ตอนที่ 30 ขวานทลายสวรรค์
"ดูจากสีหน้าแล้วเจ้าคงรู้จักอาวุธอักขระสินะ มันเป็นส่วนหนึ่งของวิชาอักขระกำกับ สร้างขึ้นโดยผู้ใช้อักขระเท่านั้น วิชาอักขระกำกับ ถูกคิดค้นขึ้นมามากกว่าพันปี แม้ในพรรคป้อมอัคคีของข้ายังมีอาวุธอักขระไว้ในครอบครองเพียง 3 ชิ้นเท่านั้น!!"
ซูจ้าวกล่าวพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก มันยกสิ่งที่เรียกว่าอาวุธอักขระขึ้นมาประจันหน้ากับเล้งซาน รูปร่างมันคือขวานที่มี 2 คม มียันต์อักขระเขียนไว้ที่ใบมีด สีน้ำเงินเข้มของอักขระสาดส่องออกมาอย่างชัดเจน แรงกดดันที่ส่งออกมาจากขวานนี้แทบไม่ต่างอะไรกับแรงกดดันของผู้ใช้ลมปราณชั้นสีน้ำเงินขั้นสูง!!
"นี่คือ 1 ใน 3 อาวุธอักขระที่พรรคป้อมอัคคีครอบครองอยู่ ชื่อของมันคือขวานทลายสวรรค์ เป็นอาวุธอักขระสีน้ำเงินขั้นสูง ทุกการครั้งที่ฟาดฟันแทบไม่ต่างจากพลังสิบส่วนของผู้ใช้ลมปราณชั้นสีน้ำเงินขั้นสูง แม้ข้าจะสูญเสียพลังลมปราณไปจนหมดแล้ว แต่ด้วยการฟาดฟันของขวานเล่มนี้ย่อมเพียงพอแก่การแยกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!!"
เล้งซานจ้องมองมาที่ขวานทลายสวรรค์ มันขมวดคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา
'แม้วันนี้ข้าอาจจะฆ่ามันไม่ได้ แต่ข้าจะเอาขวานมันมาให้จงได้!!'
เล้งซาน ทะยานร่างพุ่งเข้าไปทันที ซูจ้าวหมุนตัวเหวี่ยงขวานฟันเข้าใส่เล้งซานที่พุ่งเข้ามา แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสก่อนหน้าทำให้ความเร็วของซูจ้าวลดลงไปกว่าครึ่ง เล้งซานก้มหัวหลบอย่างหวุดหวิด ขวานเฉียดหัวเล้งซานไปอย่างน่าหวาดหวั่น เล้งซานปล่อยหมัดเข้าที่ท้องซูจ้าวอีกครั้ง แต่ด้วยประสบการณ์ซูจ้าวย่อมรู้ว่าเล้งซานเล็งที่ตำแหน่งเดิมที่สาหัสของมัน ซูจ้าวพลิกขวานต่ำลงป้องกันท้องไว้ได้ แต่ต้องแลกกับแรงปะทะของหมัดเช่นกัน
ตูม!!
ซูจ้าวถ่อยรนไปกว่า 5 ก้าว แม้ไม่ถูกโจมตีเข้าจังๆแต่แรงสะเทือนที่ได้รับ ย่อมกระตุ้นอาการบาดเจ็บอีกครั้ง มันสำรอกโลหิตเล็กน้อยที่มุมปาก
เพลิงโทสะของซูจ้าวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด มันไม่เคยคิดเคยฝัน ว่าจะมีวันที่มันจะถูกไล่ต้อนโดยผู้เยาว์ที่มีเพียงชั้นลมปราณสีครามขั้นต้นเช่นนี้
"เล้งซาน!! ไม่ว่าวันนี้จะแลกด้วยสิ่งใด ข้าจะสังหารเจ้าให้จงได้!!"
เล้งซานฉีกยิ้มอ่อนและค่อยๆเดินเข้ามา
"อาวุโสซู แม้ท่านนำศีรษะของท่านมาแลกกับปลายเล็บข้า ก็ยังนับว่าข้าขาดทุนอยู่เล็กน้อยนะ"
"บัดซบ!! เจ้า!!"
ซูจ้าวโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่ต้องยอมรับว่าตอนนี้มันบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งลมปราณยังหมดสิ้น สิ่งเดียวที่มันหวังพึ่งได้คือขวานทลายสวรรค์ในมือเท่านั้น!!
"คราแรกข้าตั้งใจเพียงแค่จะทดสอบฝีมือตนเองและหลบหนีไป แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะสังหารท่าน ณ ที่แห่งนี้ และนำขวานกลับไปให้จงได้!!"
เพลิงสีฟ้าแห่งมังกรพวยพุ่งออกจากร่างของเล้งซานในทันที แม้ปราณอัคคีที่ร้อนแรงของซูจ้าวก่อนหน้านี้ยังเทียบไม่ได้แม้แต่น้อย ม่านตาของซูจ้าวเบิกกว้างในทันที แม้พรรคของมันจะใช้วิชาสายอัคคี แต่ก็ไม่สามารถสร้างเปลวเพลิงสีฟ้าที่รุนแรงเช่นนี้ได้ ร่างของมันสั่นสะท้าน
"จะ...จะ...เจ้าเป็นใครกันแน่!!"
ทันทีที่เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าที่น่าหวาดหวั่นนี้ ความหวังที่มันจะสังหารเล้งซานพลันสลายลงไปในทันที สิ่งเดียวที่มันคิดตอนนี้คือ ต้องหนีไปให้ได้!! มันไม่เคยเสียดายชีวิตเพื่อพรรคป้อมอัคคี แต่หากสูญเสียขวานทลายสวรรค์ ที่เป็น 1 ใน 3 อาวุธอักขระของพรรคไป แม้แลกกับสิบชีวิตของมันก็นับว่าไม่คุ้มค่า
เล้งซานมิได้ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใดมันเพียงแสยะยิ้มเล็กน้อยและทะยานร่างพุ่งเข้าใส่ซูจ้าวในทันที!!
เล้งซานบีบอัดลมปราณอัคคีแห่งมังกรไปที่แขนขวาให้คบกริบอีกครั้ง และโคจรปราณมังกรบรรพตไปพร้อมกัน โดยหวังจะใช้สันฝ่ามือเข้าปะทะขวานทลายสวรรค์โดยตรง!!
ซูจ้าวสะบัดขวานเข้าปะทะสันฝ่ามือของเล้งซานตามที่คาดไว้
เกร้ง!
เสียงที่ดังออกมา ราวกับโลหะกระทบกัน ดวงตาของซูจ้าวเบิกกว้าง มันแทบไม่อยากเชื่อว่าเล้งซานรับขวานทลายสวรรค์ได้ด้วยมือเปล่า!!
เล้งซานแสยะยิ้มเล็กน้อยที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันคาดการณ์ มันมิได้ถอนฝ่ามือออกแต่อย่างใด แต่กลับพลิกข้อมือจับคว้าคมมีดของขวานทลายสวรรค์ จากนั้นก็เร่งลมปราณตวัดขาซ้าย เตะเข้าที่ชายโครงของซูจ้าวอย่างจัง!!
ตูม!!
ซูจ้าวกระเด็นไปหลายสิบเมตรดังว่าวสายป่านขาด กลิ้งไถลไปไกลอีกหลายเมตร มันกระอักเลือดคำโตจากอาการบาดเจ็บ แต่สิ่งสร้างความตื่นตะลึงที่สุดของมันคือ ขวานทลายสวรรค์ หายไปจากมือมันแล้ว!!
"บัดซบ!! เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่รู้หรือว่าอาวุธอักขระ จะมีสายสัมพันธ์ผูกขาดกับผู้เป็นเจ้าของเท่านั้น แม้จะอยู่ในมือเจ้ามันย่อมไม่สามารถเปล่งประกายอักขระได้!!"
"มันก็จริงดั่งท่านกล่าวนั่นแหละ อาวุโสซู แต่ถ้าหากท่านตาย ข้าย่อมเป็นเจ้าของมันได้เป็นแน่!!"
เล้งซานเก็บขวานทลายสวรรค์เข้าไปในแหวนมิติของมันทันที ในขณะที่กำลังจะพุ่งไปสังหารซูจ้าว กลับได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นในจิตสำนึก และแน่นอนว่าเจ้าของเสียงนั้นย่อมเป็นเฟรย่า
"เจ้าเด็กโง่ หมดเวลาเล่นแล้ว รีบหนีเดี๋ยวนี่เลย!!"
เล้งซานชะงักเล็กน้อย
"มีอะไร เฟรย่า"
"มีผู้ใช้ลมปราณสายอัคคี ชั้นลมปราณสีเขียวขั้นกลาง 2 คนกำลังมาที่นี่ ตอนนี้คาดว่าคงพ้นประตูเมืองทิศตะวันตกมาแล้ว!!"
"อะไรนะ!!"
เล้งซานถึงกับคิ้วขมวด มันค่อนข้างแน่ใจว่า สองคนที่มาต้องเป็นระดับผู้อาวุโสพรรคป้อมอัคคีเป็นแน่ การต่อสู้ของมันกับซูจ้าวคงใกล้ประตูเมืองเกินไปทำให้ทหารบนกำแพงเมืองสังเกตเห็นได้ แต่อย่างไรซะมันแสดงไพ่ตายให้ซูจ้าวเห็นมากเกินไป มันรีบพุ่งทะยานไปหาซูจ้าวทันที
"ตาย!!"
เล้งซานวาดวงแขนเล็กน้อย หมายใช้สันฝ่ามือตัดคอซูจ้าวในกระบวนท่าเดียว ซูจ้าวหน้าซีดเผือด แต่มีหรือที่มันจะยอมยืนรอรับความตาย มันเค้นพลังลมปราณเฮือกสุดท้ายในร่าง สร้างปราณคุ้มกันโดยมีจุดศูนย์รวมที่แขนขวา และยกขึ้นรับสันฝ่ามือของเล้งซาน
ตูม!!
"บัดซบ!! ไอแก่นี่ยังมีแรงเหลืออีก" เล้งซานเบิกตากว้างเล็กน้อย
แม้ซูจ้าวตั้งรับไว้ได้ แต่มันก็ยังถอยกรูดไปอีก นับสิบก้าว แรงปะทะทำให้มันกระอักเลือดคำโตอีกครั้ง แต่มันกัดฟันและหันหลังทันทีพร้อมทะยานร่างไปทางประตูเมือง มันสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณที่คุ้นเคยจากทางนั้น มันจึงยอมเดิมพันทุกอย่างกับสัมผัสนี้
เล้งซานพุ่งตามไปอย่างรวดเร็ว พลางบีบอัดลมปราณทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง
"เทพพิโรธถล่มฟ้า!!"
พลังมหาศาลระเบิดออกจากฝ่ามือของเล้งซาน พุ่งเข้าใส่ร่างของซูจ้าวในทันที แต่อีกเพียงครึ่งก้าวที่พลังจะสัมผัสร่างของซูจ้าว พลังลมปราณชั้นสีเขียวสองสายพุ่งเข้าปะทะกับเทพพิโรธในทันที!!
ตรึมมมมมมมมมมมมม!!
เสียงดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ คลื่นพลังของเทพพิโรธสลายหายไป เมื่อฝุ่นที่คละคลุ้งจางลง เล้งซานเห็น ชายแก่ 2 คนยืนอยู่ด้านหน้าของซูจ้าว คนหนึ่งหน้าดำดูดุดันน่าเกรงขาม อีกหนึ่งผมขาวทั้งหัวไว้เครายาวถึงหน้าอก พลังลมปราณชั้นสีเขียวที่ทั้งคู่แผ่ออกมานั้น แข็งแกร่งกว่าซูจ้าวทั้งคู่
"ผู้อาวุโสหง!! ผู้อาวุโสเอี้ย!!"
ซูจ้าวกล่าวเรียกชายแก่ทั้งสองด้วยความดีใจ จนแทบจะน้ำตาไหล ชายแก่หน้าดำเหลือบมองซูจ้าว เห็นสภาพที่น่าอนาถ ถึงกับขมวดคิ้ว
"เหตุใดท่านถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ อาวุโสซู ท่านอย่าบอกนะว่า..."
ชายแก่หน้าดำพูดพลางค่อยๆเหลือบตาไปมองที่เล้งซาน มันยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้ามันเป็นเพียงผู้เยาว์ที่อายุราวๆ 15-16 อีกทั้งพลังลมปราณที่แผ่ออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงแค่ชั้นลมปราณสีครามขั้นต้น
"อย่าได้ดูถูกมันเป็นอันขาดผู้อาวุโสหง จริงอยู่ว่าที่ข้ามีสภาพเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะติดกับดักที่มันวางไว้ และอีกส่วนพลังฝีมือที่แท้จริงของมันอาจเทียบเท่าผู้ใช้ลมปราณสีน้ำเงินขั้นสูง!!"
ซูจ้าวกล่าวพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก
"อาวุโสหง ท่านก็เห็นกระบวนท่าเมื่อครู่แล้วมิใช่รึ กระบวนท่านั้นพลังทำลายมหาศาลอย่างมาก หากเป็นท่านหรือข้า ถ้ารับกระบวนท่าเมื่อครู่เพียงคนเดียว อาจบาดเจ็บก็เป็นได้"
ชายแก่ผมขาวพูดพลางเอามือลูบที่เคราตัวเองช้าๆ
เล้งซานยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจและส่ายหน้าเล็กน้อย ตอนนี้มันรู้แก่ใจทันทีว่า หมดโอกาสที่จะสังหารซูจ้าวไปเสียแล้ว มันถลึงตามองไปที่ซูจ้าวอีกครั้ง
"ซูจ้าว!! เจ้าจงจำคำพูดข้าไว้ให้ดี อีก 1 ปีข้าจะกลับมาที่นี่..."
เล้งซานปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างท่วมท้น เปลวเพลิงอัคคีสีฟ้าลุกโชนโบกสะบัดทั่วร่างอย่างน่ากลัว
"เมื่อถึงวันนั้น ข้าจะลบชื่อพรรคป้อมอัคคีออกจากทวีปนี้!!!"
.....................................................