1147-1148
3/10
Ep.1147
“แส่หาที่ตาย!”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินกล้างัดเหล็กแข็งกับตัวเอง รอยยิ้มเยาะผุดขึ้นตรงมุมปากของคังซ่งห่าว กำหมัดแน่นเหวี่ยงมันออกไปในอวกาศ
เขาเหนือกว่าซูเฉินถึงสองขั้น ด้วยพละกำลังและร่างกายอันแข็งแกร่งที่มี เขาย่อมสามารถบดขยี้ซูเฉินได้อย่างสิ้นเชิง
หลังจากหมัดนี้จบลง ซูเฉินจะเหลือเพียงเศษเนื้ออย่างแน่นอน
หวูซางและอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าต่างเบิกตากว้าง ทั้งหมดมองไปยังซูเฉินและคังซ่งห่าวอย่างไม่อยากคลาดสายตา
ผู้ใดจะเข้มแข็งและอ่อนแอกว่ากัน หมัดนี้จะเป็นตัวบ่งบอกทุกอย่าง
บังเกิดเสียงบรึ้มมมมม! ดังกึกก้องไปทั่วฟ้า หมัดของซูเฉินและคังซ่งห่าวประสานกันอย่างไร้ปราณี บังเกิดสภาวะฟ้าถล่มดินทลาย!
กระแสอากาศอันคุกรุ่นรุนแรงกวาดฮือไปทุกทิศทาง พัดเขาหวูซางและเหล่าอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้ากระเด็นลงไปกองกับพื้น
วินาทีถัดมา เห็นแค่เพียงคังซ่งห่าวพุ่งเป็นเส้นแสงกลับไปด้านหลังจากดั่งดาวตก ชั่วพริบตาเดียวปลิวออกไปไกลหลายพันเมตร
“เป็นไปได้ยังไง?”
“ท่านคังซ่งห่าวถูกสยบในหมัดเดียว!”
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ฝูงอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าทั้งหมดต่างหวาดกลัวจนอธิบายไม่ถูก
พวกมันไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลย ว่าผู้แข็งแกร่งอันดับสองแห่งสี่เขตแดน จะพลาดท่าในการต่อสู้กับซูเฉิน!
“ทำไมพละกำลังของเจ้าถึงมหาศาลได้ขนาดนี้?” คังซ่งห่าว บินกลับมาจากระยะไกลอย่างรวดเร็ว จดจ้องซูเฉินด้วยดวงตาเบิกกว้าง ความดูแคลนในดวงตาเขามลายหายไปนานแล้ว บัดนี้ถูกแทนที่ด้วยความเคร่งเครียดอย่างลึกล้ำ
เมื่อครู่ เขารู้สึกเหมือนถูกชกโดยขุนเขาขนาดใหญ่ พละกำลังของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าซูเฉิน มันเล็กจ้อยไม่ต่างจากมดปลวก
ความแข็งแกร่งของซูเฉินน่าหวาดผวา เหนือความคาดหมายของเขาไปมากนัก
คังซ่งห่าวไม่นึกฝันมาก่อนเลย ว่าจะมีบุคคลเช่นนี้อยู่ในสี่เขตแดนด้วย
“ฉันมีพละกำลังมากแค่ไหน จำเป็นต้องตอบแกด้วยหรอ? ว่าไง ตอนนี้ยอมรับได้รึยัง?” ซูเฉินยิ้มดูแคลน ปฏิบัติดั่งคังซ่งห่าวไม่อยู่ในสายตาเขาอย่างสิ้นเชิง
“เหอ เหอ” คังซ่งห่าวไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน แค่นเสียงเย็น “เจ้าหนูคิดว่าแค่การมีพละกำลังมหาศาลก็สามารถไม่เห็นใครอยู่ในสายตาได้งั้นหรือ? หากข้าต้องการฆ่าเจ้า เป็นแค่เรื่องง่ายดาย!”
การต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่ง ไม่ได้อาศัยเพียงพละกำลังเท่านั้น แต่มันขึ้นอยู่กับทักษะการต่อสู้ อาวุธ และพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มี
ต่อให้ซูเฉินสามารถโค่นเขาด้วยพละกำลังแล้วอย่างไร? หากให้ใช้กำลังรบทั้งหมดที่มี คังซ่งห่าวมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถฆ่าซูเฉินได้
“งั้นก็มาวัดกันเลยว่าแกจะแน่ซักแค่ไหน จงแสดงฝีมือออกมา!” ซูเฉินกล่าวยั่วโมโห
เดิมที เขาวางแผนจะฆ่ากู่ป้าเทียนก่อนแล้วค่อยจัดการกับคังซ่งห่าว
แต่ในเมื่อคังซ่งห่าววอนหาที่ตาย ถ้างั้นเขาก็ทำได้เพียงเติมเต็มความปรารถนาให้
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เขาจะได้จัดการกับกู่ป้าเทียนได้อย่างสบายใจซักที
“โอหัง!”
คังซ่งห่าวโกรธจนหน้าแดง เส้นเลือดปูดโปนบนใบหน้าเขา นับแต่ท่องไปทั่วอวกาศ ไม่เคยมีใครดูถูกเขาแบบนี้มาก่อน
เวลานี้ จิตสังหารของเขาลุกท่วมเป็นไฟ ตั้งปฏิญาณว่าจักทำลายซูเฉินให้สิ้นซาก
ผึง!
คังซ่งห่าว ชักดาบคมเดียวสีเงินออกมา ชี้ไปทางซูเฉิน
ในคราเดียว เจตนาฆ่าอันดุเดือดรุนแรงกระพือเข้ามาตรึงร่างของซูเฉินเอาไว้อย่างแน่นหนา
การที่มันสามารถปลดปล่อยพลังเช่นนี้ได้ เห็นได้ชัด ว่าดาบคมเดียวเล่มนี้คือสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า ชั้นนำอย่างแน่นอน
“ซูเฉิน ดาบยาวในมือของคังซ่งห่าวมีชื่อว่าดาบผ่าจันทรา เป็นสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า ระวังตัวด้วย” จางเฉินคุนกล่าวเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวใดๆ
ระหว่างนั้นเอง เสียงกระดูกลั่นเปรี๊ยะจากบนตัวเขา ร่างกายสูงชะลูดขึ้นเป็นสิบจั้งทันที
ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันอันรุนแรงแผ่ขยายออกมา ฐานฝึกตนของเขาทะยานขึ้นมาเป็นขอบเขตเทพเจ้าสองดารา!
เมื่อต้องเอาจริง ฐานฝึกตนในขั้นหนึ่งดาราไม่เพียงพออีกต่อไป
“วิชาแปลงร่าง! ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา !!”
คังซ่งห่าวตะลึงงัน หากซูเฉินมีระดับเพียงหนึ่งดารา เขามั่นใจว่าตนชนะแน่นอน แต่จู่ๆกระโดดขึ้นมาเป็นสองดารา นั่นเท่ากับว่ากำลังรบโดยรวมของซูเฉินพุ่งทะยานจนเทียบของเดิมไม่ติด เวลานี้--
--เขาไม่มั่นใจเหมือนในตอนแรกอีกแล้ว
4/10
Ep.1148
อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้า ตนอื่นๆเองก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน
เดิมซูเฉินในขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา ก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว เวลานี้เมื่อเลื่อนขั้นเป็นสองดารา เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
คังซ่งห่าวยังสามารถรับมือได้อยู่หรือไม่?
“คังซ่งห่าว! มารับความตายซะดีๆ!”
ซูเฉินกวาดสายตามองคังซ่งห่าว ตะโกนเสียงดัง
กึดดดด!
คังซ่งห่าวขบฟันแน่น เปลวเพลิงแห่งความโกรธผุดขึ้นในดวงตา
ทว่าขณะกำลังจะเริ่มลงมือ แรงกดดันอันน่าสะพรึงก็แผ่ซ่านออกมาจากอุโมงค์ผ่านเขตแดน และจากกลิ่นอายบ่งบอกชัดว่าแข็งแกร่งกว่าคังซ่งห่าว
“กู่ป้าเทียนมาแล้ว!”
จางเฉินคุนและคนอื่นๆเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด
ภายใต้แรงกดดันนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้มาเยือนย่อมเป็นกู่ป้าเทียน
ร่มเงาของต้นไม้ก็เหมือนชื่อเสียงของผู้คน
กู่ป้าเทียนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งสี่เขตแดน ครอบครองกำลังรบไร้เทียมทานไม่มีผู้ใดเทียบ!
แม้ตัวยังไม่มา แต่กลับสร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อจางเฉินคุนและคนอื่นๆแล้ว
“ในที่สุดก็มา”
ซูเฉินพ่นลมหายใจเบาๆ เลื่อนสายตากวาดไปยังอุโมงค์ผ่านเขตแดน
เกิดเสียงครืนนนนนน ดังกึกก้อง
เงาร่างหนึ่งพุ่งออกจากทางอุโมงค์เขตแดนอย่างรวดเร็ว ตอนแรกมันไม่แตกต่างอะไรกับร่างของมนุษย์ธรรมดา แต่ไม่นานก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงไป พริบตาเดียวกลายเป็นยักษ์สูงใหญ่ร้อยจั้ง ยามผู้คนแหงนมอง ให้ความรู้สึกราวกับเป็นเทพมารผู้ไม่อาจหาใครเทียบ ทั่วร่างว่ายวนไปด้วยปราณสังหารที่ก่อตัวจนเห็นด้วยตาเปล่า
“ช่างเป็นกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้!”
หวูซางและคนอื่นๆสีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที เผลอขยับเท้าถอยพร้อมกันโดยไม่รู้ตัว
ช่วงเวลาที่กู่ป้าเทียนปรากฏขึ้น แม้เขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ แต่ทันทีที่มาเยือน ก็ทำให้หวูซางและคนอื่นๆตกใจกลัว
นี่แสดงให้เห็นว่า กำลังรบของเขาน่าประหวั่นพรั่นพรึงเพียงใด
“ท่านผู้นำ! ฝูงอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้า ขานรับกู่ป้าเทียนด้วยความเคารพ”
“พี่กู่ ในที่สุดพี่ก็มา”
คังซ่งห่าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แรงกดดันที่ซูเฉินมอบให้เขานั้นหนักหน่วงมาก โชคดีที่กู่ป้าเทียนมาได้ทันเวลา
หากปล่อยซูเฉินให้กู่ป้าเทียนจัดการ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอีกต่อไป
กู่ป้าเทียนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนกวาดมองซูเฉินและคนอื่นๆ
เมื่อเขาเห็นว่าจางเฉินคุนและชาวเผ่าชิงเหอคนอื่นๆก็อยู่ที่นี่ด้วย ประกายเย็นวาบสะท้อนผ่านดวงตาเขา กล่าวเสียงเย็น “จางเฉินคุน! เจ้ามาหาที่ตายหรือ?”
หลังจากยึดครองเขตแดนเจินหวน เป้าหมายต่อไปของเขาคือ เขตแดนมู่กวง
เดิมคิดว่าอาจลำบากลำบนนิดหน่อย แต่คาดไม่ถึงเลย ว่าจางเฉินคุนจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หรือความหมายก็คือ เขาสามารถจับศัตรูทั้งหมด โยนลงต้มได้ในหม้อเดียว
จางเฉินคุนขบกรามแน่น เงียบปากไม่พูดไม่จา
ยามเผชิญหน้ากับคังซ่งห่าว เขายังพอปะทะฝีปากได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู่ป้าเทียน เขากลับไม่เหลือความห้าวหาญใดๆ
“กู่ป้าเทียน! อย่าทำเป็นอวดดีไปหน่อยเลย ถ้าแกต้องการฆ่าพวกเขา ต้องข้ามศพฉันไปก่อน!”
ซูเฉินก้าวไปข้างหน้า มองตรงไปยัง กู่ป้าเทียน เผยรอยยิ้มบาง
หืม?
กู่ป้าเทียนนิ่งค้างไป
มดปลวกขอบเขตเทพเจ้าสองดารา กล้าดียังไงเป็นฝ่ายเริ่มยั่วโมโหเขา?
“พี่กู่ เจ้าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา พละกำลังของมันเหนือกว่าข้ามาก” คังซ่งห่าวเอ่ยเตือน
“โห?”
กู่ป้าเทียนร้องคำโห ออกมาเบาๆ
คังซ่งห่าวคือผู้แข็งแกร่งอันดับสองที่เป็นรองแค่เขา แต่การที่กระทั่ง คังซ่งห่าว ยังเอ่ยปากเช่นนี้ ใครๆก็สามารถจินตนาการได้ ว่าซูเฉินควรมีอะไรบางอย่างพิเศษจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเป็นแค่ ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ในสายตาเขายังคงเป็นเพียงมดปลวก
“เจ้าหนู ขอยอมรับว่าเจ้ามีความกล้าไม่เลว แต่ถ้าอยากแสร้งทำเป็นเก่งต่อหน้าข้า เจ้ายังห่างไกลจากจุดนั้นอีกมากโข”
กู่ป้าเทียน เหลือบมองซูเฉิน เผยยิ้มดูแคลน ก่อนกล่าวต่อว่า “ดูจากหน้าตาแล้ว เจ้าน่าจะอายุยังน้อย แต่สามารถฝึกฝนจนมีฐานฝึกตนเช่นนี้ได้ ถือว่าไม่เลว ฉะนั้น ข้าจะให้โอกาสเจ้า ถ้าไม่อยากทรมาน จงปลิดชีพตัวเองที่นี่เสีย!”
ในฐานะผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งสี่เขตแดน เขามีคุณสมบัติพอที่จะกล่าวเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะมองซูเฉินเป็นผู้ต่ำต้อยกว่า