ตอนที่ 1141-1142 เขาโกรธ
เฉียวเมียนเมียนตัวสั่นเมื่อสบตากับเขา
จากนั้นเธอก็ตระหนักว่าดวงตาของเหมาเยซื่อดูเหมือนจะเยือกเย็นราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง
แม้แต่อากาศในฤดูร้อนก็ไม่สามารถขจัดความเย็นในดวงตาของเขาได้
เฉียวเมียนเมียนก้าวไปอีกขั้น เมื่อเธอเห็นดวงตาสีเข้มของเหมาเยซื่อ เธอก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นในการคาดเดาของเธอ
เขากำลังโกรธ
ที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะเย็นชาแค่ไหนต่อหน้าคนอื่น เมื่อเขาเผชิญหน้ากับเธอ เขาจะละทิ้งความโกรธและความเยือกเย็นทั้งหมดของเขาลง
เมื่อเขามองดูเธอ สายตาของเขามักจะอ่อนโยนและน่ารักอยู่เสมอ
เฉียวเมียนเมียนคุ้นเคยกับด้านนั้นของเขา
ทันทีที่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อเขาเผชิญหน้ากับเธอ ราวกับว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า
เธอรู้สึกกลัว
เธอเพิ่งมาเดินมาถึง เหมาเยซื่อจับมือเธอและพาเธอไปที่ล็อบบี้ของบริษัทเหมาโดยไม่พูดอะไร
เฉียวเมียนเมียนรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่สู้ดีนักและสามารถเดาได้ว่าทำไม
เธอจึงไม่ขัดขืนและปล่อยให้เขาจับมือเธออย่างเชื่อฟัง
พนักงานหลายคนในล็อบบี้ทักทายเขาเมื่อเห็นเขา “สวัสดีค่ะประธานเหมา”
เหมาเยซื่อไม่ได้มองพวกเขาเสียด้วยซ้ำ เขาพาเฉียวเมียนเมียนเข้าไปที่ล็อบบี้อย่างเงียบ ๆ พร้อมกับกดลิฟต์
เขาไม่ได้พูดอะไรหลังจากเข้าไปในลิฟต์
เฉียวเมียนเมียนเองก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เหมาเยซื่อไม่พูดอะไรกับเธอตั้งแต่ที่เจอกัน แต่เขาไม่ปล่อยมือจากเธอ
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงชั้นจอดรถใต้ดิน
เหมาเยซื่อไม่พูดอะไร
เขาเพียงปล่อยมือเธอ จากนั้นเขาเขาก็เข้าไปในรถและปิดประตูรถ
มีกลิ่นหอมจาง ๆ ภายในรถ เช่นเดียวกับกลิ่นกายของเขา เป็นกลิ่นที่ดีมากทีเดียว
ใบหน้าหล่อเหลา ทว่าเย็นชาของชายที่อยู่ตรงหน้า เธอได้กลิ่นของเขา เฉียวเมียนเมียนรู้สึกได้ถึงความกดดันเล็ดลอดมาจากตัวเขาเล็กน้อย ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
เธอไม่คุ้นเคยกับสถานการณปัจจุบันของเหมาเยซื่อเอาเสียเลย
เธอไม่ชอบมัน
มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกแปลก ๆ และหวาดกลัว
เขาไม่ใช่คนที่เธอคุ้นเคยอีกต่อไป
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาของเขา เฉียวเมียนเมียนรู้สึกไม่คุ้นเคยและอดไม่ได้ที่จะขยับไปด้านข้าง
เธอรู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันต่อชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอ
“เหมาเยซื่อ คุณ....”
เฉียวเมียนเมียนไม่สามารถทนต่อความเงียบได้อีกต่อไป เธอกำลังจะทำลายความเงียบ เมื่อเหมาเยซื่อเอื้อมมือออกไปและดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
เฉียวเมียนเมียนมองขึ้นไปด้วยความตื่นตระหนก
นิ้วเย็นเล็กน้อยของเขาบีบคางของเธอ ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็กดลงต่ำ
เขาจูบเธออย่างหนักหน่วง ราวกับพายุพัดกระหน่ำ
เฉียวเมียนเมียนทำอะไรไม่ถูก
เหมาเยซื่อดูเหมือนจะระบายความโกรธ ทำให้การจูบของเขาไม่อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวเมียนเมียนรู้สึกถึงอาการชา
เพราะเขาใช้กำลังกับเธอมากเกินไป ริมฝีปากของเธอก็เริ่มเจ็บ
เธอขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดและผลักเขาออก
เหมาเยซื่อดูเหมือนได้สติคืนกลับมา เขาลืมตาขึ้นเห็นใบหน้ายู่ยี่จากความเจ็บปวดและปล่อยเธอ
เฉียวเมียนเมียนร้องด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับเช็ดริมฝีปาก
เหมาเยซื่อมองที่มุมริมฝีปากของเธอที่เขากัดพร้อมกับความรู้สึกผิดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสายตาของเขาก็กลับมาเย็นชาอีกครั้งเมื่อเขานึกถึงบางสิ่งบางอย่าง
__
“เหมาเยซื่อคะ คุณเป็นอะไร” เฉียวเมียนเมียนมองดูเขาด้วยสายตาแสดงความสงสาร “เมื่อกี้คุณทำร้ายฉันนะ ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย”
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขากำลังโกรธเพราะข่าวอื้อฉาวเหล่านั้น
แต่เธอก็เสียใจ
เธอไม่ได้อยากให้ใครปล่อยข่าวอื้อฉาวเหล่านั้นนี่
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็รู้ว่าข่าวเหล่านั้นไม่ใช่ความจริง มีความกำลังปล่อยข่าวลือเพื่อทำให้เธอเสียชื่อ
แม้ว่าเขาจะโกรธและไม่มีความสุข แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถมาระบายเอากับเธอได้นี่
ริมฝีปากของเหมาเยซื่อเองก็แดงและบวมเช่นกัน จูบนี้ไม่ได้ทำให้มีอารมณ์ใด ๆ นอกจากการระบายความโกรธ ทำให้เฉียวเมียนเมียนไม่สบายใจไปกับเขาด้วย
เมื่อมองดูท่าทางที่ไม่พอใจของเธอ เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำอย่างนี้ในตอนนี้
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ
เธอนั้นไร้เดียงสา
เขาไม่ควรระบายความโรกธกับเธอเพียงเพราะเขาไม่มีความสุขหลังจากเห็นข่าวอื้อฉาวเหล่านั้น
แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่
ตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นข่าวอื้อฉาวของเธอและกงเซลีมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ยังพบว่าเธอรับงานพรีเซ็นเตอร์ภายใต้บริษัทกงอีก ไฟที่สุมอยู่ในอกของเขา ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่สามารถกำหลาบมันลงได้
ทันทีที่เขาเห็นเธอ เปลวเพลิงที่สุมอยู่กลางอกก็ลุกโชนขึ้นทันที
ตอนนั้นเองที่เขารู้ตัวว่ามีอะไรมาขวางอยู่กลางใจและทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจนัก
เขามองไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาซึ่งดวงตาของเธอแดงก่ำจากการถูกกระทำเมื่อสักครู่ แม้ว่าใจของเขาจะเจ็บปวดและโทษตัวเอง แต่เขาก็ยังทำท่าแข็งกระด้างและพูดว่า “เมียนเมียน ถ้าผมขอให้คุณออกจากวงการบันเทิงซะ ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก คุณจะยอมเพื่อผมไหม?”
เขาไม่เคยชอบให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่แรก
เขารู้ดีว่าวงการนี้ยุ่งเหยิงและซับซ้อนแค่ไหน
เด็กสาวบริสุทธิ์และงดงามอย่างเธอไม่เหมาะที่จะอยู่ในวงการที่ซับซ้อนแบบนี้
ตอนนี้เธอยังได้รับการปกป้อง เธอมักถูกคนอื่น ๆ หมิ่นประมาท เขาไม่กล้าจินตนาการเลยจริง ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าเธอตัวคนเดียว
เธอคงถูกรังแกจนทำอะไรไม่ถูก
เธอไม่สามารถลบล้างข้อกล่าวหาต่าง ๆ ได้
เขาดีใจที่เธอได้ก้าวสู่วงการนี้อย่างเป็นทางการหลังจากที่ได้รู้จักกับเขา อย่างน้อยที่สุด เขาก็สามารถช่วยเธอจัดการทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอได้
เขาคิดว่าเพราะเธอชอบการแสดงมาก เขาจึงยอมให้เธอทำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาอยู่ด้วย วงจรอันแสนสกปรกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเธอมากนัก
ตราบใดที่เธอมีความสุข
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่างานแสดงเป็นงานที่เหมาะกับเธอ เขาก็ไม่ได้ห้ามเธอ
เขาไม่เคยต้องการให้เธอออกจากวงการบันเทิงหลังแต่งงานกัน
เขาอยากจะขอให้เธอทำสิ่งนี้เพื่อเฉียวเฉิน
เธอคงจะเห็นด้วยเพราะเห็นแก่เฉียวเฉินอย่างแน่นอน
เขารู้ดีว่าจะเกิดขึ้นถ้าเขาทำอย่างนี้
แต่ตอนนี้..เหมาเยซื่อกำลังลังเล
เรื่องอื้อฉาวที่ไม่รู้จบเกี่ยวกับเธอและผู้ชายคนอื่น ๆ...
แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันก็แค่ข่าวโคมลอย แต่เขาก็อดที่นึกถึงพวกเขาไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขารู้ว่าตู่อี้เล่ยและกงเซลีมีความคิดเช่นเดียวกันเกี่ยวกับเธอ เขายิ่งขุ่นเคืองใจมากขึ้นไปอีก
เขาเกลียดที่เห็นชื่อของเธอปรากฏร่วมกับผู้ชายคนอื่น
เขาเกลียดเมื่อเห็นเธอมีข่าวอื้อฉาวกับผู้ชายคนอื่น เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำใจและช่วยเธอลบข่าวพวกนั้น
เขาไม่สามารถใช้ชื่อของเขาเพื่อแก้ข่าวเหล่านี้ได้
ทว่าเขาไม่สามารถบอกทุกคนได้ ไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้ว่าเขาคือสามีของเธอ
เขาเกลียดความรู้สึกปิดบังซ่อนเร้นแบบนี้