ตอนที่ 136 เมืองแห่งเหมืองใต้ดิน มัลทาฟา
ตอนที่ 136 เมืองแห่งเหมืองใต้ดิน มัลทาฟา
ที่โรงพยาบาลประจำเขต 7
ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดและชายใส่สูทสีดำร่างสูงโปร่งกำลังก้าวเท้าเดินไปตามทางเดินอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ทั้งสองกวาดสายตามองรอบ ๆ ก่อนจะตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ไม่ไกล ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดเป็นคนเดินเข้าไปเปิดประตูเป็นคนแรกก่อน แต่ก็เหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงดึงมือกลับและหันไปกล่าวกับคู่หู
“ครั้งนี้นายเปิดแล้วกัน” พูดจบชายใส่สูทสีดำไว้หนวดก็ถอยหลังออกไปตั้งท่าระวัง
ชายใส่สูทสีดำร่างสูงถลึงตามองคู่หูก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูมองผ่านกระจกประตูเข้าไปด้านในอย่างระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงทำการเปิดประตูออกอย่างระวัง
ชายใส่สูทสีดำไว้หนวดยกแขนขวาขึ้นมาพร้อมตั้งท่าเตรียมยิงลิงก์ทุกเมื่อ แต่พอประตูเปิดออก ทั้งสองก็พบแต่เพียงความว่าเปล่าเท่านั้น
“เด็กนั้นคงมาที่นี่และพากันหนีไปแล้ว”
“เอายังต่อกันดี”
“ปล่อยพวกมันไปก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้ต้องไปเอาหลักฐานที่พวกตำรวจเก็บไปก่อน”
ทั้งสองเดินออกจากห้องพักในทันที ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นางพยาบาลเดินเข้ามาพอดี นางพยาบาลมองดูทั้งสองอย่างแปลกใจ ก่อนที่เธอจะได้รู้ว่าคนไข้ภายในห้องได้หายตัวไปแล้วเช่นกัน
...
ภายในห้องพัก หลังจาก กาย ไทเลอร์ และเมญ่าได้เจอกับแคปซูลเกม ทั้งสามคนไม่รีรอ ได้ทำการเดินสำรวจไปรอบห้องพัก
ห้องพักแห่งนี้แบ่งออกเป็นหนึ่งสองห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องนั่งเล่นและหนึ่งห้องครัว ในตู้เย็นของห้องนั้นเต็มไปด้วยอาหารซึ่งเพียงพอให้พวกเขาทั้งสามอยู่ไปได้หลายวัน
“เอายังไงดี” เมญ่าถามทั้งสองคน
“มันดึกแล้ว ฉันรู้สึกว่าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ยังไงเราควรพักกันที่นี่ก่อน” ไทเลอร์กล่าวออกมา ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้า ริมฝีปากซีดขาวและมีเหงื่อออกตามตัว
“อืม” กายเห็นว่าไทเลอร์ควรจะต้องพัก เขาจึงตอบตกลง
กายและพวกไม่รอช้า จัดการทำอาหารกินกันอย่างง่าย ๆ ด้วยความหิว พวกเขากินกันโดยไม่พูดไม่จาสักคำ หลังจากกินจนอิ่มเมญ่าก็พาไทเลอร์ไปพักผ่อนก่อน เธอถือกล่องที่ใส่ยาที่เจ้ซาเรียฝากมาไว้ให้เข้าไปในห้องนอนด้วย
ส่วนทางด้านของกายเขากลับมาสนใจเรื่องของตนเองอีกครั้ง
แคปซูลเกมทั้งสองเครื่องที่เคยอยู่ที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ได้ถูกย้ายเข้ามาวางไว้ที่กลางห้องนั่งเล่น กายเดาว่ามันคงถูกขนออกมาช่วงหลังจากที่เขาออกจากร้านเกม
เมื่อรวมกับคำพูดของเจ้ซาเรียที่บอกว่า “โชคดีนะ” และการเตรียมการทั้งหมดนี้ เขาก็มั่นใจว่าเจ้ซาเรียนั้นรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็เดาได้ถึงอันตรายเหล่านี้
หวังว่าเจ้จะปลอดภัย...กายที่มีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อครู่ ก็หันกลับมามองดูแคปซูลเกมทั้งสองเครื่อง ก่อนจะลงมือเชื่อมต่อแห่งพลังงานไฟฟ้า ตั้งค่าเครื่องตามที่เขาเคยเห็นเจ้ซาเรียทำมาก่อน
การตั้งค่าไม่ได้ยากอะไร ส่วนใหญ่แล้วมันก็แค่เซตระบบไม่กี่อย่างเท่านั้น ถ้าเป็นเครื่องรุ่นใหม่กว่านี้เพียงแค่สั่งให้เครื่องทำงานระบบ AI ในเครื่องก็จะจัดการเองทั้งหมด ในบางรุ่นถึงกับมีแหล่งพลังงานอยู่ในตัวเครื่องเลยก็มี แน่นอนว่าราคาของมันนั้นกายในตอนนี้ยังไม่อาจจะเอื้อมถึง
แม้จะหนีจากการไล่ล่ามาได้และยังเหนื่อยล้าอยู่ แต่สุดท้ายกายก็เลือกจะเข้าเกมราชันสงครามออนไลน์ เพราะเขามีหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ และกายก็รู้ว่าเกมนี่สงผลต่อความสามารถในชีวิตจริงได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอย่างนั้นได้อย่างไร
ก่อนอื่นเลย เขาใช้คอมพิวเตอร์ที่วางอยู่ข้าง ๆ เครื่องแคปซูลซึ่งก็เป็นคอมพิวเตอร์ของทางร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ที่เคยอยู่ในห้องเกมและเป็นของที่เจ้ซาเรียนั้นใช้งาน กายจัดการเปิดเครื่องและเข้าเว็บไซต์ทำการติดต่อไปหานกพิราบขาว เพื่อบอกว่าเขาพร้อมนัดเจอที่เดิม ซึ่งก่อนหน้านี้กายได้ส่งข้อความไปยกเลิกเพราะคิดว่าจะไม่ได้เข้าเกมราชันสงครามออนไลน์ เนื่องจากไม่มีเครื่องแคปซูลเกม
หลังจากพูดคุยกับทางนกพิราบขาวแล้ว หมอนั้นไม่มีปัญหาอะไรกายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกไปเรื่องหนึ่ง เขามองเวลาในนาฬิกาที่โทรศัพท์ ตอนนี้มันเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง หวังว่าเราจะเธอและข้อตกลงจะยังอยู่...กายเข้าไปนอนบนเครื่องแคปซูลเกม ก่อนจะพูดออกมา
“ลิงก์เกม”
ความรู้สึกนึกคิดของกายเชื่อมต่อเข้ากับเกมราชันสงครามออนไลน์ผ่านลิงก์เกมและแคปซูลเกม เขายืนอยู่เบื้องหน้าประตูที่เข้าสู่แดนสงคราม พอกายเปิดประตูเขาก็มาโผล่ที่แดนสงครามในทันที
กายดึงหน้ากากเหล็กกระชับแน่น ก่อนจะรีบไปยังอาคารหลังหนึ่งในแดนสงครามซึ่งเป็นที่อยู่ของกุหลาบสีดำ
กายเคาะประตูห้อง ทันใดนั้นกุหลาบสีดำก็เปิดประตูออกมา
“ฉันนึกว่าคุณต้องการผิดสัญญาซะอีก”
“ขอโทษที วันนี้ผมเจอปัญหาถึงชีวิตบางอย่างจึงไม่อาจจะเข้ามาตามเวลานัดได้ ส่วนเรื่องสัญญาถ้าคุณจะยกเลิกก็ได้ เพราะผมผิดนัดก่อน แต่ถ้าจะยังคงทำตามเดิมเรามาเจอกันพรุ่งนี้” กายอธิบายอย่างง่าย ๆ ให้หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าฟัง
กุหลาบสีดำได้ฟังก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ที่จริงเธอก็รู้สึกโกรธผู้เล่น ลอร์ดเจ็ดโลหะเช่นกัน แต่เพราะเหตุผลของฝั่งนั้นมันทั้งสั้นและยังฟังขึ้น ถ้าเจอกับสถานการณ์ถึงชีวิต ก็คงไม่มีใครมาสนใจเรื่องของคนอื่นได้ สุดท้ายหญิงสาวก็ถอนหายใจเซ็ง ๆ ก่อนจะพยักหน้าตกลง
“เราควรเพิ่มเพื่อนกันเพื่อไว้ติดต่อกันในแดนสงครามได้” กุหลาบสีดำกล่าวก่อนจะทำการขอเป็นเพื่อนกาย กายตอบรับคำขอของกุหลาบสีดำในทันที
การจะเพิ่มเพื่อกันได้นั้นมีหลายวิธี ส่วนใหญ่ง่าย ๆ ก็คือการอยู่ในกิลด์เดียวกัน และอีกวิธีคือต้องอยู่ใกล้ ๆ กันในแดนสงครามถึงจะทำได้ กายก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมในโลกราชันระบบถึงไม่สนับสนุนการติดต่อในโลกราชัน แต่กับสนับสนุนในแดนสงครามแทน
แต่พอมาคิดดูแล้วถ้าทำแบบนั้นได้ พวกผู้เล่นที่รวมตัวกันเป็นกิลด์ใหญ่ ๆ คงจะได้เปรียบน่าดู และนั้นอาจจะเป็นการทำลายสมดุลของเกมทางอ้อมก็ได้
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน”
กายหันหลังเตรียมจะจากไป ในตอนนั้นเองกุหลาบสีดำก็เรียกเขา “ลอร์ดเจ็ดโลหะ เจ้าจะเข้าไปเล่นในโลกราชันใช่หรือไม่ พวกเรามาร่วมทีมกันในสงครามที่จะเกิดขึ้นเป็นยังไง เป็นการตั้งทีมชั่วคราวเท่านั้น”
“ผมมีทีมอยู่แล้ว แต่ถ้าเจอกันที่นั่นและเราอยู่ฝั่งเดียวกัน ข้าก็ยินดีที่จะร่วมมือช่วยเหลือกัน” กายยังกล่าวเสริมในใจต่อ “ถ้าเจ้าจำข้าได้ละนะ”
กุหลาบสีดำไม่ได้กล่าวถามต่อว่ากายอยู่ฝั่งใคร เพราะจากท่าทีที่ผ่านมาของลอร์ดเจ็ดโลหะคงไม่เลือกอยู่ฝั่งเดียวกับนครแสงเทวาอย่างแน่นอน ไม่สิต้องบอกว่าคงไม่เลือกอยู่ฝั่งเดียวกับพวกผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงมากกว่า
ส่วนเธอนั้นที่คอยร่วมมือกับกิลด์ใหญ่ ๆ อื่น ๆ ชักใยกลุ่มเก็บกวาดกะโหลกนั้นแน่นอนว่าต้องเลือกอยู่ฝั่งนครดาราฟ้าอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นหวังว่าเราจะได้ร่วมมือกัน” กุหลาบสีดำกล่าวเสียงเบา ๆ
“เช่นกัน” กายกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะออกจากแดนสงครามไป เพราะเหลือเวลาไม่มาก ก่อนที่จะต้องเข้าไปในโลกราชันแล้ว
...
4 พฤษภาคม ปีที่ 70 ภายในโลกราชัน วันที่ 5 เดือน 3 ปีดาราที่ 997 เวลา 00.00 ตรง กายกลับเข้ามาในโลกราชันอีกครั้ง เขายังคงร่วมเดินทางไปพร้อมกับขบวนอีกครั้ง
นึกว่าหลังจากนี้ตัวละครในโลกราชันของเราจะนอนแน่นิ่งเป็นผักไปอีกหลายวัน...กายผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เพราะถ้าเขาไม่ได้เข้ามาในโลกราชัน ตัวละครของเขาก็จะนอนแน่นิ่งคล้ายคนหลับลึกไป ซึ่งถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นคนอื่น ๆ คงเดาไม่ยากว่ากายคือผู้เล่น
และเขาอาจจะโดนฆ่าตายได้อย่างง่ายดาย
กายกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ผู้เล่นกลุ่มมีดสั้นสีเงินเองก็ล็อกอินเข้ามาแล้วเช่นกัน
ผู้เล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ทุกคนคงไม่มีใครอยากจะพลาดในการเล่นเกมแม้แต่ครั้งเดียวเหมือนกันหมดสินะ เขายิ้มออกมา ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าเดินทางต่อไม่พูดไม่จาอะไร
ที่จริงแล้วทุกคนก็เป็นเหมือนกันเนื่องจากการเดินทางที่ไม่ได้พักจึงไม่มีใครมานั่งพูดมากให้เสียเวลา ยกเว้นผู้เล่นกลุ่มมีดสั้นสีเงินที่พูดคุยกันอย่างออกรส
ยิ่งดินทางพวกเขาก็ยิ่งพบเจอกับกลุ่มคนมากขึ้นทั้งหมู่บ้านพื้นเมืองและกองกำลังที่มองดูก็รู้ว่าเป็นผู้เล่นในทันที ส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นทีไม่ก็เป็นกิลด์เดียวกัน เป้าหมายของผู้เล่นเหล่านี้ก็คือการเดินทางมาเพื่อจับตามองสงครามในข่าวลือกัน
เวลา 05.30 แสงแรกของวันใหญ่ในชายแดนสุดของทุ่งหญ้ากิราเริ่มส่องแสงออกมาจากหลังม่านรัตติกาลแล้ว กายหรี่สายตามองไปด้านหน้า ก่อนจะปรับสภาพสายตาได้อย่างช้า ๆ
ในตอนนั้นเองพ่อค้าฟลินต์ที่ขอตัวไปงีบบนรถม้าก็โผล่หน้าออกมาด้วยใบหน้าที่ง่วงซึมและโทรมเล็กน้อย ก่อนจะชี้ไปด้านหน้าและกล่าวออกมาเสียงดัง
“พวกเรามาถึงแล้ว เมืองแห่งเหมืองใต้ดิน มัลทาฟา”
กาย หัวเหล็กและพรรคพวก มองไปด้านหน้าสถานที่ถูกเรียกว่า มัลทาฟา มันไม่มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอะไร นอกจากรถม้าลากและกระโจม หรือไม่ก็แผงรอยตั้งเรียงรายกันยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตาเท่านั้น
จากมุมมองระยะไกลของพวกเขา มัลทาฟา มีผู้คนหลายหมื่นกำลังเดินไปมาอย่างพลุกพลาน
“เมืองแห่งเหมืองใต้ดิน มัลทาฟา เมืองที่ไม่ถูกนับว่าเป็นเมือง มักจะตั้งอยู่ชายแดนของสองนคร สุดขอบทุ่งหญ้ากิรา ส่วนเหตุที่ไม่นับเป็นเมืองนั้นก็เพราะที่นี่ไม่มีเจ้าเมืองหรือกลุ่มอำนาจใดควบคุม มันเป็นการรวมตัวกันเท่านั้น ถ้ามีใครหรือคนไหนเข้ามาคิดจะควบคุม ผู้คนที่นี่ก็จะสลายตัวไปหาที่แห่งใหม่และที่นั่นจะเรียกว่า มัลทาฟาแทน โดยรวมแล้วก็ไม่ต่างจาก ตลาดแลกเปลี่ยนสิ่งของใต้ดินสักเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้ดูเหมือนผู้คนจะมารวมตัวกันเยอะกว่าปกติ” พ่อค้าฟลินต์อธิบายให้กายและคนอื่น ๆ ฟัง
พวกเขามาเพื่อสงครามและจะมากันอีกมาก กายไม่ได้กล่าวออกไป เขาหันไปพูดติดตลกกับพ่อค้าฟลินต์แทน “ที่นี่คงเปรียบดั่งเหมืองเหรียญทองให้พ่อค้ากอบโกยสินะ”
พ่อค้าฟลินต์ไม่ได้ตอบเพียงแต่ยิ้มมุมปากเท่านั้น ที่จริงกายก็คิดเสียดายอยู่เช่นกัน เพราเขาเองก็นับว่าเป็นสุดยอดพ่อค้าคนหนึ่ง พ่อค้าอาวุธ
เราควรจะส่งจดหมายไปบอกให้นาธานกับมิล่าย้ายร้านที่นครดาราฟ้ามาที่นี่ดีหรือไม่ กายคิดอย่างขบขัน ที่ผ่านมาเขาคอยติดตามการเคลื่อนไหวของร้านตัวเองผ่านกลุ่มผู้เล่นที่มาซื้ออาวุธ
***นาธานและมิล่าคือเด็กฝึกงานที่กายรับมาช่วยดูแลร้านและโรงตีเหล็กที่อยู่นครดาราฟ้า***
ซึ่งตอนนี้ชื่อทางการของร้านกายได้กลายเป็น ร้าน “ไร้ขอบเขต” และเป็นร้านที่มีซื้อเสียงมากในเรื่องสินค้าระดับต่ำ มันตอบสนองผู้เล่นได้อย่างดี แต่จากการประเมินของกายอีกไม่นานอาวุธในร้านคงไม่เพียงพอต่อระดับของผู้เล่นแล้ว
เราควรจะต้องกลับไปจัดการร้านในเร็ววันแล้ว...เริ่มคิดถึงความรู้สึกตอนตีเหล็กขึ้นมาบ้างแล้ว
...........
Witterry : ตอนนี้ไรท์มีเพจเฟสบุ๊คแล้วนะ มากดติดตามเพื่อคอยรับข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้นะ จะมาติดตามทวงนิยายก็ได้ https://www.facebook.com/witterry.writer/ หรือพิมพ์ค้นหาในเฟสบุ๊ค witterry writer ได้เลยนะ