1135-1136
1/10
Ep.1135
ฝ่ายหลังเข้าใจเจตนาที่จะสื่อ ยกค้อนหินขนาดเท่าเครื่องโม่ ปรี่เข้าหาซูเฉินอย่างรวดเร็ว
ในฐานะผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ความเร็วของเขาว่องไวปานสายฟ้าแลบ พริบตาเดียวมาถึงเบื้องหน้าของซูเฉิน
“เจ้าหนู! ไปลงนรกซะ!”
ขอบเขตเทพเจ้าสองดาราเผ่าหงโม่ฉีกยิ้มดุดัน ง้างค้อนหินในมือชูขึ้นสูง และฟาดมันลงมาจากเบื้องบน
ระหว่างนั้นเอง เสียงหวีดหวิวอันน่าสยดสยองจากแรงเสียดสี ดังขึ้นในอวกาศที่ว่างเปล่า
เมื่อต้องเผชิญกับค้อนอันทรงพลัง ใบหน้าของซูเฉินปราศจากระลอกคลื่นใดๆ เมื่อค้อนใกล้เข้ามา เขาพลันยกมือขึ้น เอื้อมไปคว้ามัน [เกล็ดแขนทองคำ] และ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] ถูกเปิดใช้งาน
นั่นเขาคิดจะทำอะไร?
เห็นภาพนี้ รอบด้านบังเกิดเสียงร้องอุทาน
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าชิงเหอหรือหงโม่ ทั้งหมดตกใจจนอ้าปากค้าง
แค่มองก็สามารถตระหนักได้ทันที ว่าซูเฉินกำลังคิดคว้าค้อนหินด้วยมือเปล่า!
ยังไงก็ตาม ซูเฉินกล้าทำแบบนั้นได้อย่างไร?
ต้องรู้นะว่าพละกำลังของผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าสองดารา น่ะทรงพลังมาก นอกจากนี้ ค้อนหินยังเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะ ครอบครองอำนาจทลายสวรรค์
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ซูเฉินมีฐานฝึกตนเพียง ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา กระทั่งผางฮุ่ยในระดับสามดารา ยังไม่กล้ารับมันด้วยมือเปล่า
หรือว่าเขาจะเสียสติไปแล้ว? จึงอยากหาที่ตายเช่นนี้?
ความคิดนี้ต่างผุดขึ้นในใจของทุกคน ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา เผ่าหงโม่เองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกัน แต่ไม่นานก็สามารถเรียกสติกลับมา
ไม่ว่าซูเฉินจะหวาดกลัวจนโง่งม หรือเสียสติ ตราบใดที่ค้อนนี้ทุบถึงเป้าหมาย ซูเฉินจักต้องถูกทำลาย โดนป่นกระดูกเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน!
“ตาย!”
ชาวหงโม่สองดารา ทุ่มสุดกำลัง
ค้อนทุบลงบนฝ่ามือของซูเฉิน บังเกิดเสียง บรึ้มมมม! ดังกึกก้อง
ค้อนหินขนาดเท่าเครื่องโม่ปะทะกับฝ่ามือซูเฉินอย่างแรง กลุ่มแสงสีทองสาดประกายออกมา
กระนั้น สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจก็คือ เรื่องที่คาดการณ์ไว้ ภาพที่ซูเฉินถูกทุบเป็นซอสเนื้อไม่ปรากฏขึ้น
ตรงกันข้าม ซูเฉินคล้ายดั่งขุนเขาสูงตระหง่าน ยืนนิ่งอยู่กลางอากาศโดยไม่ขยับเขยื้อนใดๆ
ค้อนหินตกลงบนฝ่ามือของพวกเขา ไม่เพียงแต่ไม่สามารถก่อคลื่นลมใดๆ แต่ยังถูกซูเฉินจับไว้ไม่สามารถดึงกลับออกมาได้
และดูจากสีหน้าท่าทีของซูเฉิน ที่ทำอยู่นี้มันราวกับว่าเขาไม่ได้ออกแรงใดๆเลย
โอ้สวรรค์! เขาทำแบบนี้ได้ยังไง? ต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งทนทานแค่ไหนกัน?
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ทุกคนตกตะลึง บางคนกระทั่งเผลอคิดว่าตนใช่กำลังฝันไปหรือไม่
“เขาแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้ยังไง?”
ผางฮุ่ยกลืนน้ำลายลงคอ สีหน้าของเขาหม่นหมองลง
ในตอนแรก เขาปฏิบัติต่อซูเฉินราวกับเป็นเพียงมดปลวก แต่ใครจะทันคิด ว่ากำลังรบที่ซูเฉินสำแดงออกมา มันจะเหนือความคาดหมายเช่นนี้
แม้เขาจะเป็นขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา แต่ด้วยร่างกายอันแข็งแกร่งชนิดยากหาผู้ใดเทียบ นับว่ามากพอแล้วที่จะเป็นภัยคุกคามตามผางฮุ่ย
เมื่อเทียบกับอารมณ์ของผางฮุ่ยในตอนนี้แล้ว ดวงตาของจางเฉินคุนเปล่งประกายสดใส
กำลังรบของซูเฉินทรงพลังมาก หากร่วมมือกับกองทัพของเขา บางทีอาจมีโอกาสรอดชีวิตจริงๆ
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินฉวยโอกาสใช้ประโยชน์เวลาที่ชาวหงโม่สองดาราเสียสมาธิ เพิ่มแรงแขน กระชากสิ่งประดิษฐ์เทวะค้อนหินมาเป็นของตนเอง แล้วจับมันโยนลงในถุงเก็บของ
สิ่งประดิษฐ์เทวะสามารถนำไปใช้ย่อยสลายเป็นแต้มพลังงานได้ ยิ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะที่พวกขอบเขตเทพเจ้าใช้ มักเป็นของคุณภาพสูง แต้มที่ได้มาหลังถูกแปลงคงดีไม่น้อย
ซึ่งซูเฉินจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้
“เจ้า ..!”
ชาวหงโม่สองดาราตกใจมาก
เมื่อสูญเสียสิ่งประดิษฐ์เทวะในมือ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาลดลงอย่างมาก
เมื่อได้เผชิญหน้ากับผู้มีกำลังรบแข็งแกร่งเยี่ยงซูเฉิน ท่าทีดูถูกดูแคลนไม่หลงเหลืออีกต่อไป
กระนั้น ก่อนที่เขาจะทันตอบสนอง พลันสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลโถมเข้ามาจากรอบด้าน ปกคลุมไปทั้งตัว ถูกพันธนาการในพริบตาเดียว
2/10
Ep.1136
“นี่มันพลังจิต!? ที่แท้เจ้ายังเป็นปรมาจารย์มนตราระดับขอบเขตเทพเจ้าด้วย!”
เมื่อตระหนักว่าซูเฉินยังมีอาชีพเป็นปรมาจารย์พลังจิตระดับขอบเขตเทพเจ้าเช่นกัน ความหวาดกลัวบาดลึกเข้าไปในใจของเผ่าหงโม่สองดารา เจ้าตัวพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่กลับพบเรื่องน่าตกใจอีกเรื่อง นั่นคือเขาไม่สามารถสลัดหลุดมันได้!
มันเป็นเรื่องจริงที่ฐานฝึกตนของซูเฉินอยู่ในระดับขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา แต่หลังจากได้กินผลแก่นแท้เข้าไปหลายสิบลูกติดต่อกัน พลังจิตของเขาจึงแกร่งของ ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเหตุนี้เองจึงสามารถตรึงการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้เอาไว้ได้
และในเวลานี้ ซูเฉินกุมดาบสงครามสีดำสนิทไว้ในมือ ตวัดมันออกไปอย่างรวดเร็ว
เห็นแค่เพียงใบดาบทอประกายเย็นยะเยือก หัวของชาวหงโม่สองดารากระเด็นขึ้นไปในอากาศ พร้อมชิ้นส่วนอีกนับแสนชิ้นดรอปออกมา
แม้จะเป็นไปตามคาด แต่หลังจากฆ่าชาวหงโม่และลองคำนวณชิ้นส่วนที่ดรอปคร่าวๆดู ซูเฉินก็ยังไม่อาจกลบซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้
ชาวหงโม่ในที่นี้มีนับพันนับหมื่นตน หากสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมด สมควรดรอปชิ้นส่วนได้เกือบล้านชิ้น!
แม้ว่าจำนวนนี้จะยังไม่มากพอให้เขายกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้าสองดารา แต่มันก็มากพอแล้วที่จะใช้ยกระดับ [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] ให้เข้าสู่ ขอบเขตเทพเจ้า ได้
ด้วยประการฉะนี้ กำลังรบโดยรวมของซูเฉินก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซู๊ดดดด!
ในเวลาเดียวกัน ด้วยการตายของชาวหงโม่สองดารา เสียงสูดหายใจดังก้องไปทั่วบริเวณ
สายตาของทุกคนมองมาทางซูเฉินด้วยความตื่นตกใจอย่างสุดซึ้ง
พวกเขาไม่นึกฝันมาก่อนเลย ว่าซูเฉินในระดับหนึ่งดารา จะสามารถสังหารตัวตนใน ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ได้อย่างง่ายดาย
ณ จุดนี้ มันทำให้พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อมาก
“สามารถสังหารศัตรูข้ามขั้นได้อย่างง่ายดาย ...”
หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งชนิดหาผู้ใดเปรียบของซูเฉิน สีหน้าของผางฮุ่ยเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ต้องลอบประเมินซูเฉินใหม่อีกครั้ง
ด้วยกำลังรบที่ซูเฉินแสดงออกมาถึงจุดนี้ มันเป็นไปได้ที่จะรับมือกับเขาจริงๆ
“แข็งแกร่งมาก”
จางเฉินคุน ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งความแข็งแกร่งของซูเฉินมากเท่าไหร่ กำลังรบของเขาก็ยิ่งทรงพลังขึ้นเท่านั้น
ความหวังริบหรี่ที่จะมีชัยเหนือเผ่าหงโม่ก็จะยิ่งมากขึ้น
“เจ้าหนู! ต้องขอบอกเลยว่ากำลังรบของเจ้ามันทรงพลังมากจริงๆ แต่หากเอ่ยถึงคุณสมบัติที่จะได้สู้กับข้า หรือแม้แต่อยากเอาชนะข้า นั่นไม่ต่างอะไรจากเรื่องเพ้อฝัน!”
ผางฮุ่ย จ้องเขม็งไปที่ซูเฉิน สีหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชา
อันที่จริงซูเฉินมีคุณสมบัติที่จะสู้กับเขา แต่จะชนะหรือไม่นั่นอีกเรื่องนึง
ในความคิดของเขา ซูเฉินสามารถเรียกได้เลย ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งใน ขอบเขตเทพเจ้าระดั หนึ่งดารา อีกทั้งช่องว่างความแข็งแกร่งยังทิ้งห่างจากขอบเขตเทพเจ้าสามดาราไม่มากนัก ด้อยกว่าจางเฉินคุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ยังไงก็ตามผางฮุ่ยสามารถโค่นจางเฉินคุนได้อย่างง่ายดาย เมื่อเปรียบเทียบกับทั้งสองเรื่องนี้แล้ว เขาคิดว่าการบดขยี้ซูเฉินไม่น่าจะใช่ปัญหา
“อ้อ แกคิดแบบนั้นหรอ?”
ซูเฉินยิ้มดูแคลน กล่าวเสียงเรียบว่า “คิดว่าตัวเองอยู่ใน ขอบเขตเทพเจ้าสามดารา แล้วจะมาอวดดีต่อหน้าฉัน? แกยังห่างไกลจากจุดนั้นอีกเยอะ”
“นี่เขาเสียสติถึงขนาดนี้เชียว?”
จางเฉินคุนอ้าปากค้าง
มันเป็นเรื่องจริงที่ซูเฉินแข็งแกร่งมาก เขาอยู่ยงคงกระพันในขั้นเดียวกัน และสามารถฆ่าศัตรูข้ามขั้นก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน
แต่ว่าต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่น่าใช่คู่ต่อสู้ของ ขอบเขตเทพเจ้าสามดาราหรอก ถูกไหม?
ไปยั่วโมโหให้ผางฮุ่ยโกรธ แบบนั้นมันจะดีจริงๆหรือ? เขาไม่กลัวตายรึไง? หรือจะให้พูดว่าคนโง่ไม่หวาดกลัวควาดผิดดี?
“โอหัง!”
ชาวเผ่าหงโม่เดือดดาล เริ่มพากันตะโกนด่าทอซูเฉิน
ในสายตาพวกเขา ผางฮุ่ยคือตัวตนไร้เทียมทานมาโดยตลอด แต่ซูเฉินกลับกล้าใช้วาจาทำให้เขาต้องอับอายต่อหน้าสาธารณะ ช่างไม่รู้จักที่ตาย!
“เจ้าหนู ข้าไม่หวั่นไหวกับฝีปากของเจ้าหรอก ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้เอง ว่ามันจะเป็นยังไงหากข้าถูกทำให้ขุ่นเคือง!”
ความโกรธของ ผางฮุ่ย มาถึงขีดสุดแล้ว จิตสังหารมหาศาลทะลักออกมาราวกับคลื่นทะเล
สายตาที่เขามองมายังซูเฉิน เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บที่เสียดลึกไปถึงกระดูก
“หยุดพล่ามซักที มีอะไรก็รีบแสดงออกมา! แล้วดูเถอะว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง!”
ซูเฉินหงุดหงิดเล็กน้อย ผางฮุ่ย พล่ามไม่หยุด เขาจึงไม่คิดปล่อยให้ผางฮุ่ยอวดเบ่งได้อีกต่อไป