ตอนที่ 29 แบ่งส่วนอักษรเวทมนตร์(อ่านฟรี)
ตอนที่ 29 แบ่งส่วนอักษรเวทมนตร์
เรย์และทีมกลับมาถึงโรงแรมนักล่าประมาณ 2 ทุ่ม 20 นาที พวกเขาเคลียร์และจัดเก็บของเหมือนกับครั้งก่อน ก่อนจะขึ้นไปร่วมกันที่ห้องพักทีม จัดการแบ่งเลือดสีขาวที่ได้มาในวันนี้
“เลือดสีขาวมีทั้งหมด 9 ขวด ผม โบเวนและฟาริสคนละ 2 ขวด เรย์เอาไป 3 ขวด” คอนราดกล่าวจบก็หยิบของตัวเองขึ้นมา โบเวนและฟาริสก็เช่นกัน
“ขอบคุณครับหัวหน้า” เรย์กล่าวขอบคุณและเอาเลือดสีขาวสามขวดไป
“ไม่เป็นไร วันนี้พวกพึ่งคุณในการจัดการกับซอมบี้หน้าประตูอาคารที่อยู่อาศัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้นคุณสมควรได้รับมันมากกว่าทุกคนหนึ่งขวด”
ถ้าวันนี้ไม่มีเรย์ งานคงไม่ง่ายขนาดนี้
ฟาริสและโบเวนเองก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะทั้งสองคนเข้าใจดีว่าคาถาแต่ละคาถานั้นกินทรัพยากรมากแค่ไหน ผู้ใช้พลังเวทมนตร์คือหลุมดำที่ยากจะเติมเต็ม แต่ทุกคนก็ยินดีที่มีผู้ใช้เวทมนตร์ในทีม
“วันนี้ไม่น่ามีเรื่องอะไรอีก แยกย้ายกันไปตามสะดวกก็แล้วกัน”
“ครับหัวหน้า”
แต่ก่อนที่จะแยกย้ายไปกันนั้น เรย์ก็ถามคอนราดขึ้นมา “หัวหน้าครับ คุณรู้ไหมว่าหัวหน้าไดร่าจะอยู่หรือเปล่าในวันพรุ่งนี้”
“ไดร่านะเหรอ อืมพรุ่งนี้น่าจะอยู่ที่โรงแรมนักล่า...แต่เธอและทีมได้เฝ้าระวังตอนกลางคืน ดังนั้นถ้าคุณจะมาหาเธอแนะนำว่าให้มาช่วงบ่าย ๆ จะดีกว่า”
“ครับหัวหน้า” เรย์ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ
หลังเรย์ ฟาริส โบเวนออกไป ก็เหลือคอนราดอยู่คนเดียวในห้องพักทีม แต่แล้วโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น
คอนราดยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย หลังจากสนทนากันอยู่สักพักการสนทนาก็ทำให้คอนราดมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป
“ผมทราบแล้ว ขอบคุณ” คอนราดวางสาย
ก่อนจะถอนหายใจ มือล้วงไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบด้วยท่าทีเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพึมพำออกมาคนเดียว
“ศพพวกนั้นเป็นหลักฐานว่าพวกมันอาจจะกลับมาแล้ว พวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่”
คอนราดขยี้บุหรี่ในมือลงไปในที่เขี่ยบุหรี่ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินมาเปิดประตูออกจากห้องพักทีมไปในทันที
...
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เจอกับพี่ชายที่ตอนนี้กำลังเก็บเสื้อผ้าหลายชุดลงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีน้ำตาลทรงเหลี่ยมอยู่ ท่าทีของริชาร์ดดูจะรีบร้อนพอสมควร ราวกับเขาต้องออกเดินทางในทันที
เรย์เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของริชาร์ดก่อนจะถามออกมาด้วยความสงสัย “ริชาร์ด พี่เตรียมตัวไปไหน”
“จะไปที่เมืองหลวงเอลินเมียพรุ่งนี้ตอนเช้า ไปเจรจากับโรงงานเครื่องจักรที่นั่น อาจจะใช้เวลาสักหนึ่งเดือน นายอยู่บ้านได้ใช่ไหม ฉันจะทิ้งเงินไว้ให้ใช้จ่ายหนึ่งเดือน” ริชาร์ดกล่าว
“เรื่องเงินไม่มีปัญหา ผมได้เบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาแล้ว ดังนั้นนายเก็บเงินไว้เถอะ”
“อืม แต่ยังไงฉันจะให้ไว้เป็นเงินสำรองก็แล้วกันเผื่อมีปัญหาขึ้นมาจะได้ใช้ได้ จริงสิ..รู้อะไรเกี่ยวกับข่าวเรื่องโรคระบาดบ้างไหม ที่นั่นตำรวจพากันปิดถนนไปหลายช่วงตึกเมื่อเย็นนี้”
“มันไม่ใช่โรคระบาด ฉันพึ่งกลับมาจากอาคารที่พักอาศัยนั้นเมื่อสักพักนี่เอง” เรย์ตอบ
“ซอมบี้?”
เรย์พยักหน้า “อืม” เบา ๆ ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับรายละเอียดแต่นั่นก็เป็นการยืนยันได้อย่างดี
“ริชาร์ดนายควรเอาปืนไปด้วย”
“เรื่องนั้นคงยากเพราะที่สถานีรถไฟมีการตรวจค้นเข้มงวดเกินไป แต่ยังไงที่เมืองหลวงน่าจะปลอดภัยคงไม่ต้องใช้ปืน”
“อืม” เรย์พยักหน้าเข้าใจ
เขาพึ่งนึกได้ว่าเมืองหลวงคือศูนย์กลางของหน่วยงานนักล่าความตาย มีสำนักงานใหญ่ที่แม้แต่ตัวเขาก็ไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงยากจะหยั่งถึง ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยจากซอมบี้คงจะดีกว่าที่เมืองห่างไกลแบบเมืองเรซีแห่งนี้อย่างแน่นอน
ที่จริงแล้วเมืองเรซีไม่ได้เป็นเมืองของอาณาจักรลัวอาโดยตรง มันเป็นเมืองของกลุ่มบริษัทเคลินเนีย กรุ๊ป ภายใต้อาณาจักรลัวอาเท่านั้น
...
เรย์กลับขึ้นมาบนห้อง จัดการเตรียมของทุกอย่างสลักคาถาเข้าไปเสริมในส่วนที่ใช้หมดไป วันนี้เรย์ใช้แค่คาถาแสงชำระล้างจำนวน 2 บทเท่านั้น จึงใช้เวลาไม่นานในการสลักคาถา
ยิ่งสลักก็ยิ่งชำนาญ เขาเข้าใจอักษรเวทมนตร์ของคาถาแสงชำระล้างเป็นอย่างดีเพราะใช้สลักในคาถาลงหนังสือเวทมนตร์อยู่หลายครั้ง
แต่ในตอนนี้เรย์ยังไม่สามารถเรียนรู้คาถาติดตัวของคาถาแสงชำระล้างได้สำเร็จ
เรย์พยายามจะสร้างอักษรเวทมนตร์ขึ้นมาและสลักมันลงไปในจุดพลังงานที่สองของเขา แต่ทุกอย่างก็ทำได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น
“เรลัน...” เรย์ยังคงท่องไปและก็หยุดรวบรวมพลังงานที่ไหลผ่าน ก่อนจะท่องคาถาไหม ทำซ้ำไปมาอย่างช้า ๆ ไม่รีบร้อน
ผ่านไปสองชั่วโมงเรย์ก็หยุดลงปาดเหงื่อบนใบหน้า...
“สร้างทีเดียวยากเกินไป รายละเอียดของอักษรเวทมนตร์มีเยอะมาก” เรย์ขมวดคิ้วครุ่นคิดสุดท้ายเขาก็เข้านอน ในเมื่อยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็ต้องรอไปถามคนที่รู้
...
บ่ายของอีกวัน เรย์มาที่โรงแรมนักล่าและกำลังตรงไปที่ห้องพักทีมของหัวหน้าไดร่าในทันที
ไดร่านั่งอยู่ในห้องพักทีมขณะที่กำลังอ่านหนังสือเงียบ ๆ ในตอนนั้นเสียงประตูก็ดังขึ้น ซึ่งไม่ใช่ใครแต่เป็นเรย์
“หัวหน้าไดร่า ผมเรย์เองครับ”
“เรย์อย่างนั้นเหรอ เข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อค”
หลังไดร่าอนุญาตให้เขาเข้ามา เรย์ก็ทักทายด้วยความเคารพในทันที
“สวัสดีครับ หัวหน้าไดร่า”
“สวัสดีเรย์ คุณมีอะไรหรือเปล่าถึงมาหาฉันในวันนี้ ได้ยินว่าคุณเปิดระดับสองเรียบร้อยแล้ว แม้จะช้ากว่าที่คิดนิดหน่อยแต่ก็ไม่มากนัก” ไดร่าจับจ้องไปที่เรย์รอคำตอบอย่างเงียบ
เรย์ราวกับรู้สึกบางอย่างที่แปลกไปของหัวหน้าไดร่า มันเป็นความรู้สึกที่คนหนึ่งแข็งแกร่งขึ้น
เขารู้ได้ทันทีว่า หัวหน้าไดร่าพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว...กลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ระดับ 6
เรย์ไม่ได้ถามออกไป เพราะมันจะเป็นการเสียมารยาทเอาได้
เขามองไปรอบห้องตอนนี้ในห้องไม่มีใครอยู่ เพราะเซลีนและพี่สาวอัลลิดาจะลงไปซื้ออาหารด้านล่างพอดี
“อันที่จริง ที่ผมเปิดระดับสองได้เร็วก็เพราะคุณเขียนประสบการณ์เรียนรู้คาถาติดตัวไว้ในนั้นเป็นแนวทางให้ผม ทำให้หลังสลักอักษรเวทมนตร์ลงในจุดพลังงานมันจึงเสถียรอย่างรวดเร็ว ผมจึงสามารถดื่มเลือดและเปิดระดับสองได้ไว้ขึ้น ต้องขอบคุณหัวหน้าไดร่าอีกครั้ง” เรย์ขอบคุณไดร่าจากใจจริง
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก นั้นคือข้อตกลงของเรา ฉันทำในส่วนของฉัน คุณทำในส่วนของคุณ” ไดร่าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ครับ” เรย์ยิ้มเจือน ๆ หัวหน้าไดร่ายังดูนิ่งเงียบเหมือนเช่นเดิม ก่อนจะกล่าวต่อว่า “หัวหน้าไดร่าพอดีผมมีคำถาม ในเรื่องคาถาติดตัว นอกจากการสะสมพลังงานและสร้างทีเดียวแล้ว มีวิธีในการสร้างอักษรเวทมนตร์ของคาถาติดตัวอีกหรือเปล่า พอดีผมลองสะสมพลังงานแล้ว แต่อักษรเวทมนตร์มันซับซ้อนเกินไปการส่งผ่านพลังงานไปสลักอักษรเวทมนตร์ในจุดพลังงานจึงยากเกินไป”
เรย์ขอคำปรึกษาโดยตรง ไดร่านิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเป็นการบอกว่าเข้าใจแล้ว เธอเอ่ยปากให้คำแนะนำเรย์ในทันที
“คุณสามารถใช้วิธีการสร้างทีละส่วนได้”
“ทีละส่วน?”
เรย์ไม่เข้าใจคำว่า “ทีละส่วน” นั้นหมายถึงแบบไหน
ไดร่าเห็นว่าเรย์ทำหน้างงจึงอธิบายต่อ
“ทีละส่วนนั้น คือการแบ่งส่วนของอักษรเวทมนตร์ อักษรเวทมนตร์แบ่งออกเป็นส่วน คือ ศูนย์กลางหรือแกนกลางของอักษร ต่อมาคือวงแหวนรอบนอกหรือส่วนขอบชั้นกลางของอักษร และสุดท้ายคือส่วนรอบนอก หรือจุดสิ้นสุดของอักษร”
“ศูนย์กลางหรือแกนกลางของอักษร”
“วงแหวนรอบนอกหรือส่วนขอบชั้นกลางของอักษร”
“รอบนอกหรือจุดสิ้นสุดของอักษร”
เรย์พึมพำเสียงเบาบางพยายามคิดตามที่หัวหน้าไดร่าพูด
หลังจากคิดไปมาในที่สุดเขาก็พึ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง
“ในหลายครั้งที่ผมลองสลักอักษรเวทมนตร์ลงในกระดาษผสมทองคำของหนังสือเวทมนตร์ มันจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงของอักษรเวทมนตร์คือ ขอบในสุด ขอบกลาง และขอบสุดท้าย หรือว่า มันเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าส่วนของอักษรเวทมนตร์”
“ก็ประมาณนั้นการเปลี่ยนผ่านจาก ศูนย์กลางหรือแกนกลางของอักษร ไปยังวงแหวนรอบนอกหรือส่วนขอบชั้นกลางของอักษร หรือไม่ก็จากวงแหวนรอบนอกหรือส่วนขอบชั้นกลางของอักษรไปยังรอบนอกหรือจุดสิ้นสุดของอักษร จะมีความแตกต่างเล็ก ๆ อยู่ ถ้าเกิดสมาธิหลุดหรือผิดพลาดไปก็จะทำให้อักษรพังทลายทั้งทุกส่วน”
“แบบนี้นี่เอง” ในที่สุดเรย์ก็พบคำตอบของการสลักอักษรเวทมนตร์แล้วว่าเขาพลาดตรงไหน ทุกครั้งที่ทำพลาดเรย์จะรู้สึกปวดใจกับทรัพยากรที่เสียไปมาก ๆ แต่เมื่อได้คำตอบเรย์ก็รู้แนวทางในการสลักอักษรเวทมนตร์มากขึ้น
“ถ้าคุณรู้แล้วว่าอักษรเวทมนตร์มีการแบ่งส่วนแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็มาถึงคำตอบที่ว่า ทำยังไงถึงจะสลักอักษรเวทมนตร์ลงไปในจุดพลังงานนอกจากการรวมพลังแล้วสลักทีเดียว คำตอบของคำถามนั้นก็คือ การแบ่งส่วนสลักอักษรไปทีละส่วน” ไดร่าอธิบาย
เรย์ได้ยินก็ตาสว่างในทันที ถ้าทำแบบนั้นเท่ากับว่าเราสามารถลดภาระการสลักอักษรเวทมนตร์ลงไปสองในสามทันที แค่ทำทีละหนึ่งส่วน สามครั้งก็เสร็จสิ้น
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
“อืม ถ้าเรียนคาถาติดตัวเวทแสงชำระล้างเสร็จเมื่อไหร่ คุณสามารถมาหาฉันได้ในทันทีฉันจะสอนการสลักกระสุนชำระล้างให้ แล้วก็เลือดสีขาวเพื่อใช้ในการเปิดระดับ 3 อีก 100 ขวด ตอนนี้คุณควรจะรีบขึ้นระดับ 3 โดยเร็วที่สุด เพราะตอนนี้สถานการณ์ในเมืองเรซีไม่สู้ดีมากนัก” ไดร่าเตือน
“ผมจะจำคำของหัวหน้าไดร่าไว้”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว คุณก็ควรจะกลับไปฝึกฝนได้แล้ว ฉันจะต้องไปประชุมต่อ”
เรย์พยักหน้าเข้าใจแล้ว ก่อนจะขอตัวออกไป ตอนนี้เขาต้องรีบไปลองทำตามที่ได้เรียนรู้มาจากหัวหน้าไดร่า ว่ามันจะได้ผลแบบที่เธอบอกหรือเปล่า และถ้าเขาทำสำเร็จ เรย์จะได้เรียนรู้การสร้างกระสุนชำระล้างอย่างที่ใจหวัง