ตอนที่ 46 ท่อระบายอากาศลับในหุบเหวใต้ภูเขา(อ่านฟรี)
ตอนที่ 46 ท่อระบายอากาศลับในหุบเหวใต้ภูเขา
เรย์ยื่นมือออกไปร่ายคาถาแสงชำระล้างเป็นอันดับแรก ชายหนุ่มรวบรวมพลังงานจากจุดพลังงานอยู่ราว 5 วินาที
“เรลันลัวอา (แสงชำระล้าง)”
ตัวอักษรเวทมนตร์สีเหลืองท่องเรียกตัวกันท่ามกลางแสงสลัว พวยพุ่งจากจุดที่ซอมบี้โครงกระดูกพยายามปืนขึ้นมาหาชายหนุ่มอยู่ในตอนนี้
ซอมบี้โครงกระดูกไม่มีทางหลบได้ในสถานการณ์เช่นนี้
แสงชำระล้างทำการโจมตีใส่ซอมบี้อย่างโหดเหี้ยม แต่ซอมบี้โครงกระดูกยังไม่ตาย ด้วยระดับของเรย์และซอมบี้โครงกระดูกต่างกันอยู่สองระดับใหญ่ อีกทั้งกระดูกที่ห่อหุ้มตัวช่วยป้องกันแสงบางส่วนไว้ได้
ซอมบี้โครงกระดูกดิ้นไปมาอย่างทุรนทุราย
เรย์มิได้หยุดที่จะลงมือ หลังจากรวบรวมพลังงานในการร่ายคาถาได้พอแล้ว เรย์ร่ายคาถาโจมตีซอมบี้โครงกระดูกด้วยคาถาแสงชำระล้างเป็นครั้งที่สอง
“เรลันลัวอา (แสงชำระล้าง)”
เมื่อมันโดนกับคาถาแสงชำระล้างชำระล้างไปอีกรอบก็ทำให้ซอมบี้โครงกระดูกแทบอย่างจะบ้าคลั่ง เพราะคาถาแสงชำระล้างสร้างผลกระทบต่อมันอย่างรุนแสง ทำให้มันรู้สึกอ่อนแอเป็นอย่างมาก
“ว๊ากกก!!!”
ซอมบี้โครงกระดูกร้องคำรามออกมา กระดูกที่ห่อหุ้มร่างกายดั่งเกราะ เมื่อโดนพลังของแสงชำระล้างเข้าไปก็เริ่มจะคงสภาพไม่ได้ กระดูกเริ่มแตกร้าวและหลุดร่วง
เรย์รีบเปิดหน้ากระดาษไปหน้าคาถาบอลเพลิง ตอนนี้คือโอกาสในการเผาซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้ เรย์ไม่มีทางพลาดไปได้
ก่อนจะร่ายคาถา “คาเซเบธ (บอลเพลิง)”
ครั้งนี้เป็นคาถาบอลเพลิงและเรย์ไม่ดีร่ายแค่หนึ่งคาถา เขาร่ายคาถาพร้อมกันสามคาถาติด บอลเพลิงปรากฏออกมาจากอักษรเวทมนตร์ บอลเพลิงทั้งสามลอยตัวอยู่เหนือหนังสือเวทมนตร์เบื้องหน้าของเรย์
“ไป” เรย์กล่าวเสียงเบา ๆ บอลเพลิงก็พุ่งเข้าหาซอมบี้โครงกระดูกพร้อม ๆ กัน
ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงของการโจมตีรุนแรงราวกับระเบิดมือไม่มีผิด มันทำให้ซากตึกที่เรย์ยืนอยู่สั่นเบา ๆ และกลุ่มเปลวไฟและคลื่นความร้อนกระจายออกมาอย่างน่ากลัว
เรย์ที่ใส่ชุดเกราะยุทธวิธี แม้จะไม่ร้อนมากนัก แต่ก็เลือกจะถอยหลังมาเล็กน้อย หลังจากเสียงการโจมตีสงบลงไปพร้อมกับซอมบี้ที่ไม่ตอบสนอง เรย์ก็ปีนลงมาจากด้านบน
เขามาหยุดอยู่เบื้องหน้า มันคือซากร่างของซอมบี้โครงกระดูก ที่กระดูกทั้งตัวผุพรุ่นไปจากการโดนเผาด้วยคาถาบอลเพลิงสามบท
แต่ถึงแบบนั้น เรย์ไม่เข้าใกล้มันมั่วซั่ว เขาก้มหยิบหินขนาดเท่าฝ่ามือใกล้ ๆ และลองปาใส่ไปที่ตัวของซอมบี้โครงกระดูกดู
แก็ก!
หินที่กระทบกับเกราะกระดูกของซอมบี้โครงกระดูกทำให้เกราะกระดูกหลุดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่สุกจนไหม้เกรียมไปถึงด้านใน
แน่นอนว่ากลิ่นของมันก็ยังเห็นเน่าเช่นเคย
ไม่มีการตอบสนอง คงตายแล้วจริง ๆ
เมื่อยืนยันว่าซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้ตายแล้ว เรย์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
กว่าจะฆ่าได้ต้องเสียคาถาแสงชำระล้างไปสองบทและบอลเพลิงอีกสองบท...เมื่อครู่เราเสียงดังเกินไปควรรีบออกไปจากที่นี่ก่อน
ในขณะถอยออกมาเรย์ก็หันไปมองร่างของซอมบี้โครงกระดูกอย่างเสียดาย ในใจเขาก็อยากจะลงมือเก็บเลือดสีขาวจากมัน ด้วยระดับและความแข็งแกร่งของซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้แล้วคงมีเลือดสีขาวไม่น้อยกว่า 6-7 ขวด แต่น่าเสียดายที่ตัวของเรย์นั้นไม่มีมีดและต่อให้มีการจะผ่าผ่านเอ็นและกล้ามเนื้อซอมบี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานอย่าง ซอมบี้โครงกระดูก นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เรย์ถอยออกมาไม่นานจากจุดที่เกิดการต่อสู้ก็มีซอมบี้ซากศพราว ๆ 5 ตัวเดินเข้ามายังจุดนั้น เมื่อมันเห็นซากของซอมบี้โครงกระดูกที่นอนตาย พวกมันก็ไม่สนใจร่างของซอมบี้โครงกระดูกแม้แต่นิดเดียว
ก่อนที่ซอมบี้ซากศพจะเหม่อลอยหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ซอมบี้ทั้ง 5 ตัวก็ทำท่าสูดดมด้วยจมูกเน่า ๆ ดัง ฟึด! ๆ พวกซอมบี้ซากศพพากันมองซ้ายขวาและก็เกราะกลุ่มกันเดินไปตามกลิ่นที่เหลือในอากาศไป
ทิศทางที่ซอมบี้ซากศพกำลังมุ่งหน้าไปนั้นเป็นจุดเดียวกับที่เรย์ได้เดินไป
เรย์เดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงยังพื้นที่แปลก ๆ ด้านหน้าของเขานั้นเป็นหุบเหวลึกลงไปด้านล่างมืดสนิท
พอลองยื่นหัวออกไปดูมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกลัวลึก ๆ
ภูเขาลูกนี้มันลึกแค่ไหนกัน...หรือว่าหุบเหวนี้จะเกี่ยวกับที่ภูเขาลูกนี้ปรากฏขึ้นมา ไม่สิต้องเลียกว่าเทือกเขา เพราะตามข้อมูลแล้วเทือกเขาเมฟเคียคือซากที่สงครามทิ้งไว้ มันถูกพลิกขึ้นมาด้วยบางสิ่งที่ไม่ได้ระบุ ถ้าข้างล่างจะเป็นอุโมงค์ถ้ำไม่สิ้นสุดหรือไม่ก็อาจจะเป็นหลุมลึกเพราะการพลิกขึ้นมาของเทือกเขาเมฟเคียหรือเปล่านะ
เรย์มองไปยังความดำมืดด้านล่าง ก่อนจะถอยออกมาเพราะกลัวจะพลาดตกลงไป แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาจากด้านล่าง
เสียงนี่มัน... เรย์หยุดนิ่งไปสักพัก ก่อนจะพยายามฟังอย่างตั้งใจ เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้หูแววไปเรย์ก็ก้มลงไปหยิบดินแห้ง ๆ มาหนึ่งกำมือ
เขาเดินมาหยุดอยู่ริมขอบผาก่อนจะยืนมือที่กำดินออกไป จากนั้นก็แบมือโปรยดินลงไปในผา
หลังจากรอสักพักหนึ่งในตอนนั้นเองดินที่เรย์โปรยลงมือสักครู่ก็พุ่งขึ้นมาตามแรงลมแบบที่เขาคิด
ลมจริง ๆ ด้วย ที่ใดมีลมที่นั่นมีทางที่เชื่อมออกไปในภูเขาอย่างแน่นอน...
คิดได้ดังนั้นเรย์ก็มีความคิดบ้า ๆ อย่างการปืนลงไปดู เพราะบางทีอาจจะมีทางออก
ถ้าระวังสักหน่อยก็คงไม่เป็นอะไร...เรย์ทำใจอยู่สักพักก่อนจะหาทางลงไปด้วยการใช้บอลแสงส่องนำทาง
บอลแสงสองดวงลอยไปมาตามขอบของผาเพื่อหาทางลงไป ใส่ที่สุดเรย์ก็เจอทางที่พอจะปืนลงไปได้ เขาไม่รอช้าปีนลงไปด้านล่างในทันที
ลงไปได้ประมาณ 10 เมตรในที่สุดเรย์ก็เจอกับจุดที่สามารถใช้เหยียบได้ เขามองไปทางขวามือสุดท้ายตามันมีสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออยู่ มันคือท่อระบายอากาศ แต่ไม่ใช่ท่อระบายอากาศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างที่ชายหนุ่มคิด เพราะท่อระบายอากาศนี้มีที่กั้นด้วยตะแกรงเหล็กกว้างประมาณ 3 เมตร
ใครมันมาสร้างของแบบนี้ไว้ที่นี่กัน...เดี๋ยวก่อนหรือว่าจะเป็นพวกลัทธิมืด
ดูเหมือนว่าเราจะมาเจอกับรังของพวกมันแล้ว แต่พวกมันมาซ่อนตัวทำอะไรอยู่ที่นี่ ไม่สิ ถ้าซ่อนที่นี่คงไม่มีใครนึกถึงอย่างแน่นอน ยกเว้นว่าพวกกลุ่มบริษัทเคลินเนีย กรุ๊ป พวกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิมืดหรือเปล่า
เรย์ไม่แน่ใจกับคำถามนี้ เพราะมันมีข้อมูลน้อยเกินไป แต่ก็มีโอกาสสูงที่กลุ่มบริษัทเคลินเนีย กรุ๊ปไม่ก็พวกที่มีอำนาจพอในบริษัทจะรู้เรื่องนี้
โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ ๆ ที่ปรึกษาพอลก็หายตัวไปก่อนหน้านี้
เรย์สลัดความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อน เพราะตอนนี้มันกำลังอยู่ขอบหน้าผาซึ่งต้องใช้สมาธิพอสมควร เขาค่อย ๆ หันหลังพิงกับผนังของหน้าผา สายตาพยายามมองไปที่ด้านหน้า มันมีพื้นให้เหยียบอยู่ประมาณ 1 เมตรไม่ถือว่าน้อยหรือมากเกินไป พอให้ตัวของเรย์ค่อย ๆ เดินไปที่ท่อระบายอากาศตรงนั้นได้
เรย์เคลื่อนตัวมาจนถึงท่อระบายอากาศ เขาพลิกตัวกลับเข้าหากำแพง ก่อนจะหาทางเปิดตะแกรงเหล็กที่มีลมพัดออกมาเป็นระยะ ๆ
เก่าน่าดูเลยแฮะ ดูเหมือนจะเป็นสนิมอยู่หน่อย ๆ ด้วย อาจจะเพราะมันอยู่ใต้ดินที่มีความชื้นและมืดด้วย
เรย์ลองขยับตะแกรงเหล็กดูมันมีเสียงดังกึก ๆ เมื่อเห็นว่าตะแกรงเหล็กของท่อระบายอากาศขยับได้ เรย์ก็ออกแรงใช้มือทั้งสองกระชากตะแกรงเหล็กอย่างแรง
กึก! โครม!
ในจังหวะที่ดึงออก เพราะความหนักของตะแกรงเหล็กเกือบทำให้เรย์พลาดทำมันตกลงไปในหุบเหวด้านล่าง เรย์รีบปล่อยมือและทิ้งกรงลงไปในหุบเหวทันที
เสียงของกรงเหล็กกระแทกกับผนังของหุบเหวดัง โคลงเคล้ง! สะท้อนไปเบา ๆ ก่อนจะเงียบหายไป เพราะมันตกลงไปลึกมาก ๆ
เรย์ไม่สนใจ รีบปีนเข้าไปในท่อระบายอากาศที่ไม่มีอะไรขว้างกั้นไว้แล้ว
ก่อนจะนั่งพักให้หายเหนื่อยจากการปีนลงมาที่นี่ จุดที่เรย์นั่งอยู่ตรงนี้เป็นเหมือนกับท่อระบายอากาศรวม ลึกเข้าไปมีใบพัดของพัดลมระบายอากาศขนาดประมาณ 3 เมตรดูดลมออกมาระบายที่ช่องตรงนี้ และนั้นยังเป็นสิ่งที่ขวางทางเส้นทางของเรย์เข้าไปด้านในด้วย
นอกจากใบพัดตัวใหญ่แล้ว ด้านหลังใบพัดยังมีท่อแยกขนาด 1 เมตรอยู่หลายจุด ซึ่งก็มีใบพัดแต่ละท่อระบายอากาศด้วย
ท่อที่เราอยู่ตอนนี้คือท่อรวมสินะ ใบพัดลมแม้จะใหญ่ แต่ก็ไม่ได้พัดแรงจนเข้าใกล้ไม่ได้
เรย์ลุกขึ้นยืนมือและเท้ายึดกับพื้นและผนังไว้ไม่ได้ตัวเองปลิว ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ใบพัดลม
ใบพัดพวกนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า ต้องทำให้มันหยุดหมุนก่อนถึงจะไปต่อได้ แต่จะตัดสายไฟพวกนี้ก็ไม่ได้ สายไฟที่จ่ายพลังงานให้ใบพัดดันอยู่ด้านในหลังใบพัดซะได้
เรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับปัญหาตรงหน้า...ใช้คาถาบอลเพลิงหรือใช้ปืนยิงไปที่แก่นมอเตอร์เลยดีไหม ไม่ได้แบบนั้นจะเกิดเสียงดังมากเกินไปที่นี่ไม่น่าจะเป็นที่ของพวกลัทธิมืด ถ้าเกิดทำแบบนั้นพวกมันจะรู้ตัวกันว่าเราแอบเข้ามา
แต่แล้วในตอนนั้นเรย์ก็คิดขึ้นมาได้ถึงสิ่งหนึ่ง เขาเปิดกระเป๋าเวทมนต์และหยิบของสิ่งนั้นออกมา
มันไม่ใช่อะไรนอกจากหนังสือเวทมนตร์ ว่ากันตามตรงแล้วหนังสือเวทมนตร์ทนทานและแข็งยิ่งกว่าเหล็กซะอีก
หวังว่าจะได้ผล
เรย์มองหาจังหวะใบพัดลมที่กำลังหมุนขวับ ๆ ๆ ไม่หยุด
“ตอนนี้แหละ!!”
เรย์เสียบหนังสือเวทมนตร์เข้าไปขัดใบพัดในทันที ใบพัดลมลากเอาหนังสือเวทมนตร์หมุนไปด้วยครึ่งรอบส่งเสียงคลืดคาด จากนั้นก็ดุเหมือนมันจะหมุนต่อไปไม่ได้
กึก!
ใบพัดลมขนาดสามเมตรหยุดดังกึกอย่างกะทันหัน มอเตอร์ของใบพัดเริ่มส่งกลิ่นไหมเล็กน้อย เพราะไม่สามารถหมุนต่อได้
เรย์รีบมุดผ่านช่องว่างระหว่างใบพัดลมไปอีกฝั่งและดึงหนังสือเวทมนตร์ที่ขัดอยู่กับใบพัดลมออก ทำให้มันกลับมาหมุนได้อีกครั้ง
มีประโยชน์กว่าที่คิดอีกแฮะ...เรย์พยักหน้าอย่างพอใจเก็บหนังสือเวทมนตร์เข้าที่ มุ่งหน้าเดินไปตามท่อระบายอากาศต่อไป