EP 722 สานความสัมพันธ์กับครอบครัวเกิง
EP 722 สานความสัมพันธ์กับครอบครัวเกิง
By loop
ในช่วงเย็น
บริเวณห้องนั่งเล่น.
สิ่งที่เกิงโยฮวาพูดไปทำให้พ่อและแม่ของเธอถึงออึ้งไปสักพักใหญ่ และบรรยากาศก็เงียบไปชั่วครู่ ... สองวินาที... สามวินาที... ไม่มีใครพูดอะไรเลย
ไม่นานหลังจากนั้น แม่ของเกิงโยฮวาก็พูดว่า: “โยฮวาเรื่องมันเป็นอย่างงั้นจริงๆหรอ?”
"นั้นคือความจริง." เกิงโยฮวาเทน้ำชากก่อนจะดื่มมัน
เกิงเซียงมองไปที่พี่สาวของอย่างไม่เชื่อ: "พี่ ทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนหน้านี้"
เกิงโยฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อันที่จริงซูบินขอร้องไม่ให้ฉันพูดเรื่องนี้กับนาย”
"แต่..." พ่อของเกิงโยฮวาขมวดคิ้ว: "ทำไม ดงซูบินคนหนึ่งถึงได้เข้ามาช่วยเหลือเกิงเซียงล่ะ?"
ดูเหมือนนี้จะเป็นคำถามที่ทุกคนในบ้านอยากรู้เช่นกัน แม่ของเกิงโยฮซากับเกิงเซียงก็มองไปที่เกิงโยฮวาอย่างใจจดใจจ่อและรอคำตอบ ใช่ทำไมดงซูบินถึงทำแบบนั้น?
เกิงโยฮวาเองเธอวางถ้วยน้ำชาในมือเบา ๆ "เกิงเซียงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ ซูบินหลี่ปิงปิงเองก็เป็นเช่นนั้น ดงซูบินเองในฐานะหัวหน้าเข้าเป็นผู้นำ และคงไม่สามารถทิ้งลูกน้องของเขาให้เผชิญชะตากรรมพวกนั้นได้ และนั้นเขาก็ไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอ เหตุผลเพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จอธิบายสิ่งนี้ได้ เขาเองสามารถแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมออกจากกันได้ ต่อให้เขาก็จะถูกกระชากคอเสื้อขนาดนั้นก็ตาม ซูบินเองก็ไม่ตอบโต้อะไร ในเวลานั้นเขาต้องไปที่ตงไห่ เพื่อตามเช็ดล้างสิ่งที่เกิงเซียงทำไว้ หนูรู้สึว่าครอบครัวของเรามีอคติกับซูบินมาโดยตลอด ทุกวันนี้หนูมีโอกาสที่ได้พูดคุยกับเขามากยิ่งขึ้น หนูเองกับพบว่าการทำงานของซูบินนั้นดีเลยและดูเปิดกว้างมาก เพีนงเท่านี้ก็น่าจะสรุปเรื่องทั้งหมดได้แล้ว“
ตอนนี้ภายในครอบครัวของเกิงโยฮวาเริ่มสับสน
แม่ของเธอถอนหายใจ: “โยฮวา ทำไมลูกไม่บอกเราก่อนหน้านี้ล่ะ ตอนที่ดงซูบินพยายามทักทายแม่ แม่กับเมินใส่เขา”
เมื่อเกิงเซียงฟังแล้วมันก็ทำให้ใจเขาแทบจะสั่นขึ้นมาทันทีดูเหมือนตอนที่ดงซูบินชวนเขาไปทานข้าวเขาก็ปฏิเสธดงซูบินไป
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของดงซูบิน” พ่อของเกิงโยฮวาบอกว่า "เราจะปล่อยให้คนอื่นคิดว่าครอบครัวเราเป็นพวกไร้เหตุผลไม่ได้"
แม่ของเกิงโยฮวาเองก็ถอนหายใจออกมา "โยฮวา ถ้าแม่ได้พบกับซูบินล่ะก็แม่จะเข้าไปขอบคุณเขาเลย"
เกิงโยฮวาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย: "หนูขอบคุณให้แล้ว"
“ขอบคุณสำหรับครอบครัวเราอย่างงั้นหรอ?” พ่อของเกิงโยฮวาเองก็รู้สึกแปลกใจ: "พ่ออาศัยอยู่ที่นี่มาก็นาน ไม่เห็นลูกจะคุยกับใครเลย แล้วเอาเวลาไหนไปขอบคุณเขา"
สายตาแม่ของเกิงโยฮวาจ้องไปที่สามีของเธอ “อย่างคุณจะไปเห็นอะไร วันๆหนึ่งก็ไม่เห็นจะสนใจใครเลยไม่ใช่หรอ”
พ่อของเกิงโยฮวาหันนามายังภรรยาของเขา “นี้กำลังว่าผมอยู่อย่างงั้นหรอ”
ดูเหมือนเกิงเซียงเองเขาไม่รู้จะพูดอะไรกับเรื่องนี้? เขามีแต่รอยยิ้มอันขมขื่น เดิมทีเขาเกลียดดงซูบินเอามากๆแล้วและสาบานว่าจะต้องเป็นศัตรกับดงซูบินในวันข้างหน้า แต่ใครจะคิดกันว่าเมื่อเขาเจอกับปัญหาดงซูบินผู้นี้กับรีบจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆให้ มันทำให้ภายในใจของเกิงเซียงนั้นร้อนรุมขึ้นมา แต่สำหรับคร่าวนี้มันไม่ใช่อาการโกรธหรือเกลียดแต่อย่างใด ตามที่พี่สาวของเขาเล่า ถ้าไม่มีดงซูบินตั้งแต่แรก ดีวีดีเหล่านั้นไม่รู้ว่าต้องส่งไปกี่แผนกแล้ว และเรื่องนี้คงยุ่งยากขึ้นมาก ทุกอย่างจะไม่ได้ดูราบเรียบเหมือนตอนนี้
เมื่อคิดได้เช่นนั้เกิงเซียงก็กัดฟันของเขา “ดงซูบินพึงจะชวนผมไปทานอาหารเย็นด้วย แต่ผมตอบปฏิเสธไป มันจะดีไหมที่จะชวนเขามาทานข้าวด้วยกัน?” ถึงแม้เกิงเซียงจะคิดว่าความคิดของเขานั้นอาจฟังดูแปลกแต่เวลานี้ดงซูบินแต่เขากับทำรุนแรงกับดงซูบินในที่สาธาณะ นั้นก็ยิ่งทำให้เกิงเซียงเองรู้สึกผิดมากเข้าไปอีก
แม่ของเกิงโยฮวาเข้าใจเหตุการณ์ในทันที “แม่เข้าใจแล้ว โยฮวาลูกโทรดงซูบินสิ”
เกิงโยฮวาไม่ได้มีท่าทีอะไร เธอทำเป็นไม่ได้ยินด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นอย่างงั้นแม่ของเธอก็สกิดเธอ: "โยฮวานี้แม่คุยกับลูกอยู่นะ"
พ่อของเกิงโยฮวาพูดขึ้นมาทันที: "อันที่จริงต้องเป็นเกิงเซียงสิที่จะต้องไปเชิญดงซูบินจริงไหม? พี่สาวเธอไม่ใช่คนก่อเรื่องนี้ เกิงเซียงลูกนั้นแหละขึ้นไปเชิญเขา!"
เกิงเซียงก็คิดเช่นกันว่า "นั่น ผมจะไปเชิญเขาด้วยตัวเอง"
“ตกลง ถ้าอย่างงั้นก็ไปจัดการนะ” แม่ของเกิงโยฮวาเธอเดินปลีกตัวออกไปและกล่าวว่า "...งั้นแม่จะไปทำอาหารนะ!"
......
ในระหว่างทางเดิน
ทันทีๆเกิงเซียงออกมาจากห้อง เขาก็โทรหาหลี่ปิงปิงในทันที
ปลายสายรับโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ นั้นใครกัน?"
“สวัสดี ปิงปิง นี่ผมเอง”
น้ำเสียงของหลี่ปิงปิงเปลี่ยนไปในทันทีเธอพูดเบาลง"...คุณรู้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของฉันได้อย่างไร" แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นคู่นอนกัน แต่หลี่ปิงปิงไม่เคยให้เธอโทรศัพท์มือถือกับเขาเลย
“พอดีผมขอจากคนอื่นมานะ ผมรู้ว่าคุณทำงานที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุนหยานไทพอดี เลยได้เบอร์คุณมาจากเจ้าหน้าที่ๆนั้น”
“มีอะไรหรือเปล่าถึงโทรมาหาฉัน”
“คุณทานข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ตอนนี้”
"...กำลังจะทานข้าวพอดี มีอะไรสำคัญหรือเปล่า?"
“พอดีผมจะโทรบอกคุณว่า ปัญหาเรื่องวีดีโอมันมีเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจนิดหน่อย” เกิงเซียงพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ: "คุณพูดถูก ดงซูบินนั้นไม่ได้เป็นเหมือนที่ผมคิดไว้ เรื่องวีดีโอดงซูบินนั้นช่วยจัดการทั้งหมด เมื่อวานผมเข้าใจเขาผิดไปจริงๆ"
หลี่ปิงปิง พูดต่อ "เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่?"
"สำหรับเรื่องนี้ ... " เกิงเซียงเองพยายามอธิบายเรื่องราวที่ได้ยินมาจากเกิงโยฮวา
หลังจากฟังแล้ว หลี่ปิงปิง ก็อุทานว่า: “สมัยที่ผู้อำนวยการซูบินเขาดูแลสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหยานไทนะ เขาดูแลพวกเรดีมาก พวกเราทุกคนเป็นหนี้บุญคุณเขา และตอนนี้คุณเองก็ด้วย” แน่นอนว่าสำหรับหลี่ปิงปิงแล้วในสายตาของเธอดงซูบินคือผู้มีพระคุณของเธอ เธอรู้ดีว่าผู้อำนวยการซูบินของเธอเป็นคนยังไง ดงซูบินเองเป็นคนที่จริงจังและจริงใจกับงานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกน้องของพวกเขาที่มีน้ำใจและปกป้องดูแลเป็นอย่างดี
“พอดีว่าผมจะชวนดงซูบินมาทานข้าวด้วยกัน ผมจะขอบคุณเขาแทนคุณล่ะกัน” เกิงเซียกล่าว
เมื่อหลี่ปิงปิงได้ยิน “ไม่เป็นอะไรสำหรับเรื่องนั้น ฉันจะไปขอบคุณเขาด้วยตัวของฉันเอง”
"อย่างงั้นก็ได้"
"……ฉันไปล่ะ"
“ดูแลรักษาสุขภาพด้วยะน”
"เข้าใจแล้ว."
ดูเหมือนน้ำเสียงของหลี่ปิงปิงเต็มไปด้วยความตื่นตันใจอย่างบอกไม่ถูก อันที่จริงเกิงเซียงเองเขาก็แอบโกรธตัวเองอยู่นิดหน่อยสมัยที่เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาก็เลิกกับหลี่ปิงปิงต่อมาหลังจากเข้ารับราชการ ตัวเขาเองก็เคยคบกับผู้หญิงอยู่หลายคน แต่พวกเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาจินตนาการไว้ และไม่ใช่ความรู้สึกที่จะเข้ากันได้ดีกับหลี่ปิงปิง ในเวลานั้น เกิงเซียงเอง รู้สึกเสียใจเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็เข้าใจเรื่องนี้หลังจากที่โทรศัพท์กลับไปหาหลี่ปิงปิง เธอก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เสียแล้ว และเขาก็ไม่ได้พบเธออีกจนกระทั้งสองวันที่ผ่านมานี้
เมื่อทำใจใจเกิงเซียงก็ก้าวขึ้นไปชั้นบนและเดินขึ้นไปที่ประตูหน้าห้องของดงซูบิน ดูเหมือนเขาจะเขินอายกับการกระทำครั้งนี้อยู่ไม่น้อย เขาเองไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำเช่นนี้มาก่อน เนื่องจากเขาเป็นศัตรูกับดงซูบินมาตลอดตั้งแต่ดงซูบินมาทำงานที่แห่งนี้ เลยทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษที่จะต้องมาเช่นนี้
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเกิงเซียงก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดในการกดกริ่ง
ติ่งติ่ง ดูเหมือนมีเสียงฝีเท้ากำลังจะเดินมาเปิดประตู “สวัสดี เกิงเซียง? มาได้ยังไง? เข้ามาก่อนไหม.”
ดงซูบินซึ่งกำลังดูทีวีอยู่ที่บ้านคนเดียว เขาได้ยินเสียงกริ่งที่เกิงเซียงเป็นคนกดตะกี้ ก่อนที่จะเดินมาเปิดประตูและเหลือบมองหน้าของเกิงเซียงเล็กน้อย
เกิงเซียงหัวเราะและพูดว่า: "ไม่เป็นการรบกวนจะดีกว่าครับ เลขาซูบินคุณทานข้าวหรือยัง พอดีว่าที่ชั้นล่างครอบครัวของเรากำลังทำอาหารเย็นพ่อและแม่ของผมเองก็อย่าจะเชิญคุณไปทานข้าวด้วย ... "
ดงซูบินทำสีหน้าแปลกใจและป่นสงสัยในเวลาเดียวกัน “ฉันยังไม่ได้ทานข้าวเลย มันจะเป็นการรบกานพวกท่านใช่ไหมที่จะไปทานข้าวด้วยกัน”
“ไม่รบกวนเลย มาเถอะ ครอบครัวของเรายินดีมากที่คุณจะให้เกียรติไปทานข้าวกับพวกเรา” แน่นอนว่ามันเป็นการยากมาสำหรับเกิงเซียงที่จะพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมา แต่เขาก็พูดมันออกมาได้
“ไม่ต้องพูดถึงขนาดนี้ก็ได้ เดี๋ยวฉันขอตัวปิดทีวีก่อน”
เมื่อดงซูบินกลับเข้าบ้านเขาก็เดินไปปิดทีวี ดงซูบินก็หยิบบุหรี่สองมวนแล้วลงไปข้างล่างกับเกิงเซียง เมื่อเห็นท่าทีของเกิงเซียงในวันนี้แล้ว ก็ทำให้ดงซูบินเข้าใจบางอย่างได้ เรื่องทั้งหมดต้องเป็นเพราะเกิงโยฮวาอย่างแน่นอน เธอคงจะบอกกับครอบครัวของเธอ เกี่ยวกับเรื่องวิดีโอคลิปไปแล้ว
อาจจะเล่าเรื่องทั้งหมดไปแล้ว
มันก็เลยทำให้ครอบครัวเกิงโยฮวาจึงมาทำดีกับเขาในวันนี้
......
ในบ้านของครอบครัวเกิง
“ซูบินมาแล้วอย่างงั้นหรอ” พ่อของเกิงเซียงวางหนังสือพิมพ์แล้วลุกขึ้นยืน
แม่ของเกิงเซียงก็ลุกยืนขึ้นมาทักทายดงซูบิน “ซูบิน เข้ามาเร็วเข้า”
ตง เสวี่ยปินยิ้มอย่างสุภาพ: “คุณลุง คุณป้า ผมต้องขออภัยด้วยที่ไม่เตรียมตัวจึงไม่ได้เอาอะไรติดไม้ติดมือมามากมาย มีเพียงบุหรี่เพียงสองกล่องเท่านั้นที่ติดมาด้วย” ดงซูบินวางบุหรี่ราคาแพงไว้บนโต๊ะ
ดูเหมือนพ่อของเกิงเซียงเองจะพอใจมากเช่นกัน "เท่านี้ก็มากพอแล้วซูบิน"
“คุณไม่ต้องลำบากก็ได้” แม่ของเกิงเซียงยังกล่าวเสริมขึ้นมาทันที
ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "ผมเองกลัวว่ามันจะเป็นการเสียมารยาททั้งๆที่มาเยี่ยมบ้านครั้งแรกแต่กลับไม่ได้เตรียมอะไรมาด้วยเลย ผมต้องขอภัยจริงๆ"
แม่ของเกิงเซียงพูดว่า: "คนปักกิ่งนี้สุภาพจริงๆเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย เราคงจะได้พบกันอีกหลายครั้ง"
"ครับ." ดงซูบินเปลี่ยนรองเท้าของเขาเป็นห้องนั่งเล่นและกล่าวสวัสดี: "สวัสดีครับ นายกเทศมนตรีโยฮวา"
เกิงโยฮวานั่งอยู่ที่โซฟาและดูข่าวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เมื่อเธอเห็นดงซูบินเธอพยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไร เธอยังคงดูทีวีต่อไป
เวลาอาหารเย็น
ทุกคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ และพ่อของเกิงเซียงก็ได้บอกให้ลูกชายของเขานำไวน์ในบ้านของเขาออกมา
“ซูบินทานนี้ส่ะสิ” แม่ของเกิงเซียงยกถ้วยขึ้นก่อน แต่ถ้วยนั้นเต็มไปด้วยน้ำต้มสุก “พอดีฉันเองไม่ดื่มไวน์เลยขอทานเป็นน้ำซุปแทนเพื่อให้เกียรติการมาบ้านของเราในวันนี้”
แน่นอนว่าดงซูบินเองแสดงท่าทางเกรงใจออกมาทันที “ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมเกรงใจมาก ด้วยความเคารพ”
เกิงเซียงพูด “ถ้าอย่างงั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ผมขอดื่มแก้วนี้ให้กับเลขาซูบินเพื่อเป็นการขอบคุณและให้เกียรติที่เลขาซูบินมาเยี่ยมบ้านของผมในวันนี้”
ดงซูบินเอื้อมมือออกไปและหยุด “ไม่ต้องเลย อย่าทำแบบนั้นเลย ไวน์แก้วแรกนี้ผมเองควรจะดื่มให้กับคุณลุงคุณป้าก่อน ผมเองยังเด็ก ผมจะปล่อยให้คุณลุงคุณป้าดื่มก่อนได้อย่างไร”
เมื่อดงซูบินพูดจบเขาได้ขอชนแก้วไวน์กับทางพ่อของเกิงเซียงและดื่มซุปที่แม่ของเกิงเซียงได้ทำให้เขา
รอยยิ้มปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของแม่ของเกิงเซียง หลังจากที่ดงซูบินทานเสร็จ เธอมองไปที่ดงซูบินและยิ้ม "คุณเป็นคนสุภาพจริงๆ ต่างจากลูกชายของเราที่ไม่ได้เรื่องเลย..."
พ่อของเกิงเซียงพูดขัดขึ้นมาทันที: "เราหยุดพูดเรื่องเก่าๆจะดีกว่า"
"จริงสินะ." แม่ของเกิงเซียงพูดขึ้นมาทันที “เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป เรามาทานข้าวกันจะดีกว่า”