ตอนที่ 139+140 คนเจ้าเล่ห์
ตอนที่ 139 คนเจ้าเล่ห์
เจียงเหยาไม่รู้ว่าลู่ชิงสีร่ำรวยขนาดไหน แค่เขาเคยบอกเธอว่าเขาไม่เคยรับเงินจากครอบครัวเขาเลย เงินเดือนของเขาก็อยู่ที่เธอและนั่นพิสูจน์ว่าค่าใช้จ่ายของเขาไม่เกี่ยวข้องกับเงินเดือนของเขาเลย ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่าลู่ชิงสีมีแหล่งรายได้อื่นและเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
โจวเหวยฉีเป็นเพื่อนที่ดีของลู่ชิงสี ตอนนี้เหวยฉีต้องการบ้านและลู่ชิงสีก็ยินดีที่จะยกให้เขา ไม่มีเหตุผลที่เจียงเหยาจะรั้งการกระทำของเขา เพราะพอจะรู้เกี่ยวกับมิตรภาพของพวกเขาอยู่บ้าง เธอรู้ว่าลู่ชิงสีเป็นคนทำตัวติดดิน เขาไม่เคยทำอะไรเกินความสามารถของตัวเอง ทุกสิ่งที่เขาทำ เขามักจะวางแผนไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม...
เจียงเหยาบ่นในใจของเธอ ชายคนนี้กำลังแอบเนียนที่จะได้ยินเธอบอกว่า เธอคิดถึงเขา เขาได้เตรียมทุกอย่างไว้เพื่อหลอกล่อเธอ รวมทั้งเหวยฉีด้วย เธอจงใจไม่ทำตามที่เขาต้องการ!
“เหวยฉี ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนที่ดีของคุณเจ้าเล่ห์สักแค่ไหน ถ้าคุณอยากได้บอกของชิงสี คุณก็แค่ส่งโทรศัพท์คืนให้เขา ฉันจะขอให้เขายกบ้านให้คุณ เขาเชื่อฉันอยู่แล้ว!” เจียงเหยารู้สึกปลื้มปิติ เธอเป็นทั้งคนใจดีและใจกว้าง! หืม นั่นคือสิ่งที่เขาหลอกเธอ
“เจ้าเล่ห์...” เหวยฉีมองดูคนเจ้าเล่ห์ที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ประตูอย่างเงียบ ๆ โอ้ เดี๋ยวก่อนนะ นั่นคือชิงสี จากนั้นเขาก็คุยกับเจียงเหยาทางโทรศัพท์ต่อ “เจียงเหยา เธอจริงจังกับเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ?”
“คุณเชื่อฉันไหมล่ะ?” เจียงเหยาถามเขากลับด้วยความมั่นใจล่าลู่ชิงสีคงกำลังวางแผนจะมอบบ้านให้อีกฝ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะไม่ปฏิเสธหากเธอขอให้เขาทำเช่นนั้น
“เชื่อ! เชื่อ! ฉันเชื่อ!” เหวยฉีกระโดดด้วยความดีใจ “ถ้าเธอขอนะ ไม่ใช่แค่บ้านหรอก แม้ว่าชีวิตของเขา เขาก็ให้เธอได้! เธอเป็นใครสำหรับเขาล่ะ เธอเป็นภรรยาที่แสนจะมีค่า ที่เขารักที่สุด!”
ในที่สุดโจวเหวยฉีก็พบความรู้สึกปลอดภัยราวกับว่าเขากำลังถือโล่ หากเขามีเจียงเหยาอยู่ข้าง ๆ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวลู่ชิงสีอีกต่อไป!
“ชิงสี! ภรรยาของคุณอยากคุยด้วย!”
โจวเหวยฉีส่งโทรศัพท์คืนให้ลู่ชิงสีด้วยความปีติยินดี และเขาไม่ได้จากไปหลังจากที่ลู่ชิงสีรับโทรศัพท์ เขาย้ายมายืนอยู่ข้างหน้าลู่ชิงสี กอดอกด้วยความภาคภูมิใจ
ลู่ชิงสีเหล่มองโจวเหวยฉี และไม่สนใจเขา เขารับโทรศัพท์และพูดเบา ๆ “คุณจะคุยกับผมเหรอ?”
“ลู่ชิงสี” เจียงเหยาเรียกชื่อเต็มของเขา
“โจวเหวยฉี เขาบอกว่า เขาอยากได้บ้านของคุณที่โกเด้นฮาเบ้อน่ะ คุณสามารถให้เขาได้ไหม?”
ลู่ชิงสีตอบกลับ “อืม...” และผลักโจวเหวยฉีออกไป ซึ่งกำลังยืนขวางทางเขา เขาโยนก้นบุหรี่ลงในถังขยะ ที่วางไว้ในห้องนั่งเล่นและหันไปมองโจวเหวยฉีที่กำลังยิ้มด้วยความตื่นเต้น ลู่ชิงสีโค้งริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย “อืม..ผมจะให้เขาถ้าภรรยาของผมเห็นด้วย ถ้าภรรยาไม่เห็นด้วย ก็ไม่ให้”
“ให้สิ! ให้เขาไปเถอะ! ถ้าคุณไม่ให้ เขาคงได้ไปนอนข้างถนนแน่ น่าเวทนาออก” เจียงเหยาพ่นลมหายใจ “สำหรับคนใจดีอย่างฉัน ฉันทนเห็นใครถูกรังแกไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่รู้ว่าเจียงเหยาหมายถึงอะไร? เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าเขากำลังพยายามหลอกให้เธอพูดว่า ‘ฉันคิดถึงคุณ’ และเธอก็เข้าใจสถานการณ์หลังจากได้ยินเรื่องที่เหวยฉีพูด ดังนั้นเธอไม่ได้พูดโดยตรง แต่พยายามพูดแบบอ้อม ๆ
ทว่า ก็ทำให้ลู่ชิงสีมีความสุขมากขึ้นที่ได้ฟังเสียงที่มีชีวิตชีวาของเจียงเหยา มากกว่าที่จะได้ยินเธอพูดว่า ‘ฉันคิดถึงคุณ’
ภรรยาตัวน้อยของเขาแสดงท่าทางดี ๆ ต่อหน้าเขา และเธอก็กำลังช่วยพูดแทนเพื่อนของเขา เพื่อขอของจากเขา ในฐานะภรรยาของเขา เธอไม่แสดงอาการหวงของเลย
ถ้าเกิดเป็นผู้ชายคนอื่นคงเสียใจ แต่ลู่ชิงสีกลับมีความสุขมาก เพราะไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ภรรยาของเขาฟังมากเกินไป จิตใจของพวกเขาก็เข้าใจซึ่งกันและกัน
__
ตอนที่ 140 ภรรยาใจดี
เขาพอใจกับความรู้สึกและความคิดอันลึกซึ้งของเธอมาก เธอไม่ได้ขัดขวางเขาในการใช้จ่ายทางการเงิน แสดงว่าเธอเชื่อมั่นในตัวเขาอย่ามาก และเชื่อในความสามารถของเขา รวมไปถึงเหตุผลของเขาด้วย
“ได้ ตามที่ภรรยาแสนดีของผมบอก ผมเชื่อคุณ ผมจะให้เขา” ลู่ชิงสีตอบตามความจริง
โจวเหวยฉีงงมาก! ว้าว ตกลงงั้นเหรอ! เจียงเหยานี่ยอดเยี่ยมมาก! เขาตื่นเต้น โผล่เข้ากอดเฉินซวีเหยา พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ซวีเหยา! นายได้ยินไหม ภรรยาของพี่ลู่เป็นห่วงฉันล่ะ! เธอสงสารที่ฉันไม่มีที่อยู่ เธอขอให้พี่ลู่ยกบ้านให้ฉัน! โอพระเจ้า เธอคือเทพธิดาผู้ยิ่งใหญ่ของฉันเลย!”
เฉินซวีเหวยาพบว่าความตื่นเต้นของโจวเหวยฉีเป็นที่ที่สุดจะทน ดังนั้นเขาจึงรีบหนีออกห่างไปอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้น เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้ เมื่อพิจารณาบทสนทนาหลายประโยคของลู่ชิงสี เขาตีความได้ว่าเจียงเหยาไม่ได้ถามถึงมูลค่าบ้านและเรื่องอื่น ๆ เสียด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้ใจกันอย่างดี และผลลัพธ์สุดท้าย คือการมอบบ้านให้กับโจวเหวยฉี
เฉินซวีเหยาเดาว่าบางที เขาควรจะเปลี่ยนมุมมองที่มีอคติต่อเจียงเหยา ซึ่งเขาเคยพบเธอเพียงครั้งเดียว
เจียงเหยาดูเป็นคนสบาย ๆ และใจดี แต่เธอก็มีความเขินอายหลังจากที่ลู่ชิงสีพูดซ้ำ ๆ จากนั้นเธอก็หัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องของโจวเหวยฉี ดังลอดผ่านทางโทรศัพท์ บางที่นี่อาจเป็นมิตรภาพระหว่างลู่ชิงสีกับเพื่อน ๆ ของเขา เธอสัมผัสได้ถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่กับพวกเขาจริง ๆ ก็ตาม
ทันใดนั้นเจียงเหยาก็เริ่มตั้งตารอการเดินทางในวันชาติ เขาจะพาเธอไปรู้จักกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาไหมนะ?
ความคาดหวังถึงการเดินทางและงานแต่งงานเริ่มมีมากขึ้น เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้พบกับทุกคนที่เขาห่วงใย
ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะวางสาย ลู่ชิงสีเป็นคนเงียบขรึม เขาไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ส่วนเธอเองก็ไม่รู้จะเริ่มบทสนทนาอย่างไร สำหรับเขา การได้ฟังเสียงลมหายใจของเธอ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขามีความสุข
สาว ๆ ในห้องคิดว่าเจียงเหยาวางสายแล้ว เมื่อเห็นว่าเธอหยุดพูด พวกเขาจึงล้อมรอบเธออย่างเก๋ไก๋และล้อเลียน “เจียงเหยา สามีของเธอโทรมาใช่ไหม? คุยอะไรกัน ทำไมหน้าเธอถึงได้แดงแบบนี้เล่า!”
เวินเสวี่ยฮุ่ยกระโดดลงมาจากชั้นบน เธอนั่งข้างเจียงเหยา โดยอุ้มมัวไว้ในมือข้างหนึ่ง พร้อมกับใช้ศอกดันเจียงเหยา “ลู่ชิงสี – นั่นชื่อของสามีเธอเหรอ? ชื่อเพราะดีนี่!”
เวินเสวี่ยฮุ่ยเป็นคนเดียวในห้องพักที่เคยพบกับสามีของเจียงเหยา เธอหวนคิดถึงเวลาที่เธอพบเขา ดวงตาที่เฉียบคมนั้นราวกับธารน้ำแข็งที่น่าสะพรึงกลัวในฤดูร้อน แต่กลับกลายเป็นโลกที่หิวโหยเมื่อได้จูบกับเจียงเหยา
จากที่ได้พบกับสามีของเธอเป็นครั้งแรกนั้น เวินเสวี่ยฮุ่ยก็ยอมรับว่าประทับใจ สามีของเจียงเหยาเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม และเขากับเจียงเหยาก็ดีเป็นคู่ที่เหมาะสม โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่ ยิ่งกว่านั้น ในสายตาของเขามีเพียงเจียงเหยาเท่านั้น
ลู่ชิงสีได้สติเมื่อเขาได้ยินเสียงความโกลาหลของสาว ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนร่วมห้องของเจียงเหยารู้จักเขา กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเธอคงรู้แล้วใช่ไหมว่าเจียงเหยาแต่งงานแล้ว?
บางทีเจียงเหยาคงได้บอกเรื่องนี้กับพวกเธอแล้ว
เมื่อคิดเช่นนั้น ลู่ชิงสีก็ยิ้มราวกับมีคนเทน้ำผึ้งมาทั้งโหลในหัวใจของเขา ทุกคนรอบตัวเธอรู้จักเขาทั้งที่อยู่ไกลกันขนาดนี้ หมายความว่าเธอคงพูดถึงเขาเป็นครั้งคราวใช่ไหม?
“แค่นี้นะ!” เจียงเหยาโพล่งออกมาอย่างรวดเร็วและตามด้วยเสียงบิ๊บดังขึ้น เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ลู่ชิงสีเก็บโทรศัพท์ด้วยความยินดี