ตอนที่แล้วภาพเทพอสูรบรรพกาล บทที่ 289 จับคู่ถึงระดับที่ห้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาพเทพอสูรบรรพกาล ตอนที่ 291 เฟิงโหวตงหนิงเมิ่งชวน เจ้าหนีไปไหนไม่ได้หรอก!

ภาพเทพอสูรบรรพกาล ตอนที่ 290 เจ็บใจ (ฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

แม้ราชาอสูรแมงมุมจะควบคุมเส้นใยจำนวนมากเพื่อป้องกันการโจมตี แต่มันก็สลายหายกลายเป็นฝุ่นไปในที่สุดหลังจากที่โดนลำแสงกระบี่ทะลวงเข้าที่หัว

ภายในชั่วพริบตา ทีมราชาอสูรที่มั่นใจก่อนหน้านี้ก็หายไปครึ่งหนึ่ง

“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”

“มันแข็งแกร่งอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?”

ราชาอสูรสิงโตเก้าหัว ราชาอสูรดอกไม้ และราชาอสูรเต่ามังกรรีบหนีลงดินอย่างรวดเร็ว ด้วยความแข็งแกร่งของมัน การที่ราชันเทพอสูรจะสังหารพวกมันที่กระจายกันออกไปทุกทิศทางให้ได้ครึ่งหนึ่งก็ยากแล้ว แต่เมิ่งชวนสังหารพวกมันไปได้ถึงสามตนก่อนที่จะได้มุดลงดินเสียอีก! เขานั้นเร็วกว่าราชันเทพอสูรมาก!

‘หนีรึ?’ ดวงตาเทวะอัสนีบนหน้าผากของเมิ่งชวนเปิดตลอดเวลา เขตแดนแม่เหล็กไฟฟ้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ใช้เกราะกายาเทวะอีกด้วย แสงสลัวปกคลุมทั่วร่างของเขา มันทำให้อากาศโดยรอบบิดเบี้ยว เพียงสะบัดมือ กระแสพลังวินาศสีน้ำเงินเข้มสองสายก็พุ่งออกไปหลายร้อยจั้งและตามราชาอสูรสิงโตเก้าหัวกับราชาอสูรดอกไม้จนทัน

ในเวลาเดียวกัน เมิ่งชวนก็ไล่ตามราชาอสูรเต่ามังกรที่หนีไปได้ไกลที่สุด

“ผนึก!” เต่ามังกรร่ายเขตแดนด้วยพลังทั้งหมดที่มี หมอกหนาไม่สิ้นสุดป้องกันกระแสพลังวินาศสีน้ำเงินเข้มสองสายนั้นไว้ พยายามจะช่วยเพื่อนของมัน

“บ้าเอ้ย” ราชาอสูรสิงโตเก้าหัวเห็นว่ากระแสพลังวินาศนี้น่าสะพรึงมากแค่ไหนด้วยตาของมันเอง กระทั่งเฉออี้ก็ยังตัวแข็งจนไม่สามารถทำอะไรได้ สิงโตเก้าหัวไม่รีรอ แยกร่างออกเป็นเก้าร่าง

หนึ่งในร่างอวตารของมันเข้าไปรับกระแสพลังวินาศในขณะที่อีกแปดร่างหลบหนีไปทุกทิศทุกทาง มันเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ช่วยชีวิตของสายเลือดมัน วิชาร่างแยกปลอม แค่ใช้วิชานี้เพียงหนึ่งครั้งก็ทำให้มันบาดเจ็บสาหัส

แกรก

เมื่อกระแสพลังวินาศแตะเข้ากับหนึ่งในร่างของราชาอสูรสิงโตเก้าหัว ร่างของมันก็แข็งและแตกเป็นชิ้นๆในทันใด กระแสพลังวินาศแยกออกเป็นแปดสายก่อนจะไล่ตามร่างที่เหลือ

“ไม่จริง” ราชาอสูรดอกไม้ชุดสีม่วงเผยหน้าตกใจ มันอ่อนแอและบอบบาง พลังสีเขียวอ่อนไหลออกมาจากหน้าผากของมัน มันมุ่งตรงไปยังเมิ่งชวน แต่ว่าพอมันไปถึงเมิ่งชวนที่มีแก่นสารแห่งจิตระดับสี่ก็ไม่ส่งผลเลยแม้แต่น้อย เมิ่งชวนควบคุมกระแสพลังวินาศและแช่แข็งราชาอสูรดอกไม้

ราชาอสูรดอกไม้แตกเป็นเสี่ยงๆ

อะไรกัน? เมิ่งชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างเขาและกระแสพลังวินาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างที่กำลังไล่ตามเต่ามังกร มีขีดจำกัดในระยะทางระหว่างตัวเขาและกระแสพลังวินาศ!

ร่างแปดร่างที่เหลือของราชาอสูรสิงโตเก้าหัวนั้นหนีไปอย่างรวดเร็ว ถึงเขาจะไล่ตามมันไปด้วยตนเอง แต่เขาก็ไม่สามารถไล่ตามร่างทั้งแปดได้พร้อมๆกัน

‘ราชาอสูรพวกนี้มีวิชาหลบหนีเยอะเสียจริง’ เมิ่งชวนนั้นรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงไล่ตามเต่ามังกรได้อย่างรวดเร็ว

“ไว้ชีวิตข้าด้วย!” เต่ามังกรร้องขอชีวิต

ฟุบ

กระบี่อสูรสังหารสีแดงเข้มทะลวงผ่านกระดองของเต่ามังกรไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกดูดกลืนเข้าไป จนร่างของมันสลายกลายเป็นฝุ่นไป กระทั่งกระดองเอกก็สลายหายเป็นฝุ่นไป

ฟุบ เมิ่งชวนเก็บของที่เหลืออยู่ในพริบตา เขาเก็บซากที่เหลืออยู่ของราชาอสูรดอกไม้เข้าไปในถ้ำสวรรค์ด้วยปราณดาวทมิฬก่อนจะกลับไปบนดิน

ฟุบ

เพียงคิด สิ่งของที่เหลืออยู่โดยเฉออี้ ราชาอสูรแมงมุม และราชาอสูรแพะก็ถูกเก็บเข้าไป

แม้ว่าจะใช้เวลาในการอธิบายนาน แต่การต่อสู้ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น

เฟิงโหวเทพอสูรสองคนกำลังรุดเข้ามา! ระยะห่างระหว่างกำแพงเมืองด้านหนึ่งกับอีกด้านนั้นห่างกันเกือบ 80 ลี้ ด้วยความเร็วโดยปกติของเฟิงโหวเทพอสูร จะใช้เวลาเกือบ 30 วินาทีกว่าจะมาถึง ในขณะที่เฟิงโหวทั้งสองคนกำลังเดินทางมา เมิ่งชวนก็สังหารราชาอสูรระดับสูงไปได้แล้วห้าตน มีเพียงราชาอสูรสิงโตเก้าหัวเท่านั้นที่หนีรอดไปได้

“นั่นเมิ่งชวนนี่” เฟิงโหวเมฆาใต้และเฟิงโหวเทียหัวพุ่งมาด้วยความเร็วเต็มที่ จากไกลๆ พวกเขาสามารถมองเห็นการต่อสู้ที่กำแพงเหนือได้ แต่ว่าก็ยากที่จะเห็นให้ชัดเจนเพราะหมอกนั้นหนาเกินไป พวกเขาเพียงรับรู้ได้ว่าพลังอสูรตรงนั้นสุดยอดมาก

พวกเขาไปได้ครึ่งทางในขณะที่เมิ่งชวนกลับขึ้นมาบนพื้นแล้ว

การต่อสู้จบลงแล้ว เมิ่งชวนพยักหน้าให้พวกเขาเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นเส้นสายฟ้าพุ่งหายไป

“เร็วไปแล้ว”

เฟิงโหวเมฆาใต้และเฟิงโหวเทียหัวมองหน้ากัน

“ทีมราชาอสูรที่ทรงพลังนั่นถูกเมิ่งชวนจัดการหมดเลยรึ?” เฟิงโหวเทียหัวเป็นหญิงกล้า เธออุทาน “พวกเราสองคนร่วมมือกันปกป้องเมืองฉู่อัน แต่จู่ๆเมิ่งชวนก็ปรากฏตัวออกมา เขาทำงานคนเดียว คงจะเพราะมีหน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือเมืองต่างๆ”

“ใช่” เฟิงโหวเมฆาใต้พยักหน้า “แต่ว่าพวกเรายังไม่ได้ขอความช่วยเหลือเลย ทำไมเขาถึงมากันนะ?”

“คงจะแค่ผ่านมาพอดี” เฟิงโหวเทียหัวกล่าว “พวกเราสองคนก็คงจะจัดการกับราชาอสูรพวกนั้นไม่ได้ง่ายๆ แต่เขากลับสามารถสังหารมันได้ภายในพริบตา”

เฟิงโหวเมฆาใต้พยักหน้าเบาๆ “ตอนนั้นข้าเป็นคนดูแลการสอบเข้าเขาหยวนชูของเขาด้วยตัวเอง ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าข้าไปเสียแล้ว”

เฟิงโหวเทียหัวยิ้ม “นั่นหมายความว่ามนุษย์ชาติมีความหวังแล้วล่ะ”

เมิ่งชวนถือตรา จุดสองจุดส่องแสงสว่าง มันคือเมืองตงหนิงและเมืองชางเฟิง มีสองเมืองที่ต้องการความช่วยเหลือของเขา

‘เมืองตงหนิงกับเมืองชางเฟิงขอความช่วยเหลือมา แต่ว่ามันเป็นระดับต่ำสุด จากคำสั่งที่ได้รับมา พวกเขาแค่บอกข้าว่าพบราชาอสูรในเมืองสองเมืองนี้ ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุม’

นี่เป็นแค่คำเตือน แต่เมิ่งชวนก็พุ่งไปทางเมืองตงหนิงด้วยความเร็วสูงสุด

ฟุบ

เขาทะยานผ่านท้องฟ้าไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ กระทั่งปรมาจารย์จินหวูและปรมาจารย์ลี่กวนก็ยังช้ากว่าเขาเล็กน้อย หลังจากพุ่งออกไปกว่า 300 ลี้ เมิ่งชวนก็หยุดลง

โอ๋? เมิ่งชวนมองดูตราในมือด้วยความประหลาดใจ คำขอความช่วยเหลือใหม่ปรากฏขึ้นมา มันเป็นสีแดงเข้ม

นอกจากเมืองด่านขนาดใหญ่สามเมืองแล้ว เขารับหน้าที่ช่วยเหลือประตูพิภพขนาดกลางอีกแปดแห่ง ประตูพิภพทั้งแปดนั้นตั้งอยู่รอบๆเมืองตงหนิง เมืองจางเฟิง และเมืองฉูอัน

เหมือนว่าหนึ่งในประตูพิภพขนาดกลาง ด่านหยินหู่ กำลังขอความช่วยเหลือ ‘คำขออันตรายถึงตาย?’ เมิ่งชวนเคร่งเครียด

มีระดับการขอความช่วยเหลือสามระดับ เขียว ม่วง แดงเข้ม

จุดสีแดงเข้มบนตรานั้นหมายความว่าคำขออันตรายถึงตาย! อันตรายที่สุด!

ฟุบ

โดยไม่รีรออะไร เมิ่งชวนก็หันกลับไปและพุ่งตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้

‘เขาหยวนชูเชื่อว่าประตูพิภพขนาดกลางทั้งแปดไม่น่าจะขอความช่วยเหลือมากนัก ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีสถานการณ์อันตรายถึงตายแบบนี้เกิดขึ้น ศึกสุดท้ายกำลังเริ่มต้นขึ้น ขนาดข้าสังหารราชาอสูรจนหมดเฟิงโหวเทพอสูรก็ยังมาไม่ถึงกำแพงเมืองเลย’

‘ด่านหยินหู่’ เมิ่งชวนเคร่งเครียด ‘รอข้าก่อน รับมือเอาไว้ให้ได้’

ภายในถ้ำสวรรค์ขนาดเล็ก

ปราชญ์อสูรเก้าอเวจีและชายในชุดสีดำนั้นมองดูแผนที่ขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่โดยมีจุดแสงกระจายไปทั่ว

ทันใดนั้น จุดแสงค่อยๆหายไปทีละจุด

“โอ๋?” ปราชญ์อสูรเก้าอเวจีและสีหน้าของชายชุดดำเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ไม่ว่ายังไงสงครามก็ต้องมีคนสูญเสีย เพราะไม่ว่ายังไงแล้วก็มีจอมจักรพรรดิมากมายเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มนุษย์ แน่นอนอยู่แล้วว่าจะชนะแบบไร้ที่ติมันเป็นไปไม่ได้” ชายชุดดำกล่าว “ตราบใดที่พวกเราชนะ แม้พวกเราจะสังเวยไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังคุ้มค่ากับการเฉลิมฉลอง”

จุดแสงค่อยๆหายไป

“แต่พอมาคิดดูว่าการต่อสู้นี้พึ่งจะเริ่มต้น พวกมันตายกันเร็วเกินไป” สีหน้าของปราชญ์อสูรเก้าอเวจีเปลี่ยนไป “แย่กว่าที่ข้าคิดเสียอีก”

บนเขาหยวนชู

ลี่กวน ร่างเงาของลู่ถาง และร่างเงาของจินหวูนั่งอยู่หน้าโต๊ะชาพร้อมกับมองดูแผนที่ราชวงศ์โจวที่ยิ่งใหญ่ มีร่างเงามากมายอยู่บนแผนที่นั้น

ฟุบ

ร่างเงาร่างหนึ่งหายไป จากนั้นอีกสองร่างก็หายไป

ลี่กวน ลู่ถาง และจินหวูนั่งมองอย่างเงียบๆ ร่างที่หายไปทุกๆร่างนั้นคือความตายของเทพอสูร

ลู่ถางอดพูดออกมาไม่ได้ “เฟิงโหวเทพอสูรห้าคนและเทพอสูรมหาสุริยันแปดคนตายไปในการต่อสู้” หลังจากตอนนั้น ร่างเงาอีกร่างก็หายไป “เฟิงโหวหกคน!”

“พวกเราพยายามทำเต็มที่แล้ว” ลี่กวนพูดเรียบๆ

“บางทีคงจะไม่คุ้มค่ากับการป้องกันเมืองมากขนาดนี้” ร่างเงาของลู่ถางดูเจ็บปวดหัวใจ “มันคงจะง่ายกว่ามากหากเราปกป้องเมืองสัก 20 เมืองหรือน้อยกว่า”

“พวกคนธรรมดาคือรากฐานของมนุษย์ชาติ” ลี่กวนกล่าว “หากเขาหยวนชูทิ้งเมืองไปมากขนาดนั้น ประชากรก็จะลดลงอย่างมหาศาล จำนวนของอัจฉริยะก็จะลดลงด้วยเช่นกัน นั่นจะทำให้มีเทพอสูรน้อยลง พวกเราต้องประกันว่ามีคนมากเพียงพอในโลกใบนี้ นี่คือรากฐานของเทพอสูร รากฐานของมนุษย์ชาติ!”

ฟุบๆๆๆ!

ราวกับฟองสบู่แตก ร่างเจ็ดร่างหายไปติดๆกัน

“เทพอสูรมหาสุริยันอีกเจ็ดคน” ดวงตาของลู่ถางแดงขึ้นเล็กน้อย

“ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว เราจะถอยไม่ได้ เราจะต้องสู้จนสุดตัว” แววตาของจินหวูเองก็แดงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน เขานั้นคุ้นเคยกับร่างที่หายไปทุกร่างมาก หลายๆคนเป็นศิษย์ของเขา

ในตอนนี้ ลู่ถางคอยปกป้องด่านลู่ถาง ร่างจริงของลี่กวนคอยปกป้องเขาหยวนชูอยู่ ร่างอวตารแห่งจิตของลี่กวนและร่างจริงของจินหวูเองก็ทำหน้าที่ช่วยเหลือ พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด