ตอนที่ 44 หลังรู้สึกตัว(อ่านฟรี)
ตอนที่ 44 หลังรู้สึกตัว
มึนหัวเป็นบ้าเลย...
เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย จริงสิเราโดนตึกถล่มใส่นี่หว่า
ไม่ได้การรอยแยกมิติยังไม่ได้ปิด ต้องรีบหนีจากตรงนี้และไปรวมกับคนอื่นก่อน
เรย์ที่ตอนนี้พึ่งรู้สึกตัวหลังจากภาพสุดท้ายที่ตัดไป นอกจากอาการมึนหัวสุด ๆ แล้ว ตอนนี้ที่ขาของเขายังรู้ว่ามันขยับไม่ได้ คล้ายกับมีอะไรทับมันอยู่
ขาเราโดนซากตึกทับเละไปแล้วหรือเปล่า
เรย์เริ่มกลัวขึ้นมาจริง ๆ ว่าขาตัวเองจะแหลกเละไปแล้ว แต่พอเขาลองขยับนิ้วเท้าดูทั้งสองข้างก็พบว่ามันยังมีความรู้สึกอยู่ และก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไร
ชายหนุ่มพยายามจะสำรวจตัวเอง แต่เพราะรอบตัวมันมืดสนิทจนยากจะเห็นมือตัวเองได้ เขาจึงไม่รู้ว่าขาทั้งสองของตนนั้นติดอยู่กับอะไร
ต้องติดต่อหาหัวหน้าและทุกคนก่อน...เรย์ควานหาวิทยุสื่อสารของตน แต่เขากับพบว่าวิทยุสื่อสารนั้นพังเสียหายไปแล้ว
“ซวยแล้วไง”
กึก!ๆ ๆ
ในตอนนั้นเรย์ได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังเดินอยู่บนซากตึกเข้ามาทางเขา ถึงจะอยากรู้แต่เรย์ไม่คิดจะเอ่ยปากถาม เพราะยังไม่แน่ใจว่าฝั่งนั้นเป็นคนเป็น ๆ หรือไม่
เรย์หันไปทางเสียงฝีเท้ายกมือขึ้นมาร่ายคาถา
“ฟาลัน (บอลแสง)”
ความมืดรอบกายของชายหนุ่มถูกบอลแสงขับไล่ออกไป เผยให้เห็นซอมบี้ซากศพที่อยู่ห่างออกไปห้าถึงหกเมตร แขนของมันหายไปข้างหนึ่ง ส่วนซี่โครงและกระดูกตามร่างแทงทะลุจากเนื้อเน่าเหม็นออกมาอย่างผิดรูป
เลือดสีดำไหลออกมาจากดวงตา ปาก จมูกและหู ปากของมันคำรามในคออยู่ตลอดเวลา ฟันขมกันกึก ๆ ๆ เหมือนอยากจะกัดกระชากเนื้อมาเคี้ยวเล่น
แต่ถึงจะสภาพแบบนั้นมันก็ยังไม่ตาย
ซอมบี้ซากศพตัวนี้มีประสาทสัมผัสที่ไวต่อสิ่งมีชีวิต มันกำลังพยายามเดินเข้ามาหาเรย์อย่างเชื่องช้า แต่ต่อให้ช้าขนาดไหน ด้วยระยะแค่ห้าเมตรที่กำลังหดสั้นมาเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วเมื่อมันเห็นเรย์
ดังนั้นเรย์จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถถอยหนีได้
เรย์ไม่รอช้ารีบความหาหนังสือเวทมนตร์
หนังสือไม่มี บ้าเราทำหล่นอยู่ตรงนั้น
เรย์พยายามเอื้อมไปคว้าหนังสือเวทมนตร์ที่ตกอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่มือของเรย์ก็เอื้อมไปไม่ถึง เรย์จึงหันมาใช้คาถาโจมตีเพียงคาถาเดียวของตนเอง
“เรลันลัวอา (แสงชำระล้าง)” ชายหนุ่มเล็งไปด้านหน้าซอมบี้สองก้าวก่อนจะหน่วงเวลาไว้เล็กน้อย พอซอมบี้มาถึงคาถาก็แสดงผล เสาแสงชำระล้างพุ่งขึ้นมาก่อนจะทำลายซอมบี้ซากศพตนนั้นในทันที
ซอมบี้ซากศพ
ตุบ!
ซอมบี้ซากศพที่โดนชำระล้างเข้าไป หล่นลงพื้นดังตุบข้าง ๆ เรย์
“ฟู่...เกือบไป” เรย์ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ว๊ากกก!!!”
แต่แล้วในจังหวะนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีซอมบี้ที่เหลือเพียงร่างครึ่งบนโผล่ออกมาจากทางเหนือหัวของเรย์ มือทั้งสองของมันพยายามคว้าจับไปที่เขา
“ย๊ากก!!!” เรย์พยายามใช้มือกันจากซอมบี้ ส่วนซอมบี้นั้นก็พยายามตะกุยตะกายตัวของเรย์ มันกัดเข้าไปที่เกราะแขนที่ชุดของชายหนุ่ม
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
เรย์พยายามตั้งสมาธิเพื่อให้เวทมนตร์ แต่ซอมบี้ซากศพนั้นมันมีกำลังที่เหนือกว่าเรย์ และการต่อสู้ฉุดกระชากรากดึงกันอยู่นี้ มันทำให้การร่ายคาถาของเขาปั่นป่วนไปหมด สุดท้ายเรย์หยุดร่ายคาถาเวทมนตร์ มือเอื้อมไปที่ข้างเอว ก่อนจะดึงปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911A1 ออกมาและคิดจะจ่อไปที่ใต้ปลายคางของซอมบี้ซากศพ
“คว๊ากกก!!!”
แต่แล้วซอมบี้ซากศพอ้าปากกว้างจนเลือดสีดำของมันไหลออกจากปากหยดลงไปที่หมวกเกราะของเรย์จำนวนมาก
จนยากที่เรย์จะมองเห็นซอมบี้ซากศพครึ่งท่อน เพราะเลือดบดบังกระจกของหมวกเกราะ หลังจากยื้อกันอยู่เกือบ 5 วินาที เรย์ก็ตั้งตัวได้
ชายหนุ่มใช้มือหนึ่งจับไปที่คอของซอมบี้ ด้วยแรงที่ต่อสู้สุดชีวิตทำให้มือของเรย์จมลงไปในเนื้อเน่าของซอมบี้ เรย์กำทั้งลูกกระเดือกและหลอดลมของมันไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะใช้มือที่ถือปืนปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911A1 จ่อไปที่ปลายคางของซอมบี้ซากศพครึ่งท่อน
“ไปตายซะ!”
ปัง!ปัง!
นิ้วของเรย์เหนี่ยวไกสังหารซอมบี้ซากศพครึ่งท่อน
กระสุนชำระล้างสองนัดสุดท้ายของแม็กกาซีนทะลุผ่านปลายคางของซอมบี้ เข้าทำลายสองมองและทะลุออกไปด้านหลังด้วยรูทางออกขนาดเท่ากำปั้น ทำเอาเศษซากสมองกระจายเป็นดอกไม้ไฟ เลอะซากตึกเหนือหัวของเรย์
นอกจากเลือดที่ออกไปด้านหลังแล้ว ที่ปลายคางของมันก็มีเลือดเน่าเหม็นชวนอาเจียนไหลออกมาใส่ตัวของเรย์เช่นกัน
ชายหนุ่มรีบผลักร่างของซอมบี้ซากศพครึ่งท่อนไปด้านข้าง
ก่อนจะปล่อยมือจากปืนพก ทิ้งมันลงข้างตัวและรีบใช้มือทั้งสองข้างเช็ดไปที่กระจกของหมวกเกราะของตนเอง
หลังจากเช็ดด้วยมือที่สวมถุงมือและแขนเสื้อเกราะยุทธวิธีแล้ว มันก็ทำให้เลือดสีดำของซอมบี้ถูกเช็ดออกไปพอทำให้การมองเห็นของเรย์กลับมาได้บ้าง
เรย์มองไปรอบตัวเพื่อหาว่ามีซอมบี้ตัวอื่นอีกไหม แต่พอเห็นว่าทุกอย่างเงียบสงบเขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งใจอีกครั้ง
ด้วยสถานการณ์เรย์ไม่สามารถพักตอนนี้ได้ เขาเช็ดมือของตนกับพื้น ก่อนจะหยิบปืนพกขึ้นมา ถอดเอาแม็กกาซีนออกมาและหยิบแม็กกาซีนสำรองที่มีกระสุนธรรมดาขึ้นมาใส่
แม้กระสุนธรรมดาจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่มันยังพอยิงให้ซอมบี้เคลื่อนที่ช้าลงได้บ้าง
หลังเก็บปืนเข้าซองข้างเอว เรย์ก็ยกมือกวักให้บอลแสงลอยลงมาส่องบริเวณที่ตัวของเขานั้นติดอยู่
มันมีซากผนังปูนของตึกไม่ใหญ่มากนักกัดทับที่ช่วงหัวเข่าของเรย์ลงไป แต่ยังโชคดีที่มีอีกก้อนมารองไว้มันจึงไม่กระแทกจนขาของเรย์แหลกเละ
เรย์ยันตัวนั่งกับพื้นและลองดีขาออกอีกครั้ง
ไม่ออกแฮะ...
เรย์หันไปมองข้าง ๆ ก่อนจะพยายามเอาเหล็กเส้นที่มีปูนเก่า ๆ ของซากตึกเกราะอยู่มาและเสียบเข้าไปที่ตัวซากตึกที่ทับเขา
เรย์หยิบซากตึกขนาดเท่าฝ่ามือมารองใต้เหล็กเส้น ก่อนจะออกแรงกดไปที่ปลายเหล็กเพื่อทำเป็นเหมือนคานงัด
ด้วยท่าที่เรย์นั่งอยู่อาจจะไม่มีแรงกดมากนัก แต่ซากผนังปูนของอาคารที่เขางัดนั้นก็ไม่ใหญ่ ทำให้เรย์ออกแรงกดจนซากผนังปูนของตึกยกตัวขึ้นได้เล็กน้อย
เรย์ไม่รอช้ารีบดึงขาของตัวเองออกมาในทันที
ปึง!
มือของเรย์ปล่อยออกจากเหล็กเส้นที่เป็นคานงัด ทำให้ซากผนังปูนของตึกกระแทกกลับเข้าที่เดิม ยังดีที่เรย์นั้นถอยออกมาแล้ว
เรย์เช็กสภาพขาของตัวเอง แม้ใจตอนแรกจะบอกว่าไม่เจ็บ แต่ก็ดูเหมือนจะมีความรู้สึกเจ็บ ๆ การกดทับของซากผนังปูนของซากอาคารอยู่เล็กน้อย
ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
เรย์ลุกขึ้นยืนและเดินไปเก็บหนังสือเวทมนตร์ที่ตกอยู่ไม่ไกล ก่อนจะตรวจสอบดูความเสียหาย เมื่อเปิดดูแล้วก็ไม่พบว่ามีการเสียหาย เขาจึงเก็บเข้าไปในกระเป๋าเวทมนตร์ เพราะกลัวจะเกิดเหตุไม่คาดฝันจนทำมันหล่นอีก
ของทุกอย่างที่เก็บไว้ในกระเป๋าเวทมนตร์นั้นยังอยู่ดีทุกอย่าง
เรย์หยิบเลือดสีขาวออกมาหนึ่งขวดก่อนจะดื่มลงไปในทันที
หลังจากเก็บขวดแก้วเปล่าลงไปแล้วก็รีบออกจากตรงนี้ในทันที โดยไม่แม้แต่จะหันไปเก็บเลือดสีขาวจากซอมบี้ซากศพทั้งสองตัว
ชายหนุ่มยังช่วงเวลาในการเดินทางนี้ดูดซับเลือดสีขาวที่พึ่งดื่มไปเมื่อครู่เข้าไปในจุดพลังงานด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
...
เรย์ยังไม่รู้สถานการณ์ของตนเองว่าเขาตกลงมาลึก แต่จากที่มองดูรอบข้างตอนนี้ มันน่าจะลึกพอสมควร
ในระว่างที่เดินเรย์ก็รู้สึกปวดไปทั้งตัว ยังดีที่เขาใส่ชุดเกราะยุทธวิธีระดับสูง มันป้องกันไม่ให้เขาบาดเจ็บได้มาก ไม่อย่างนั้นแร่อาจจะตายไปแล้วจากการตกจากที่สูงหรือไม่ก็แรงกระแทกของหินที่ตกใจ
เรย์หายใจอย่างแรงเพราะความเหนื่อย เขากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเท่าที่จะทำได้เพื่อหาอะไรบางอย่างที่พอจะเป็นตัวบอกทิศทางได้บ้าง
หรือไม่ก็ใครสักคนที่ยังรอดอยู่
ในตอนนั้นเองเรย์ที่กำลังปืนบนผนังปูนก็ถึงกับหยุดเท้า เพราะด้านหน้าของเขามีร่างของซอมบี้ที่นอนอยู่กับพื้นหลายตัวราวกับมันตกลงมาจากที่สูง
หรือว่า...
ชายหนุ่มเงยหน้ามองไปด้านบนและรีบถอยออกจากตรงนี้ในทันที เพราะมีซอมบี้กำลังตกลงมา
ปัง!
ร่างของซอมบี้กระแทกกับซากของตึก ร่างของมันเสียบเข้ากับเหล็กขนาดใหญ่คาอยู่แบบนั้น ซอมบี้ซากศพยังไม่ตาย แต่มันก็ไม่สามารถขยับตัวได้
ในตอนนั้นก็มีร่างหล่นลงมาอีกหลายร่าง
เรย์ไม่รอช้าถอยออกจากจุดนี้อย่างรวดเร็ว
ตรงจุดนี้ก็คือใต้รอยแยกมิติที่เปิดออกกำลังมีซอมบี้ก้าวออกมาจำนวนมาก เรย์กลัวว่าจะมีตัวอย่างพวกซอมบี้โครงกระดูกหรือตัวที่ชวนอ้วกอย่างซอมบี้อาเจียนออกมา
เขายังไม่อยากละลายกลายเป็นของเหลวเหมือนกับจอร์แดน
แต่ระหว่างที่ถอยออกมาเรย์ก็มองหาไปรอบ ๆ เพื่อหาสมาชิกในทีมของเขา
เรย์เชื่อว่าทุกคนยังไม่ตาย
หัวหน้าคอนราดเป็นผู้ใช้พลังจิต แม้จะไม่ถนัดควบคุมวัตถุแต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เขาน่าจะยังรอดจากซากตึกถ้าควบคุมพวกมัน ส่วนฟาริสและโบเวนนั้นทั้งสองเป็นผู้ใช้พลังกายภาพ โดนแค่นี้ไม่น่าจะตาย
เรย์พยายามคิดให้กำลังใจตัวเอง
ด้วยระดับแค่ ผู้ใช้พลังเวทมนตร์ ระดับ 2 นั้นเขายังอ่อนแอเกินไป ถ้าต้องเจอกับพวกซอมบี้ระดับ 4 ขึ้นไปอย่างซอมบี้โครงกระดูกและซอมบี้อาเจียน
ถ้ามีเวลาเตรียมตัวเรย์อาจจะยังสามารถโค่นมันลงได้ แต่สภาพแบบนี้เขาจะเอาเวลาไหนไปเตรียมตัว
เรย์มาเรื่อย ๆ ใต้ดินของถ้ำที่เขาอยู่ตอนนี้มันเหมือนกับวัตถุทรงกรวยที่ด้านบนจะมีพื้นที่น้อย แต่ยิ่งลงมาด้านล่างพื้นที่จะขยายออกไปเรื่อย ๆ กลายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ตามธรรมชาติที่น่าตกใจ