ตอนที่ 135 คีย์การ์ด
ตอนที่ 135 คีย์การ์ด
กายเคาะประตูห้องสองสามครั้ง ก่อนที่เมญ่าจะเดินมาที่ประตู เมญ่าที่อยู่หลังประตูเห็นกายใจสภาพเหนื่อยอ่อนก็ดูจะแปลกใจ แต่เธอก็รีบเปิดประตูให้กายเข้ามาด้านในห้องพัก
“คุณไปทำอะไรมาถึงมีสภาพเป็นแบบนี้” เมญ่าถามด้วยความสงสัย
แต่กายยังไม่ได้ตอบ เพราะสายตาของเขาหันไปเห็นไทเลอร์ก่อน
ตอนนี้ไทเลอร์นั้นอาการดีขึ้นมา เขาลุกขึ้นนั่งได้แล้ว ซึ่งกายเองก็ไม่คิดว่าเพื่อสนิทของเขาจะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้
กายละสายตาจากไทเลอร์หันมาหาเมญ่าก่อนจะพูดว่า “ผมกำลังถูกตามล่าจากคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้ซาเรีย ไทเลอร์นายเองก็อาจจะโดนลูกหลงไปด้วย ตอนนี้เราต้องรีบหนีกันก่อน เพราะถ้าให้ฉันเดาอีกไม่นานพวกมันก็คงจะสืบเรื่องคนใกล้ชิดเจ้ซาเรียและตามมาหานายที่นี่แน่นอน”
“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแล้ว เจ้ซาเรียไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือเรื่องที่เจ้โดนไฟไหม้ตายจะเพราะเรื่องนี้” ไทเลอร์ยิงคำถามมาไม่หยุด เพราะงงกับสิ่งที่กายพูด
กายนึกขึ้นได้ว่าไทเลอร์คงตามเรื่องราวไม่ทัน จึงเล่ารายละเอียดอย่างรวบลัดให้ฟัง
หลังจากที่ไทเลอร์และเมญ่าฟังสิ่งที่ชายหนุ่มเล่า ทั้งสองก็มีสีหน้าตกใจปนสับสน แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามย่อยข้อมูลที่กายเล่าออกมาอย่างรวดเร็ว
“นายกำลังจะบอกว่า เจ้ซาเรียอาจจะเกี่ยวกับองค์กรบางแห่งและกำลังโดนตามล่า”
“แถมยังบอกว่าองค์กรที่ว่าอาจจะเป็นกลุ่มต่อต้าน”
“นายยังโดนชายใส่สูทสีดำสองคนตามล่า ซึ่งก่อนหน้านั้นพวกมันเคยแอบจะเข้ามาจัดการนายก่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่โดนเจ้ซาเรียเก็บไปใช่ไหม”
ไทเลอร์ถามออกมาอย่างต่อเนื่อง กายก็พยักหน้าตอบใช่ทุกคำถาม ไทเลอร์เงียบลงไป เมญ่าก็ถามขึ้นมาบ้าง
“กาย คุณบอกว่าพวกนั้นอาจจะมาตามหาไทเลอร์ด้วยใช่หรือเปล่า คุณแน่ใจใช่ไหมว่าพวกมันจะมาตามหาไทเลอร์”
“ใช่ ผมแน่ใจ เพราะไทเลอร์รู้จักกับเจ้ซาเรียก่อนผมซะอีก”
พอกายกล่าวมาแบบนั้น เมญ่าก็หันขวับจิกตามองไทเลอร์ก่อนในทันที ไทเลอร์ยิ้มแห้ง ๆ ด้วยปากที่ซีดขาวของคนเจ็บ เมญ่าเห็นดังนั้นเธอก็หันมาพูดกับกายต่อ
“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทั้งสองก็ควรจะไปหาที่ซ่อนตัวกันก่อน”
“คุณไม่ไปอย่างนั้นเหรอ” กายถามหญิงสาว
“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของสำงานเขต 7 พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรหรอก” เมญ่าตอบกลับไปตามจริง ด้วยสามัญสำนึกของคนทั่วไปแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานให้รัฐบาลหรือทางการแล้ว จะไม่มีใครอยากไปมีปัญหาด้วย เพราะถ้าเกิดเรื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทางรัฐบาลคงส่งคนมาจัดการอย่างจริงจังเพื่อแสดงอำนาจของตนเอง
แต่กายไม่คิดอย่างนั้นเพราะชายใส่สูทสีดำสองคนนั้นถึงกับกล้าโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกมันคงไม่สนใจสถานะเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารอย่างเมญ่าแน่นอน
กายส่ายหัว ก่อนและกล่าว “ไม่ได้ คุณยังไม่รู้ พวกมันกล้าโจมตีตำรวจ ถ้าพวกมันไม่เจอไทเลอร์ พวกนั้นคงเดาได้ว่าผมมาเตือนและพากันหนีไปพร้อมกับไทเลอร์ พวกชายใส่สูทสีดำคงหันมาเล่นงานคุณเพื่อบังคับให้ไทเลอร์ออกมาแน่ และนั้นก็คงทำให้ผมไม่อยู่เฉย ๆ ด้วย”
“พวกันต้องการอะไรจากเรากันแน่” ไทเลอร์ถาม
“ต้องการหาตัวของเจ้ซาเรีย” กายตอบ
“แสดงว่าเจ้ซาเรียยังไม่ตายสินะ เมญ่า คุณควรไปกับพวกเราด้วย ผมไม่ไว้ใจถ้าปล่อยคุณไว้คนเดียว” ไทเลอร์หันไปมองแฟนสาวของตัวเองด้วยสายตาจริงจัง เมญ่าลังเลสักครู่ แต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้าตกลง
กายเมื่อเห็นว่าทั้งสองตกลงกันแล้ว เขาก็ถามถึงอาการไทเลอร์ก่อนในทันที
“ไทเลอร์ตอนนี้อาการนายฟื้นตัวแค่ไหนแล้ว”
“อืม ฉันพอจะขยับตัวได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว ต้องขอบคุณนายที่ยอมจ่ายค่ารักษาให้ฉันแพงขนาดนั้น มันทำให้ฉันฟื้นตัวเร็วมาก แต่แผลก็ยังไม่ได้หายดีมากนักหรอก” ไทเลอร์อธิบายให้กายฟัง
กายพยักหน้าเข้าก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าเขาสั่งแขนกลมาให้ไทเลอร์ใช้
“นายลองใส่แขนกลหรือยัง”
“ยังมันอยู่ตรงนั้น ฉันรอให้แผลหายเจ็บอีกสักหน่อยค่อยลองใส่”
“ถ้าอย่างนั้นก็เอามันไปด้วย”
“เราควรรีบออกไปก่อนที่พยายามจะเข้ามาตรวจอีกรอบ” เมญ่าเตือนทั้งสอง
พวกเขาทั้งสามควรจะรีบออกไปจากที่นี่ในทันที แต่แม้จะตกลงชวนกันหนีไปหลบจากพวกชายชุดดำแต่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะไปที่ไหนกัน
“เราจะไปซ่อนที่ไหน” ไทเลอร์ถามกาย
“ฉันยังไม่คิด ว่าจะนั่งรถไปเรื่อย ๆ เคลื่อนที่ไปก่อนจากนั้นค่อยหาที่พักไปเรื่อย ๆ” กายกล่าวแผนของตัวเอง
“เราไปที่บ้านพักของฉันก่อนเป็นอย่างไรพวกคนที่คุณพูดถึงคงยังไม่สืบจนรู้ที่อยู่ฉันแน่นอน เราน่าจะมีเวลาหาทางออกได้” เมญ่าเสนอความคิด
กายและไทเลอร์ พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เมื่อตกลงกันได้แล้ว ก่อนอื่นพวกเขาทั้งสามก็เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาลในทันที เมญ่าเตรียมเก็บข้าวของส่วนกายนั้นออกไปด้านนอกก่อนจะมองหารถเข็นและนำมันกลับมาที่ห้องพัก
“ที่จริงฉันพอจะเดินไหวน่า” ไทเลอร์ตอบออกมากึ่งจริงกึ่งเล่น
“แบบนี้เร็วกว่า” กายไม่สนใจเพื่อนขี้เก๊ก ที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเจ็บจนเดินไม่ถนัด เขาช่วยพยุงไทเลอร์มานั่งที่รถเข็น ก่อนจะยกกล่องใส่แขนกลวางลงไปที่ตักไทเลอร์
ไทเลอร์ใช้แขนขวาที่เหลือเพียงข้างเดียวจับไปที่กล่องแขนกล ก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ ให้กายเข็นเขาออกไปจากห้อง โดยมีเมญ่าถือยาที่ไทเลอร์ต้องกินออกมาด้วย ซึ่งยาพวกนี้เป็นแค่ยาแก้ปวดชั่วคราวเท่านั้น ส่วนยาอื่น ๆ นั้นไม่ได้มีอยู่ในห้อง เพราะโดยปกติแล้ว พยาบาลจะเป็นคนเอายาเข้ามาให้ไทเลอร์กินเป็นเวลา
“ไปทางซ้าย ทางนั้นเป็นทางที่เชื่อไปยังประตูทางออกด้านหลังได้” เมญ่าอยู่ที่นี่หลายวัน เธอจึงพอรู้เส้นทางอยู่บ้าง
ทั้งสามไม่รอช้ามุ่งหน้าไปทางออกในทันที แต่แล้วพอใกล้จะถึงทางออก ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นว่ามีนางพยาบาลยืนรอพวกเขาอยู่
อะไรกันเราถูกจับได้แล้วอย่างนั้นเหรอ...ไม่สิ เธออาจจะแค่มายืนรอคนอื่นก็ได้
กายเริ่มเข็นรถเข็นช้าลง ไทเลอร์และเมญ่าก็เห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกายเช่นกัน ทั้งสองมองไปที่นางพยาบาลสาวด้วยความระวังตัว
ขณะที่ทั้งสามกำลังจะผ่านนางพยาบาลสาวคนนั้น อยู่ ๆ เธอก็เปิดปากพูดออกมา
“มีคนฝากของมาให้” นางพยาบาลกล่าวจบ ก็วางกล่องพาสติกใส่ไว้ที่พื้นก่อนที่จะเดินจากใบทั้งอย่างนั้น
กาย ไทเลอร์และเมญ่า ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร นางพยาบาลสาวก็เดินหายไปยังมุมหนึ่งแล้ว ทั้งสามจึงมองไปที่กล่องพาสติกใสที่อยู่บนพื้น ด้วยความที่กล่องมันใส่จึงมองไปที่ด้านใน
“เอายังไงดี” ไทเลอร์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นเงยหน้ามองกายที่เข็นรถเข็นอยู่
“เมญ่าช่วยพาไทเลอร์ออกไปไกล ๆ ก่อน ผมจะดูเอง” กายกล่าว เมญ่าพยักหน้าเงียบ ๆ เดินเข้ามาเข็นไทเลอร์ออกห่างจากตรงนี้ไปราว ๆ 10 เมตร
กายก้มลงมองกล่องพาสติกใส่ ก่อนจะหยิบมันหยิบมันขึ้นมาอย่างระวัง กายกังวลมามันจะระเบิดตูมเหมือนในหนัง แม้เขาจะเห็นของด้านใน
กายเปิดฝ่ากล่องออก ที่ฝ่ากล่องด้านในมือของบางอย่างติดอยู่ มันคือคีย์การ์ดของที่พัก ซึ่งกายก็ไม่รู้จักว่ามันคือที่ไหน แต่ยังดีที่มีกระดาษจดหมายแนบมาด้วย ส่วนของที่เหลือด้านในนั้นเป็นยาบางอย่างเท่านั้น
เขายังไม่ได้เปิดอ่านจดหมาย แต่ตรวจสอบของด้านใน สุดท้ายเมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงเดินเอายาพวกนั้นไปให้เมญ่าและไทเลอร์ดู
“ยาพวกนี้มันเป็นของที่ไทเลอร์ต้องกินนี่ ดูเหมือนจะพอสำหรับ 2 สัปดาห์”
“ดูเหมือนจะมีคนคอยช่วยพวกเรา”
เมญ่าและไทเลอร์กล่าวออกมาตามลำดับ
กายเองก็พยักหน้าเห็นด้วยดูเหมือนจะมีคนคอยช่วยพวกเขาอยู่ ทั้งสามมองไปที่จดหมาย กายจึงเปิดมันขึ้นมาอ่านในทันที
พอได้อ่านสีหน้าของกายก็ผ่อนคลายลงก่อนจะยิ้มออกมา ไทเลอร์เห็นแบบนั้นก็ถามขึ้นมา
“จดหมายจากใคร”
“จากเจ้ซาเรีย เธอขอโทษที่ลากพวกเราเข้ามาพัวพันเรื่องนี้ จึงให้คีย์การ์ดที่อยู่ที่ปลอดภัยมา แล้วก็ยานั้นคือของนาย ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าฉันจะมาหานายและพากันหนี” กายส่งจดหมายให้ไทเลอร์และเมญ่าอ่าน
ทั้งสองอ่านจดหมายเสร็จก็ส่งคืนกายก่อนจะพูดออกมา
“เจ้ซาเรียไม่ได้บอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน”
“บางทีเธอคงระวังตัวมาก ๆ อาจจะเพื่อเราและตัวเธอเองด้วย”
“นั้นก็จริง ยิ่งเรารู้น้อยยิ่งปลอดภัย”
กายพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วเราจะเอายังไงต่อ” ไทเลอร์ถาม
“ไปที่อยู่นี่กันก่อน” กายจับคีย์การ์ดในมือแน่น ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะออกจากโรงพยาบาลประจำเขต 7 ไป
...
กาย ไทเลอร์และเมญ่านั่งรถมากันถึง 3 ต่อนานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ถูกตามรอยได้ง่าย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทั้งสามพอจะคิดออก
จนในที่สุดก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง มันเป็นคอนโดสูง 20 ชั้นที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เมื่อเข้ามาด้านในกลับต้องพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ยามหรือใครเลย ทุกอย่างถูกดูแลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งที่พักคอนโดแบบนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปในย่านเขตเจ็ด
“เข้าไปที่ห้องกันเถอะ”
กายพูดจบก็เดินไปประตูหยิบคีย์การ์ดออกมาสแกน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปและเดินไปที่ลิฟต์ เมญ่าเข็นไทเลอร์ตามมา ก่อนทั้งสามจะหายไปในลิฟต์
กายใช้คีย์การ์ดที่ได้มาสแกนที่ช่องสแกนข้างลิฟต์เช่นกัน
“คีย์การ์ดถูกล็อก กรุณายืนยันข้อมูล” หลังจากมีเสียง AI หญิงสาวดังขึ้นก็มีช่องสแกนลายมือเปิดขึ้น กายงงกับสิ่งที่เห็น ทั้งสามมองหน้าไปมาก่อนที่กายจะยื่นมือลงไปสแกน
“ยืนยันลายนิ้วมือถูกต้อง”
“สวัสดีคุณกาย เราจะพาคุณและเพื่อนไปยังชั้น 9 ในทันที”
ลิฟต์เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีลิฟต์ก็หยุดลง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก
“ห้อง 2” กายกล่าวออกมาเมื่อมองดูตัวเลขในคีย์การ์ด ก่อนที่พวกเขาจะไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน กายก็เจอกับห้องพักขนาดใหญ่
แต่ที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ที่กลางห้องมีแคปซูลเกมอยู่สองเครื่องและทั้งสองคือสิ่งที่กายคุ้นเคย
“แคปซูลเกมจากที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8”