ตอนที่ 1125-1126 ทำไมคุณเซินถึงเรียกหาฉันล่ะคะ?
ลินดาเดินเข้ามาแนะนำเธอทันที “เมียนเมียน นี่ผู้จัดการของ MC คุณจางเขารับผิดชอบดูแลทุกเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์เครื่องสำอางของ MC”
เฉียวเมียนเมียนจับมือเขาทันที “สวัสดีคะ ผู้จัดการจาง ฉันเฉียวเมียนเมียนค่ะ”
“ผมเคยเห็นรูปคุณมาก่อนครับคุณเฉียว” ประธานจางมองขึ้นไปที่เฉียวเมียนเมียนและคิดกับตัวเองว่า ‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายน้อยกงเปลี่ยนใจและยอมแพ้ให้กับผู้หญิงที่โดดเด่นอย่างคุณหนูเซิน แล้วมาตกหลุมรักดาราหน้าใหม่ในวงการบันเทิง’
จึ จึ หน้าใหม่คนนี้สวยกว่าในรูปมาก
ในรูปว่านางฟ้าแล้ว
เจอตัวจริง เหมือนนางฟ้ามากกว่าเสียอีก
แม้แต่ครั้งแรกที่เขาพบเธอ เขายังรู้สึกจักกะจี้หัวใจเลย
“คุณเฉียวดูดีกว่าในรูปมากเลยครับ ทั้งรูปลักษณ์และออร่าของคุณเหมาะกับภาพลักษณ์ของ MC ของเรามาก เป็นเกียรติที่ MC ของเราได้ร่วมงานกับคุณเฉียว ผมหวังว่าเราจะสามารถร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี”
เมื่อรู้ว่ากงเซลีสนใจดาราหน้าใหม่คนนี้มากจริง ๆ ผู้จัดการจางจึงไม่กล้าประมาท
เขาไม่กล้าปฏิบัติกับเธอเหมือนดาราหน้าใหม่ทั่วไป
และเมื่อเขาได้พบกันเฉียวเมียนเมียนด้วยตัวเองแล้ว ความไม่พอใจที่อยู่ในใจก่อนหน้านี้ก็ลดลง
แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงดาราหน้าใหม่ที่ไม่มีชื่อเสียง
แต่เธอก็สวยจริง ๆ
ความรู้สึกและรูปลักษณ์ของเธอล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
MC ไม่เคยใช้ดาราหน้าใหม่มาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ที่เขาไม่ต้องการดาราหน้าใหม่ เพราะเขาไม่อยากจะเสี่ยงก็เท่านั้น
ทัศนคติของประธานจาง ทำให้เฉียวเมียนเมียนไม่สบายใจเล็กน้อย
เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจ
เธอพูดอย่างรวดเร็วว่า “ผู้จัดการจาง ชมเกินไปแล้วค่ะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทาง MC ขอบคุณที่ให้โอกาสฉันนะคะ ฉันจะตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุดค่ะ”
“ผมเชื่อในการแสดงของคุณเฉียว จะต้องไม่ทำให้พวกเราผิดหวังแน่ครับ” ผู้จัดการจางทำตามตำแนะนำของกงเซลี นำดอกไม้จากเลขาของเขามอบให้กับเธอด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น ผมหวังว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขนะครับ”
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเห็นช่อดอกไม้
เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะรับดอกไม้จากผู้จัดการจาง ภายใต้สายตาของลินดา
“ขอบคุณค่ะ ผู้จัดการจาง”
หลังจากได้รับดอกไม้แล้ว เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
...
ในอีกด้านหนึ่ง
ในคลับเฮ้าส์ห้องส่วนตัวอีกห้อง
เฉียวอันซิน เดินออกจากมาเซราตีสีแดง พนักงานเห็นเธอที่ประตูและกำลังก้าวเข้ามา จึงทักทายเธอทันที “สวัสดีค่ะ คุณคือคุณเฉียวอันซินใช่ไหมคะ?”
เฉียวอันซินพยักหน้า
พนักงานเสิร์ฟยิ้มและพูดว่า “คุณเฉียว เชิญตามมาทางนี้ค่ะ”
เฉียวอันซินเดินตามพนักงานเสิร์ฟเข้าไปในคลับเฮ้าส์ หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟพาเธอมาถึงห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง จึงเคาะประตู
เมื่อได้รับอนุญาตจากบุคคลภายในห้องแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็เปิดประตูและทำท่าทางเชิญชวน “คุณเฉียว เชิญค่ะ”
เฉียวอันซินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผลักประตูให้เปิดออกและเดินเข้าไปในห้อง
หลังจากเธอเดินเข้าไปในห้องแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็ปิดประตูจากด้านนอก
เฉียวอันซินมองไปที่เซินโย่วที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอยืนอยู่ที่ประตูสองสามวินาทีก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอ
“คุณเฉียว มาแล้วเหรอ” เซินโย่วมองขึ้นไปที่เธอและยิ้ม “คุณเฉียว เชิญนั่งก่อนสิ”
เฉียวอันซินเดินไปหาเธอและนั่งลงตรงข้ามเธอ
“คุณเซิน” เฉียวอันซินตระหนักดีถึงตัวตนของเซินโย่ว เมื่อเธอพูด จึงพูดกับหญิงตรงหน้าด้วยความสุภาพ “ฉันขอทราบได้ไหมคะ ว่าคุณเซินต้องการพบฉันเพื่ออะไร”
เฉียวอันซินรู้สึกสับสน
__
เธอไม่รู้จักเซินโย่ว
พูดให้ถูกคือ เธอได้ยินชื่อเสียงของเซินโย่ว แต่พวกเขาไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน
เซินโย่วกับเธอเหมือนไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน
ลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวย เป็นคนที่เธอไม่สามารถเข้าใกล้ได้ แม้ว่าเธอจะต้องการก็ตาม
ดังนั้นเธอจึงสงสัยมากว่าทำไม เซินโย่วถึงของให้เธอออกมาพบและยังบอกอีกว่า มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ
“ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก” เซินโย่วยิ้มและส่งรายการอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับเธอ
“คุณเฉียว สั่งเครื่องดื่มสักแก้วสิ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกัน”
เฉียวอันซินรับเมนูและสั่งน้ำไปหนึ่งแก้ว
“ฉันเห็นข่าววันนี้แล้วนะ คุณยกเลิกสัญญากับทาง Star Splendor แล้วใช่ไหม?”
เซินโย่วจิบกาแฟของเธอ แล้วถามออกไปอย่างเป็นกันเอง
แม้ว่าเฉียวอันซินไม่รู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ แต่เธอก็ตอบไปอย่างสุภาพ
“ค่ะ ฉันยกเลิกสัญญากับทาง Star Splendor แล้ว”
“คุณเฉียวเพิ่งจะยกเลิกสัญญาของคุณวันนี้ คุณอาจจะยังหาสังกัดที่เหมาะสมไม่ได้ ฉันอยากรู้คะว่าคุณเฉียวมีแผนอะไรในใจแล้วหรือยัง คุณคิดไว้แล้วรึเปล่าว่าต่อไปจะอยู่สังกัดของบริษัทไหน”
เฉียวอันซินมองขึ้นไปที่เธออย่างสงสัย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอพูดว่า “ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยค่ะ”
เธอมีแผนการในใจอยู่แล้ว
ในวงการบันเทิง หวนหยูถือได้ว่ามีคนสนับสนับนักแสดงได้เก่งที่สุด และบริษัทยังมีทรัพยากรมากมายอีกด้วย
แม้ว่าการแข่งขันจะดุเดือด
แต่เฉียวอันซินก็มั่นใจในตัวเองไม่น้อย
ถ้าเธอสามารถทำงานที่นั่นได้ การพัฒนาในอนาคตของเธอก็จะดีขึ้นมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้...
เฉียวเมียนเมียน นังบ้านั่นก็อยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน จากวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อเธอ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมที่จะผลักดันเธอเป็นอย่างดี
เธอจะให้โอกาสนังบ้านั่นได้มีโอกาสดังขึ้นมาได้อย่างไร!
ตราบใดที่เธอทำงานได้ดี นังบ้านั่นก็จะถูกลืมไปได้เลย!
แต่เธอไม่ได้ตั้งใจจะบอกความจริงเรื่องนี้กับเซินโย่ว
เธอยังไม่รู้ว่าเซินโย่วต้องการทำอะไร และไม่รู้ว่าเธอเป็นมิตรหรือศัตรู
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ?” เซินโย่วยิ้ม หลังจากวางแก้วกาแฟลง เธอเอนหลังเล็กน้อย
“คุณเฉียวดูเหมือนจะมีพี่สาวด้วยนี่ และเธอก็ดูเหมือนจะเป็นดาราเหมือนกัน คุณเฉียวไม่คิดจะอยู่สังกัดเดียวกับน้องสาวของคุณเหรอ?”
“อ้อ จริงสิ ฉันลืมไป” ก่อนที่เฉียวอันซินจะตอบ เซินโย่วก็พูดขึ้นก่อน
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันลืมไปว่าคุณกับพี่สาวไม่ค่อยสนิทกัน หวังว่าคุณจะไม่คิดมากนะคะ”
น้ำเสียงของเซินโย่วสุภาพ เธอไม่ได้ดูดีกว่าคนอื่น เพียงเพราะเธอเป็นคนร่ำรวย
แต่เฉียวอันซินยังคงรู้สึกว่าเซินโย่วกำลังดูถูกเธอ
การดูถูกนี้ไม่ได้แสดงออกมาตรง ๆ แต่ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจผ่านการจ้องมองและการกระทำของเธอ
ทว่าเฉียวอันซินไม่ได้คิดมาก
เพราะยังไง ด้วยสถานะของเซินโย่วเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่อีกฝ่ายจะดูถูกเธอ
เธอยังรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างเธอกับเซินโย่ว
“คุณเซินดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉันและพี่สาวของฉันอยู่แล้วนะคะ” เฉียวอันซินมองไปที่เธอ พร้อมกับถาม “คุณเซิน วันนี้คุณเรียกฉันมา เพราะเรื่องพี่สาวของฉันหรือเปล่าคะ”
เธอได้ยินมาว่านายน้อยตระกูลกงชอบคุณเซิน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยคบหาใครอย่างจริงจังเลย ก็เพราะว่าเขารอคุณเซิน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กงเซลีกลับมีข่าวมากมายกับเฉียวเมียนเมียน
ดังนั้นเฉียวอันซินจึงเดาว่าเซินโย่วเรียกเธอมา ก็เพราะเรื่องนี้