362 - ไม่ปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว
363 - ไม่ปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว
ผู้บ่มเพาะหลายคนในแคว้นซ่งงุนงงและมีเสียงเดือดดาลอยู่ด้านล่าง เด็กชายคนนี้คือคนที่ตระกูลจี้ต้องการไล่ล่า มันทำให้พวกเขาตกใจมาก
เขากล้าหาญจริงๆ ภายใต้การไล่ล่าของตระกูลขุนนางโบราณเขาก็ยังเดินทางมาที่นี่พร้อมกับใช้ออกด้วยทักษะความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่เพื่อฉีกหน้าของตระกูลจี้จนย่อยยับ!
“เจ้า…” จี้อวิ๋นหลินใบหน้าเขียวคล้ำด้วยความโกรธ
“วันนี้ข้ามาคนเดียว หากข้าไม่สามารถฆ่าพวกเจ้าจนหมดรับรองว่าไม่จากไปอย่างแน่นอน!” เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
"เขาเป็นคนที่ตระกูลจี้กำลังมองหา แต่เขากล้าที่จะมาที่นี่ เขามีความกล้าและความแข็งแกร่งมากจริงๆ"
บนยอดเขาที่แตกหักหลายคนกำลังคุยกัน
ตอนนี้ทุกคนตกใจมาก เย่ฟ่านดูมีอายุเพียงสิบห้าหรือสิบหกปีและใบหน้าที่บอบบางของเขาก็ยังดูไม่มีพิษมีภัยแม้แต่น้อย มันยากที่จะเชื่อมโยงเขาเข้ากับฆาตกรต่อเนื่องที่น่ากลัวคนนั้น
ในขณะนี้ยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงสี่คนรีบปิดกั้นไม่ให้เย่ฟ่านสามารถหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ได้
จี้อวิ๋นหลินขบฟันด้วยความโกรธ เย่ฟ่านลงมือสังหารผู้อาวุโสไท่ซ่างของพวกเขา มิหนำซ้ำยังสังหารลูกหลานของตระกูลจี้ไปมากมาย
ในวันนี้หากเขาไม่สามารถฆ่าเย่ฟ่านได้เขาก็คงไม่มีหน้ากลับไปตระกูลหลักเช่นกัน
"จงตายซะ!"
จี้อวิ๋นหลินคำรามจนท้องฟ้าสั่นสะเทือน เขาลงมือด้วยความโกรธเกรี้ยวและมือสีดำก็ฟาดเข้าใส่เย่ฟ่านในทันที
“อย่างนั้นหรือ!”
เย่ฟ่านประสานอินอย่างรวดเร็วและมือสีดำขนาดใหญ่ของเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้าเช่นกัน
ปัง!
สองมือดำใหญ่ชนกันกลางอากาศ รัศมีการกระแทกกันรุนแรงซัดสาดออกไปด้านนอก พลังทำลายล้างในครั้งนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง ผู้บ่มเพาะที่อยู่ในระดับต่ำหลายคนถึงกับต้องกระเด็นกลับหลังในทันที
“พัพ”
สองมือใหญ่สีดำปะทะกันอีกครั้ง คราวนี้เสียงของมันดังมากแม้แต่ก้อนเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าก็ยังแหลกสลายภายใต้แรงกระแทกรุนแรงนี้
ใบหน้าของจี้อวิ๋นหลินบิดเบี้ยว ร่างกายของเขาถูกกระแทกกลับหัวกลับหางและบินออกไปหลายร้อยวาก่อนจะร่วงลงพื้นอย่างรุนแรง
แม้ว่าเย่ฟ่านจะศึกษาคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าเพียงส่วนเล็กๆ แต่ตำหนักเต๋าและทะเลแห่งความทุกข์ของเขานั้นมีความสมบูรณ์แบบจนน่าเหลือเชื่อ
ดังนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแสดงออกมาจึงเป็นสิ่งที่คนในอาณาจักรลึกลับที่สามของตำหนักเต๋ายากที่จะเทียบได้
จี้อวิ๋นหลินคลืบคลานกลับขึ้นมาอีกครั้ง มือของเขาประสานอินอย่างต่อเนื่องพร้อมกับปลดปล่อยฝ่ามือสีดำให้พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
เย่ฟ่านไม่คิดที่จะเล่นอีกต่อไป พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองที่อยู่ในทะเลแห่งความทุกข์ของเขาระเบิดออกมาอย่างเต็มที่ และมือสีดำที่อยู่บนฟ้าก็ขยายใหญ่ขึ้นในทันที
ปัง!
ในระยะไกลผู้คนที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งที่ทั้งสองคนแสดงออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะจินตนาการถึง
หากให้พวกเขาต้องต่อสู้กับคนใดคนหนึ่งรับรองว่าจะต้องตายภายในกระบวนท่าเดียวเท่านั้น
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหวเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวอย่างฉับพลันมันทำให้เขาเตรียมตัวไม่ทันอยู่บ้าง
เขาไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามทำแบบนี้ได้อย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่าจี้อวิ๋นหลินไม่ใช่อัจฉริยะธรรมดาของตระกูลจี้ รากฐานการฝึกฝนของเขาแข็งแกร่งในขณะที่ญาณวิเศษลึกลับของเขาก็ล้ำเลิศอย่างยิ่งเช่นกัน
"ปัง ปัง!”
ฝ่ามือทั้งสองชนกันอีกครั้ง ภายใต้ท้องฟ้าที่สั่นสะเทือน จี้อวิ๋นหลินถูกกระแทกถอยหลังไปหลายสิบก้าวเลือดสีแดงไหลทะลักออกจากมุมปากของเขาแม้ว่าเขาจะพยายามกลืนมันลงท้องแล้วก็ตาม
สุดท้ายแล้ว ต่อให้เขาเผาผลาญแก่นแท้ในร่างกายของตัวเองมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานพละกำลังและพลังศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของเย่ฟ่านได้
ใบหน้าของจี้อวิ๋นหลินมืดคล้ำ เย่ฟ่านเพิ่มความอัปยศให้กับเขาด้วยสุดยอดญาณวิเศษของตระกูลจี้
“น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่หนึ่งในเจ็ดยอดฝีมือรุ่นหลังของตระกูลจี้ ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้เจ้าก็ไม่สามารถมีชีวิตออกไปจากที่นี่ได้!” เย่ฟ่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
แต่ก่อนที่เย่ฟ่านจะได้ลงมาอีกครั้ง ยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ลงมือแล้ว ถ้าจี้อวิ๋นหลินถูกสังหารต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีกคน พวกเขาจะไม่สามารถหาคำอธิบายให้กับตระกูลจี้ได้
"ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ต้องการสอดมือเข้ามาหรือ?” เย่ฟ่านแค่นเสียงเบาๆโดยไม่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
“พวกเราเป็นเหมือนพี่น้องของตระกูลจี้ พวกเราไม่อาจปล่อยให้เจ้าทำชั่วได้อีกต่อไป”
“เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับทายาทของจักรพรรดิอสูร มิหนำซ้ำยังลอบสังหารผู้อาวุโสของตระกูลจี้อีกด้วย” หญิงสาวจากดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงมีน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชอบธรรม
"พวกเจ้าอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ข้าอยู่ที่นี่แล้ว รับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้ารอดชีวิตไปแม้แต่คนเดียว” .
คนพวกนี้รวมตัวกันเพื่อจัดการกับเขา เขาจะไม่แสดงความเมตตาอย่างแน่นอน
"เจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งของเจ้ามีมากพออย่างนั้นหรือ?" หญิงสาวที่งดงามคนนั้นมีสายตาเย็นชา นางหันกลับไปมองศิษย์พี่ศิษย์น้องแล้วกล่าวว่า
"ทุกคน ลงมือพร้อมกัน”
เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชาพร้อมกับโจมตีออกไปในทันที ทั้ง 5 คนนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในอาณาจักรลึกลับที่สามขั้นสูงสุด การปล่อยให้พวกเขาร่วมมือกันจะไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านมีพรสวรรค์โดยกำเนิดและทักษะการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าของดินแดนรกร้างตะวันออกก็ถูกแสดงออกมาในทันที
เขาไม่ได้ตื่นตระหนกหรือวิ่งหนี และในขณะนี้ทะเลจิตวิญญาณของเขาปลดปล่อยพลังสีทองออกมาปกคลุมทั่วสนามรบอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นการโจมตีด้วยผสานด้วยจิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง
ทันใดนั้นหญิงสาวที่งดงามของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เสียงของนางก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อนิ้วมือสีทองของเย่ฟ่านบิดศีรษะของนางออกจากร่างกาย
เลือดสีแดงสาดกระเซ็นไปทั่ว ยอดฝีมือที่เหลืออีกสี่คนไม่มีโอกาสขยับตัวด้วยซ้ำในตอนที่หญิงสาวคนนั้นถูกฆ่าตาย
เดิมทีที่นี่มีผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์จากแคว้นซ่งเดินทางเข้ามาร่วมงานอย่างมากมาย แต่ทันทีหญิงสาวจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงถูกฆ่าพวกเขาก็รีบวิ่งลงจากยอดเขาที่แตกหักอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง เย่ฟ่านนั้นน่ากลัวมากเกินไป เจตนาของทุกคนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ก็เพื่อสังหารเย่ฟ่าน
หากว่าผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและตระกูลจี้ไม่สามารถสังหารเย่ฟ่านได้สำเร็จ มันก็มีโอกาสสูงที่เย่ฟ่านจะลงมือกวาดล้างทุกคนไปด้วยความแค้น!
“พัฟ”
แสงสีทองถูกยิงออกมาจากหน้าผากของเย่ฟ่านอีกครั้ง และศีรษะของผู้ฝึกฝนหนุ่มจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงก็ร่วงลงกับพื้นโดยที่สายตาของคนอื่นๆไม่สามารถมองตามความเคลื่อนไหวทัน
“โจมตีจากระยะไกล สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของคนผู้นี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากพวกเราเข้าใกล้จะถูกควบคุมในทันที” จี้อวิ๋นหลินตะโกนออกมา
ผู้ฝึกฝนชายหญิงที่เหลืออยู่ของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงมีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง พวกเขายังไม่มีโอกาสสัมผัสแม้แต่ชายเสื้อของเย่ฟ่านก็พบกับการสูญเสียไปแล้ว
"ปัง!"
เย่ฟ่านกระแทกจี้อวิ๋นหลินด้วยมือสีดำขนาดใหญ่ของเขา และในขณะเดียวกันสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็กวาดเข้าหาชายหญิงจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอย่างรวดเร็ว
คราวนี้ทั้งสามคนระมัดระวังตัวมากขึ้น และพวกเขาทั้งหมดก็เว้นระยะห่างจากเย่ฟ่านค่อนข้างไกล ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านไม่สามารถแสดงผลได้อย่างเต็มที่
ฝึกฝนชายของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงประสานอินอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นดวงดาวทั้ง 36 ดวงก็ตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรุนแรง
ดาวสีม่วงทั้ง 36 ดวงส่องแสงเจิดจ้า แต่ละดวงนั้นมีลักษณะเหมือนภูเขาลูกใหญ่ เมื่อมันตกลงมาพลังอำนาจการทำลายล้างนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมากมายสักแค่ไหน
"แดง!"
กำปั้นสีทองของเย่ฟ่านต่อยเข้าใส่ดวงดาวดวงแรกที่พุ่งเข้าหาเขาอย่างรุนแรงส่งผลให้ดาวดวงนั้นถูกทำลายกลายเป็นผุยผงในทันที
แต่เขาไม่ได้มีเวลาชื่นชมกับความสำเร็จของตัวเอง เพราะตอนนี้ตาข่ายสีแดงของหญิงสาวจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงครอบเข้าใส่ศีรษะของเขาโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพักหายใจ
ตาข่ายสีแดงขนาดใหญ่นั้นปลดปล่อยเปลวไฟที่ลุกโชติช่วง นี่เป็นสมบัติที่พิเศษมาก และมันก็มัดร่างกายของเย่ฟ่านในทันที