1151-1152
7/10
Ep.1151
เมื่อแสงเจิดจ้ากระจัดกระจายหายไป เห็นแค่เพียงกระบี่ทองคำสั่นเทาอย่างรุนแรง จากนั้นค่อยๆถูกกดดันถอยหลัง สุดท้ายกระเด็นฟิ้วว ปลิวหายไปในคราเดียว
ระหว่างกระเด็นออกไป ตัวกระบี่ใหญ่ยักษ์ก็ค่อยๆหดลง ไม่นานเหลือเพียง 40 จั้ง อีกทั้งตามใบกระบี่ยังถูกปกคลุมไปด้วยรอยปริร้าวเป็นใยแมงมุม ได้ยินเพียงเสียงดัง กริ๊ก! สุดท้ายแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กระจัดกระจายท่ามกลางอวกาศที่ว่างเปล่า
กระบี่เทพเซียนถูกทำลายลงแล้ว!
ได้เป็นสักขีพยานของเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างตกตะลึง!
“นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
หัวใจใของกู่ป้าเทียนคล้ายถูกกรีด เจิ่งนองไปด้วยเลือด
กระบี่เทพเซียนคืออาวุธหลักที่เขาใช้มันประกาศกร้าว ท่องไปทั่วอวกาศ การสูญเสีย สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าชั้นยอดเช่นนี้ไป ส่งผลให้กำลังรบของเขาลดทอนลงเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เวลานี้เขาไม่สนใจความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะหลังจากกระบี่ฟ้าสามารถทำลายกระบี่ทองคำได้แล้ว อำนาจทำลายล้างของมันยังไม่หมดลง ยังคงฟาดฟันบดขยี้ตรงมายังทิศทางของกู่ป้าเทียน
“หากคิดจะสังหารข้า เจ้ายังอ่อนหัดนัก!”
กู่ป้าเทียนกัดฟันแน่น ชุดเกราะทองคำปรากฏขึ้นบนร่างกายเขา ทอประกายไปด้วยแสงสีทองลุกโชติช่วง ส่งผลให้ตัวเขาในเวลานี้ มองยังไงก็เสมือนดั่งเทพเจ้า ทรงพลังและน่าเกรงขาม ดั่งผู้ยิ่งใหญ่แห่งสรวงสวรรค์!
ซูเฉินเบ้ปาก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ แทบจะในทันทีหลังจากนั้น เขาเหยียดมือและชี้นิ้วออกไปข้างหน้า
กระบี่ฟ้าสาดประกายวาบ กรีดผ่านอวกาศเร็วยิ่งกว่าเดิม ฟาดฟันไปทางกู่ป้าเทียน
บรึ้มมมม!
บังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง กู่ป้าเทียนถูกโจมตีอย่างรุนแรง เศษเลือดเศษเนื้อปลิวว่อน ร่างสูงใหญ่ร้อยจั้งหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเหลือเพียงสิบจั้งเท่านั้น
ยังไงก็ตาม [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ถูกลดทอนอำนาจส่วนหนึ่งไปตอนปะทะกับกระบี่เทพเซียน ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่สามารถทำลายชุดเกราะระดับเทพเจ้าของกู่ป้าเทียนได้
แต่ถึงอย่างนั้น กู่ป้าเทียนก็ยังได้รับบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากมองมาที่ตัวเขาในเวลานี้ จะพบว่าทั้งตัวโทรมดั่งผ้าขี้ริ้ว กลิ่นอายถดถอยลงมาก ไม่อลังการดั่งยามปรากฏตัวขึ้นในครั้งแรก
“ท่านเทพอสูรร้ายถูกทำร้าย ...”
ใบหน้าของฝูงอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้ากลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของกู่ป้าเทียนคือตัวตนอยู่ยงคงกระพันในใจของพวกเขา ใครจะไปคาดคิดกัน ว่าวันนี้จักถูกทุบตีโดยขอบเขตเทพเจ้าสองดารา
“เกือบสำเร็จแล้วเชียว!”
หวูซางได้สติกลับมาจากอาการช็อค ทอดถอนหายใจด้วยความเสียดาย
หากซูเฉินสามารถสังหาร กู่ป้าเทียนได้ในกระบี่เดียว การต่อสู้ครั้งนี้คงจบลงแล้ว
แต่กู่ป้าเทียนไม่ตาย สิ่งที่ตามมาจากนี้คงยากจะคาดเดา
ซูเฉินใช้กระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาไปแล้ว เช่นนั้นเขาจะยังเหลือไพ่ตายอีกหรือไม่? เรื่องนี้หวูซางไม่อาจทราบ
อีกด้านหนึ่ง คังซ่งห่าวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความแข็งแกร่งของซูเฉินสร้างความตกใจแก่เขาอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากกู่ป้าเทียนถูกกุดหัวด้วยกระบี่เมื่อครู่ ตัวเขาเองก็จะตกอยู่ในอันตรายเหมือนกัน
โชคยังดีที่กู่ป้าเทียนไม่ตาย เพราะนั่นเท่ากับว่ายังเหลือโอกาสพลิกสถานการณ์ ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะออกจากเขตแดนเจินหวนทันที
“เจ้าหนู ขอยอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งจริงๆ แต่มันยังไม่มากพอหากคิดสังหารข้า! ตอนนี้เจ้าคงไม่เหลือลูกเล่นใดๆอีก หมดปัญญาแล้วกระมัง?”
กู่ป้าเทียนหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เขาคิดไปตามสัญชาตญาณ ว่าซูเฉินคงไม่มีไพ่ตายอีกแล้ว ซึ่งนับจากนี้ไป จะเป็นเวลาที่เขาได้แก้แค้นเอาคืนอย่างสาสม! เขาจะจับซูเฉินทรมานจนกว่าเนื้อหนังและกระดูกจะแหลกเหลว!
“คิดแบบนั้นจริงๆน่ะหรอ?” สีหน้าของซูเฉินเผยท่าทีเยาะเย้ยออกมา
หลังจากเก็บกระบี่เทวะธาตุสายฟ้าลงในถุงเก็บของ เขาก็เล็งมาทางกู่ป้าเทียน และโจมตีด้วย [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน]
ช่วงนี้คือเวลาที่กู่ป้าเทียนอ่อนแอที่สุด นับเป็นจังหวะเหมาะที่จะกุดหัวมัน และซูเฉินย่อมไม่พลาดโอกาสนี้ไป!
“ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์สายลวงตาต่อหน้าข้า คิดหรือว่าจะได้ผล?” กู่ป้าเทียนฟื้นคืนสติแทบจะในทันที เอ่ยปากออกมา
ในฐานะผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทพเจ้าสามดารา จิตสำนึกของเขาแข็งแกร่งมาก [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] ไม่อาจทำอะไรเขาได้
เพียงแต่ว่า ที่ซูเฉินซัดหมัดนี้ออกไป เดิมมันแค่เพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น อาศัยช่วงเวลาในเสี้ยวพริบตานี้ จิตจำลองของเขาเปิดใช้งาน [ภูติเงาก้าวพริบตา] ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังกู่ป้าเทียน ง้างแขนเต็มข้อ และเหวี่ยงหมัดออกไป
8/10
Ep.1152
กู่ป้าเทียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายที่แผ่มาทางทางด้านหลัง หมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว
หลังจากเห็นเต็มสองตาว่าผู้ลอบโจมตีคือซูเฉิน สีหน้าเขาพลันแข็งทื่อ แต่ไม่นานก็ฉุกคิดได้
ซูเฉินที่ลอบโจมตีผู้นี้ สมควรเป็นร่างจำแลงอย่างแน่นอน และร่างจำแลงจะมีกำลังรบเพียงครึ่งเดียวของร่างหลัก
เมื่อคิดได้แบบนี้ กู่ป้าเทียนเผยท่าทีดูแคลนขึ้นมาทันที “เป็นแค่ร่างจำแลง กล้าลอบโจมตีข้าหรือ?”
ทว่าทันทีที่คำนี้หลุดออกจากปากเขา สีหน้าของเจ้าตัวก็แปรเปลี่ยนไป
เพราะ ณ ขณะนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าร่างจำแลงเบื้องหน้า กลิ่นอายที่มันแผ่ออกมา คุกรุ่นรุนแรงเหมือนกับซูเฉินไม่มีผิดเพี้ยน! มันได้มาอยู่ใน ขอบเขตเทพเจ้าสองดาราแล้ว!!
“ร่างจำแลงที่มีกำลังรบทัดเทียมกัน?”
กู่ป้าเทียนตะลึงงันไปครู่หนึ่ง สิ่งที่เห็นในสายตา คือ [พายุกาแลคซี] ที่มีความยาวเป็นร้อยจั้งผุดพรายขึ้นในอวกาศ กลืนกินร่างเขา
ความผันผวนของพลังอำนาจที่ปลดปล่อยออกมา สามารถทำลายได้ทั้งสวรรค์และปฐพี!
“นี่มันวิชาเทพเซียนอะไรกัน!?” กู่ป้าเทียนตัวแข็งทื่อ
เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูก [พายุกาแลคซี] ท่วมทับแล้ว
“ช่างเป็นทักษะหมัดอันน่าสะพรึง!”
คังซ่งห่าวและอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าหวาดกลัวจนหน้าซีดเผือด สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง
แค่ [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ของซูเฉินก็สร้างความตกใจให้พวกเขามากพอแล้ว แต่เมื่อ [พายุกาแลคซี] ถูกเผยออกมา พวกเขาพบว่าอำนาจทำลายล้างของมันไม่ด้อยไปกว่า [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] เลย
คนหนึ่งคนมีวิชาเทพเซียนถึงสองกระบวนท่าได้อย่างไร? จะร้ายกาจเกินไปแล้ว!
ณ ตอนนี้ พวกเขาถึงค่อยกระจ่างชัด ว่าซูเฉินแข็งแกร่งเพียงใด
“ซูเฉินยังมีไพ่ตายสำรองเช่นนี้เหลืออีก?” หวูซางตกตะลึง
ทว่าจางเฉินคุน และชาวเผ่าชิงเหอคนอื่นๆไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไรออกมา เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อตอนอยู่ในเขตแดนมู่กวง พวกเขาเคยเห็นซูเฉินสำแดงกระบวนท่าสังหารนี้มาก่อน ดังนั้นพอมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง
กึ้ง กึ้งง กึ้งงง! แคว๊ก แคว๊กก แคว๊กกก!
บังเกิดเสียงปริร้าวและฉีกขาดดังขึ้นเป็นระยะๆ เฝ้ารอจนกระทั่ง [พายุกาแลคซี] ที่บดบังวิสัยทัศน์จางหายไป
ฝูงชนเบิกตากว้าง เพ่งมองไปยังกู่ป้าเทียนเป็นสายตาเดียว
เห็นแค่เพียงกู่ป้าเทียนในเวลานี้เต็มไปด้วยเลือดเนื้อเลอะเลือน เกราะเทพเจ้าบนร่างเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ กลิ่นอายเหือดหายจนถึงขีดสุด
แม้ว่าจะยังไม่ตาย แต่ตะเกียงไฟของเขา น้ำมันแทบหมดเกลี้ยงแล้ว
“กู่ป้าเทียนจบสิ้นแล้ว”
จางเฉินคุน และคนอื่นๆตื่นเต้นมาก พวกเขาสามารถตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่ากู่ป้าเทียนไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น แต่กระบี่และเกราะระดับเทพเจ้ายังพ่ายแพ้ ถูกซูเฉินทำลายตามลำดับ กำลังรบเหือดหายดิ่งลงเหว
ตราบใดที่ซูเฉินลงมืออีกแค่ครั้งเดียว เขาจะสามารถสังหารกู่ป้าเทียนได้อย่างแน่นอน
“รีบไปช่วยท่านผู้นำ!” อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าฝืนข่มความกลัว ทั้งหมดรีบพุ่งเข้าสังหารซูเฉิน
ฝ่ายคังซ่งห่าวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายตามหลังพวกอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าไป
เขาเข้าใจข้อดีข้อเสียเป็นอย่างดี หากกู่ป้าเทียนตาย เขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถทนดูซูเฉินปลิดชีพกู่ป้าเทียนได้
“ฆ่า!” จางเฉินคุนร้องคำรามออกมา ทะยานเข้าหาคังซ่งห่าวเป็นคนแรก
ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่สุดที่จะฆ่ากู่ป้าเทียน เขาไม่มีทางปล่อยให้คังซ่งห่าวทำเสียเรื่อง
“ไสหัวไป!” คังซ่งห่าวโกรธจัด ทุ่มสุดแรงตวัดฟันในดาบเดียว สับจางเฉินคุนปลิวกระเด็นออกไป จากนั้นไม่หยุดเท้า ยังคงพุ่งเข้าสังหารซูเฉินต่อ
“อาศัยแค่แก กล้าดียังไงมาคิดหยุดฉัน?” ซูเฉินยิ้มดูแคลน สะบัดข้อมือ ปล่อยลำแสงสีเงินพุ่งออกไป
ทันใดนั้น ลำแสงเมื่อครู่พลันกลายร่างเป็นยักษ์เหล็กสีเงินที่มีขนาดร้อยจั้ง
ในคราเดียว กลิ่นอายระดับเทพเจ้าอันคุกรุ่นรุนแรงระเบิดออกมา สะกดฝูงอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าจนตื่นตะลึงอย่างสมบูรณ์
“หุ่นเชิดขอบเขตเทพเจ้าสามดารา !”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ปล่อยออกมาจาก [รถศึกอัจฉริยะ] สีหน้าของคังซ่งห่าวกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง
ทว่าขณะนี้ เขาไม่เหลือที่ว่างให้ถอยหนีแล้ว
คังซ่งห่าวกัดฟันแน่น กุมกาบผ่าจันทราเข้าต่อกรกับ [รถศึกอัจฉริยะ]
หากพูดถึงในแง่กำลังรบโดยรวม ถือว่าเขาเหนือกว่า [รถศึกอัจฉริยะ] แต่หากต้องการโค่น [รถศึกอัจฉริยะ] ในระยะเวลาอันสั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน