361 - จะได้ไม่เสียเวลาฆ่าทีละคน!
361 - จะได้ไม่เสียเวลาฆ่าทีละคน!
เย่ฟ่านใช้ตราประทับแห่งขุนเขาเพื่อบดขยี้จี้อวิ๋นเฟิงจนตายทั้งเป็น มันทำให้ทุกคนตกอยู่ในความมึนงง ศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณถูกฆ่าตายง่ายๆเช่นนี้!
“เขาเป็นใครกันแน่ หรือว่าแท้ที่จริงแล้วเขาคือร่างจำแลงของราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่!”
“บุคคลผู้นี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์มากมายมหาศาลราวกับว่าจะไม่มีวันใช้หมดสิ้น หรือว่าเขาเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่ง?”
“คนคนนี้ต้องมีร่างศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นพลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”
ภูเขาที่แตกสลายกำลังเดือดพล่าน ผู้คนพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน ศิษย์ของตระกูลขุนนางโบราณถูกทุบตีจนตาย นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ตระกูลจี้จะไม่มีวันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปอย่างเด็ดขาด!
"เจ้าคือใคร?!"
ยอดฝีมืออีกสามคนของตระกูลจี้ยืนอยู่บนท้องฟ้าล้อมรอบเย่ฟ่านไม่ให้หลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ได้
“ข้าต้องการล้างแค้นอวิ๋นเฟิง!”
หนึ่งในนั้นส่งเสียงเย็นชา จู่ๆเขาก็หายตัวไปและปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเย่ฟ่าน!
"ว้าว"
ทุกคนอยู่ในความโกลาหล การลงมือของคนผู้นี้เร็วเกินไป เขาใช้ทักษะที่อยู่ในคัมภีร์แห่งความว่างโดยทำให้ร่างกายของตัวเองหายไปโดยที่ศัตรูไม่สามารถตรวจจับได้
ชุดยาวของเย่ฟ่านโบกสะบัดเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยโดยไม่แสดงความตื่นตระหนกแต่อย่างใด
ในขณะนั้นกระบี่ปราณได้ฟันเข้าใส่ลำคอของเย่ฟ่านจากทางด้านหลังอย่างรุนแรง
"แดง!"
กำปั้นสีทองของเย่ฟ่านต่อยสวนกลับไปและมันปะทะกับคมของกระบี่ตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยง ทำให้กระบี่ปราณเล่มนั้นแตกสลายในทันที
แต่เด็กหนุ่มของตระกูลจี้คนนั้นดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร ร่างกายของเขาที่ปรากฏขึ้นมาชั่วครู่ได้หายไปกับความว่างเปล่าอีกครั้ง
“ความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่!”
“ใช่ นี่เป็นญาณวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลจี้ มันสามารถเดินทางผ่านอากาศได้ในระยะทางสั้นๆ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถตรวจจับทิศทางการโจมตีได้!”
ในเวลานี้ผู้คนบนภูเขาที่แตกสลายต่างก็ตื่นเต้นกับการโจมตีของเด็กหนุ่มจากตระกูลจี้คนนั้น
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก ความสำเร็จในวิชาความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ของคนผู้นี้ยังไม่สามารถเทียบกับของเขาได้ด้วยซ้ำ
ตั้งแต่มาถึงภาคเหนือเขายังไม่เคยใช้วิชานี้ออกแม้แต่ครั้งเดียวเพราะเกรงว่าคนอื่นจะสามารถระบุตัวตนของเขาได้ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น
ตอนนี้ทักษะการเคลื่อนไหวที่เขาได้เรียนรู้มาจากชายชราผู้บ้าคลั่งพัฒนาขึ้นไปมาก มันทำให้วิชาความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป!
จี้อวิ๋นเฉิงรู้สึกประหลาดใจมาก แม้เขาจะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งไม่น้อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าเย่ฟ่านจะจัดการการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายๆแบบนี้
จากการโจมตีเมื่อสักครู่ แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะดูเหมือนเสมอกันแต่เขารู้ดีว่าตัวเองยังอ่อนด้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่บ้าง
"ปัง!"
ฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับกำปั้นของเย่ฟ่านอีกครั้ง
มือสีดำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ในท้องฟ้าและกดลงมาด้านล่างในตอนที่เย่ฟ่านดูเหมือนจะขาดความระมัดระวัง แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่สามารถทำอะไรเย่ฟ่านได้
“ปัง”
ฝ่ามือสีดำยังคงปะทะกับกำปั้นสีทองอย่างต่อเนื่อง แรงโจมตีจากทั้งสองคนกระจายออกสู่ด้านนอกทำให้ผู้ฝึกฝนหลายคนหน้าซีดเผือด
ผู้ที่ยังไม่เข้าสู่อาณาจักรตำหนักเต๋าต้องถอยห่างจากสนามรบให้ไกลมากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น!
เย่ฟ่านตั้งรับการโจมตีอย่างสบายๆอยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตามคนผู้นี้แข็งแกร่งกว่าจี้อวิ๋นเฟิงอย่างเห็นได้ชัด มือใหญ่สีดำที่ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าก็มีพละกำลังมากมายมหาศาล!
นี่คือพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัว มันมืดมน น่าทึ่ง และปรากฏออกมาโดยไม่มีร่องรอยทำให้ยากที่จะป้องกัน!
หมัดของเย่ฟ่านสว่างไสวด้วยแสงสีทอง และเขากระแทกเก้าหมัดขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง การโจมตีของเขาทำให้ความว่างเปล่าแตกออกคล้ายกับใยแมงมุม ดูน่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง
“บุตรของตระกูลจี้เจ้าทำได้แค่นี้เองหรือ ความสามารถของเจ้ายังคงอ่อนด้อยมากเกินไป ข้าคิดว่าพวกเจ้าสามคนควรเข้ามาพร้อมกันจะดีกว่า ข้าจะได้ไม่เสียเวลาฆ่าทีละคน”
เย่ฟ่านจงใจกล่าวเช่นนี้เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกโจมตีจากคนทั้งสามพร้อมกัน
ตระกูลขุนนางโบราณนั้นหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีมาก ต่อให้พวกเขาสู้คนอื่นไม่ได้ก็ยากที่จะใช้พวกมากเข้ารุมบุคคลรุ่นเดียวกัน!
“ข้าจะสู้กับเขาเพียงคนเดียว พวกเจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่ง!” จี้อวิ๋นเฉิงตะโกนบอกพี่น้องของเขา
ที่ด้านข้างศิษย์ตระกูลจี้อีกสองคนมีใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย พวกเขาเตรียมที่จะลงมือแล้ว แต่เมื่อจี้อวิ๋นเฉิงกล่าวเช่นนี้พวกเขาก็ยากที่จะสอดมือเข้าไป
“เล่นกับเขาอย่างยุติธรรมก่อน หากสถานการณ์ไม่ดีพวกเราค่อยลงมือก็ยังไม่สาย” หนึ่งในนั้นส่งเสียงอย่างลับๆ
ที่มุมปากของเย่ฟ่านมีรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้น เขาปล่อยให้จี้อวิ๋นเฉิงโจมตีเข้ามาโดยไม่หลบเลี่ยง
หากต้องการได้รับชัยชนะโดยที่ศิษย์อีกสองคนของตระกูลจี้ไม่สามารถสอดมือเข้ามาทันมีเพียงต้องใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเท่านั้น!
“ทักษะความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ สมแล้วที่เป็นญาณวิเศษปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันมีพลังที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้!”
“มันน่ากลัวจริงๆ การโจมตีของคุณชายจี้นั้นรุนแรงมาก ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันปรากฏขึ้นมาจากตรงไหน?”
ผู้ฝึกฝนที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างก็ประหลาดใจ
เย่ฟ่านเยาะเย้ยที่มุมปาก ญาณวิเศษลึกลับประเภทนี้เว้นแต่จะฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดจึงจะสามารถลบร่องรอยของตัวเองออกไปได้จนหมดสิ้น
หากมันถูกแสดงออกมาต่อหน้ายอดฝีมือที่มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งเช่นตัวเขา วิชานี้ก็แทบจะกลายเป็นวิชาที่ไร้ประโยชน์ไปเลย!
อย่างไรก็ตาม เย่ฟ่านยังคงชื่นชมจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าที่สามารถคิดค้นวิชานี้ขึ้นมา หากมันถูกใช้ออกจากมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับเขาต่อให้เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ด้วยกันก็ยากที่จะสังเกตร่องรอยได้
น่าเสียดายที่จี้อวิ๋นเฉิงยังคงอ่อนด้อยมากเกินไป การแสดงทักษะของเขาต่อหน้าเย่ฟ่านจึงเป็นเพียงการเล่นตลกเท่านั้น
หลังจากผ่านไปนาน ทุกคนคิดว่าเย่ฟ่านกำลังถูกควบคุมโดยญาณวิเศษความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ในไม่ช้าเขาจะต้องพ่ายแพ้และเสียชีวิต!
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังรอบทสรุปสุดท้ายอยู่นั้น กำปั้นสีทองของเย่ฟ่านก็กระแทกออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและทรงพลัง
จี้อวิ๋นเฉิงที่ซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่าเพื่อลอบโจมตีเย่ฟ่านมีใบหน้าซีดขาว กว่าที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกำปั้นสีทองนี้ก็ปะทะกับหน้าอกของเขาอย่างรุนแรง
แม้ว่าเขาจะฝึกฝนทักษะความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่มาหลายปี แต่เขาก็ไม่มีทางหยุดกำปั้นสีทองนี้ได้!
"ปัง!"
จี้อวิ๋นเฉิงไม่มีแม้แต่โอกาสจะกรีดร้อง ร่างกายของเขาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โลหิตสีแดงสาดกระจายไปทุกทิศทุกทางในยอดเขา
การโจมตีครั้งนี้รุนแรงมากแค่ไหน อย่าว่าแต่จี้อวิ๋นเฉิงที่เป็นผู้ฝึกฝนอาณาจักรลึกลับที่สามเลย แม้แต่ผู้ฝึกฝนอาณาจักรลึกลับที่สี่ก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสหากคิดจะใช้ร่างกายของตัวเองรับหมัดนี้ตรงๆ
“อวิ๋นเฉิง!”
ศิษย์สองคนของตระกูลจี้ที่กำลังดูการต่อสู้ไม่คิดว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะลงเอยเช่นนี้? พวกเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและต้องการที่จะบดขยี้เย่ฟ่านพร้อมกัน!
แต่ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็หายตัวไปในความว่างเปล่าท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน!
การเปลี่ยนแปลงนี้กะทันหันเกินไป ไม่มีใครคิดว่าศัตรูผู้ยิ่งใหญ่คนนี้จะสามารถฝึกฝนญาณวิเศษลึกลับของตระกูลจี้ได้...
เย่ฟ่านคำนวณได้อย่างแม่นยำ และเมื่อศิษย์ทั้งสองของตระกูลจี้เคลื่อนไหว สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ในความว่างเปล่าก็คือมือสีดำขนาดใหญ่คู่หนึ่ง!
“ปา”
ร่างกายของศิษย์ตระกูลจี้ทั้งสองคนถูกมือสีดำขนาดใหญ่ทั้งสองข้างบดขยี้จนแหลกละเอียดในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้น
“เจ้า...”
ศิษย์ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดของตระกูลจี้บินออกมาจากเรือด้วยใบหน้าดำคล้ำ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนๆนี้จะฆ่าศิษย์ของตระกูลจี้ด้วยสุดยอดญาณวิเศษที่ไม่มีใครเทียบได้ของตระกูลจี้
"เจ้าคือใคร?!" จี้อวิ๋นหลินคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
ในตอนนี้ผู้คนของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว ในเวลานี้สถานการณ์เลวร้ายอย่างยิ่ง มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปล่อยให้คนตระกูลจี้ถูกฆ่าจนหมด!
“เจ้าจัดงานชุมนุมที่นี่ก็เพื่อตามหาข้าไม่ใช่หรือ อย่าบอกนะว่าเจ้าจำข้าไม่ได้?”
หมอกสีขาวจางลงเล็กน้อยและใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเย่ฟ่านก็ปรากฏออกมา
“เจ้า... เย่ฟ่าน?!”
จี้อวิ๋นหลินกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ นี่ไม่ได้เกิดจากอาการบาดเจ็บใดๆ แต่มันเกิดขึ้นจากความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด
ศิษย์ทั้งสี่ของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขามาที่นี่เพื่อตามล่าเย่ฟ่าน แต่เมื่อเย่ฟ่านปรากฏตัวออกมาพวกเขากลับไม่มีความมั่นใจเหลืออยู่เลย!