ตอนที่ 163+164 ขอคืนคำชื่นชมของคุณ
ตอนที่ 163 ขอคืนคำชื่นชมของคุณ
เจียงเหยาโค้งริมฝีปากของเธอเป็นรอยยิ้มจาง ๆ พร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อย ในสายตาของฉีเซียง เธอดูราวกับว่ากำลังเขินอาย
จางซีชิงมาถึงไม่นาน หลังจากที่เจียงเหยานั่งลง เช่นเดียวกับชีวิตที่แล้วของเธอ จางซีชิงถือว่าการเป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์นั่นคืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ เธอสวมชุดที่เป็นทางการมากและแต่งหน้าหนาเตอะบนใบหน้า นอกจากนี้ ใครที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างได้กลิ่นน้ำหอมลอยโชยจากตัวเธอ
พูดตามตรง เจียงเหยาชอบน้ำหอมที่จางซีชิงใช้ ทว่าเธอพรมมันมากเกินไป ทำให้กลายเป็นกลิ่นเหม็นแรงจนแสบจมูก
เมื่อจางซีชิงเห็นเจียงเหยา ใบหน้าของเธอก็มืดมนเธอยังนึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่เจียงเหยาจากไป ฉีเซียงก็จากไปทันทีหลังจากที่จ้องมองมายังเธอ
เมื่อสังเกตเจียงเหยาดี ๆ แล้ว หญิงสาวเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้แต่งหน้า จางซีชิงถึงกับพ่นลมหายใจและหัวเราะอย่างเงียบ ๆ ในใจ เธอมันคนบ้านนอกนี่นะ คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแต่งหน้ามันเป็นยังไง
การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีในฐานะตัวแทนของนักศึกษาใหม่ รูปภาพของเธอจะถูกถ่ายลงในนิตยสารของมหาวิทยาลัยและกระดานข่าวประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย แต่เธอกลับแต่งตัวสบาย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ
เจียงเหยารู้ว่าจางซีชิงกำลังมองมาที่เธอ เธอไม่ได้กังวลเลยสักนิดและยังให้ความสนใจไปที่การสนทนากับที่ปรึกษาของคณะ ฉีซวนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ เธอไม่รู้ว่าการแต่งหน้าบาง ๆ ของเธอ และการแต่งหน้าหนาเตอะของจางซีชิง จะทำให้ความแตกต่างในการกล่าวสุทรพจน์อย่างไร
เจียงเหยากำลังนั่งคุยกับฉีซวน ทำให้จางซีชิงได้เห็นเพียงว่าเจียงเหยาสวมชุดสีแดง ไม่เห็นแม้กระทั่งว่ายี่ห้ออะไรหรือสังเกตเห็นขา ของเจียงเหยาที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ทำให้เธอยังไม่เคยเห็นความงามของเจียงเหยา เมื่อเธอตอนที่เธอลุกขึ้นยืน
เจียงเหยาหยุดพูดกับฉีซวน เมื่อพิธีเปิดของมหาวิทยาลัยเริ่มขึ้น งานเริ่มต้นด้วยคำปราศรัยของรองอธิการบดีตามด้วยอธิการบดี จากนั้นก็จะถึงคิวของตัวแทนนักศึกษาใหม่ในการกล่าวสุนทรพจน์
เมื่อเธอได้ยินพิธีกรเรียกชื่อเจียงเหยา และเชิญเธอขึ้นไปบนเวทีและกล่าวสุนทรพจน์เป็นคนแรก จางซีชิงคาดหวังให้สายตาของเธอกลายเป็นมีดที่แหลมคม และสามารถแทงเจียงเหยาในตายได้ในทันที
เมื่อเจียงเหยาขึ้นไปบนเวที รอยยิ้มจาง ๆ ของเธอก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชม เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับความนิยมในหมู่นักศึกษาทั้งหมด
เจียงเหยาดึงดูดความสนใจ เมื่อเธอยืนบนรองเท้าส้นสูงบนเวที เธอไม่ได้ถือสคริปต์ของเธอขึ้นไปด้วย เธอทอดสายตาลงมองผู้ชมด้านล่างด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ไฟสปอตไลท์ฉายไปที่เธอ ผู้ชมต่างเงียบเพื่อรอฟังเธอพูด
“เรียนคณาจารย์ที่เคารพและเพื่อน ๆ นักศึกษาที่รักทุกท่าน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายืนบนเวทีในเวลานี้ ฉันในฐานะตัวแทนของนักศึกษาใหม่ ในขณะที่อีกความรู้สึกราวกับว่าฉันไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้เพราะตัวเองเพิ่งจะเป็นนักศึกษาใหม่ ฉันยังไม่ได้ทำเรื่องสำคัญให้กับทางมหาวิทยาลัยและยังไม่ได้สร้างเกียรติใด ๆ ให้กับมหาวิทยาลัย ทุกคนรู้จักเพียงชื่อของฉันเท่านั้น เจียงเหยา นักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงผ่านข่าวในหนังสือหนานเจียงมอร์นิ่งโพสต์
ฉันหวังว่าฉัน เจียงเหยาจะสามารถยืนหยัดที่นี่ได้อีกครั้ง ในฐานะผู้สำเร็จการศึกษาที่โดดเด่นในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดจนชีวิตในมหาวิทยาลัยให้กับพวกคุณอีกครั้ง สำหรับตอนนี้ฉันเป็นเพียงนกอินทรีที่เพิ่งโผล่บินออกจากบ้านและมีความกระหายในความรู้ ฉันไม่สามารถทำให้ทุกคนเข้าใจผิดได้ นั่นคือเหตุผลที่ฉันจะไม่พูดอะไรต่อในวันนี้! ฉันหวังว่าเราจะสร้างความมหัศจรรย์มากขึ้นในชีวิตรั้วมหาวิทยาลัยของเราในอนาคตต่อไปค่ะ! ขอบคุณค่ะ!”
ดวงตาของเจียงเหยาจับจ้องไปที่จางซีชิง ซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าเวที “นักปราชญ์เคยกล่าวไว้ว่า เวลามีค่ามากกว่าทองคำ และเราไม่สามารถซื้อเวลาได้ ถึงแม้คำพูดนี้ไม่เหมาะกับฉันในตอนนี้ก็ตามค่ะ ต่อไปฉันขอมอบเวทีให้กับคุณจาง ผู้ซึ่งมีส่วนสนับสนุนมหาวิทยาลัยของเรามากมาย ก่อนที่จะมอบเวลาให้กับคุณจางซีชิง ฉันเป็นตัวแทนของนักศึกษาทุกคนขอขอบคุณ คุณจางที่มีส่วนในสนับสนุนมหาวิทยาลัยของเราค่ะ ขอบคุณค่ะ”
__
ตอนที่ 164 ตัวตนของเธอ
เจียงเหยาโค้งคำนับเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เดินลงเวทีอย่างช้า ๆ ขณะที่ทุกคนจ้องมาที่เธอพร้อมกับอ้าปากค้าง
นั่นคือเหตุผลที่เจียงเหยาไม่ได้เตรียมสคริปต์สำหรับคำกล่าวสุนทรพจน์ของเธอมา
เธอไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวสุนทรพจน์ตั้งแต่เมื่อคืนก่อน คงจะดีที่สุดถ้าเธอเป็นคนแรกที่กล่าวสุนทรพจน์ แม้ว่าเธอจะถูกจัดให้เป็นคนกล่าวสุนทรพจน์หลังจากจางซีชิง เธอก็สามารถเชิญอีกฝ่ายกลับขึ้นบนเวทีได้อย่างแน่นอน
ด้วยเวลาจำกัดเพียงสิบห้านาที เธอจึงก้าวลงจากเวที หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที และให้เวลาที่เหลือกับจางซีชิง
จางซีชิงกลายเป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่คนที่สองที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ใครก็ตามที่ฉลาดพอคงจะรู้ว่า การที่เธอได้มาเป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่ในการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์คงเพราะเงินที่ตระกูลจางได้มอบให้กับทางมหาวิทยาลัย
เจียงเหยาพูดเพียงนาทีเดียวและเธอก็เปิดเผยความจริงออกไปอย่างอ้อม ๆ นอกจากนี้เธอยังวางกับดักมรณะสำหรับจางซีชิงโดยเฉพาะ
เจียงเหยาอ้างว่าเธอเป็นเพียงนักศึกษาใหม่และเธออาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด หากเธอพูดมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เธอบังคับให้จางซีชิงอยู่บนเวทีและกล่าวสุนทรพจน์ เธอยังยืดระยะเวลาให้กับอีกฝ่ายจากสิบห้านาทีเป็นยี่สิบนาที นอกจากนี้ เธอยังขอบคุณจางซีชิงในนามของนักศึกษาและอาจารย์ทุกคน หรือพูดอีกอย่างก็คือ ขอบคุณตระกูลจางที่มอบทุนให้กับมหาวิทยาลัย
จางซีชิงกระตือรือร้นที่จะได้ตำแหน่งตัวแทนนักศึกษาใหม่ไม่ใช่เหรอ? เลยอยากจะให้เวลาเธอเฉิดฉายเต็มทีและกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดบนเวทีนั่น
นั่นคือของขวัญจากเจียงเหยา เพื่อแลกกับคำชมของเธอ และเธอหวังว่าจางซีชิงจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง
เวินเสวี่ยฮุ่ยยกนิ้วให้กับเจียงเหยาจากที่ไกล ๆ เธอมองไปที่จางซีชิง ผู้ซึ่งถูกเชิญให้ขึ้นไปบนเที หญิงสาวมีสีหน้ามืดมนด้วยความตื่นเต้น
พิธีกรรู้คิวเช่นกัน เขาประสานงานกับคำพูดของเจียงเหยาและเชิญจางซีชิง ซึ่งยังคงนั่งอยู่ในที่นั่งของเธอ เจียงเหยาช่างเก่งเล่นคำเสียจริง แต่ละคำที่เธอใช้สามารถบ่งบอกได้ว่าจางซีชิงนั้นไม่คู่ควรกับตำแหน่งตัวแทนนักศึกษาใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถหาเรื่องที่จะพูดถึงคำพูดของเธอได้
จางซีชิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมกับสคริปต์ของเธอที่เขียนขึ้นโดยเลขานุการของบริษัทของครอบครัว และเป็นสคริปต์ที่มีความยาวสิบห้านาที สำหรับตอนนี้ เธอมีเวลาเหลือเฟือ จะไปเอาคำพูดคารมคมคายยืดยาวมาจากไหนมากล่าวกันเล่า!
ได้ยินเสียงหัวเราะจากผู้ชมไม่ชัดนัก ความเกลียดชังเพิ่มขึ้นในหัวใจของจางซีชิง เจียงเหยา! เจียงเหยา! เธอกล้าดียังไงมาแกล้งฉันแบบนี้!
“คุณนี่ช่างกล้าเสียจริง!” ฉีซวนมองไปที่เจียงเหยา ที่กลับมายังที่นั่ง และพูดเบา ๆ “เธอคือจางซีชิงนะ คุณทำอย่างนั้นกับเธอได้อย่างไร? ไม่กลัวว่าครอบครัวจางจะ...”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่กลัว” คำตอบของเจียงเหยาชัดเจน เธอไม่กลัวเลย
ในเมืองหนานเจียง ตระกูลฉีนั้นอยู่เหนือตระกูลจางสองสามขั้น จากการโทรมาของโจวเหวยฉียังสามารถเปลี่ยนฉีเซียงให้ กลายเป็นสุนัขจรจัดได้ นับประสาอะไรกับจางซีชิงเพียงคนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าวันนี้เธอจะไม่ได้ทำอะไรจางซีชิง แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เป็นฝ่ายกวนใจเธอเสียเอง
เนื่องจากการแข่งขันของพวกเขาถูกกำหนดไว้แล้ว เธอจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้ชัดเจนให้ถึงที่สุด
เมื่อเจียงเหยากำลังกล่าวสุนทรพจน์บนเวที อธิการบดีเวินได้พาชายสวมชุดสูทเข้ามายังห้องประชุม ทั้งคู่ได้ยินคำพูดของเจียงเหยาไม่พลาดแม้แต่คำเดียว
ไม่ต้องสงสัยเลย อธิการบดีเวินกำลังปวดหัว เขาไม่คาดหวังว่าเจียงเหยาจะทำให้จางซีชิงอับอายอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้
อย่างไรเสีย ชายที่ยืนข้าง ๆ อธิการบดีเวินยิ้มและกล่าวชมเชย “เธอคือผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
ชายที่อธิการบดีเวินพาเข้ามาในห้องดถงอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว เขาคือ หวงเฉิงจิ้ง ผู้จัดการของไห่หรุน กรุ๊ป ลูกค้าที่เจียงเหยาได้ช่วยชีวิตไว้ที่ร้านอาหารคือพ่อของเขา ซึ่งเป็นประธานของไห่หรุน กรุ๊ป
จางซีชิงซึ่งอยู่บนเวที ไม่รู้จะพูดอะไร หลังจากที่เธออ่านสคริปต์จบแล้ว เธอเห็นเจียงเหยากำลังเยาะเย้ยเธอด้วยรอยยิ้มอยู่ใต้เวที และเธอปฏิเสธที่จะลงจากเวทีอย่างง่าย ๆ เธอรู้สึกว่าหากเธอก้าวลงจากเวทีหลังจากพูดภายในสิบห้านาที แสดงว่าเธอยอมรับความพ่ายแพ้นั้น