WS บทที่ 325 สู่แดนไกล PART 1
“หื้ม? มีคนมาที่นี่!”
พ่อมดแบมมูกำลังดูดซับพลังธาตุและเปลี่ยนให้เป็นพลังเวทย์ในโครงสร้างคาถาของเขาอย่างเงียบ ๆ ได้ลืมตาขึ้นทันที เขาสังเกตเห็นแล้วว่ามีร่างสามร่างกำลังเข้ามาทางนี้ พวกเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังที่ที่เมอร์ลินอยู่
“นายท่านสั่งว่า ห้ามให้ใครรบกวนเขาเป็นอันขาด!”
พ่อมดแบมมูลุกขึ้นยืน แสงสว่างวาบผ่านดวงตาของเขา แล้วร่างของเขาก็หายไปจากที่ที่เขาอยู่
…
“เมอร์ลินอยู่ทางนั้น” ผู้เฒ่างูกล่าว
ผู้เฒ่างูเป็นคนเดินนำโดยมีนักเวทย์ที่ไม่คุ้นหน้าสองคนกำลังเดินตามเขาอย่างเร่งรีบ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้สังเกตว่ามีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ต่อหน้าพวกเขา
"หยุดอยู่ตรงนั้น!"
เสียงเย็นชาดังขึ้น ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ตกใจเล็กน้อย พวกเขารีบมองไปข้างหน้าและพบนักเวทย์ผู้ลึกลับกำลังขวางพวกเขาไว้
ผู้เฒ่างูตัวสั่น เขารู้จักนักเวทย์คนนี้ เขาเป็นผู้ติดตามของเมอร์ลิน พ่อมดแบมมู
เนื่องจากพ่อมดแบมมูทำตัวลึกลับมาโดยตลอด ผู้เฒ่างูจึงไม่มีโอกาสทำความรู้จักกับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าพ่อมดแบมมูมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด แม้แต่งูบนศีรษะของเขาก็ยังไม่รู้พลังของพ่อมดแบมมูเช่นกัน
ณ ตอนนี้ พ่อมดแบมมูได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ต่อหน้าพวกเขาสามคน แม้ว่าทั้งสามคนจะเปรียบได้กับนักเวทย์ระดับห้าและมีประสาทสัมผัสอันทรงพลังแต่พวกเขาก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของพ่อมดแบมมูก่อนหน้านี้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพ่อมดแบมมู
“พ่อมดแบมมู สองคนนี้คือพ่อมดฮาสโบรและพ่อมดซาคราจากเมืองอิมพีเรียล พวกเขาถูกส่งไปตามคำสั่งขององค์ชายแปด เรามีเรื่องด่วนต้องแจ้งพ่อมดเมอร์ลินทราบ!” ผู้เฒ่างูให้คำอธิบายสั้น ๆ แก่พ่อมดแบมมู
อย่างไรก็ตาม พ่อมดบัมมูยังคงไร้ความรู้สึกและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีเรื่องด่วนมากเพียงอะไร พ่อมดเมอร์ลินได้สั่งห้ามไม่ให้ใครมารบกวนเขา พวกเจ้าควรกลับไปและกลับมาอีกครั้งแล้วค่อยมาใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บางทีพ่อมดเมอร์ลินอาจจะออกมาพบพวกเจ้าก็ได้”
แบมมูไม่สนใจเรื่องสำคัญของผู้เฒ่างู คำสั่งที่รอบคอบของเมอร์ลินก่อนหน้านี้จะต้องสำคัญมากและเขาจะต้องไม่ถูกรบกวน แบมมูไม่กล้าขัดคำสั่งของเมอร์ลินและอนุญาตให้ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ เข้าไป
“ฮึ่ม! เขาเป็นแค่ไวเคานต์แต่เขากล้าไม่สนใจพวกเรางั้นหรือ? ผู้เฒ่างู พวกเราเข้าไปกันเถอะ เขาแค่คนเดียวทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก!” พ่อมดฮาสโบรที่อยู่ข้างหลังผู้เฒ่างูพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง เขาตัดสินใจจะใช้กำลังเข้าไปข้างใน
“ฮิฮิ ก็ลองดูสิ!”
ความผันผวนของพลังธาตุอันรุนแรงก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของพ่อมดแบมมู มันก่อตัวเป็นแรงกดดันอันทรงพลังต่อผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ
ในฐานะนักเวทย์ระดับเจ็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพลังจิตของเขาถึงระดับของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ พ่อมดแบมมูไม่เคยเปิดเผยพลังจิตของเขามาก่อนเพราะมันแข็งแกร่งเกินไป
แต่ตอนนี้คนของผู้เฒ่างูต้องการใช้กำลังเข้ามา ดังนั้นพ่อมดแบมมูจึงไม่จำเป็นต้องยั้งมือกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่างูกับเมอร์ลินรู้จักกันดังนั้น แบมมูจึงใช้พลังจิตของเขาเพื่อทำให้ตกใจและปล่อยให้พวกเขาถอยกลับไป
พลังจิตอันน่าสะพรึงกลัวที่พ่อมดแบมมูปลดปล่อยออกมานั้น ช่างน่าหวาดกลัวจริง ๆ พ่อมดฮาสโบรที่ต้องการใช้กำลังเข้าไปก่อนหน้านี้ เขาถึงกับหน้าซีดและก้าวขาไม่ออก
สีหน้าของผู้เฒ่างูก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เขาจึงรีบก้าวไปข้างหน้าและพูดกับพ่อมดแบมมูว่า
“เนื่องจากพ่อมดเมอร์ลินไม่อยู่จริง ๆ เราจะรอเขาในอีกสองสามวัน”
ทันทีที่ผู้เฒ่างูพูดเสร็จ เขาก็หันหลังและพาพ่อมดฮาสโบรกับพ่มดซาคราเดินออกไป
พ่อมดแบมมูยิ้มเยาะเย้ยพวกเขา แล้วเขาก็หายตัวไปอีกครั้งราวกับผี
…
“ผู้เฒ่างู นักเวทย์คนเมื่อกี้ เขาเป็นใคร? แล้วก็พลังจิตนั่นอีก เขาต้องไม่ใช่นักเวทย์ธรรมดาอย่างแน่นอน”
“คุณพูดถูก ฉันไม่สามารถรวบรวมพลังไปต่อต้านแรงกดดันนั้นได้เลย มันน่าตกใจที่มีนักเวทย์ที่น่ากลัวซ่อนตัวอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ อย่างปราสาทวิลสันแห่งนี้”
พ่อมดฮาสโบรและพ่อมดซาคราเป็นพ่อมดผู้ทรงพลัง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าพลังจิตอันน่าสะพรึงกลัวของพ่อมดแบมมูนั้นทรงพลังเพียงใด หากพวกเขาล้ำเส้นไปมากกว่านี้ พวกเขาเกรงว่าสิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือความตายเท่านั้น
ทางด้านผู้เฒ่างู ก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเช่นกัน เขาเคยเห็นพ่อมดแบมมูมาก่อน เขาอยู่เคียงข้างเมอร์ลินเสมอและให้เกียรติเมอร์ลินเสมอมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าพ่อมดแบมมูอาจไม่ธรรมดาเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขามากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นเพียงผู้ติดตามของเมอร์ลิน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพ่อมดแบมมูไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ราวกับร่างกายของแบมมูดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นความลึกลับของเขาได้
“ดูเหมือนว่าเราจะมองข้ามพ่อมดเมอร์ลินมากเกินไป ยังมีบางสิ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกพวกคุณ แม้ว่าเมอร์ลินจะเป็นเพียงนักเวทย์ระดับสองแต่ความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับนักเวทย์ระดับห้าที่ทรงพลัง!”
จากนั้น ผู้เฒ่างูได้เล่ารายละเอียดให้พ่อมดฮาสโบรกับพ่อมดซาคราฟัง เกี่ยวกับวิธีที่เมอร์ลินบุกโจมตีทั้งสามเมืองและสังหารเหล่านักเวทย์นับไม่ถ้วนและมอบของขวัญชิ้นใหญ่สามชิ้นให้แก่องค์ชายแปด
“ดูเหมือนว่าพ่อมดเมอร์ลินจะไม่ธรรมดาจริงๆ! ก่อนที่พวกเราจะมา องค์ชายแปดได้รับสั่งว่าเราต้องเชิญพ่อมดเมอร์ลินอย่างจริงใจ พระองค์ดูเหมือนจะเคารพพ่อมดลีโออย่างสูงแต่เราไม่เข้าใจจริง ๆ ไม่ว่าลีโอจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ยังเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำให้พระองค์สนใจเขามากขนาดนี้
แต่ในตอนนี้เราได้เห็นเมอร์ลินและผู้ติดตามของเขาซึ่งทั้งคู่ไม่ธรรมดาเลย มันอาจจะอธิบายถึงความสนใจที่องค์ชายแปดมีต่อพ่อมดลีโอ แน่นอนว่ามันเป็นความลับที่ซ่อนอยู่ซึ่งยากสำหรับเราที่จะหยั่งรู้ได้…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้เฒ่างูก็พูดขึ้นมาว่า “แม้ว่าสถานการณ์ขององค์ชายแปดไม่สู้ดีนักแต่พ่อมดเมอร์ลินไม่อนุญาตให้ใครมารบกวนเขาในตอนนี้ ดังนั้น เราทำได้แค่รอ!”
ผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงรออย่างเงียบ ๆ
…
"…"
เมอร์ลินค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แสงแดดส่องเข้ามาจากภายนอกปราสาทเติมความอบอุ่นภายในห้องกว้าง
“ผ่านไปสามวันแล้ว ผลของน้ำยาโมครานี้ดีมาก!”
เมอร์ลินเพิ่งตื่นจากการหลับใหลไปสามวันเต็ม ๆ ก่อนหน้านี้เขาดื่มน้ำยาโมคราไปและเขาก็หลับสนิทในทันที
ภายในสามวันนี้ พลังจิตของเมอร์ลินก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเช่นกัน และมากยิ่งกว่าพลังจิตที่ทำซ้ำในพื้นที่มิติของเบลล์ซะอีก
ผลลัพธ์ในการดื่มน้ำยาโมคราในรอบนี้ใกล้เคียงกับครั้งที่แล้ว มันผิดกับน้ำยาตัวอื่น ๆ ที่เขาเคยดื่มที่ผลลัพธ์ของมันจะลดลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนน้ำยาที่ดื่มเข้าไป
“แบมมู!” เมอร์ลินเรียกพ่อมดแบมมูทันที
“นายท่าผู้มีเกียรติของข้า ท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้ขอรับ”
ร่างของพ่อมดแบมมูปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วที่ด้านข้างของเมอร์ลิน เขาอดไม่ได้ที่จะตรวจสอบเมอร์ลินด้วย เขาพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับเมอร์ลิน เขาไม่รู้ว่าเมอร์ลินกำลังทำอะไรอยู่ในห้องในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้
“สองสามวันที่ผ่านมานี้มีใครมาหาฉันบ้างไหม?”
หลังจากที่เมอร์ลินดื่มน้ำยาโมคราเข้าไป เขาหลับตลอดเวลาและเขาสูญเสียการรับรู้ใด ๆ เกี่ยวกับโลกภายนอก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้
พ่อมดบัมมูนึกถึงผู้เฒ่างูเมื่อสามวันก่อนและตอบว่า “นายท่าน เมื่อสามวันก่อน ผู้เฒ่างูมาพร้อมกับนักเวทย์ที่ไม่คุ้นหน้าสองคน พวกเขาอ้างว่าพวกเขาถูกส่งมาจากองค์ชายแปด พวกเขาบอกว่ามีบางอย่างที่สำคัญมากจึงจำเป็นต้องมาพวกท่านแต่ข้าหยุดพวกเขาไว้ ตอนนี้พวกเขากำลังรอนายท่านอยู่”
“โอ้ องค์ชายแปดถึงกับส่งคนมาที่นี่เลยหรือ?”
ในปราสาทวิลสัน นอกจากเมอร์ลินจะยุ่งอยู่กับการเปลี่ยนตระกูลวิลสันให้กลายเป็นตระกูลนักเวทย์แล้ว เมอร์ลินยังรอข่าวจากองค์ชายแปดด้วย
ดูเหมือนองค์ชายแปดจะใช้เวลาในการตอบรับมากกว่าที่เขาคิดไว้
“นายท่าน ท่านต้องการพบพวกเขาตอนนี้หรือไม่?” พ่อมดแบมมู ถามอย่างแผ่วเบา
เมอร์ลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่กลับส่ายหน้าแทนแล้วพูดว่า “เนื่องจากพวกเขารอมาหลายวันแล้ว ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่รังเกียจที่จะรออีกสองสามวัน ออกไปก่อนแล้วอย่าให้ใครมารบกวนฉัน!”
พ่อมดแบมมูพยักหน้า แล้วร่างของเขาก็หายไปจากบ้านราวกับผี
เมอร์ลินเริ่มพึมพำเมื่อพ่อมดแบมมูจากไป “บางทีฉันอาจจะต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากอีกครั้ง ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะออกไปพบพวกเขา…”
เมอร์ลินพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ การที่องค์ชายแปดส่งคนมาแบบนี้ มันต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เขาตัดสินใจว่าเขาควรจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อดื่มน้ำยาโมคราให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มพลังจิตของเขา จากนั้นเขาสามารถพยายามสร้างคาถาธาตุมืดระดับสามเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของเขา ไม่เช่นนั้น ในอนาคตอันไกลโพ้น เขาจะไม่มีสถานที่ปลอดภัยสำหรับการดื่มน้ำยาโมคราอีกต่อไป
ดังนั้น เมอร์ลินจึงตัดสินใจไม่พบกับผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ ก่อน แต่ยังคงดื่มน้ำยาโมคราต่อไป
ทุกครั้งที่เขาดื่มน้ำยาโมครา เมอร์ลินจะต้องนอนอย่างน้อยสามวันและพลังจิตของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทุกครั้งที่เขาดื่มน้ำยาโมครา พลังจิตของเขาจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากเดิม...
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน เมอร์ลินจึงดื่มน้ำยาโมคราไป 10 ขวด รวมอันที่เขาเพิ่งดื่มไปด้วยเป็น 11 ขวด จากทั้งหมดที่เขาดื่มไปทำให้พลังจิตของเมอร์ลินเพิ่มขึ้นสามเท่า!
ตอนนี้พลังจิตของเมอร์ลินได้ไปถึงระดับของนักเวทย์ระดับสี่แล้ว มันเพิ่มขึ้นสามเท่าในเวลาเพียงหนึ่งเดือน
และผลลัพธ์ของน้ำยาโมคราดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเมอร์ลินจริง ๆ แม้จะเพิ่มพลังจิตมหาศาลแต่ผลของมันก็ไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเขายังคงดื่มมันต่อไป เมอร์ลินมั่นใจว่าพลังจิตของเขาจะเหนือกว่านักเวทย์ระดับห้าด้วยซ้ำ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมอร์ลินรู้ว่าผู้เฒ่างูและคนอื่น ๆ กลับมาหาเขาหลายครั้ง ทุกครั้งที่พวกเขามา พวกเขาดูกังวลมากแต่พวกเขาก็ถูกพ่อมดแบมมูขวางไว้ทุกครั้ง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกังวลแทบใจจะขาดตลอดทั้งเดือน
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินยังไม่มีแผนที่จะพบพวกเขา ตอนนี้พลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากและยังมียาเหลืออยู่อีก 17 ขวด เมอร์ลินยังไม่ดื่มพวกมันในตอนนี้เพราะจะต้องใช้เวลานานเกินไป เขากำลังตัดสินใจสร้างคาถาระดับสามแทน
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของเมอร์ลิน การเติบโตของพลังจิตของเขาถึงขั้นคอขวด สิ่งเดียวที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้คือการสร้างคาถาธาตุมืดใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเขาสร้างคาถาเสร็จแล้วเสริมพลังคาถาด้วยดวงใจแห่งความมืด เป็นไปได้ว่าแม้แต่นักเวทย์ระดับหกก็ยังต้องตกอยู่ในภาพมายาแบบชั่วคราว
“เดอะเมทริกซ์ วิเคราะห์โครงสร้างธาตุมืดระดับสาม วังวนแห่งความมืด!”
เมอร์ลินเปิดใช้งานเดอะเมทริกซ์อย่างรวดเร็วและเริ่มสร้างโครงสร้างคาถา