WS บทที่ 329 ถูกบังคับให้ต้องถอย
ร่างกายของเยเลน่าเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่รุนแรงและการนองเลือด หลังจากถูกความมืดปกคลุม เธอถึงกับส่งเสียงคำรามดังลั่นแต่ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลง
*ครืน!*
ร่างของเมอร์ลินเข้าสู่ความมืดทันที ไม่ว่าเยเลน่าจะแข็งแกร่งเพียงใด พลังจิตของเธอก็เทียบได้กับนักเวทย์ระดับห้าเท่านั้น ไม่มีทางที่เธอสามารถต้านทานสายธารแห่งความมืดของเมอร์ลินได้
"จงลุกไหม้!"
เปลวเพลิงสีซีดแผดเผาอย่างรุนแรงในความมืดของราตรีกาลและทำให้หมาป่าตัวใหญ่จมอยู่ในกองเพลิงในชั่วพริบตา…
“เอ๊ะ? เยเลน่า เธอเป็นอะไรไป?”
พ่อมดโอเดนผู้ซึ่งกำลังปราบปรามผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ เห็นว่าร่างของเยเลน่า สาวหมาป่าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดและเปลวเพลิงสีซีดที่ลุกโชนลุกโชนรุนแรง โอเดนมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
*ครืน...*
ความมืดค่อย ๆ หายไป และร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากหมอกดำ อย่างไรก็ตาม คนที่ออกมาไม่ใช่เยเลน่าแต่เป็นเมอร์ลิน!
ใต้เท้าของเมอร์ลินเป็นศพที่มีสีดำเหมือนถ่าน และมันคือเยเลน่า เพลิงวินาศของเมอร์ลินล้มเหลวในการเผาร่างของเยเลน่าให้เป็นเถ้าถ่าน นี่แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเธอแข็งแกร่งเพียงใด หากเขาไม่พึ่งพาสายธารแห่งความมืดเพื่อลากเธอไปสู่ภาพลวงตา มันคงจะยากมากที่เขาจะฆ่าเธอ
พ่อมดโอเดนสังเกตเห็นร่างของเยเลน่าที่เท้าของเมอร์ลินและสายตาของเขาก็หยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงนี้เกินความคาดหมายของโอเดน
เยเลน่าได้ต่อสู้เพื่อองค์ชายสี่มานับไม่ถ้วน เธอยังต้องเผชิญกับอันตรายมากมายแต่เธอก็สามารถรอดกลับมาได้ เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะตายในที่แบบนี้และยิ่งไปกว่านั้น เธอถูกฆ่าโดยบุคคลที่ไม่รู้จัก
“คุณคือนักเวทย์อัจฉริยะจากดินแดนมนต์ดำ ลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอ เมอร์ลินสินะ?”
ก่อนที่โอเดนจะลงมือปฏิบัติภารกิจเพื่อฆ่าผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ เขาได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่า ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ไปที่เมืองปรากาซเพื่อไปรับเมอร์ลิน บางทีเมอร์ลินอาจกลายเป็นที่สนใจเพียงเพราะเขาฆ่าไวส์กับบลูเบิร์ดแต่พวกเป็นพวกนักเวทย์ที่ต่ำกว่าระดับสี่เท่านั้น
สำหรับนักเวทย์ระดับหกอย่างโอเดน เขาเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลัง ดังนั้นเขาจะไม่นำ ‘ความสำเร็จ’ ของเมอร์ลินมาใส่ใจ แม้แต่แผนการลอบสังหารผู้เฒ่างูของเขาในครั้งนี้ก็ไม่ได้นำเมอร์ลินมาพิจารณา
ถึงกระนั้น เมอร์ลิน คนเดียวที่เขา ‘มองข้าม’ เขาเพิ่งสังหารเยเลน่ามาสด ๆ ร้อน ๆ!
“พวกเจ้าทั้งสามคน ไปหยุดเขา!”
ใบหน้าของโอเดนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เขาพาคนสี่คนมาด้วย แต่ตอนนี้เยเลน่าตายแล้ว เยเลน่าไม่เพียงแต่ทรงพลังเท่านั้น แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่องค์ชายสี่ชื่นชอบอีกด้วย ตอนนี้เธอเสียชีวิตภายใต้คำสั่งของโอเดน ดังนั้น แม้ว่าภารกิจจะประสบผลสำเร็จ เมื่อพวกเขากลับไป เขาก็ยังไม่พ้นโทษ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โอเดนก็รู้สึกหงุดหงิดมาก ความโกรธแค้นของเขาได้รับการกระตุ้นและคาถาที่เขาปลดปล่อยออกมาสู่ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ก็ทวีความรุนแรงขึ้นด้วยเช่นกัน เยเลน่าตายไปแล้ว ร่างของเธอไม่สามารถกู้คืนได้แต่งานที่ทำอยู่นั้นต้องทำให้สำเร็จ
สิ่งเดียวที่โอเดนสามารถทำได้ในตอนนี้คือทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อบรรเทาการลงโทษของเขาจากองค์ชายสี่
ผู้เฒ่างูได้เปิดเผยรูปร่างที่แท้จริงของเขาแล้วและส่วนบนของศีรษะก็เต็มไปด้วยอักษรรูนที่สลับซับซ้อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับการโจมตีด้วยคาถาอย่างรุนแรงของโอเดน เขาเริ่มสูญเสียพลังไปทีละน้อย อักษรรูนเริ่มกะพริบและดูเหมือนเขาจะทนไม่ไหวอีกต่อไป
*หวู่ม! หวู่ม! หวู่ม!*
ร่างสามร่างก่อตัวเป็นวงกลมอย่างรวดเร็ว ล้อมรอบเมอร์ลินอยู่ตรงกลาง
นักเวทย์ทั้งสามนี้เป็นระดับห้าทั้งหมด พวกเขาจ้องไปที่เมอร์ลินอย่างตึงเครียด เนื่องจากพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าเยเลน่า ดังนั้นพวกเขาไม่น่าจะทำอะไรเมอร์ลินได้
เมอร์ลินเหลือบมองผู้เฒ่างูและคนอื่นๆ เขาพบว่าสถานการณ์ของพวกเขากำลังเข้าตาจน ถ้าเมอร์ลินรอจนโอเดนจัดการผู้เฒ่างูเสร็จแล้วมาจัดการเขา เขาก็คงจะลำบากเหมือนกัน
“สายลมแสงวาบ!”
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วร่างของเขาก็สั่นเล็กน้อย ในชั่วพริบตา เขาได้ฝ่าวงล้อมของผู้ร่ายเวททั้งสามคน ความเร็วของสายลมแสงวาบนั้นเร็วมากจนร่างหมาป่าของเยเลน่าก็ตามความเร็วของมันแทบไม่ทัน
ดังนั้นคนอื่น ๆ จึงทำอะไรเมอร์ลินไม่ได้เลย ส่วนเมอร์ลินเองก็คิดว่าเสียเวลาที่จะมายุ่งกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงรีบไปจัดการที่โอเดนโดยตรง!
“ฮึ่ม เจ้าพวกไร้ประโยชน์!”
เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินรีบออกจากวงล้อมและตรงไปหาเขา ใบหน้าของโอเดนก็แสดงอาการเย็นชา จากนั้นเขาก็กางนิ้วออก ร่องรอยของความหนาวเย็นลอยออกมาและเริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
*ครึ่ก! ครึ่ก!*
ทุกสิ่งรอบตัวพ่อมดโอเดนถูกแช่แข็งด้วยผลึกน้ำแข็งและความหนาวเย็นยังคงแผ่ขยายออกไป นี่คือคาถาระดับหก แม้แต่ผสานผืนพิภพกับเสื้อคลุมพ่อมดก็ไม่อาจต้านทานได้
ถึงกระนั้น เมอร์ลินก็ไม่สามารถกลับไปได้ เมื่อเขาถอยกลับไป ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ก็จะตายอย่างไม่อาจหลีกหนีได้!
“เตรียมรับมือให้ดี นักเวทย์ระดับหก! วังวนแห่งความมืด!”
เมอร์ลินจ้องไปที่โอเดนแล้วโบกมือ กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของโอเดนทันที ราวกับหลุมดำ มันลึกอย่างไม่มีกำหนด กลืนกินพลังธาตุมืดทั้งหมด
นี่คือคาถาระดับสามวังวนแห่งความมืด มันสามารถกลืนกินพลังจิตทั้งหมดได้ แม้แต่นักเวทย์ที่มีพลังจิตมหาศาล เมื่อติดอยู่ในวังวนแห่งความมืด พลังจิตของพวกเขาก็จะถูกกลืนหายไป กลายเป็นภาพลวงตา
นอกจากนี้ วังวนแห่งความมืดยังหลอมรวมกับดวงใจแห่งความมืด ซึ่งทำให้ภาพหลอนนั้นสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพ่อมดโอเดนจะถูกลากเข้าไปในภาพลวงตาหรือไม่นั้น เมอร์ลินก็ไม่อาจทราบได้
วังวนแห่งความมืดเป็นหนึ่งในคาถาธาตุมืดที่ทรงพลังและแปลกประหลาดที่สุดในบรรดาคาถาระดับสามทั้งหมด ถ้าเมอร์ลินไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเดอะเมทริกซ์ เขาจะไม่มีวันคิดสร้างคาถานี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวังวนแห่งความมืดถูกสร้างขึ้น พลังของมันก็น่ากลัวเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากหลอมรวมเข้ากับดวงใจแห่งความมืดแล้ว มันจะยิ่งน่ากลัวขึ้นมาก
ทันทีที่วังวนแห่งความมืดปรากฎ มันก็เริ่มกลืนกินพลังธาตุมืดรอบตัวมันอย่างบ้าคลั่ง ที่สำคัญกว่านั้นคือมันกำลังกลืนกินพลังจิตของนักเวทย์ในบริเวณนั้น
แม้ว่าพลังจิตจะมองไม่เห็นแต่วังวนแห่งความมืดก็ยังคงสามารถกลืนกินมันได้ ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ รวมถึงพ่อมดโอเดนซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด ล้วนได้รับผลกระทบจากวังวนแห่งความมืด พวกเขารู้สึกว่าพลังจิตถูกดึงออกจากร่างกายและรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง
*ครืน… ครืน… ครืน…*
นอกจากการกลืนกินของวังวนแห่งความมืดแล้ว ตัวมันเริ่มขยายขึ้นเรื่อย ๆ แต่เดิมมันมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงหนึ่งเมตรก็เริ่มขยายตัวอย่างบ้าคลั่ง ในชั่วพริบตา มันก็ขยายเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางสิบเมตร กระทั่งปิดบังพ่อมดโอเดนที่อยู่ภายใน
“จังหวะนี้แหละ เพลิงวินาศ!”
เมอร์ลินไม่ลังเลที่จะร่ายเพลิงวินาศออกมา ทันใดนั้น เปลวไฟสีซีดก็กลายเป็นฝนเพลิงทันที พวกมันบินตรงไปยังวังวนแห่งความมืดและย้อมให้เป็นสีขาวอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เมอร์ลินต่อสู้กับนักเวทย์ระดับหกและเป็นนักเวทย์ระดับหกที่ทรงพลังด้วย พ่อมดโอเดนไม่สามารถเทียบได้กับนักเวทย์ระดับหกทั่วไปได้
*ครึ่ก! ครึ่ก!*
ทันใดนั้น เปลวไฟสีซีดเริ่มแรกถูกแช่แข็งด้วยความหนาวเย็นในชั่วพริบตา จากนั้น ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากวังวนแห่งความมืดขนาดมหึมานั่น ร่างนั้นคือพ่อมดโอเดนซึ่งพลังจิตถูกกลืนกินโดยวังวนแห่งความมืดก่อนหน้านี้
ท้ายที่สุด พ่อมดโอเดนเป็นนักเวทย์ระดับหกและพลังจิตของเขาก็แข็งแกร่งมาก วังวนแห่งความมืดของเมอร์ลินทำได้เพียงทำให้เขาตกอยู่ในภาพลวงตาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พ่อมดโอเดนจมดิ่งลงไปในภาพลวงตา เขาก็สามารถต้านทานความร้อนของเพลิงวินาศได้ ตัวเขานั้นแข็งแกร่งมาก!
*หวู่ม! หวู่ม!*
ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ รีบเข้าหาเมอร์ลิน ผู้เฒ่างูรู้จักโอเดนเป็นอย่างดี เขากระซิบกับเมอร์ลินว่า “พ่อมดเมอร์ลิน ฉันไม่ได้คาดหวังว่าคาถาธาตุมืดของคุณจะสามารถลากโอเดนเข้าสู่ภาพลวงตาในชั่วขณะหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าโอเดน บางทีคุณอาจไม่รู้ว่าเคล็ดลับที่ทรงพลังที่สุดของพ่อมดโอเดนคือคาถาป้องกันของเขา เขามีพลังปีศาจแพนดอร่าด้วย ซึ่งรวมเข้ากับคาถาของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้รับการคุ้มครองโดยคาถาป้องกันตลอดเวลา”
“มีนักเวทย์ระดับเจ็ดที่ต่อสู้กับโอเดนมากมายแต่ไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ เราต้องการที่จะฆ่าเขาแต่มันยากจริง ๆ”
ปรากฎว่าโอเดนมีพลังที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นหนึ่งในพ่อมดที่มีอำนาจมากที่สุดขององค์ชายสี่ บางทีในฐานะพ่อมดลำดับที่เก้า ความแข็งแกร่งของโอเดนนั้นไม่ค่อยดีนัก แต่เขาเป็นคนที่ฆ่ายากที่สุด
“อย่างนั้นหรือ? ถึงเขาจะมีตัวช่วยที่น่ารำคาญแต่การจะฆ่าเขาเป็นเรื่องยุ่งยากจริง ๆ อย่างั้นเหรอ?”
มีรอยยิ้มที่ริมฝีปากของเมอร์ลินด้วยดวงตาของเขาที่จ้องมองที่โอเดน อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นที่จะฆ่าโอเดนเพราะเขาได้รับการปกป้องจากเวทมนตร์เสมอ
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินเป็นพ่อมดแห่งความมืด ผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์ธาตุมืด ก่อนหน้านี้ วังวนแห่งความมืดได้ทำให้โอเดนตกอยู่ในภาพลวงตาไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เพียงพอแล้วที่โอเดนจะถือว่ามันเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่
ในขณะที่เขาตกลงไปในภาพลวงตา เขาไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ได้อีกต่อไป หากเขาอยู่ภาพลวงตายาวนานขึ้นอีกหน่อย เวทมนตร์ที่เขาร่ายออกมาจะคงอยู่ได้นานแค่ไหน?
แม้โอเดนจะไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ก่อนหน้านี้ เพราะเขาใช้คาถากับพลังปีศาจแพนโดร่า นอกจากนี้ เวลาที่ใช้ในภาพลวงตานั้นสั้นมาก ดังนั้นเพลิงวินาศของเมอร์ลินจึงไม่สามารถทำลายคาถาป้องกันของพ่อมดโอเดนได้
อย่างไรก็ตาม โอเดนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของเมอร์ลิน ถ้าเขาติดอยู่ในภาพลวงตาเป็นเวลานาน มันจะอันตรายมาก ดังนั้น โอเดนจึงมีสีหน้าที่ปั้นยากบนใบหน้าของเขา เขาไม่สามารถตัดสินใจได้
สีหน้าของเมอร์ลินดูเคร่งขรึมขณะที่เขาพูดกับพี่งูว่า “ผู้เฒ่างู ทันทีที่ฉันพูดว่า 'พุ่งเข้าไป' พวกคุณก็พุ่งเข้าพร้อมกัน เราจะรวบรวมการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเราและฆ่าโอเดนซะ!”
เมอร์ลินประกาศเสียงดัง แม้แต่โอเดนก็ยังได้ยินเช่นกัน สีหน้าของโอเดนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาเคยสัมผัสประสบการณ์วังวนแห่งความมืดมาก่อนหน้านี้แล้ว ความรู้สึกที่พลังจิตของเขาถูกกลืนกินและจมดิ่งสู่ภาพลวงตา ทำให้เขาระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง
“ดี ดีมาก พ่อมดเมอร์ลิน เราจะได้พบกันอีกครั้งในเมืองอิมพีเรียล!”
โอเดนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของ เมอร์ลิน จากนั้นเขาก็นำนักเวทย์อีกสามคนและรีบหันหลังหนีจากที่นี่ ไม่นานก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปในความมืดยามราตรี