1141-1142
7/10
Ep.1141
“หัวหน้าเผ่าจาง คุณเคยได้ยินเรื่องผลึกหลวนฉิงมาบ้างไหม?” ซูเฉินถามเข้าประเด็น
วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางในครั้งนี้ก็คือผลึกหลวนฉิง
ในเมื่อเผ่าหงโม่ถูกกำจัดแล้ว ก็ถึงเวลาพูดเรื่องธุรกิจกันซักที
“ผลึกหลวนฉิง ...” จางเฉินคุนทวนคำ แล้วกล่าวว่า “ผลึกหลวนฉิงคือแร่คุณภาพสูง สามารถใช้งานได้หลากหลาย แต่หาได้เฉพาะในอาณาเขตเผ่าชิงเหอของพวกเราเท่านั้น”
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเป็นประกาย พยายามระงับความตื่นเต้นและกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่าจาง ผลึกหลวนฉิงสำคัญต่อผมมาก คุณพอจะนำมันมาแลกเปลี่ยนกับผมหน่อยได้ไหม”
หากขอตรงๆ มันดูไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ ซูเฉินเลยเปลี่ยนไปใช้วิธีแลกเปลี่ยน เขาคิดว่าคงดีกว่า
แน่นอน เขาเชื่อว่าจางเฉินคุนคงไม่กล้ายอมรับของจากเขาอยู่แล้ว
“ซูเฉิน เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวไป เจ้าคือผู้ช่วยชีวิตพวกเราไว้ แค่ผลึกหลวนฉิงจะนับเป็นสิ่งใด?”
จางเฉินคุนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แม้ผลึกหลวนฉิงจะเป็นของที่มีเฉพาะในเผ่าพันธุ์ของพวกเรา แต่มูลค่าของมันไม่ได้สูงถึงขนาดนั้น เจ้าต้องการเท่าไหร่?”
“น่าจะประมาณ 100 ก้อน”
ซูเฉินนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ
ก่อนหน้านี้ เขาได้สนทนากับ [รถศึกอัจฉริยะ] แล้ว ว่าหากมันคิดอัพเกรดเป็นรูปแบบที่ 24 ผลึกหลวนฉิง 100 ก้อนน่าจะเป็นจำนวนมากพอ
“100 ก้อน ...” จางเฉินคุนพึมพำ ก่อนให้สัญญาว่า “ขอเวลาข้าสามวัน แล้วข้าจะหาพวกมันมาให้เจ้า”
“ถ้างั้นคงต้องรบกวนท่านหัวหน้าเผ่าจางแล้ว” ซูเฉินกล่าวด้วยความปิติยินดี
ด้วยผลึกหลวนฉิงที่ได้รับมา เขาก็จะสามารถกลับไปยัง เขตแดนเจินหวนได้เสียที จากนั้นก็ตระเตรียมรับมือการร่วมโจมตีระหว่างเขตแดนซงหมานและเขตแดนต้าเชี่ยน
ซึ่งหาก [รถศึกอัจฉริยะ] อัพเกรดเป็นรูปแบบที่ 24 มันจะสามารถต้านทานขอบเขตเทพเจ้าสามดาราได้ เมื่อถึงเวลานั้น ซูเฉินก็จะมีสมาธิรับมือกับกู่ป้าเทียนได้อย่างไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ
ต่อมา จางเฉินคุนได้ให้คนในเผ่าไปจัดหาผลึกหลวนฉิง ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยราบรื่น ระหว่างนั้นเขาก็กลับมาหาซูเฉิน พร้อมเลียบเคียงถามว่า “ซูเฉิน เกิดอะไรขึ้นในเขตแดนเจินหวนของพวกเจ้า?”
แม้เขตแดนเจินหวนและเขตแดนมู่กวงจะมีทางผ่านเขตแดนเชื่อมถึงกัน แต่ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายพันปีแล้ว
จู่ๆซูเฉินก็มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ไม่น่าจะเพราะแค่เรื่องผลึกหลวนฉิงกระมัง?
“หัวหน้าเผ่าจางคาดเดาได้ไม่เลวเลย” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ จากนั้น เขาก็บอกเล่าเรื่องราวที่กู่ป้าเทียนคิดจะบุกเข้ามายังเขตแดนเจินหวน
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจางเฉินคุนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
เมื่อเทียบกับหวูซางและผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวนแล้ว เขาคล้ายรู้จักกู่ป้าเทียนดีกว่ามาก
แม้ว่ากู่ป้าเทียนจะเป็นขอบเขตเทพเจ้าสามดารา แต่จางเฉินคุนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอยู่ดี และไม่ใช่เรื่องพูดเกินจริงเลย หากจะบอกว่าต่อให้เขากับผางฮุ่ยร่วมมือกัน ก็ยังไม่ใช่คู่มือของกู่ป้าเทียน
อีกอย่าง ในเขตแดนต้าเชี่ยนเองก็มีคังซ่งห่าวในขอบเขตเทพเจ้าสามดารา กำลังรบของชายผู้นี้ก็มิอาจมองข้ามได้เช่นกัน แม้จะเทียบไม่ได้กับกู่ป้าเทียน แต่อย่างน้อยแข็งแกร่งของผางฮุ่ยอย่างแน่นอน
“ซูเฉิน ข้าแนะนำให้เจ้าหนีไปจากเขตแดนเจินหวนจะดีกว่า” จางเฉินคุน ถอนหายใจเบาๆ
กู่ป้าเทียนกับคังซ่งห่าวร่วมมือกัน แค่กำลังรบของสองคนนี้ก็มากพอแล้วที่จะทลายชั้นฟ้า ถล่มปฐพี
แม้ซูเฉินจะเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น อีกทั้งกำลังรบยังแข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขายังเป็นแค่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา
ด้วยกำลังรบในปัจจุบัน เกรงว่ามากสุดคงได้แค่ทัดเทียมกับคังซ่งห่าวเท่านั้น ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่ป้าเทียน
ดังนั้น หากซูเฉินยังรั้งอยู่ในเขตแดนเจินหวนต่อไป ชะตากรรมเดียวที่รออยู่คือความตาย
“หัวหน้าเผ่าจางไม่ต้องกังวล ถ้ารับมือกับกู่ป้าเทียนเพียงลำพัง ผมมั่นใจ 100% ว่าสามารถฆ่ามันได้!”
ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
และเขาไม่ได้คุยโว เพราะด้วยสองไพ่ตายในมือ บวกกับจิตจำลอง การสังหารกู่ป้าเทียนไม่น่าใช่ปัญหา
“...”
สีหน้าของ จางเฉินคุนนิ่งค้างไป หลังจากสงบสติอารมณ์ เขาก็เอ่ยเตือนว่า “ซูเฉินกู่ป้าเทียนไม่สามารถใช้คนอย่างผางฮุ่ยมาเทียบได้ สรุปง่ายๆคือต่อให้มีผางฮุ่ยสองคน ก็ยังไม่ใช่คู่มือของกู่ป้าเทียน !”
เขาเกิดข้อสงสัยเล็กน้อย ว่าใช่เพราะซูเฉินฆ่าผางฮุ่ยได้ ความั่นใจจึงทะยานขึ้นสุดขีด เป็นเหตุให้เอ่ยวาจาใหญ่โตเช่นนี้
8/10
Ep.1142
“ผมพอรู้รายละเอียดเกี่ยวกับกู่ป้าเทียนมาบ้างแล้ว และได้ข้อสรุปว่า ถึงเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่ในด้านกำลังรบยังเทียบไม่ได้กับผม”
ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหมายลึกล้ำ พร้อมเอ่ยเสริมว่า “แต่เงื่อนไขคือต้องมีใครสักคนมาช่วยผมหยุดคังซ่งห่าว”
“นี่เจ้ายังเหลือไพ่ตายอีกหรือ?”
หัวใจของจางเฉินคุนสั่นระรัว
ก่อนหน้านี้ซูเฉินแสดงลูกเล่นออกมาตั้งมากมาย หากเขายังมีไพ่ตายเหลืออีก บางทีอาจงัดออกมาใช้กับกู่ป้าเทียนได้ก็ได้
“ซูเฉิน ข้าจะช่วยเจ้าหยุดคังซ่งห่าวให้เอง” จางเฉินคุนกัดฟันกล่าว
ด้วยกำลังรบของเขา แม้ไม่อาจสู้คังซ่งห่าวได้ก็จริง แต่ถ้าให้ยอมสู้ตายเพื่อหยุดอีกฝ่ายสักชั่วขณะ เขามั่นใจว่าทำได้แน่นอน
ส่วนเหตุผลที่เขาเสนอชื่อตัวเองก็เพราะ หากเขตแดนเจินหวนล่มสลาย เป้าหมายต่อไปของกู่ป้าเทียนและคังซ่งห่าวย่อมไม่พ้นเขตแดนมู่กวง
เขาเข้าใจถึงข้อได้ข้อเสียนี้ดี สุดท้ายจึงกัดฟันอาสา
ดังนั้นการช่วยเหลือซูเฉิน ก็เท่ากับเป็นการช่วยเหลือตัวเอง
“หัวหน้าเผ่าซาง นี่คุณจะช่วยผมหรอ? ถ้าได้คุณมาต้องดีกว่าแน่นอน!”
ซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แม้ [รถศึกอัจฉริยะ] จะสามารถอัพเกรดเป็นรูปแบบ 24 ได้ แต่หากให้มันรับมือกับคังซ่งห่าวเพียงลำพัง เกรงว่าอาจยังไม่ค่อยปลอดภัย
ทว่าด้วยกำลังเสริมอย่างจางเฉินคุน นี่ช่วยคลายกังวลให้ซูเฉินได้มาก
“นอกจากนี้ หัวหน้าเผ่าจางโปรดวางใจ ผมยังมีรถศึกอยู่คันนึงที่กำลังจะยกระดับไปในขอบเขตเทพเจ้าสามดารา ถึงเวลานั้นถ้าพวกคุณกับมันร่วมมือกันจัดการ คังซ่งห่าว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
เพื่อความมั่นใจของคังซ่งห่าว ซูเฉินชี้ให้เห็นว่า [รถศึกอัจฉริยะ] กำลังจะได้รับการอัพเกรด
“นี่เจ้ามี [รถศึกอัจฉริยะ] ในระดับขอบเขตเทพเจ้าอยู่ด้วยหรือ?”
จางเฉินคุนประหลาดใจมาก หากว่ากันตามปกติแล้ว รถศึกต่อให้เป็นรถศึกชั้นสูง อย่างมากเพียงมีระดับถึงแค่ขั้น 10 เท่านั้น
รถศึกที่สามารถทะยานมาถึง ขอบเขตเทพเจ้า ได้ หายากยิ่งกว่าขนหงสาและเขากิเลน
หากสิ่งที่ซูเฉินพูดเป็นความจริง เขาก็ยินดีร่วมมือกับรถศึกเพื่อสู้คังซ่งห่าวเพราะคงไม่มีอันตรายใดๆแน่นอน
ซูเฉินพยักหน้า อธิบายด้วยรยอยิ้มว่า “รถศึกของผมเพื่ออัพเกรดเป็นขอบเขตเทพเจ้าสามดาราแล้ว มันต้องใช้ ผลึกหลวนฉิง 100 ก้อน ไม่อย่างนั้น มันคงอัพเกรดไปอยู่ในจุดนั้นไม่ได้”
“เป็นแบบนี้นี่เอง”
จางเฉินคุนค่อยเข้าใจ ณ จุดนี้ ในที่สุดเขาก็กระจ่างถึงจุดประสงค์ของซูเฉิน
ที่ตามหาผลึกหลวนฉิงก็เพื่อช่วยอัพเกรดรถศึก เอาไว้เผชิญหน้ากับคังซ่งห่าวนี่เอง
“ซูเฉิน เจ้ารอนี่ก่อน ข้าจะรีบไปช่วยคนอื่นๆหาผลึกหลวนชิงด้วย” จางเฉินคุนกล่าว
ผลึกหลวนฉิงตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีอะไรผิดพลาด เขาเลยตั้งใจจะออกไปค้นหามันด้วยตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนหัวหน้าเผ่าจางแล้ว” ซูเฉินกล่าวขอบคุณ
มองจางเฉินคุนเดินจากไป ซูเฉินกลับขึ้นไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] เอนตัวลงบนเก้าอี้คนขับ
ชิ้นส่วนที่ซูเฉินได้รับมาก่อนหน้านี้ ทุกชิ้นถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน จากนั้นเขาซื้อ [โพชั่นกายภาพ] มอบให้ [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] ในจำนวนที่มากพอจะใช้ยกระดับสู่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา
และด้วยความแข็งแกร่งของ [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] รวมกับกำลังรบของภูเขาห้าสี แม้ทั้งคู่จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของขอบเขตเทพเจ้าสามดารา แต่หากคิดจัดการกับ สองดารา นับว่าเกินพอ
ด้วยประการฉะนี้ เท่ากับว่าซูเฉินจะสามารถจัดการรับมือ มุ่งสมาธิอยู่กับกู่ป้าเทียน ได้มากขึ้น
หลังจากนั้น เขาเปิด [มิติสันโดษ] หารือกับทุกคน เฝ้ารอการกลับมาของจางเฉินคุน
...
สามวันต่อมา จางเฉินคุนมาตามสัญญา พร้อมกับผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าจากเผ่าชิงเหอ จำนวนทั้งสิ้น 11 คน
ครั้งนี้ ถือว่าจางเฉินคุนใจเหี้ยมหาญพอควร เพราะเขาถึงขั้นนำยอดฝีมือทั้งหมดของเผ่าพันธุ์มา เรียกได้ว่าหากซูเฉินพ่ายแพ้ ก็เตรียมล่มจมไปพร้อมกันได้เลย