HO บทที่ 204 มาเจอกันเถอะ
“สวัสดีพี่ซื่อซวน!” เมลติ้งสโนว์ทักทายทันที เมื่อเขาเห็นว่าการโทรได้เชื่อมต่อแล้ว
ชายร่างสูงมีกล้ามชัดยิ้มอย่างสดใสเมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะของลูกพี่ลูกน้องของเขา ขณะเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ไม่ได้คุยวิดีโอคอล เขาอยากเห็นหน้าเด็กคนนั้น
“ฉันบอกคุณแล้วไงเกี่ยวกับการเรียกชื่อจริงของฉันในเกม” ซื่อซวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด
“แต่แถว ๆ นั้นไม่มีใครเลยนะ ไม่มีใรได้ยินชื่อของพี่หรอก” เมลติ้งสโนว์หน้าบึ้งตึง ทว่ามีเพียงความเงียบที่ตอบรับคำพูดของเขา เขาไม่ต้องการทำให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาโกรธ เขาจึงรีบใช้ประโยคเดิมใหม่อีกครั้ง “เข้าใจแล้ว ผมขอโทษ ผมหมายถึง สวัสดี พี่โซล”
"แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่แถวนั้น แต่ก็ยังดีกว่าที่จะเรียกฉันด้วยชื่อในเกมของฉัน เราเคยคุยกันเรื่องนี้กันแล้วนะ" ซื่อซวนกล่าว เขารู้สึกว่าตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขากำลังกลอกตาใส่เขาอยู่ เขาคงต้องคุยกับเด็กหนุ่มอย่างจริงจังในภายหลัง
อย่างที่ซื่อซวนคิด เมลติ้งสโนว์ไม่สนใจคำพูดของเขา เด็กหนุ่มไม่คิดว่าการเรียกชื่อ มันจะเป็นเรื่องอะไรเลย อย่างน้อย ๆ ตอนนี้เขาก็อยู่คนเดียว
"แล้วพี่เป็นไงบ้าง พี่สบายดีมั้ย?"
“ไม่มีอะไรมาก แค่จัดระเบียบไอเทมใหม่ที่กิลด์ของฉันได้รับมา” ซื่อซวนหันไปมองเพื่อนร่วมกิลด์ของเขาซึ่งบรรทุกสิ่งของมากขึ้นผ่านประตูเทเลพอร์ต “แล้วเธอล่ะ เธอมาถึงอาร์คาล่าแล้วหรือยัง?”
เด็กชายเริ่มผงกศีรษะ "ใช่แล้ว เพื่อนของผมและผมเพิ่งมาถึงเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้ว"
“โอ้? แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?” ซื่อซวนถามหลังจากเพิ่งนึกได้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาบอกว่าตอนนี้เขาอยู่คนเดียว
“พวกเขาแยกกันไปทำธุระต่าง ๆ น่ะ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเที่ยวชมสถานที่ด้วยตัวเอง ผมหวังว่าจะดูว่าในเมืองจะมีอาหารที่น่าสนใจ ผมอยากลองชิมดู” เขาอธิบาย
'แน่นอน นั่นจะเป็นสิ่งแรกที่เขาทำ' ชายคนนั้นคิดพร้อมรอยยิ้ม “แล้วเธอพบร้านอาหารดี ๆ สักร้านไหม” ซื่อซวนถาม
เมลติ้งสโนว์มองลงไปที่ถนนด้านล่าง มองขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งกวักมือเรียกผู้ชายคนหนึ่งมาหาเธอ เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับชายคนนั้น แต่เขาคิดว่ามันต้องเป็นสิ่งที่ดีเพราะในวินาทีนั้นผู้ชายก็พยักหน้าอย่างแรงกล้าก่อนปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นดึงตัวเองเข้าไปในอาคารใกล้เคียงแห่งหนึ่ง
“ร้านขายอาหาร…ไม่ แต่ผมพบสถานที่ที่ค่อนข้างน่าสนใจ” เมลติ้งสโนว์บอกชายคนนั้น ตอนนี้เขายิ่งอยากรู้มากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นภายในอาคารเหล่านั้น
“จริงเหรอ แล้วมันสถานที่แบบไหน?” ซื่อซวนถามขณะไตร่ตรองเกี่ยวกับสถานที่ทั้งหมดในเมืองที่เด็กคนนี้อาจสนใจ
เมลติ้งสโนว์คิดว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาน่าจะรู้ว่าที่นี่คืออะไร เขาเริ่มอธิบายว่าเขากำลังดูอะไรอยู่ เขาโชคดีที่พวกเขาไม่ได้สนทนาทางวิดีโอกัน เพราะทุกคำที่เขาพูดโดยที่เขาไม่รู้ หน้าของลูกพี่ลูกน้องของเขากลับดูเคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ
“เมลติ้งสโนว์ เธอควรรีบออกจากที่นั่นทันที!” ซื่อซวนตะโกนอย่างโกรธจัด
เด็กหนุ่มตกใจกับน้ำเสียงของลูกพี่ลูกน้องของเขา “ทำไมล่ะ?”
“ออกไปจากที่นั่นเดี๋ยวนี้” ชายคนนั้นเริ่มสงบลงหลังจากได้ยินเสียงที่สับสน ไร้เดียงสาของเมลติ้งสโนว์ “มันไม่ใช่ที่ที่ดีสำหรับเธอ ฉันจะพาเธอไปที่อื่นดีกว่าไหม ฉันรู้จักที่ที่พวกเขาขายคุกกี้วอเตอร์ซ็อตเก็ตที่อร่อยที่สุด”
“พี่จะพาผมไปตอนนี้เลยเหรอ?” เมลติ้งสโนว์ถามโดยไม่สนใจสิ่งปลูกสร้าง เขาไม่เคยได้ยินคุกกี้วอเตอร์ซ็อตเตอร์มาก่อน แต่ถ้าลูกพี่ลูกน้องของเขาที่แทบจะไม่กินขนมบอกว่าอร่อย มันก็น่าจะดี
ซื่อซวนมองไปที่ซาฟเนียร์ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการกำกับสมาชิกกิลด์ ซื่อซวนแอบไปที่ประตูพอร์ทัลและพูดว่า "ใช่ ไปพบฉันที่สวนลิตเติ้ลแอปเปิ้ล เธอสามารถหาได้บนแผนที่ ฉันจะพบเธอที่นั่นใน 5 -10 นาที"
“โอเค แล้วเจอกัน!” เด็กชายกล่าวก่อนจะวางสาย เมื่อเปิดอินเทอร์เฟซขึ้นมา เขาดึงแผนที่ขึ้นมาและพบสวนสาธารณะ เมื่อเปิดใช้งานทักษะของเขา เขาก็ออกเดินทางไปในทิศทางนั้นโดยไม่ได้เหลียวมองอาคารที่อยู่ข้างหลังเขาเลยแม้แต่น้อย
...
ซินหยาไม่เคยรู้สึกอึดอัดเช่นนี้มาก่อน ในขณะที่เขาพยายามสานผ่านฝูงชนจำนวนมาก เขารู้สึกว่าเขาสามารถสายตาเห็นอกเห็นใจจากรอบข้าง เขาทำได้เพียงคิดอยู่ในใจ ว่าสักวันพวกเขาคงจะเข้าใจเขา
เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่เขาแยกทางกับเพื่อน ๆ และเขายังไม่ได้ไปถึงร้านขายของเล่นเลย เขาทำได้เพียงตำหนิตัวเองที่ไม่ได้เลือกเส้นทางที่ใกล้แหล่งน้ำ
ไม่งั้นป่านนี้ เขาอาจจะกำลังคุยกับเมลวินไปแล้ว แทนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงการเบียดเสียดฝูงชนในขณะเดินทาง
แม้ว่าเขาสามารถโดยสารยานพาหนะได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าเขาต้องการเก็บเหรียญของเขาไว้ เขามีเหลือไม่มากหลังจากที่เขาซื้อของเหล่านั้นจากอาณาจักรแฟรี่ เขาจึงไม่ต้องการเสียแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว
เนื่องจากการทำฟาร์มของเขามีความสำคัญต่อเขามากกว่าการได้พบอาจารย์ของเขา เขาต้องยอมรับว่านี่เป็นครั้งที่สองในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาที่เขาอยากให้รถม้าใช้การได้
การฟักไข่จึงเป็นสิ่งที่เขาอยากทำอย่างแรก เขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องฝ่าฝูงชนเช่นนี้
'ไม่ เมื่อเกวียนของเขาถูกตั้งขึ้น ผู้คนจะเคลื่อนตัวออกไปให้พ้นทางของเขา' เขายิ้มให้กับความคิดนั้น
ผู้สัญจร A: "นั่นคือดรายแอดนี่ เอ้ย มีใครบางคนบ้าพอที่จะสร้างมันขึ้นมา"
ผู้สัญจร B: : "ชู่ว...อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวก็ได้ยินหรอก"
ผู้สัญจร A: "แล้วถ้าเขาได้ยินล่ะ!”
ซินหยาถอนหายใจเบา ๆ กับตัวเอง เขาไม่สนใจพวกเขาเช่นเคย ความคิดเห็นเหล่านี้มาบ่อยขึ้นเมื่อเขาเดิน เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับคำพูดของพวกเขาเพราะไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะกัดลิ้นของพวกเขาเอง
ซินหยามองดูแผนที่โปร่งใสที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาหวังว่าเขาจะสามารถหาเส้นทางไปร้านขายของเล่นได้เร็วกว่านี้ แม้ว่าเขาจะผิดหวังมากขนาดไหนก็ตาม
เขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้กระทบกับจิตใจของเขา เขามองตรงไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นและเดินผ่านฝูงชนต่อไป