ตอนที่ 45 เกลียดสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น(อ่านฟรี)
ตอนที่ 45 เกลียดสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น
เรย์ใช้เวลาอยู่นานมากพอสมควร แต่ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงสุดขอบผนังของโถงถ้ำแห่งนี้
ด้านหน้าของชายหนุ่มเป็นผนังถ้ำที่ต่างจากซากตึก เป็นดินและหินแข็ง ๆ ในสายตาของเรย์ยังเห็นแร่สีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ หรือไม่ก็สีเทา นอกจากนั้นบางจุดยังมีลักษณะเป็นสีดำเกาะกันแน่นจนแข็งมาก
ซึ่งสิ่งที่เรย์เห็นอยู่ตอนนี้คือ “แร่โลหะ”
แร่เหล็กพวกนี้มีค่ามากในอุตสาหกรรม ถ้าสามารถมาขุดแร่โลหะจำนวนมากนี้ออกไปได้คงมีมูลค่าไม่น้อยเลย แต่ตอนนี้เราต้องรอดออกไปให้ได้ก่อน
เรย์ยกมือสัมผัสแร่ตามผนังถ้ำ ก่อนจะเดินต่อไป
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงน้ำไหลเบา ๆ ไม่ไกลมากนัก เรย์ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปทางเสียงโดยใช้บอลแสงส่องนำทาง
เรย์ร่ายคาถาเรียกลูกบอลแสงออกมาอีกหนึ่ง เพราะการมีแสงอยู่ข้าง ๆ นั้นทำให้เรย์รู้สึกปลอดภัย
เดินไปราว ๆ 20 เมตรในที่สุดเรย์ก็เจอกับสิ่งที่ตามหา
เสียงน้ำหยดจริง ๆ ด้วย...
ด้านหน้าสายตาของเรย์แอ่งน้ำสะอาดที่หยดขังมาแล้วไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี เรย์ไม่รอช้าเดินเข้าไปก่อนที่จะทดสอบดูว่าน้ำนี่ไม่เป็นอันตรายหรือไม่ เขาไม่อยากจะสัมผัสน้ำพวกนี้แล้วโดนกัดกร่อนไม่มีชิ้นดี
ส่วนเรื่องดื่มน้ำนั้นเขาไม่บ้าขนาดดื่มน้ำไม่รู้เรื่อง ที่นี่เป็นเหมืองและยังเป็นซากตึกของอารยธรรมสมัยก่อน อาจจะมีสารอะไรปนเปื้อนโดยที่ตามองไม่เห็นก็ได้
ชายหนุ่มถอดหมวกเกราะออกมา สิ่งแรกที่เขาสัมผัสได้คือ อากาศที่เบาบางมาก แต่ก็ยังพอให้หายใจได้ ซึ่งนั้นหมายความว่าที่นี่ยังมีทางเข้าออกของอากาศได้
เรย์วางหมวกเกราะลงข้าง ๆ ก่อนจะเริ่มลงมือล้างเอาคราบเลือดของซอมบี้ซากศพที่เลอะออก ตามตัวของเรย์นั้นก็เลอะเลือดของซอมบี้ด้วย แม้งานนักล่าความตายจะวนเวียนอยู่กับซากศพซอมบี้ แต่ก็ไม่มีใครอยากอยู่มีกลิ่นศพซอมบี้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ใช้เวลาล้างไม่นาน เรย์ก็จัดการตัวเองจนเสร็จ เขาสวมหมวกเกราะเข้าไปอีกครั้ง
หลังจากจัดการเรื่องชุดเกราะยุทธวิธีเสร็จ เขาตั้งสติอย่างใจจดจ่อก่อนจะเริ่มทำสิ่งต่อไป
ชายหนุ่มทำการหยิบแม็กกาซีนของปืนพกออกมาโหลดกระสุนชำระล้างเข้าไปใหม่
กระสุนชำระล้างนี้คือกระสุน 7 นัดสุดท้ายที่ได้มาจากตอนรับอุปกรณ์พื้นฐานที่ทางหน่วยแจกให้ ส่วนที่เหลืออีก 50 นัดที่เก็บอยู่ในกระเป๋าเวทมนตร์นั้นคือกระสุนธรรมดา
ในหนึ่งเดือน นักล่าความตายแต่ละคนสามารถเบิกกระสุนชำระล้างได้ 14 นัดและ 50 นัดสำหรับกระสุนธรรมดา แน่นอนว่านั้นขึ้นอยู่กับหน้าที่และตำแหน่งของแต่ละคนอีกที อย่างโบเวนก็จะเบิกกระสุนธรรมดาได้มากกว่าปกติ เพราะเขาใช้ปืนกลเบาเบรน
ที่จริงแล้วทางหน่วยไม่ค่อยสนใจกระสุนธรรมดามากนัก ที่ใส่ใจจริง ๆ คือกระสุนชำระล้างที่มีราคาแพงและหายากกว่า
การโหลดกระสุนไม่ได้ยาก เรย์ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็จัดการเสร็จ จากนั้นก็เคาะแม็กกาซีนเบา ๆ ลงที่ฝ่ามือ เพื่อให้กระสุนเข้าที่ เวลายิงจะได้ไม่เกิดปัญหาอะไร
เรย์ปลดแม็กกาซีนที่อยู่ในปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911A1 ออกและบรรจุแม็กกาซีนที่มีกระสุนชำระล้างอยู่ใส่เข้าไปแทนที่และดึงสไลน์ขึ้นลำปืนหนึ่งครั้งก่อนจะเข้าเซฟตี้และเก็บปืนเข้าซองไว้ข้างเอว
เมื่อเสร็จสิ้นจากเรื่องปืน เรย์เปิดกระเป๋าเวทมนตร์คว้าหยิบหนังสือเวทมนตร์ออกมาเพื่อตรวจสอบดูว่าตอนนี้เขาเหลือคาถาในหนังสือเวทมนตร์อยู่มากแค่ไหน
คาถา “บอลเพลิง” เหลือ 7 คาถา “แสงชำระล้าง” เหลือ 5 และคาถา “คำตอบของศพ 3”
เรย์นับคาถาของตนเองอย่างรวดเร็ว ในระหว่างการต่อสู้เขาใช้คาถาไปหลายบทมากพอสมควร แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีคาถาเหลืออยู่
แต่ที่หายไปนั้นคือ หน้ากระดาษผสมเงินที่ใช้ครบสามครั้งและตอนนี้กระดาษที่ใช้ครบตามจำนวนได้สลายหายไปแล้วทั้งหมด 3 แผ่นแล้ว
ตอนนี้เหลือกระดาษผสมทองคำ 10 แผ่นและกระดาษผสมเงินอีก 17 แผ่น ถ้าใช้แบบนี้คงอีกไม่นานที่กระดาษผสมเงินจะหมดลง
เรย์ยิ้มขื่นขม
การหากระดาษสผมเงินแผ่นใหม่มาแทน เพราะนั้นเท่ากับต้องเสียเงินอีกแล้ว
พอมาคิดถึงคาถาเรย์ยังมีคาถาที่ได้มาจากไดร่าและยังไม่ได้เรียนอยู่อีกบท ซึ่งเขาแทบจะไม่มีเวลาเรียนรู้คาถาบทนั้น และขณะนี้ก็ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะมากนัก
จริง ๆ แล้วการที่เรย์ทำหลายสิ่งหลายอย่างในตอนนี้
ทั้งการทำความสะอาดชุดและหมวกเกราะ...การใส่กระสุนและการตรวจสอบจำนวนคาถาที่ยังมีเหลือนั้น ส่วนหนึ่งคือการเตรียมพร้อมหาทางออก
แต่ที่สำคัญคือ...เขาพยายามจะสงบสติตัวเองไม่ให้ตื่นตกใจจนกลายเป็นบ้าไป
ด้วยแรงกดดันที่อยู่ในที่แคบและใต้ดินแบบนี้ทำให้จิตใจของเรย์หยุดครุ่นคิดมิได้ ว่าถ้าหากหาทางออกไม่ได้ขึ้นมาจริง ๆ เขาอาจจะถูกขังตายอยู่ใต้ภูเขา
เรย์พยายามไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้มากนัก
ต้องตามหาคนอื่น ๆ เดินทางต่อ...
เรย์เตือนตัวเองไม่หยุด
ชายหนุ่มไม่ต้องการหยุดนิ่งอยู่กับที่นานเกินไป เนื่องจากไม่รู้ว่าพวกซอมบี้ที่ออกมาจากรอยแยกมิติจะตามมาทันตอนไหน
ทิศทางนั้นคือจุดศูนย์กลางของรอยแยกมิติ พื้นที่รอบ ๆ ของถ้ำในภูเขาไม่น่าจะใหญ่มากนัก แต่จากการถล่มของซากตึกน่าจะทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้นขึ้น...หลังจากหล่นลงมาพื้นที่ก็คงขยายเข้าไปอีก
หวังว่าใต้ภูเขาตรงนี้จะไม่ใหญ่มากนัก
จากทิศทางพวกหัวหน้าและคนอื่น ๆ อาจจะอยู่ทางนั้น
เรย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนั้นจริงหรือเปล่า แต่เขาต้องกำหนดจุดหมายที่แน่นอนให้ตัวเอง เรย์คิดว่าเขาจะเดินไปเรื่อย ๆ ตามผนังถ้ำไปตามทิศทางที่กำหนด
...
ราว ๆ 10 นาทีต่อมาเรย์เดินมาไกลพอสมควรจากจุดแรก รอบตัวของเรย์บอลแสงสามดวงเพื่อเพิ่มแสงสว่างหวังว่าหัวหน้าและคนอื่น ๆ จะเห็นตนเอง แต่เรย์ไม่ได้เพิ่มบอลแสงมากกว่านั้นเพราะการคงสภาพคาถาบอลแสงแต่ละดวงนั้นต้องใช้พลังงานจากตัวเขาโดยตรง
เรย์จึงไม่ต้องการเปลือกพลังงานโดยใช่เหตุ
หลังจากเดินตามขอบกำแพงมาเรื่อย ๆ ในตอนนั้นเองอยู่ ๆ ใต้เท้าของเรย์ที่มีซากตึกทับถมกันอยู่ก็สั่นเบา ๆ
ด้วยการที่ตนรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว เรย์ก็ดีดตัวถอยหลังด้วยความระวัง
โครม!!!
ซากตึกและเศษปูนในจุดที่เรย์ยืนอยู่ก่อนหน้า อยู่ ๆ ก็มีซอมบี้โครงกระดูกพุ่งออกมาจากด้านล่าง
นี่สินะเกลียดแบบไหนเจอแบบนั้น...
เรย์เยาะเย้ยตนเองในใจ เขาไม่รอช้าเปิดหนังสือเวทมนตร์ชัดคาถาบอลเพลิงใส่ซอมบี้โครงกระดูกในทันที
“คาเซเบธ (บอลเพลิง)”
ฟรึบ...บึม!
คาถาบอลเพลิงพุ่งเข้าหาซอมบี้โครงกระดูกตนนั้นอย่างฉับพลัน บอลเพลิงระเบิดอย่างรุนแรง ซอมบี้โครงกระดูกที่โดนแรงอัดของบอลเพลิงเข้าไปก็เซถอยหลังเล็กน้อย กระดูกมีรอยไหมดำอย่างรุนแรง
แต่นอกจากนั้นซอมบี้โครงกระดูกก็แทบไม่เป็นอะไรมากนัก
“ว๊ากกก!!”
ซอมบี้โครงกระดูกร้องคำรามออกมา แต่พอควันหายไป เหยื่อของตนก็หายไปด้วยเช่นกัน
หลังจากใช้คาถาบอลเพลิง เรย์ก็สับขาวิ่งในทันที ซอมบี้โครงกระดูกตัวนั้นมีพลังถึงระดับ 4 ส่วนเรย์แค่ระดับ 2 เท่านั้น แถมเขายังไม่มีโดนลอบโจมตีและแทบไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรจึงยากจะล้มซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้ลงได้
เรย์หันกลับไปมองซอมบี้โครงกระดูก เพราะเคยเจอกับซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้มาก่อน
ซอมบี้ตัวนี้มีร่องรอยการโดนโจมตีด้วยกระสุนมาก่อน น่าจะเป็นตัวที่ฟาริสและโบเวนฆ่าไม่สำเร็จ ในเมื่อสู้ตรง ๆ ไม่ได้ก็แค่ถอยไปตั้งหลักที่สูงก่อน
ทางนั้น...
เรย์ที่เห็นว่าขอบผนังถ้ำมีซากตึกฝังติดอยู่ในผนังถ้ำ นั้นหมายความว่าพอจะให้เขาขึ้นไปที่สูงได้บ้าง โดยไม่รีรอชายหนุ่มรีบปรับเปลี่ยนทิศทางของตนเองไปที่นั่นในทันที
แต่ดูเหมือนซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้จะติดใจเรย์เข้าให้แล้ว ซอมบี้โครงกระดูกวิ่งตามเรย์มาด้วยความเร็วที่ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป
ในระหว่างทางมันยังชนเข้ากับซากตึกด้วยพละกำลังที่มหาศาลของมัน จนแตกเป็นชิ้น ๆ ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งมันได้
เรย์มาถึงที่ซากตึกก็กวาดสายตามองไปรอบด้านอย่างรีบร้อน
ต้องหามุมเหมาะ ๆ จัดการกับซอมบี้โครงกระดูกตัวนี้ ถ้าเรายังวิ่งหนีต่อไป มีหวังคงหมดแรงก่อนจากนั้นก็โดนมันตามทันอย่างแน่นอน
เรย์หันไปมาสุดท้ายก็เจอกับจุดหนึ่ง เรย์รีบปืนขึ้นไปบนซากตึกในทันที
ซากอาคารนี้สูงราว ๆ
20 เมตร และก็ชันมากพอสมควร แต่ก็ยังพอให้เรย์ปืนขึ้นไปได้บ้าง
ตูม!
ซอมบี้โครงกระดูกชนไปที่ซากตึกจนพังและปีนตามเรย์ขึ้นไป มือที่เป็นกระดูกของซอมบี้โครงกระดูกเจาะเข้าไปในผนังปูนราวกับนั้นคือกรงเล็บของนักปีนเขาไม่มีผิด
เรย์ที่ปืนขึ้นมายังชั้น 3 ของอาคารแล้วและหาที่ยึดตัวได้อย่างมั่นคงหันกลับไปมองซอมบี้โครงกระดูกที่กำลังใช้กรงเล็บแทงไปที่ผนังปูนเพื่อไต่ขึ้นมาหาเขา
ซอมบี้โครงกระดูกชอบเข้าประชิดเหยื่อ เพราะตามตัวของซอมบี้โครงกระดูกมีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งและนอกจากนั้นเกราะระดูกตามข้อต่อก็ยังแหลมคมสามารถใช้โจรมตีได้ แต่ถ้าซอมบี้โครงกระดูกเข้าถึงตัวเราไม่ได้ก็ยากจะทำอันตรายเราได้เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็เหมาะที่จะโจมตีกลับไป เริ่มจากคาถาแสงชำระล้างก่อนเลยแล้วกัน