ตอนที่ 25 หยอกเย้า
"สำเร็จ!! ในที่สุดก็ขึ้นมาชั้นสีครามซะที"
เล้งซาน ดีใจอย่างยิ่ง เพราะในชั้นลมปราณนี้ มันก็จะสามารถใช้ปราณอัคคีจากพรลมหายใจมังกรได้ บัดนี้มันสามารถเริ่มฝึกหัดการเป็นนักปรุงยาได้แล้ว
"เยี่ยมมาก! เท่านี้เจ้าก็รับพรลมหายใจมังกรแล้ว แต่เราว่าการโคจรปราณอัคคีในที่นี้ จะไม่เหมาะอาจทำให้สิ่งของในห้องนี้ลุกไหม้ได้ เจ้าออกไปฝึกที่ลานกว้างด้านนอกเถอะ"
เฟรย่าแนะนำเล้งซาน
แต่เล้งซานส่ายหน้าเล็กน้อย พลางยิ้มที่มุมปาก
"ประเดี๋ยวค่อยฝึกก็ได้ เพราะตอนนี้ใกล้เวลาแล้ว"
"ใกล้เวลา?" เฟรย่าสงสัยเล็กน้อย
ไม่เกิน สิบลมหายใจ ประตูห้องถูกเปิดออกจากด้านนอก บุคคลร่างเล็กผู้หนึ่ง หน้าตาเกลี้ยงเกลา ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับหิมะในฤดูเหมันต์ ผมรัดเกล้าไว้ด้านบนจึงเห็นใบหูที่เหมาะเข้ารูปกับใบหน้าได้ชัดเจน ริมฝีปากเล็กสีชมพูระเรื่อ ดูดึงดูดและน่าสัมผัสอย่างมาก หากคนผู้นี้แต่งชุดสตรีย่อมมิอาจบรรยายความงามเป็นคำพูดได้อย่างแน่นอน
คนผู้นี้คืออี้หลงหวัง ถือทานอาหารสำหรับเล้งซาน เข้ามาให้เล้งซาน ทุกเช้า และเย็น
เล้งซานฉีกยิ้มเล็กน้อย
"ข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย"
"รอข้า?" อี้หลงหวัง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
เล้งซานแสยะยิ้มเล็กน้อย
"แน่นอนย่อมเป็นเจ้า สำหรับข้าแล้วในที่ห้องนี้นั้นช่างน่าเบื่อเป็นอย่างยิ่ง ข้าไม่อาจออกจากห้องเดินเถลไถลไปทั่วได้ ความปลื้มปริ่มเพียงสิ่งเดียว ณ ที่แห่งนี้คือการที่เห็นแม่นางอี้หลง นำอาหารมาให้ข้าทุกวันในเวลาเช้าเย็น"
เล้งซานกล่าวหยอดถ้อยคำเช่นนี้เป็นประจำ นับตั้งแต่พักที่นี่
"จะ..เจ้า หากยังมิเลิกพูดวาจาไร้สาระเช่นนี้ เราจะให้ผู้อื่นทำหน้าที่นี้แทน"
อี้หลงหวัง หน้าแดงระเรื่อราวกับผลไม้สุกงอมที่รอการเก็บเกี่ยว แม้นางจะถูกเย้าหยอกโดยเล้งซานเป็นประจำ แต่นางย่อมไม่เคยชินกับมันอย่างแน่นอน เพราะระยะเวลาร่วม 15 ปีที่ผ่านมา นางได้หลอกผู้คนทั่วเมืองมาตลอดว่าเป็นบุรุษบุตรชายแห่งผู้นำพรรคกระบี่เหิน อีกทั้งด้วยตำแหน่งอัจฉริยะอันดับ 1 ของเมืองเมฆคราม จึงมิเคยมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับนาง
"หากแม่นางอี้หลง เห็นว่าคำกล่าวข้าไร้สาระเหตุใดจึงหน้าแดงเช่นนั้น?"
"เจ้า!!"
นางมิอาจเถียงได้แม้แต่น้อย
"โอ๋ๆ~ ความสุขเพียงหนึ่งเดียวของข้า อย่าได้โกรธเคืองข้าเลย หากเจ้าใช้ผู้อื่นทำหน้าที่นี้ เห็นทีอาการคงต้องกลับไปสาหัสอีกครั้งอย่างแน่นอน"
"หืม..เพราะเหตุใด? ถ้าเรื่องนั้นอย่าได้กังวลเราจะมิให้เรื่องที่เจ้าอยู่ที่นี่ ถูกแพร่งพรายออกไปอย่างแน่นอน"
เล้งซานยิ้มพลางส่ายหน้าเล็กน้อย
"การที่ข้าได้ลิ้มรสแห่งความงามทุกวันมาตลอดเช้าเย็น หากจู่ๆต้องมาลิ้มรสชาติอื่น ข้าย่อมกระอักเลือดออกมาเป็นแน่แท้"
อี้หลงหวังจากใบหน้าที่ขาวเนียนผลันเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อทันที แม้อยากตอบโต้สิ่งได้ แต่ที่นางสามารถทำได้ก็เพียงกล่าวคำว่า..
"จะ..เจ้า!!"
"ข้าทำไม รึ?"
"เราจะวางอาหารไว้ตรงนี้ ขอตัวก่อน" นางพูดพลางวางถาดอาหารลงที่หน้าประตูห้อง ขณะกำลังจะหันหลังไป
"ข้าขออะไรเจ้าสักอย่างได้หรือไม่? และหลังจากนี้ข้าสัญญาว่าจะมิแกล้งเจ้าอีกต่อไป"
"สิ่งใด?" นางเอี้ยวตัวหันหน้ากลับมา พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ข้าอยากเห็นเจ้าแต่งเป็นอิสตรี ข้ามั่นใจว่าแม่นางอี้หลงของข้า ต้องงามล่มเมืองเป็นแน่" เล้งซานฉีกยิ้มเป็นมุมกว้าง
คำว่า "แม่นางอี้หลงของข้า" ราวกับเสียงฟ้าผ่าเข้ากลางใจของ อี้หลงหวัง ใบหน้าที่งดงามจากที่แดงอยู่แล้ว กลับแดงขึ้นมาอีก ริมฝีปากสั่นเครือ
"ขะ..ข้า ไปเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน!! ข้าจะไม่นำอาหารมาให้เจ้าอีกแล้ว"
"โอ๋ๆ~ แม่นางอี้หลง ครั้งหน้าข้าจะมิพูดเช่นนี้อีกแล้ว อย่าได้จากข้าไปเลย"
"เจ้าตัวลามก!! เหอะ เรามิตอบโต้กับคนเช่นเจ้าแล้ว" พูดจบนางก็พลางหันหลังและรีบเดินจากไปทันที
เล้งซานเห็นดังนั้นก็หัวเราะร่า
"ฮ่าๆๆ นางนี่ช่างสมควรแก่การหยอกเย้าเป็นอย่างยิ่ง"
ในคืนนั้น ขณะที่คนอื่นหลับนอน เล้งซาน ได้ลอบออกจากห้องมาที่ลานกว้างด้านหน้าห้องที่มันพักอยู่ ลานกว้างแห่งนี้ เป็นพื้นที่เฉพาะของอี้หลงเทียนจึงไม่มีผู้คน อยู่หรือเฝ้ายามแต่อย่างใด
"เฟรย่าข้าพร้อมแล้ว"
"กระจายลมปราณมาที่ฝ่ามือ ส่งลมปราณจากจุดตันเถียนให้เสมือนเชื้อไฟ หายใจเข้าดั่งดูดกลืนวายุ หายใจออกดั่งปล่อยเปลวเพลิง ส่งปราณจากจุดตันเถียนมา จุดชีพจรสุสานขาว ขัดเกลาและปลดปล่อยปราณอัคคีสู่มือทั้งสองข้าง....."
เฟรย่า อธิบายขั้นตอนไปเรื่อย ๆ
เล้งซาน ทำตามที่ เฟรย่า บอก ใช้เวลาราว 1 ก้านธูป ปราณที่ปล่อยออกมาจากมือทั้งสองข้างค่อยๆแปรเปลี่ยนจากลมปราณสีครามที่พุ่งตรง มันค่อยพลิ้วไหวเฉกเช่นเปลวเพลิง และเปลี่ยนเป็นสีที่อ่อนลงเล็กน้อย มันคือสีฟ้า!!
"เปลวเพลิงสีฟ้า!!"
เล้งซานตื่นตะลึง มันไม่คิดมาก่อนว่าปราณอัคคีแห่งมังกรจะเป็นสีฟ้า
"นี่คงเป็นปราณอัคคีแห่งมังกร เราก็พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเช่นเจ้านั่นแหละ"
เล้งซานค่อยๆเร่งลมปราณมากขึ้น เปลวเพลิงสีฟ้าค่อยๆขยายออกเรื่อยๆ มากขึ้น มากขึ้นจนบัดนี้ มันห่อหุ้มทั่วร่างเล้งซานแล้ว!!
"วิเศษ มาก!! ข้าไม่รู้สึกถึงความร้อนของมันแม้แต่น้อย"
"ย่อมเป็นเช่นนั้น เมื่อเจ้าครอบครองเปลวเพลิงแห่งมังกร เจ้าย่อมได้รับร่างกายที่ทนทานต่อธาตุอัคคีเป็นอย่างมาก"
"แบบนี้ แม้ข้ามิออกกระบวนท่าใดๆก็สามารถใช้เปลวเพลิงโจมตีได้ วิเศษจริงๆ"
เล้งซานฉีกยิ้มขึ้นมา จากนั้นมันค่อยๆ กำหนดและควบคุมเปลวเพลิง โดยใช้การควบคุมลมปราณและสมาธิ เพลิงสีฟ้าในมือค่อยๆหมุนวน จากนั้นก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนบรรยากาศโดยรอบ ราวกับถูกดูดเข้ามาให้เปลวเพลิงสีฟ้านี้
'วายุเพลิงมังกร!!'
เล้งซานสะบัดข้อมือ เหวี่ยงเปลวเพลิงสีฟ้าที่หมุนวนภายในฝ่ามือออกไป
วู๊บบบบบบบบบบบบบบ!!!
ราวกับมิติที่ถูกบิดเบือนด้วยความร้อนสูง ชั้นบรรยากาศถูกเผาไหม้ รอบบริเวณแม้เป็นยามค่ำคืน กลับสว่างวาบด้วยเพลิงสีฟ้า แม้จุดที่เล้งซาน เหวี่ยง วายุเพลิงมังกร ออกไป จะเป็นเพียงลานกว้าง แต่จุดที่โยนไปนั้นกลายเป็นหลุมลึกกว่าครึ่งฟุต เป็นวงกว้างกว่า 3 เมตรและพื้นดินโดยรอบกลายเป็นสีดำสนิทจากการถูกเผาไหม้ด้วยความร้อนสูง ที่สำคัญแม้ถูกเหวี่ยงออกไปมันยังไม่มีที่ท่าว่าวายุเพลิงสีฟ้านี้จะดับหรืออ่อนตัวลงแม้แต่น้อย!! ถูกควบคุมโดยเล้งซานอย่างสมบูรณ์
อี้หลงเทียนขณะที่หลับอยู่ในห้องพักมันสัมผัสได้ถึงปราณอัคคีที่พวยพุ่งออกมาจากลานกว้างหน้าที่พัก
มันจึงรีบทะยานร่างมาที่ลานกว้างทันที เมื่อมาถึงเห็นภาพที่ปรากฏเบื้องหน้านี้
มันเบิกตากว้างเมื่อเห็นเพลิงสีฟ้าที่ลุกไหม้ และหมุนวนอย่างรุนแรง
"นะ..นะ...นี่มันอะไรกัน เพลิงอัคคีสีฟ้า!! ความร้อนของมันเหนือกว่าปราณอัคคีของพรรคป้อมอัคคีหลายสิบเท่า!!"
อี้หลงเทียนย่อมเคยปะทะกับพรรคป้อมอัคคีมาแล้วในอดีตจนนับครั้งไม่ถ้วน มันรู้จักความน่ากลัวของลมปราณเพลิงแห่งพรรคป้อมอัคคีดี แต่กลับยังต้องตกตะลึงกับความน่าหวาดหวั่นของเปลวเพลิงสีฟ้านี้!!
จากนั้นเล้งซาน พลิกฝ่ามือขึ้นเล็กน้อย ดึงลมปราณกลับ พายุเปลวไฟสีฟ้าเบื้องหน้าก็พลันมอดดับไปในทันที
"ยอดเยี่ยม เกินกว่าที่คาดไว้เสียอีก"
เล้งซานมองที่ฝ่ามือของมันพลางยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็หันไปทำความเคารพอี้หลงเทียน
"ต้องขออภัยผู้อาวุโส ที่ผู้น้อยออกมาฝึกยุทธยามวิกาลเช่นนี้"
เล้งซานประสานมือ โค้งตัวเล็กน้อย
อี้หลงเทียนยังคงมีใบหน้าตื่นตระหนก ม่านตายังคงเบิกกว้าง ตะลึงในวิชาอัคคีสีฟ้าอันแผดร้อนนี้.....
..........................................