1145-1146
1/10
Ep.1145
เวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
20 วันต่อมา
วันนี้ ซูเฉินและคนอื่นๆมารวมตัวกันบริเวณหน้าอุงโมงค์ผ่านเขตแดน ซึ่งปัจจุบันมันได้เสถียรแล้ว กู่ป้าเทียนจะยกทัพมาเขตแดนเจินหวนเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า
จริงดังคาด ในวันรุ่งขึ้น คลื่นความผันผวนอันทรงพลังแพร่กระจายออกมาจากทางผ่านเขตแดน
ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าผู้มาเยือนคือผู้แข็งแกร่ง
“พวกมันมาแล้ว!” หวูซางเพ่งสมาธิ
จางเฉินคุนและคนอื่นๆในเผ่าชิงเหอเองก็เริ่มเกร็งขึ้นมา
กู่ป้าเทียนเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งสี่เขตแดน กำลังรบไร้เทียมทานไม่มีผู้ใดเทียบได้
หากซูเฉินพ่ายแพ้ วันนี้ทุกคนในที่นี้ต้องตาย
อย่างไรก็ตาม สีหน้าท่าทีของซูเฉินยังคงสงบมาก หากมองลึกเข้าไปในดวงตา จะเห็นถึงความคาดหวัง
เขาเฝ้ารอศึกนี้มาเนิ่นนานแล้ว ในที่สุดก็จะได้งัดกับกู่ป้าเทียนซักที
ระหว่างนั้นเอง ร่างแรกค่อยๆผลุบออกมาจากอุโมงค์ผ่านเขตแดน มันเป็นอสูรร้ายในรูปร่างมนุษย์ พิจารณาจากกลิ่นอาย พบว่าเป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าสองดารา
เมื่อเขาพบว่าซูเฉินและคนอื่นๆมาดักรออยู่ก่อนแล้ว เจ้าตัวผงะ เผลอถอยไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม ไม่นานก็ได้สติกลับมา ใบหน้าฉายวาบถึงความหยามเหยียด
กู่ป้าเทียนกำลังจะมา ถึงเวลานั้น พวกคนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าล้วนไม่ต่างจากมดปลวก แบบนี้แล้วเขายังต้องกลัวอะไรอีก?
“ซูเฉิน พวกเราควรฆ่าเจ้าหมอนั่นก่อนเลยไหม?” จางเฉินคุนเสนอ
คู่ต่อสู้ในระดับขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ถือว่าแข็งแกร่งมาก หากชิงกำจัดก่อน จะช่วยลดแรงกดดันยามตะลุมบอลได้เยอะ
“ไม่จำเป็น ก็แค่เศษขยะ”
ซูเฉินไม่สนใจ การสังหารขอบเขตเทพเจ้าสองดารา สำหรับเขาแล้ว ง่ายดายเพียงขยับนิ้ว ต่อให้ฆ่ามัน ก็ไม่ส่งผลใดๆต่อการต่อสู้ และตราบใดที่เขาสามารถโค่นกู่ป้าเทียนลงได้ เจ้าตัวประกอบนี่ ไม่ต้องลงมือเดี๋ยวมันก็ยอมแพ้เอง
เห็นซูเฉินว่าแบบนั้น จางเฉินคุนก็ไม่สะดวกที่จะพูดต่อ เฝ้ารอผู้มาเยือนอย่างเงียบๆ
เมื่อเวลาผ่านไป พวกอสูรร้ายในขอบเขตเทพเจ้าก็เริ่มทยอยกันข้ามเขตแดนมาอย่างต่อเนื่อง เข้ามาจนมากถึง 20 ตน ทว่ากู่ป้าเทียนก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา
แต่ในตอนนั้นเอง ระหว่างทุกคนกำลังอดใจรอ โดยไม่ทันคาดคิด จู่ๆก็มีกลิ่นอายอันบ้าคลั่งรุนแรงสายหนึ่งพุ่งทะลุอุโมงค์ผ่านเขตแดนเข้ามา
และกลิ่นอายนี้ บ่งบอกชัดว่าเป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าสามดารา
เป็นกู่ป้าเทียนหรือคังซ่งห่าว ?
จางเฉินคุนและคนอื่นๆเริ่มประหม่า เพ่งมองไปยังอุโมงค์ผ่านเขตแดนไม่ละสายตา
วินาทีถัดมา ชายขราผู้หนึ่งในชุดคลุมยาวสีทอง ผมเพ้าสีเงินดูน่าเกรงขาม ได้ก้าวออกมาจากอุโมงค์ผ่านเขตแดน
“เป็นคังซ่งห่าว !” จางเฉินคุน กระซิบเตือน
“ก็แค่ตัวประกอบอีกตัว” ซูเฉินเบ้ปาก เผยสีหน้าดูแคลน
เป้าหมายหลักของเขาคือกู่ป้าเทียน แม้คังซ่งห่าวจะเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นนำ แต่ก็ยังไม่เข้าตาเขา
“หือ? จางเฉินคุน ไฉนเผ่าชิงเหอเช่นเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
บังเอิญเหลียวไปเห็นจางเฉินคุน คังซ่งห่าวพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
“แน่นอน ก็มาเพื่อรอเจ้า!” จางเฉินคุนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย
“รอข้า?” ใบหน้าของคังซ่งห่าวนิ่งค้างไป เมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างออก สีหน้าเขาหมองลงทันที กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “หมายความว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อต้องการออกหน้าแทนเขตแดนเจินหวนงั้นสินะ?”
ก่อนหน้านี้ เขาได้รับข้อมูลมา ว่ามีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งปรากฏขึ้นในเขตแดนเจินหวน และคนผู้นี้ได้สังหารผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าจากเขตแดนซงหมานไปมากมาย
ในตอนแรก เขายังเกิดข้อสงสัยในเรื่องนี้อยู่บ้าง เพราะเอาจริงๆเขาค่อนข้างเข้าใจสถานการณ์ในเขตแดนเจินหวนเป็นอย่างดี ว่าไม่อาจมีตัวตนที่แข็งแกร่งเช่นนั้นปรากฏขึ้นได้
ดังนั้นพอเห็น จางเฉินคุน เขาก็โล่งใจ เพราะแม้จางเฉินคุนจะเป็นผู้แข็งแกร่งสามดาราเช่นเดียวกับตน แต่ก็เป็นแค่สามดาราขั้นต่ำเท่านั้น
แม้จางเฉินคุนจะสามารถสังหารอสูรร้ายในขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราได้อย่างง่ายดาย แต่หากคิดสังหารเขา เป็นไปไม่ได้แน่นอน
จางเฉินคุน เผยรอยยิ้มบาง
“ข้าเพียงมาที่นี่เพื่อเป็นกำลังเสริมเท่านั้น”
กำลังหลักที่แท้จริงคือซูเฉินต่างหาก เขาไม่อาจรับเครดิตเรื่องนี้ได้
2/10
Ep.1146
“เป็นกำลังเสริม?” คังซ่งห่าวอึ้งไปเล็กน้อย
กำลังเสริมที่ว่า หากอธิบายแบบง่ายๆก็คือไม่ใช่ตัวตั้งตัวตี อธิบายแบบยากๆก็คือ ไม่ใช่ฝ่ายที่จะลงสนามรบในทันที
ทว่านอกจากผู้แข็งแกร่งในระดับจางเฉินคุนแล้ว ยังเหลือใครที่มีคุณสมบัติมากพอให้เขาลงมืออีกเล่า?
ด้วยความสงสัยนี้ เขาหรี่ตามองไปทางเผ่าชิงเหอคนอื่นๆ แต่ก็พบว่าทั้งหมดเป็นแค่ลูกน้องของจางเฉินคุน ไม่มีผู้ใดแกร่งกว่าจางเฉินคุนอย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นแบบนั้น ที่เหลือก็มีแค่ซูเฉินกับหวูซาง แต่ซูเฉินกับหวูซางมีฐานฝึกตนเพียงขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีคุณสมบัติเป็นกำลังหลัก
แล้วไฉนจางเฉินคุนถึงได้เอ่ยเช่นนั้นออกมา? หรือกำลังปั่นประสาททำตัวให้ดูลึกลับ?
คังซ่งห่าวหันกลับมาสนใจจางเฉินคุนอีกครั้ง ผุดรอยยิ้มมืดมน “จางเฉินคุน ในเมื่อเจ้าบอกว่ามาเป็นกำลังเสริม เช่นนั้นแล้วใครคือผู้แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้?”
จางเฉินคุนไม่ตอบคำ เพียงหันไปมองซูเฉิน ความหมายที่สื่อนั้นชัดเจน ว่าผู้แข็งแกร่งที่สุดคือซูเฉิน
“เป็นเขา?” คิ้วของคังซ่งห่าวขมวดเข้าหากันเป็นปม
ซูเฉินยังดูอ่อนวัย การตัดผ่านสู่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราได้ในวัยนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ยากหาตัวจับก็จริง เพียงแต่ว่า แม้เป็นสัตว์ประหลาดรุ่นเยาว์ แต่ฐานฝึกตนยังอยู่แค่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราเท่านั้น แล้วจะแข็งแกร่งกว่าจางเฉินคุนได้อย่างไร?
“เจ้าหนู เจ้าคือผู้แข็งแกร่งที่สุดในที่นี่จริงๆน่ะหรือ?” คังซ่งห่าว กวาดสายตามองซูเฉิน เอ่ยถามเสียงเย็น
ซูเฉินเบ้ปาก แต่ไม่ได้ปฏิเสธใดๆ นอกจากนี้ ดูจากสีหน้าเขาแล้ว มันยังเผยถึงความดูแคลนออกมาอีกด้วย
เห็นอีกฝ่ายปฏิบัติกับตนเช่นนี้ สีหน้าของคังซ่งห่าวแปรเปลี่ยนเป็นเดือดดาล จิตสังหารก่อตัวเป็นระลอกหมุนวนรอบกายเขา
ก็แค่มดปลวกขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา กล้าดียังไงมาดูถูกเขา? ช่างอุกอาจนัก!
“เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าคือผู้แข็งแกร่งที่สุด ถ้าอย่างนั้นกล้าประมือกับข้าซักกระบวนท่าหรือไม่?” คังซ่งห่าว ประกาศเสียงดัง
เขาแคลงใจในความแข็งแกร่งของซูเฉิน ว่าจะทรงพลังกว่าจางเฉินคุนจริงๆหรือไม่ ซึ่งแค่ประมือกันหนึ่งกระบวนท่าก็จะได้รับคำตอบแล้ว
“ไม่อะ ไม่สนใจ” ซูเฉินส่ายหัว กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เพราะแกไม่คู่ควรให้ฉันลงมือ”
ไม่คู่ควร?
คังซ่งห่าวตะลึงงัน นับแต่ก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้า เขาก็ทะยานขึ้นเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับสองแห่งสี่เขตแดน กระทั่งกู่ป้าเทียนยังต้องไว้หน้าเขาสามส่วน
แล้วซูเฉินคือตัวอะไร? กล้าดียังไงกล้าใช้วาจาสร้างความอัปยศแก่เขาต่อหน้าฝูงชน!
โทษฐานนี้แค่ตายอย่างเดียวคงไม่พอ!
ระหว่างนี้ หน้าอกของคังซ่งห่าวลุกโชนไปด้วยความโกรธ จิตสังหารก่อตัวเป็นรูปธรรม แพร่กระจายออกมาไม่หยุดยั้ง
ภายในคู่ดวงตาเขา มันเต็มไปด้วยไอหนาวเหน็บ
“เจ้าหนู อย่าพูดอะไรบ้าๆ!”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านคังซ่งห่าวร้ายกาจเพียงใด? ขยะเช่นเจ้าสามารถเทียบเขาได้หรือ?”
กลุ่มอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าเองก็รู้สึกโกรธในความบ้าบิ่นของซูเฉิน พากันร้องโวยวายออกมา
“ปล่อยให้พวกแกกระโดดโลดเต้นไปก่อน เอาไว้ฉันกำจัดกู่ป้าเทียนได้เมื่อไหร่ พวกแกทั้งหมดต้องตาย!” ซูเฉินกล่าวอย่างใจเย็น
กำจัดกู่ป้าเทียน?
ไก่อ่อนระดับหนึ่งดารา ถึงกับขู่ว่าจะสังหารผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งสี่เขตแดน?
ให้ตายเถอะ! มันจะคุยโวโอ้อวดไปหน่อยกระมัง
อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าทั้งหมดต่างโกรธจัด แต่ละตนตีอกชกหัว แสดงท่าทีว่าต้องการฉีกทึ้งซูเฉินออกเป็นชิ้นๆ
“เหอ เหอ เหอ” คังซ่งห่าวแสยะยิ้ม มองมายังซูเฉิน น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “เจ้าหนู ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะแสร้งทำเป็นเก่งหรือว่าเป็นคนเสียสติจริงๆ แต่วันนี้ ยังไงข้าก็จะฆ่าเจ้า!”
สิ้นเสียง เขาเสมือนดั่งสัตว์ป่าดุร้าย กลิ่นอายชั่วร้ายกวาดฮือไปทุกหนแห่ง ระเบิดความเร็วพุ่งเข้าสังหารซูเฉิน
“ไอ้ขยะไม่รู้จักประมาณตน!” ซูเฉินไม่สะทกสะท้าน โคจร [เกล็ดแขนทองคำ] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ขยับเท้าก้าวออกไป เผชิญหน้ากับคังซ่งห่าวที่พุ่งเข้ามา พร้อมซัดหนึ่งหมัดในอากาศ
แคว๊กกก!
หมัดนี้รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด ทุกแห่งหนที่มันผ่าน สร้างรอยแตกร้าวของมิติ