปกระตุ้นความอยากปกป้องของเชิ่งจื๋อเหยียนได้อย่างง่ายดาย เขาจึงพูดอย่างโมโหว่า “ไม่มีทางที่ฉันจะรังเกียจน้องสาว และเธอก็สามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ ยังไงซะ บ้านของฉันก็มีหลายห้อง เธอชอบห้องไหนก็เลือกได้ตามใจชอบเลย!”
เชิ่งเทียนสื่อนั่งลงข้างๆ ซูจิ่ว และลูบผมนุ่มของเธอเหมือนลูกแมวน้อย พร้อมกับพูดกับหลานชายตัวน้อยว่า “ถ้าเธอสามารถเกลี้ยกล่อมให้น้องสาวมาอยู่กับเราได้ อาจะซื้อทุกอย่างที่เธอต้องการ”
ซูจิ่วส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่ได้หรอกลุง ที่นี่คือบ้านของลุง และหนูก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ และที่สำคัญ ป๊ะป๋าบอกว่าอย่าไปรบกวนลุง”
เชิ่งเทียนสื่อ "..."
นี่คือนางฟ้าตัวน้อยจริงๆ!
ในเวลาต่อมา สาวใช้ก็ได้ชงนมมาให้ซูจิ่วหนึ่งแก้ว หลังจากที่ซูจิ่วรับมาแล้ว เธอก็ส่งยิ้มหวานให้สาวใช้ “ขอบคุณพี่สาว”
เชิ่งจื๋อเหยียนจ้องไปที่รอยยิ้มของเธออย่างเหม่อลอย และทันใดนั้น หัวใจของเขาก็เต้นโครมคราม อีกทั้งหูทั้งสองข้างก็แดงไปหมด