ตอนที่ 141+142 อีก 27 วัน
ตอนที่ 141 โง่
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมห้องที่รบกวนเธออย่างไม่รู้จบ เจียงเหยาพยักหน้าอย่างแรงและพูดเสียงดัง “ใช่ ๆ นั่นสามีฉันเอง ลู่ชิงสี!”
สาว ๆ หัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินคำตอบจากเจียงเหยา พวกเขานั่งอยู่ที่มุมต่าง ๆ ของเตียงของเธอและมองดูเธออย่างสนุกสนาน
“ว้าว โทรหาเธอทุกวันเลยเหรอ? อิจฉาตาร้อน!” เวินเสวี่ยฮุ่ยยิ้ม “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงให้คนมาส่งโทรศัพท์ให้กับเธอตอนที่เธอเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย – เขาคงต้องการฟังเสียงเธอทุกวันอย่างแน่นอน! พวกเธอเป็นรักทางไกลสินะ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา แต่การฟังเสียงของเธอก็ไม่ได้แย่เกินไป โอ้พระเจ้า เจียงเหยา เธอพบกับสามีที่น่ารักแบบนี้ที่ไหน?”
“อันที่จริง กลับกันแล้วล่ะ เขาเป็นคนเจอฉันเอง” เจียงเหยากล่าว เธอยิ้มด้วยความรัก เมื่อนึกถึงอดีตของพวกเขา เป็นความจริงที่ลู่ชิงสีเป็นฝ่ายพบเธอก่อน
สาว ๆ มองมาที่เจียงเหยาด้วยความอิจฉา เธอเป็นผลผลิตจากการสร้างที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า เธอได้รับพรให้มีใบหน้าสวย เรียนเก่ง ได้ลงข่าวในหนานเจียงมอนิ่งโพสต์ทันทีที่เธอเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ได้รับความสนใจจากคนทั้งมหาวิทยาลัย และเธอยังมีสามีที่รักเธออย่างสุดซึ้ง พวกเขาไม่เคยเห็นความเศร้าบนใบหน้าของเธอแม้แต่น้อย ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบเธอ พวกเขาคาดเดาว่าเธอต้องมีชีวิตที่พิเศษมากและสามีของเธอคงปฏิบัติต่อเธออย่างดี
หลังจากพูดคุยกันสักพัก พวกเขาทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับเตียงของตัวเอง
เจียงเหยาเช็ดผมให้แห้งและแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ที่ระเบียง เมื่อเธอกลับมาที่เตียง เธอเห็นหน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นและมีการแจ้งเตือนว่ามีข้อความใหม่ส่งเข้ามา
เจียงเหยาคิดว่าเป็นข้อความสแปม เพราะมีไม่กี่คนที่รู้หมายเลขโทรศัพท์ของเธอ ยกเว้นเพื่อนร่วมห้อง ลู่ชิงสีและโจวเหวยฉี เธอยังไม่ได้บอกครอบครัวของเธอเลยด้วยซ้ำ ใครจะเป็นคนส่งข้อความถึงเธอ? นอกจากนี้เจียงเหยาคาดเดาโดยไม่รู้ตัวว่า จากบุคลิกของลู่ชิงสีที่เป็นคนตรงไปตรงมา เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะส่งข้อความ
โดยไม่คาดคิด เมื่อเธอคลิกไปที่ข้อความ กลับเป็นข้อความมาจากลู่ชิงสีจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นการตบหน้าเธอเอง
ข้อความนั้นสั้นและเรียบง่าย
‘อีก 27 วัน’ – จาก : Hubby
ข้อความที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาดังกล่าว สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้และความปรารถนาจากลู่ชิงสี ที่จะได้พบกับเธอในอีก 27 วันต่อจากนี้
เจียงเหยาตัดสินใจที่จะไม่ตอบเขา เธอโยนโทรศัพท์ลงบนเตียง นอนลงแล้วปิดไฟ เธอพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จ้องไปที่เตียงชั้นบน และสุดท้ายก็ยอมตอบข้อความเขา
“อืม!”
เธอรอสักครู่แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากเขา เธอเดาว่าลู่ชิงสีคงหลับไปแล้ว เพราะนี่ก็ดึกมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงหลับตาแล้วเข้าสู่ระบบการแพทย์
ทันทีที่เธอเข้าสู่ระบบ ผู้ดูแลระบบก็ปรากฏตัวพร้อมกับประทัด เขาจุดมัน เสียงดังสนั่นในจิตสำนึกของเธอ เธอเหล่ตาด้วยความรำคาญ เธอสงสัยว่าเกิดปัญหาใหญ่กับการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบ! เขาเป็นคนโง่เหรอ?
“เจ้านาย ขอแสดงความยินดีด้วย! วันนี้ค่าความชื่นชอบของคุณ พุ่งสูงมาก!” ผู้ดูแลระบบเปลี่ยนเป็นชุดสีแดงสด “ฟังนะ ฉันจะสวมชุดนี้เพื่อแสดงความยินดีกับคุณ!”
เจียงเหยานวดหน้าผากของเธอด้วยความตื่นตระหนก วันนี้เธอไม่มีแรง แม้แต่จะวิจารณ์เขา ดังนั้นเธอจึงนิ่งเงียบ
‘จึ! ฉันควรทำยังไงกับผู้ดูแลระบบของฉันกันล่ะเนี้ย!’ เจียงเหยาคิด
ทันทีที่เจียงเหยาคลิกเข้าไปที่แถวของค่าความชื่นชอบ การแจ้งเตือนก็ผุดขึ้น แจ้งให้เธอแปลงค่าทั้งหมดเป็นมูลค่าปัจจุบัน เธอนำคะแนนทั้งยี่สิบนั้นแปลงเป็นค่าที่ความแข็งแกร่งทางกายภาพทันที เธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมองดูแถบความก้าวหน้าของความแข็งแกร่งทางกายภาพค่อย ๆ เปลี่ยนจากค่าติดลบเป็นค่าบวก
เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะทดสอบค่าที่มากขึ้น ว่ามีประโยชน์ต่อเธอเพียงใด
หลังจากนั้น เจียงเหยาก็ใช้เวลาตลอดทั้งคืนในการอ่านหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร เช่นเดียวกับที่เธอทำในคืนก่อน ในทำนองเดียวกัน เธอออกจากระบบในเช้าวันรุ่งขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวามาก
เจียงเหยาไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงไม่รู้สึกเหนื่อย หลังจากใช้พลังงานมาทั้งคืน เป็นเพราะค่าความแข็งแกร่งทางกายภาพที่เพิ่มขึ้นหรือไม่? หรือเป็นเพราะร่างกายของเธอกำลังพักผ่อนในขณะที่สติของเธอกำลังเข้าสู่ระบบการแพทย์กันแน่?
__
ตอนที่ 142 โง่
หลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เจียงเหยาดื่มน้ำขณะที่มองดูเวินเสวี่ยฮึ่ยพยายามดึงตัวเองออกจากผ้าห่มอุ่น ๆ ของเธอ
เมื่อหางตาเห็นมือถือที่อยู่บนเตียงมีการแจ้งเตือน เธอจึงหยิบมันขึ้นมา เป็นข้อความจากลู่ชิงสี เขาส่งข้อความมาในเวลา ตีห้าครึ่ง เธอคิดว่างานของเขาคงเริ่มตั้งแต่เช้าที่กองทัพ และเขาก็ตอบกลับข้อความเธอทันทีที่เขาตื่นนอน
เจียงเหยายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเธอเห็นการแจ้งเตือนและคลิกไปที่ข้อความอย่างรวดเร็ว สงสัยว่าเขาจะตอบอะไรกับข้อความ ‘อืม’ ที่หยิ่งผยองของเธอ
เธอคลิกไปที่ข้อความ เหลือบมองและ..
ฟู่!....
เจียงเหยาพ่นน้ำกระเด็นโดนหน้าจอโทรศัพท์
เวินเสวี่ยฮุ่ยลุกขึ้นจากเตียง ดวงตาของเธอกะพริบใหญ่และเป็นประกายตรงกันข้ามกับท่าทางที่เธอพยายามจะตื่นนอน เธอมองดูเจียงเหยาด้วยความสนุกสนาน เริ่มต้นด้วยรอยยิ้มที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของเธอ จากนั้นวางแก้วในมืออย่างเมามันและหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดหน้าจอโทรศัพท์
“ชีวิตคนรวมนั้น คนธรรมดาสามัญอย่างเรา คงไม่เข้าใจหรอก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการมีโทรศัพท์จะต้องสดชื่นเมื่อตื่นนอนตอนเช้า” จากนั้นเวินเสวี่ยฮุ่ยอุ้มมัวขึ้นและพูดอย่างเกียจคร้านว่า “ไปเถอะ ฉันจะพาเธอไปล้างหน้า”
มัวผู้น่าสงสาร เขาถูกปลุกให้ตื่นโดยฉับพลัน
เขามองไปที่เวินเสวี่ยฮุ่ยด้วยความงุนงงและกรีดร้อง “อ๊าก! เจ้ามนุษย์ เธอคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่! ปล่อยฉันนะ!” แม้ว่าจะเป็นแค่เสียงเหมียว ๆ ในโสตประสาทของคนอื่น
เจียงเหยาเพิกเฉยต่อคำวิงวอนของมัว ถึงเวลาที่ต้องสอนบทเรียนให้กับมันบ้างแล้ว
เธอหันกลับมามองโทรศัพท์ที่ปราศจากน้ำแล้ว เธอมองดูข้อความอีกครั้ง ส่งเสียงหัวเราะขบขันออกมา
อีก 26 วัน : จาก Hubby
หึ ผู้ชายคนนี้...
เขาอยากพบเธอมากจนต้องนับวันเลยเหรอ
เจียงเหยาส่งข้อความกลับไปที่ลู่ชิงสี – คนโง่
“เจียงเหยา ดูเขาสิ ฉันเผลอเคาะหัวเขาไปรึเปล่า” เวินเสวี่ยฮุ่ยดูกังวล
“เขาดิ้นอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่ฉันพาลงในน้ำ ฉันนวดท้องของเขา เขาตัวแข็ง และนอนในอ่างอย่างเงียบ ๆ เลย ดูสิ! แบบนี้ดูน่าเวทนาจริง ๆ เลย แม้ว่าเขาจะโวยวายกับฉันเป็นบางครั้งก็เถอะ”
น่าเวทนาเหรอ?
แทนที่จะน่าเวทนา เจียงเหยาเห็นว่า มัวกำลังเพลิดเพลินกับการอาบน้ำอุ่น เวินเสวี่ยฮุ่ยอาจฟังดูเหมือนเสียงแมวร้อง แต่เธอได้ยินมันถอนหายใจออกมาอย่างมีความสุข “ว้าว~ สดชื่นจัง~ สบายจัง~”
“พอแล้ว เธอก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เช้านี้เรามีประชุมแต่เช้านะ จำได้ไหม?” เจียงเหยากระตุ้นเวินเสวี่ยฮุ่ย จากนั้นเธอก็อุ้มมัวขึ้นมาและวางมันไว้บนเตียงแมวใต้โต๊ะที่เธอซื้อมาให้มันโดยเฉพาะ
หลังจากออกจากห้องพัก สาว ๆ ก็แยกย้ายกันไปเรียน หลังจากทานอาหารเช้าด้วยกัน
เจียงเหยาและเวินเสวี่ยฮุ่ยไปที่คณะของพวกเขา ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในห้องบรรยาย หัวหน้าห้องเรียนก็วิ่งเข้ามาหาอย่างตื่นเต้น
“ข่าวใหญ่ล่ะ! เมื่อเช้า ฉันไปที่สำนักวิชาการมา ฉันได้ยินผู้อำนวยการบอกว่า เจียงเหยาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่!” หัวหน้าชั้นเรียนโบกหนังสือพิมพ์ในมือ “ดู! บทสัมภาษณ์ของเธอในหนังสือพิมพ์! ฉันรีบซื้อมาจากแผงข้างสองฉบับ เอามาเผื่อเพื่อน ๆ ในห้องด้วย ฉันยังเห็นมีอยู่บนโต๊ะผู้อำนวยการฉบับหนึ่งด้วยล่ะ”