บทที่ 19 เจ้านี่แปลกจริง ๆ!
ตอนบ่าย ผู้เข้าแข่งขันจะมารวมตัวกันนอกห้อง Virtual Reality ในขณะเดียวกัน นักเรียนคนอื่น ๆ จะดูการถ่ายทอดสดในห้องเรียน แม้แต่คลาสศิลปะการต่อสู้เกรด 9 และ 10 ก็ยังดูการถ่ายทอดสดด้วย
ลู่เจ๋อมองไปที่เครื่อง VR สีดำสนิทและถอนหายใจ นี่คือเครื่อง VR ของแท้
นิยายหลายเล่มในอดีตมักกล่าวถึงสิ่งนี้ ลู่เจ๋อเคยสงสัยว่าอนาคตจะมีอะไรแบบนี้จริง ๆ รึเปล่า
ความฝันวัยเด็กของเขาสำเร็จแล้ว เขารู้สึกประทับใจมาก
แต่เครื่อง VR นี้มีความสมจริงมากกว่าเครื่องเกม VR มันจะป้อนค่าสถานะและข้อมูลทั้งหมดของร่างกายผู้ใช้ลงในเครื่อง มันค่อนข้างตรงกับชีวิตจริง
นี่คือเทคโนโลยีจากอารยธรรมระดับบนสุด สหพันธ์จ่ายราคามหาศาลเพื่อเรียนรู้มัน ใช้สำหรับฝึกสอนนักเรียนและทหารใหม่โดยเฉพาะ
กฎสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างง่าย เข้าสู่ VR และผ่านการทดสอบ จะมีคู่ต่อสู้ในแต่ละระดับ หลังจากคุณเอาชนะพวกเขาได้ คุณจะเข้าสู่ระดับถัดไป ผู้ใช้จะได้รับการจัดอันดับตามระดับที่พวกเขาไปถึง สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน การจัดอันดับจะพิจารณาจากความเสียหายที่ทำได้
ลู่เจ๋อเข้าไปในเครื่อง VR ดวงตาของเขาพร่ามัว จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวบนเวที
บนเวทีมีเด็กหนุ่มผมดำผอมบาง เขาเป็นคู่ต่อสู้ระดับแรก นักรบป้องกันตัวระดับ 6
เด็กหนุ่มผมดำไม่พูดอะไรก็รีบวิ่งเข้าหาลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อมองดูหมัดของอีกฝ่ายอย่างสงบขณะที่เด็กหนุ่มพุ่งเข้ามา เขาก้าวหลบอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ต่อยเข้าที่หัวของเด็กหนุ่มและระเบิดมันทันที
เสียงระเบิดดังลั่น และเด็กหนุ่มก็ตาย
ผ่านระดับแรก
คู่ต่อสู้ระดับที่ 2 เป็นสัตว์คล้ายเสือดาวที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ สูง 1.5 เมตร มีชื่อว่า ‘เสือดาวเกล็ดดำ’ สัตว์อสูรระดับ 6
ดวงตาสีแดงเลือดของเสือดาวเกล็ดดำจ้องมาลู่เจ๋ออย่างเย็นชา มันคำรามและพุ่งเข้าใส่ลู่เจ๋อราวกับสายฟ้า
ลู่เจ๋อยังคงสงบมาก เขาหลบและโจมตีเหมือนสายฟ้า ลู่เจ๋อบิดเอวแล้วตวัดขาซ้ายเหมือนแส้ฟาดเข้าที่ลำตัวของเสือดาวเกล็ดดำ
มีเสียงกระดูกแตกดังขึ้น และเสือดาวเกล็ดดำก็บินออกไปไกลกว่า 10 เมตร มันไอเป็นเลือดและนอนราบกับพื้นมันดิ้นรนไม่กี่ครั้ง และไม่ขยับอีกต่อไป
ระดับ 3
ลู่เจ๋อมองศัตรูและหรี่ตาลงเล็กน้อย
"โอ้! เจ้านี่แปลกจริง ๆ!”
อีกฝ่ายเป็นมนุษย์ต่างดาวสูง 2 เมตร ผิวสีเทาของมันปกคลุมไปด้วยตุ่มที่มีหนามแหลมสั้นสีดำ เหมือนลูกบอลหนามเดินได้
มันไม่มีหน้าบนหัว และตัวมันก็เต็มไปด้วยตุ่ม ที่หน้าผากมีเสาอากาศสองอันที่กำลังสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ถ้าคนเป็นโรค tripophobia มาเห็นสิ่งนี้พวกเขาต้องขนลุกไปทั้งตัว
(TL: อาการกลัวรู (Trypophobia) เป็นอาการกลัวหรือขยะแขยงเมื่อเห็นรูปทรงเรขาคณิตที่เรียงตัวหรืออยู่รวมกันเป็นกระจุก โดยเฉพาะหลุมกลม ๆ หรือรูปทรงเหลี่ยมเล็ก ๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของรูปทรงที่คนเป็นโรคกลัวรูเกลียดกลัวก็คือ เม็ดบัวเล็ก ๆ ที่ฝังอยู่ในฝักบัว รังผึ้ง และฟองน้ำที่เต็มไปด้วยรู)
เขามองดูมนุษย์ต่างดาวที่แปลกประหลาดตรงหน้าเขา เขาก็รู้สึกซับซ้อน
ลู่เจ๋อมองไปที่ข้อมูลของอีกฝ่าย มันคือ ‘เคนดู’
ครั้งหนึ่งพวกมันเคยต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์หลายครั้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรบนดาวเคราะห์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอารยธรรมมนุษย์นั้นก้าวหน้ากว่า มนุษย์จึงทำลายล้างพวกมันอย่างสมบูรณ์ในการรบที่ดาวแม่ของพวกเคนดูด้วยการจ่ายราคาจำนวนมาก
เผ่าพันธุ์ของพวกมันถูกทำลายจากการต่อสู้เพื่อทรัพยากร กฎแห่งป่านั้นช่างไม่มีเหตุผล
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะชาวเคนดูไม่ได้รับการสนับสนุนจากอารยธรรมที่สูงกว่า เผ่าพันธุ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอารยธรรมที่สูงกว่าจะต้องเหลือเมล็ดพันธุ์ไว้เล็กน้อยในนาทีสุดท้าย
หลังจากเห็นลู่เจ๋อแล้ว ชาวเคนดูก็คำรามและพูดอะไรบางอย่าง เมื่อลู่เจ๋อมึนงงเพราะฟังไม่เข้าใจ หนามแหลมสีดำของมันก็พุ่งออกมา กลายเป็นฝนเข็มสีดำพุ่งเข้าใส่ลู่เจ๋อ
รูม่านตาของลู่เจ๋อหดตัว เท้าของเขาแตะพื้น ตัวเขากลายเป็นภาพเบลอและออกจากระยะการโจมตีของเข็ม เมื่อเขามองไปที่ชาวเคนดู หนามสีดำก็งอกออกมาจากตุ่มตามตัวของมันอีกครั้ง
ลู่เจ๋อขมวดคิ้วแล้วพุ่งเข้าหาชาวเคนดู เขาปัดหมัดของชาวเคนดูแล้วต่อยเข้าที่หน้าผาก ระเบิดสมองของมัน
ขณะเดียวกัน ห้องเรียนทั้งหมดก็กำลังฉายฉากที่ลู่เจ๋อฆ่าชาวเคนดู
ในห้องเรียนของลู่หลี่ เด็กสาวผมฟ้าที่น่ารัก ร้อนแรง และเซ็กซี่ได้ตีลู่หลี่ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับเธอ “อาหลี่ ลู่เจ๋อแข็งแกร่งมาก! ลูกบอลหนามนั่นมันระดับ 7 ใช่ไหม? หลายคนไม่สามารถแม้แต่จะหลบการโจมตีระลอกแรกของมันได้ แต่พี่ชายเธอฆ่ามันได้ในเสี้ยววิ ทั้งที่เป็นระดับ 5 เขาแข็งแกร่งมาก!”
ลู่หลี่มีรอยยิ้มอ่อนโยนบนหน้า "ใช่ พี่ชายแข็งแกร่งมาก!"
เธอกัดฟันพูด เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้
ผู้ชายคนนั้น เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
เด็กสาวผมฟ้าหัวเราะ “หลี่ เธอขอให้ฉันหาสารานุกรมสัตว์ร้ายบนดาวหนานเฟิงให้ นั่นสำหรับลู่เจ๋อใช่ไหม พี่ชายเธอกำลังควบคุมเธออยู่เหรอ?”
รอยยิ้มของลู่หลี่หายไปแป๊บหนึ่งก่อนที่จะฟื้นตัว เธอยิ้มและพูดว่า “อลิซ การช่วยพี่ใหญ่เป็นสิ่งที่น้องสาวควรทำ เธอกำลังพูดอะไร?”
“จ้า จ้า~” อลิซยิ้ม
ขณะเดียวกัน ในห้อง VR ครูใหญ่ผมขาว และครูทุกคนก็เห็นฉากนี้
ครูใหญ่พยักหน้าและกล่าวชมว่า “เขาเป็นต้นกล้าที่ดี เขาสามารถปลดปล่อยความเร็วดังกล่าวได้ทั้งที่เป็นนักรบป้องกันตัวระดับ 5 มุมที่เขาปัดป้องหมัดของเคนดูและต่อยมันนั้นช่างอัศจรรย์”
หลี่เหลียงยิ้ม “มันเป็นเพราะครูใหญ่สอนดี”
“อย่าประจบฉันไอ้หนู! ต้นกล้าเช่นนั้นพึ่งจะถูกค้นพบในตอนนี้!” ครูใหญ่เหลือบมองหลี่เหลียงและส่ายหัว “น่าเสียดาย ด้วยความสามารถดังกล่าว เขาต้องได้รับจดหมายแนะนำของมหาวิทยาลัยสหพันธ์แน่หากระดับการบำเพ็ญของเขาไปถึงหลิงหวู่ และโรงเรียนของเราก็จะได้เป็นพาดหัวข่าวเช่นกัน”
เมื่อได้ยิน ครูทุกคนก็หรี่ตาลง
การเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสหพันธ์เป็นอะไรที่เหมือนฝัน ช่างน่าเสียดายจริง ๆ
แม้ว่าหลี่เหลียงจะได้ประโยชน์สูงสุดหากลู่เจ๋อได้รับจดหมายแนะนำ แต่ถ้าโรงเรียนของพวกเขามีชื่อเสียง นักเรียนของพวกเขาก็จะได้รับทรัพยากรที่ดีขึ้น และทุกคนก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองหลี่เหลียงด้วยสายตาประณาม
“คุณสอนบ้าอะไร เหล่าลี่ คุณสอนนักเรียนที่มีความสามารถแบบนี้เหรอ” มีคนบ่น “ถ้าเป็นผม ผมสอนได้ดีกว่าคุณแน่นอน”
“เปล่า ผมไม่ได้สอน!” หลี่เหลียงรู้สึกอึดอัดมาก เขารีบแก้ตัวทันที “เด็กคนนี้ทำตัวธรรมดามาก และไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ใครจะรู้ว่าเขามีพรสวรรค์”
ทุกคนมองหน้ากันและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ครูใหญ่ก็รู้สึกสงสารเช่นกัน เขาส่ายหัว “หยุดเถียง ดูต่อ เขาถึงระดับ 4 แล้ว ศัตรูคือเผ่าอสูรดาบ ศัตรูของเผ่าพันธุ์มนุษย์เราในตอนนี้ อสูรดาบตนนี้เกือบเข้าถึงระดับ 8 แล้วใช่ไหม? พอบวกกับข้อได้เปรียบทางกายภาพของเผ่าพันธุ์ แม้แต่นักเรียนที่เป็นระดับ 8 ก็ยังไม่สามารถจัดการมันได้ ฉันสงสัยว่าเด็กคนนี้จะจัดการกับมันยังไง…”
เมื่อได้ยิน ทุกคนก็หยุดพูดและมองไปที่หน้าจอถ่ายทอดสด คนที่ควบคุมการถ่ายทอดสดได้ย้ายหน้าจอของลู่เจ๋อไปไว้ตรงกลางและไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่น
ท้ายที่สุด แม้แต่ครูใหญ่ก็ยังสนใจในตัวเขา
------------------------------