ตอนที่ 62 นี่ฉันเป็นอัจฉริยะด้านปิงปองงั้นหรอ
จากนั้นไม่นานเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินเซิ่งจิง เย่เทียนดูกระเป๋าเครื่องสำอางในกระเป๋าของระบบและเขาก็นึกอะไรสนุกๆได้ทันที เขาโกหกว่าปวดท้องจึงต้องการไปห้องน้ำ เขาทิ้งเซียวยวี่เยียนไว้ในโซนพักผ่อน.
สิบนาทีต่อมา มีคุณปู่หลังค่อมเดินออกจากห้องน้ำด้วยไม้เท้าและร่างกายที่สั่นเทา
คุณปู่คนนี้คือเย่เทียนที่ใช้ยาแต่งหน้าระดับมหากาพย์นั่นเอง เขาเดินมานั่งข้างเซียวยวี่เยียนและพูดด้วยเสียงต่ำ “สาวน้อย เธอมาเที่ยวหรอ…”
เซียวยวี่เยียนมองเย่เทียนแล้วยิ้ม
เย่เทียนใจเต้นแรง ยานี้คงไม่ถูกจับได้ในครั้งแรกหรอกใช่ไหม?
เซียวยวี่เยียนตอบกลับอย่างสุภาพ “ใช่คะ สำเนียงคุณปู่ไม่เหมือนคนเซิ่งจิงเลย คุณปู่มาเที่ยวเหมือนกันหรอ?”
เย่เทียนยิ้มกริ่มอยู่ในใจและพยักหน้า “ใช่ พอแก่แล้วแต่ยังเดินไหวอยู่ก็ควรออกมา”
“โอ้...แล้วญาติของคุณปู่ล่ะ?” แม้ว่าเซียวยวี่เยียนจ้องหน้าของเย่เทียนแต่เธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ ไม่ใช่ว่าความสามารถในการสังเกตของเซียวยวี่เยียนไม่ดี แต่ทักษะการแต่งหน้าของยาแต่งหน้าที่เย่เทียนใช้มันดีเกินไป ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าจะไม่สามารถแยกความต่างระหว่างของจริงกับของปลอมได้เลย
“มาคนเดียวน่ะ” เย่เทียนมองขึ้นบนเพดาน “ฉันไม่มีลูกหลาน…”
“พระเจ้า คุณอายุมากขนาดนี้แล้วยังไปไหนมาไหนคนเดียวอีก ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาคุณจะทำยังไงล่ะ?” เซียวยวี่เยียนอุทานด้วยหน้าไม่อยากเชื่อและหน้าเศร้าในเวลาเดียวกัน คุณปู่คนนี้น่าสงสารมาก
“ดีจังที่มีคนห่วงใยคนแก่อย่างฉัน” เย่เทียนยืนอย่างสั่นเทาแล้วเดินโยกตัวไปมาอย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะล้มเซียวยวี่เยียนจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วย “ระวังนะคะคุณปู่ ...”
“หลานสาวแสนดี หลานสาวแสนดี” เย่เทียนหัวเราะ
เซียวยวี่เยียนสตั้นไปสามวิก่อนเธอจะได้สติ “เสียงของคุณ...ทำไมฟังดูคุ้นจัง พี่ชาย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...” เย่เทียนหัวเราะออกมา
หน้าของเซียวยวี่เยียนแดงขึ้น เธอต่อยเย่เทียนด้วยความโกรธ “ทำไมคุณทำแบบนี้นะ! ฉันตกใจหมดเลย!”
แน่นอนว่าเซียวยวี่เยียนไม่ได้โกรธจริงๆ และเธอสนใจทักษะการแต่งหน้าของเย่เทียนมาก “พี่ชาย การแต่งหน้าของคุณดีมาก ตอนนี้ฉันจำคุณไม่ได้เลย”
เย่เทียน “แน่นอนอยู่แล้ว พี่เย่เทียนของเธอมีทักษะมากมายแต่มันไม่ได้ง่ายเหมือนการแต่งหน้า เธอรอฉันก่อนนะเดี๋ยวฉันไปล้างเครื่องสำอางก่อน”
“อย่าพึ่ง!” เซียวยวี่เยียนกลายเป็นปีศาจน้อยซุกซน “เรื่องสนุกๆแบบนี้ต้องเอาไปแบ่งพี่สาวด้วยสิ”
ตาของเย่เทียนเปร่งประกาย “หมายความว่า...ให้แต่งไว้แบบนี้!”
“ฮิฮิ...แน่นอน!”
“น่าสนใจดีนิ งั้นไปกันเถอะหลานรักไปถ่ายรายการกัน”
“ได้เลยค่ะคุณปู่”
เซียวยวี่เยียนผู้เขียนบทละคร!
...
เซิ่งจิง การถ่ายรายการของโรงห่าน
เนื่องจากการจราจรบนท้องถนนติดขัด ทำให้เมื่อเย่เทียนและคนอื่นๆมาถึงการถ่ายทอดสดก็เริ่มไปแล้ว ทุกทิศทางต่างถูกล้อมไปด้วยแฟนคลับ ในหมู่พวกเขาเป็นแฟนคลับของหยางจิ่นลี่ 90%ส่วนที่เหลืออีก 10%เป็นแฟนคลับของคนอื่นๆ ในฐานะศิลปินหญิงที่ดังที่สุดในสองปีที่ผ่านมาจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนมาดูเธอมากแบบนี้ ตราบใดที่เธอได้เต้นและร้องเพลงคนอื่นก็จะ...
“เธอมาด้วยหรอยวี่เยียน? พี่ชายบอกว่าจะมาไม่ใช่หรอ? แล้วเขาอยู่ไหนล่ะ?” ตาของโหยวฉินเสี่ยวเหยาเฉียบคม เธอมองเซียวยวี่เยียนที่วิ่งมาโดยมีช่างภาพเฉพาะสองคนอยู่ข้างหลัง
เซียวยวี่เยียนประหม่าจึงพูดตะกุกตะกัก “พี่ชาย...พี่ชายบอกว่ามีบางอย่างต้องทำเลยมาช้า...”
“เอ๋?” โหยวฉินเสี่ยวเหยามีสีหน้าผิดหวัง
“แค่กแค่ก…” เย่เทียนเริ่มแสดงโดยไอสองสามครั้ง
โหยวฉินเสี่ยวเหยาปรับความคิดของเธอและพูดอย่างสงสัย “คุณปู่คนนี้คือ...”
“เป็นปู่ของฉันเอง!” เซียวยวี่เยียนรีบพูด
“อ่า สวัสดีค่ะคุณปู่”
“สวัสดี สวัสดี...ฮ่าฮ่า ฉันมาดูแบบนี้หวังว่าจะไม่ไปกระทบต่อการถ่ายของเธอนะ” เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เลยคะ พาคุณปู่ไปไม่นั่งสิยวี่เยียน”
ถัดจากนักแสดงหญิงคนอื่นๆ เย่เทียนกับเซียวยวี่เยียนที่เป็นแขกเดินไปนั่งบนม้านั่งและไม่มีใครจำเขาได้เลยสักคน
อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากในการถ่ายทอดสดต่างชื่นชมเซียวยวี่เยียนในความน่ารักและความอ่อนโยนของเธอ และเสียดายที่เธอไม่ได้เดบิวต์...
แน่นอนว่าพวกเขาสองคนไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วย
หลังจากนั้นสักพักก็มีรถบัสเบียดกลุ่มผู้ชมเข้ามา กลุ่มหญิงสาวที่รอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศบริสุทธิ์ลงจากรถ “ฮาย~! สวัสดีค่าทุกคน!”
“ส...สวัสดีค่ะ”
กลุ่มคนดูและหยางจิ่นลี่ต่างตะลึง พวกเธอเป็นใคร?
ผู้กำกับ “พวกเธอเป็นเป้าหมายแรกของพวกคุณในวันนี้”
“เป้าหมาย?”
“เอ่อ นี่คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”
หยางจิ่นลี่มองไปมา เธอไม่เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการอะไร
จากนั้นไม่นานทีมงานก็ออกมาตั้งโต๊ะปิงปอง
ตอนนี้ทุกคนต่างเข้าใจแล้ว
นี่คือจะให้พวกเธอแข่งปิงปองกัน
“ตราบใดที่คนใดคนหนึ่งได้รับ 10 ลูกจากพวกเธอ การแข่งครั้งแรกจะถือว่าสำเร็จ” ผู้กำกับยิ้มอย่างชั่วร้าย “จิ่นลี่ คุณเป็นกัปตันทีม คุณเลือกลำดับของการแข่งได้เลย”
หยางจิ่นลี่พูดอย่างลำบากใจ “ฉันพอเล่นปิงปองได้แค่นิดหน่อย เซียวเหยา เหว่ยเหว่ย สือสือ เสี่ยวถง แล้วพวกเธอล่ะ?”
สาวๆส่ายหัวและบอกว่าเล่นได้ไม่ดี...โดยเฉพาะจ้าวสือสือที่สละสิทธ์ในทันที ตั้งแต่โตมาเธอไม่เคยถือไม้ปิงปองแม้แต่ครั้งเดียว
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะลงไปเล่นก่อน เสี่ยวเหยาคนที่สอง เสี่ยวถงคนที่สาม และเหว่ยเหว่ย…” หยางจิ่นลี่สูดหายใจเข้าลึกและถือไม้ปิงปองอย่างมืออาชีพ
เย่เทียนหัวเราะอยู่ข้างหลัง “เป็นฝีมือของโรงห่านนี่เอง ทั้งเอฟเฟครวมถึงการเชิญนักปิงปองมืออาชีพกลุ่มนี้”
“พวกเธอเป็นมืออาชีพรึเปล่า?” เซียวยวี่เยียนถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่...”
เย่เทียนเป็นคนที่ชอบกีฬามาก เขาเคยดูบาสเก็ตบอล ฟุตบอล ปิงปอง ดำน้ำ สเก็ตและรายการอื่นๆ เขาเห็นออร่าของคู่ต่อสู้และตัดสินว่าคนธรรมดาไม่สามารถเอาชนะได้
ในเวลาเดียวกันเย่เทียนก็มีแผนในใจ เขาส่งยาปิงปองระดับสูงให้เซียวยวี่เยียน “กินซะ”
“อึก”
เซียวยวี่เยียนกลืนทันทีแล้วถามอย่างโง่เขลา “พี่ชาย เมื่อกี้คุณเอาอะไรให้ฉันกิน?”
เย่เทียน: (¬_¬)
เย่เทียน “เธอจะออกไปตอนที่พวกเธอกำลังจะแพ้”
“ฉันเหรอ แต่ฉันเล่นปิงปองไม่เป็นนะ!” เซียวยวี่เยียนสะดุ้งโหยง
เย่เทียนขอไม้และลูกปิงปองจากคนทำอุปกรณ์ประกอบฉากแล้วยื่นให้เซียวยวี่เยียน “ลองคว่ำดูสิ”
เซียวยวี่เยียนลองหยิบมาคว่ำดู...
มีบางอย่างอันน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น ลูกปิงปองติดอบู่กับมือของเธอ
“นี่...นี่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เลยสักนิด! ฉันเป็นอัจฉริยะเรื่องปิงปองหรอ?” เซียวยวี่เยียนตะลึง
เย่เทียนพยักหน้า “อาจจะใช่”
อีกด้านหนึ่ง...
หยางจิ่นลี่แพ้การแข่งรอบแรก
เรียกได้ว่าถูกฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว
ฝ่ายตรงข้ามโหดเกินไป ลูกสุดท้ายตีมาเร็วจนมองไม่เห็นแม้แต่ลูกบอล...
“นี่มันมากไปแล้ว ผู้กำกับ!”
หยางจิ่นลี่โกรธจัด เธอถือไม้ปิงปองไปหาผู้กำกับเพื่อจัดการเขา “ภารกิจนี้มันเป็นไปไม่ได้!!!”
ใบหน้าน่ารักๆมาพร้อมกับเสียงที่โกรธจัดโดยมีการเพิ่มเสียงจากโปรแกรม
เสียงหัวเราะดังขึ้นอยู่รอบด้าน
การถ่ายทอดสดเขื่อนแตกอีกครั้ง
“ดูสิ ชุนฮวาจะตีผู้กำกับแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า! ใครเป็นผู้กำกับเนี่ย เขาทำชุนฮวาร้องได้แล้ว!”
“โธ่ ฮ่าฮ่า ฉันหัวเราะจนจะขาดใจตายแล้ว…!”