ตอนที่ 1139-1140 จะแบกรับเอง
อันที่จริง แม้แต่เว่ยเจิ้งก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หากประธานเหมาไม่ได้ขอให้นายน้อยกงทำ เรื่องราวมันก็มีแต่จะยิ่งคลุมเครือขึ้น
เว่ยเจิ้งเล่าถึงข่าวลือและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป
เป็นไปได้ไหมที่นายน้อยกงจะสนใจนายหญิงจริง ๆ?
แต่นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก
นายหญิงเป็นภรรยาของประธานเหมานะ นายน้อยกงก็รู้เรื่องนี้แล้วด้วย
นอกจากนี้ นายน้อยกงเขาชอบคุณหนูเซินไม่ใช่เหรอ?
เว่ยเจิ้งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเหลือบมองดูท่าทางของเหมาเยซื่ออย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ตอบอย่างระมัดระวัง
“ประธานเหมาครับ MC ปกติแล้วจะใช้ดาราดังระดับ A เสมอ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ นาหญิงคงไม่สามารถรับงานพรีเซ็นเตอร์ของพวกขได้ครับ แต่ผมคิดว่าผู้จัดการของเธอน่าจะรู้จักกับทาง MC มาก่อน อีกอย่างพวกเขารู้ว่านายหญิงคบหากับท่าน ดังนั้นนายน้อยกงเลยยอมให้เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ในนามของท่านครับ”
“หรือบางทีรูปลักษณ์ของนายหญิงอาจจะเป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ พวกเขาเลยยอมเลือกดาราหน้าใหม่?”
เว่ยเจิ้งไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของเขา
เขาต้องการที่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองปี
แต่ถึงแม้เขาจะไม่พูดอะไรออกมาก็ตาม ดูท่าแล้วประธานเหมาคงไม่พอใจกับเรื่องนี้อยู่แล้ว
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ถามคำถามเหล่านี้กับเขาในทันทีหรอก
ประธานเหมาคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“นายคิดแบบนั้นเหรอ?” เหมาเยซื่อหรี่ตาลง
“ครับ ครับ” เว่ยเจิ้งพยักหน้าอย่างระมัดระวังมากขึ้น
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว” เหมาเยซื่อโบกมือหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “ออกไปได้แล้ว ถ้ามีอะไรฉันจะโทรหาเอง”
“ครับประธานเหมา” เว่ยเจิ้งแทบรอไม่ไหวที่จะออกไป
ในเวลานี้ ถ้าเขาไม่ต้องการปรากฏตัวต่อหน้าประธานเหมาเสียด้วยซ้ำ
ถือเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุด ที่ต้องพยายามลดการปรากฏตัวต่อหน้าเขา
เว่ยเจิ้งหันกลับและเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องทำงาน
“เดี๋ยวก่อน”
เขาเพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าว ทว่าได้ยินเสียงเย็นชาของเหมาเยซื่อดังมาจากข้างหลัง “โทรหาจ้าวข่าย บอกเขาว่าเรื่องนี้ต้องจัดการอย่างเข้มงวด ใครที่สร้างข่าวลือและสร้างความเดือดร้อน เอาให้ถึงตาย”
“ฉันจะเป็นฝ่ายรับแบกรับเรื่องทั้งหมดเอง”
เว่ยเจิ้งหยุดชั่วคราว เขาบอกได้ว่าคราวนี้เหมาเยซื่อโกรธจริง ๆ
มันแตกต่างไปจากครั้งอื่น
คราวน้เขาสั่งให้เข้มงวดเป็นพิเศษ
บรรดาผู้ที่เริ่มข่าวลือและหมิ่นประมาทนายหญิงต้องมีปัญหาอย่างมากแน่
เขารู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องลงโทษผู้เกลียดชังเหล่านั้นแล้ว
มันง่ายกว่าที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ที่ปล่อยข่าวลือและทำให้นายหญิงเสื่อมเสีย ถ้าคนอื่นไม่รู้ถึงความรุนแรงของการหมิ่นประมาทนายหญิง สิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นต่อไปอีก
...
หลังจากที่เว่ยเจิ้งออกไปแล้ว เหมาเยซื่อก็โทรหาเฉียวเมียนเมียน
หลังจากรับสาย เสียงที่นุ่มนวลและไพเราะก็ดังก้องอยู่ในหู “เหมาเยซื่อคะ ทำงานเสร็จแล้วเหรอ? บ่ายนี้มีประชุมไหน? ถ้าว่าง ไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ?”
ความโกรธของเหมาเยซื่อหายไป เมื่อเขาได้ยินเสียงอันไพเราะของเธอ
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องอื้อฉาวที่ยุ่งเหยิงที่เขาเห็นบนเว่ยป๋อ ดวงตาของเขาก็มืดลงอีกครั้ง
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับไฟที่ผุดขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ในใจของเขา เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
เมื่อเฉียวเมียนเมียนรับสาย เธออยู่ในรถ “พี่ลินดาช่วยให้ฉันได้งานโฆษณาล่ะ ฉันเพิ่งกลับจากการไปเซ็นสัญญามาคะ กำลังจะเข้าไปหาคุณ อีกห้านาทีน่าจะถึงบริษัทเหมา”
__
“โอเค”
เหมาเยซื่อหยิบนาฬิกาขึ้นมาและยืนขึ้น “ผมจะลงไปรอคุณเดี๋ยวนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันจะขึ้นไปหาคุณเอง ทำงานของคุณต่อไปเถอะ ไม่จำเป็นต้อง..”
“ตอนนี้ผมว่าง” เหมาเยซื่อเดินออกจากห้องทำงานและพูดด้วยน้ำเสียงที่ครอบงำว่า “อย่างแบบนั้นแหละ ผมจะรอคุณอยู่ข้างล่าง แล้วเจอกัน”
เหมาเยซื่อวางสายและออกจากห้องทำงาน
เมื่อเขาเดินผ่านโต๊ะทำงานของเลขาสาว ใบหน้าที่เย็นชาและความกดดันรอบตัวเขา ทำให้เลขาสาวสองสามคนกลัวจะไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เมื่อเขาเดินเข้าไปในลิฟต์และประตูลิฟต์ปิดลงเท่านั้น เลขานุการรีบมารวมกัน พูดคุยกระซิบกระซาบด้วยเสียงต่ำ
“ประธานเหมา วันนี้ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เป็นเพราะเรื่องอื้อฉาวของแฟนเขาหรือเปล่า?”
“เธอคิดว่าข่าวลือนั่นเป็นเรื่องจริงไหม? แฟนสาวของประธานเหมา..มีลูกแล้วตอนที่เรียนในมัธยม?”
“เรื่องอื้อฉาวของเธอกับนายน้อยกงเป็นเรื่องจริงล่ะเป็นเรื่องจริงไหม?
“เป็นไปได้ยังไง? นายน้อยกงกับประธานเหมาเป็นเพื่อนรักกันนะ ภรรยาของเพื่อนไม่ควรถูกรังแกสิ แม้ว่านายน้อยกงจะสนใจแฟนของประธานเหมาจริง ๆ ก็เถอะ แต่เขาก็ไม่ทำอะไรกับเธอหรอก นั่นไม่ได้ทำให้ประธานเหมาโกรธหรอกเหรอ”
“แต่ไม่มีควันก็ไม่มีไฟนะ ทำไมถึงได้มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับนายน้อยกงและเธอขึ้นมาล่ะ? ผู้หญิงบางคนก็เป็นพวกบ้าที่ชอบเหยียบเรือสองแคม แน่นอน ฉันไม่ได้คิดว่าคุณเฉียวเป็นคนแบบนั้นหรอกนะ เพราะยังไงซะ แฟนอย่างประธานเหมาทั้งโดดเด่นและสมบูรณ์แบบ จะให้ไปมีความรู้สึกต่อผู้ชายอื่นคงยาก”
“เธอคิดว่าประธานเหมาจะทะเลาะกับแฟนเรื่องข่าวอื้อฉาวนั้นหรือเปล่า?”
“ฉันคิดว่าไม่นะ ฉันได้ยินว่าประธานเหมาให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์จัดการเรื่องข่าวของแฟนเขาด้วยล่ะ ถ้าประธานเหมาเชื่อข่าวเหล่านั้น คงเลิกกันไปแล้วล่ะ เขาจะยังช่วยเธออีกทำไม”
...
ห้านาทีต่อมา
แท็กซี่ที่เฉียวเมียนเมียนนั่งมา จอดที่หน้าอาคารบริษัทเหมา
ทันทีที่เธอลงจากรถ เธอเห็นชายคนนั้นยืนรออยู่ด้านนอก
เสน่ห์และรูปลักษณ์ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก หากเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา เธอก็คงเห็นเขาได้เพียงแวบแรก แต่นี่เขาคือสามีของเธอ
เมื่อพนักงานเดินผ่านไปมา ก็หยุดทักทายเขา
ที่ผ่านมา เหมาเยซื่อแม้จะไม่ใช่เจ้านายที่ใจดีและเป็นมิตรนัก
แต่เมื่อพนักงานทักทาย เขาจะพยักหน้าเป็นการตอบรับเสมอ
แต่วันนี้เขามีสีหน้าเย็นชาตลอดเวลา เมื่อพนักงานทักทายเขา เขาไม่ตอบสนองเลย
มันเป็นช่วงบ่ายที่ร้อนที่สุดในฤดูร้อน
แดดที่แผดเผาจากภายนอกนั้นร้อนระอุ ส่งให้อบอ้าว
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างกันมากกว่าสิบเมตร เฉียวเมียนเมียนก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่เล็ดลอดมาจากตัวเขา
เหมาเยซื่อกำลังไม่มีความสุข
เฉียวเมียนเมียนรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี
แม้ว่าเขาจะดูเหมือนเดิม แต่นอกเหนือจากเธอ เขาก็มักจะเฉยเมยต่อหน้าคนอื่นเสมอ
ตอนนี้เขาดูเฉยเมยมาก
ท่าทางของเขานิ่งสงบและไม่แสดงออก
เขาดูไม่แตกต่างไปจากปกติ
แต่เฉียวเมียนเมียนรู้ว่าเขากำลังโกรธ บางทีเขาอาจจะโกรธมาก
เธอไม่กล้าเข้าไปใกล้เขา
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา
เธอเพิ่งก้าวไปเมื่อชายผู้นั้นจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งและมองมาทางเธอ