ตอนที่ 1123-1124 จากนี้เธอคือคู่แข่งของคุณ
“ในบรรดาดาราทั้งหมดที่ฉันเซ็นสัญญาด้วย เธอเป็นคนที่มีเรื่องอื้อฉาวมากที่สุดเวลาเพียงสั้น ๆ”
“ฉันเพิ่งบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะมันมีสัญญาณมาแบบนั้น”
“สัญญาณอะไรคะ?”
“มันเป็นสัญญาณของการเป็นคนดัง เธอรู้หรือเปล่าว่าดาราคนอื่น ๆ จะเข้าสู่เทรนด์แบบนี้เป็นเรื่องยากแค่ไหน? ถ้าไม่ใช้เงินก็อาจจะไม่มีโอกาสเลยก็ได้ ส่วนเธอเป็นกระแสเองโดยที่บริษัทไม่ได้จ่ายสักแดงเดียว”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
เธอไม่อยากมีชื่อเสียงเพราะเรื่องอื้อฉาว
“เรื่องอื้อฉาวเหล่านี้จะส่งผลต่อการเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยไหมคะ?” แม้ว่าลินดาจะดูเฉยเมินกับเรื่องนี้ แต่เฉียวเมียนเมียนเป็นกังวล
เธอเซ็นสัญญากับทาง MC และตอนนี้ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับพวกเขา
หากเกิดเรื่องอื้อฉาวในระหว่างการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ย่อมส่งผลต่อภาพลักาณ์ของแบรนด์อย่างแน่นอน
ถ้ามันกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ เธอจะต้องเสียค่าปรับไหม?
เฉียวเมียนเมียนคิดไปถึงเรื่องอื้อฉาวของหวงอี้หลิน ตอนที่เรื่องแดงขึ้น ไป่ซู๋ไม่เพียงแต่ให้เธอมาเป็นนางเอกแทน เธอยังต้องชดใช้ที่ผิดสัญญาด้วย
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว
เธอเพียงต้องการหาเงิน ไม่ใช่การเสียเงิน
“อย่างน้อยก็มีผลกระทบอยู่บ้างล่ะนะ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่” ลินดาพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ดาราที่มีชื่อเสียงทุกคนต่างก็มีเรื้องอื้อฉาวของตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีเรื่องอื้อฉาว แต่ถ้ามีคนต้องการยื่นมือเข้าไปยุ่ง พวกเขาก็สามารถสร้างเรื่องอื้อฉาวให้เธอได้มากมาย แต่ถ้าไม่เป็นเรื่องจริง ความเสียหายก็ไม่มากอะไรหรอก”
“ฉันจะคุยกับทาง MC ภายหลัง ฉันรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะคุยกับพวกเขาก่อนที่เราจะเซ็นสัญญา”
“โอ้ใช่ เธอรู้เรื่องที่เฉียวอันซินยกเลิกสัญญากับทาง Star Splender แล้วหรือยัง?”
ลินดานึกถึงเรื่องที่จ้าวข่ายบอกกับเธอ
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า “ค่ะ ฉันเห็นโพสต์ของเธอบนเว่ยป๋อเมื่อกี้”
เฉียวเมียนเมียนไม่แปลกใจที่เฉียวอันซินจะยกเลิกสัญญากับทาง Star Splender เพราะซูเจ๋อตั้งใจเลิกกับเธอ เธอจะอยู่ใน Star Splender อีกได้อย่างไร
อีกอย่างการที่บริษัทซูประสบปัญหาอย่างหนักแบบนี้ เฉียวอันซินคงไม่สามารถอยู่ใน Star Splender ได้เช่นกน
เธอหลอกล่อซูเจ๋อ ก็เพราะหลงใหลในเงินทองและภูมิหลังทางครอบครัวของเขา
หากตระกูลซูหมดอำนาจและไม่รุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อน เฉียวอันซินมีหรือที่จะติดตามซู่เจ๋อในยามที่เขาลำบาก
“เมื่อกี้ประธานจ้าวโทรหาฉัน บอกว่าเฉียวอันซินโทรหาเขาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เธอบอกว่าอยากเซ็นสัญญากับบริษัทของเรา แล้วเธอยังเสนอค่าตัวที่ค่อนข้างต่ำ ประธานจ้าวโทรมาถามว่าฉันจะว่ายังไงบ้าง”
แม้ว่าจ้าวข่ายและลินดาจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แต่ลึก ๆ แล้ว เขาเป็นนักธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับผลกำไร
แม้ว่าเขาจะโทรมาถามความเห็นของลินดา แต่สุดท้ายเขาก็จะเซ็นสัญญากับเฉียวอันซินอยู่ดี
ไม่อย่างนั้นเขาคงปฏิเสธเธอไปตรง ๆ แล้วล่ะ
ไม่จำเป็นต้องโทรมาหาลินดา
ลินดารู้จักเขาดูพอที่จะรู้ว่าเขาถูกล่อลวงไปแล้ว
หลัวจากรับสาย เธอก็โกรธอยู่บ้าง
ถ้าเฉียวอันซินเซ็นสัญญากับบริษัทนี้ เธอจะไม่ดูแลหล่อนอย่างแน่นอน
แต่ในเมื่ออยู่บริษัทเดียวกัน ยังไงก็ต้องมีโอกาสได้เจอกันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ด้วยชื่อเสียงในปัจจุบันของเฉียวอันซิน ทรัพยากรที่เธอจะได้รับจากการเซ็นสัญญากับทางหวนหยูมีเดียก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป ในเวลานั้นก็คงหลีกเลี่ยงที่จะต้องสู้กันเพื่อแย่งทรัพยากรที่บริษัทมีได้
__
แต่ถึงกระนั้น ลินดาก็ไม่อยากจะอยู่ร่วมบริษัทกับเฉียวอันซิน
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึง “เฉียวอันซินอยากจะเซ็นสัญญากับทางหวนหยูมีเดีย?”
“ใช่”
“ประธานจ้าวตกลงไหมคะ?”
“เขายังไม่ตอบตกลง แต่ฉันคิดว่าเขาต้องการจะเซ็นสัญญากับเธอ เมียนเมียน ถ้าเฉียวอันซินเซ็นสัญญากับทางหวนหยูมีเดียจริง ๆ เธอจะรับได้ไหม?”
คำตอบของลินดาที่มีจ้าวข่ายคือ เขาสามารถทำทุกอย่งที่เขาต้องการ
เธอเดาว่าจ้าวข่ายจะต่อสัญญากับเฉียวอันซิน
จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่ได้สนใจ แม้จะเกิดเรื่องบาดหมางระหว่างเธอและเฉียวอันซิน แต่ตราบใดที่เธอไม่ต้องรับผิดชอบเธอ ก็ไม่มีอะไรที่เธอไม่สามารถยอมรับได้ แม้ว่าในใจจะไม่ชอบก็ตาม
เธอกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของเฉียวเมียนเมียนมากขึ้น
“พี่เซี่ย ถ้าบริษัทต้องการเซ็นสัญญากับเฉียวอันซินจริง ๆ ฉันก็ไม่มีอะไรจะขัดค้านหรอกค่ะ” เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบลินดา “ฉันเข้าใจบริษัทค่ะ”
สำหรับหวนหยูมีเดีย เฉียวอันซินจะสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้มากอย่างแน่นอน
เฉียวอันซินเป็นดาราระดับ A อยู่แล้ว
ในความเป็นจริง ไม่ว่าเฉียวเมียนเมียนจะไม่ชอบเฉียวอันซินมากแค่ไหน เธอก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอไม่สามารถเทียบอีกฝ่ายได้เลย
เฉียวอันซินได้ทำสัญญากับทาง Star Splendor มาก่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะเลือกสังกัดใหม่
ท้ายที่สุด ตอนนี้เธอก็มีชื่อเสียงแล้ว
“เข้าใจจริง ๆ เหรอ” ลินดามองมาที่เธอ “ถ้าเฉียวอันซินเซ็นสัญญากับทางหวนหยู เธอจะกลายเป็นคู่แข่งของเธอนะ ไม่รังเกียจจริง ๆ เหรอ?”
เฉียวเมียนเมียนยิ้ม “พี่เซี่ย บริษัทก็ต้องจัดลำดับความสำคัญจากผลกำไรอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นฉันเลยเข้าใจบริษัทค่ะ อีกอย่างแม้ว่าเฉียวอันซินกับฉันจะอยู่สังกัดเดียวกัน เราก็ไม่ได้เจอกันทุกวันนี่ค่ะ”
“อืม ดีแล้วที่เธอรับได้” ลินดาพยักหน้า “ถ้าเฉียวอันซินมายุ่งกับเราจริง ๆ แล้วล่ะก็ ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอต้องเป็นฝ่ายแพ้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอมากดขี่ดาราในสังกัดของฉันเพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัวอย่างแน่นอน”
“ฉันดูแลเธอมาสองปีแล้ว ฉันรู้ดีว่าเธอเป็นยังไง หลังจากออกจาก Star Splendor เธอไม่สามารถหาทรัพยากรดี ๆ ได้มากเหมือนเมื่อก่อนหรอก และเธอก็ไม่สามารถอยู่อย่างอิสระได้เหมือนเมื่อตอนที่อยู่ใน Star Splendor ถ้าเธอเซ็นสัญญากับทางหวนหยูจริง อะไร ๆ ของเธอก็จะถูกจำกัด”
“ส่วนเธอน่ะ” ลินดามองเฉียวเมียนเมียนด้วยความชื่นชม “เธอดีกว่าเฉียวอันซินมาก เธอแค่ขาดคนสนับสนุน แต่ตอนนี้ประธานจ้าวรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับประธานเหมาแล้ว เขาจะต้องแบ่งปันอะไรดี ๆ ให้กับเธอต่อไปอย่างแน่นอน”
“อีกปีหรือมากกว่านั้น เธอจะต้องดังได้แน่ ฉันเชื่อว่าเธอจะแซงหน้าเฉียวอันซินได้ในไม่ช้า”
เฉียวเมียนเมียนไม่สงสัยในความสามารถของลินดา
อาจกล่าวได้ว่าดาราดังส่วนใหญ่ใน Star Splendor ล้วนเป็นฝีมือของเธอ
เมื่อพูดถึงเรี่องนี้ เฉียวอันซินดังได้ก็เพราะความพยายามของลินดา
...
ในไม่ช้าก็มีคนเคาะประตู
ลินดายืนขึ้นเพื่อเปิดประตู เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างนอก เธอก็ยกมือออกและยิ้ม “สวัสดีค่ะ ผู้จัดการจาง เจอกันอีกแล้วนะคะ”
ประธานจางเป็นผู้จัดการทั่วไประดับภูมิภาคของ MC
เขาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเลขาของเขา เมื่อเขาเห็นเฉียวเมียนเมียน ก่อนที่เฉียวเมียนเมียนจะได้ทักทายเขา เขาก็ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว “คุณเฉียวใช่ไหมครับ? ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึงกับความกระตือรือร้นของเขา
เธอกะพริบตาและมองลินดาอย่างสงสัย และถามเธอว่าชายผู้นี้คือใคร