ตอนที่แล้วWS บทที่ 319 สำแดงพลัง PART 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 321 สู่บทสรุปและช่วงเวลาแห่งความสงบสุข PART 2

WS บทที่ 320 สู่บทสรุปและช่วงเวลาแห่งความสงบสุข PART 1


กำลังโหลดไฟล์

ในที่สุดผู้เฒ่างูก็ปรากฏตัวขึ้นแต่เมื่อเขาเห็นปราสาทที่ว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาแสดงสีหน้าที่ซับซ้อนและไม่รู้จะพูดอะไรดี

“พ่อมดเมอร์ลิน คุณสามารถฆ่าพวกนักเวทย์ตามที่คุณต้องการ นักเวทย์อย่างโทบลินควรจะถูกฆ่าตายอยู่แล้ว แต่สำหรับคนธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เคานต์ควินโนมิ องค์ชายแปดยังคงต้องการให้พวกเขาดูแลเมืองนี้ต่อแต่ตอนนี้เขาตายแล้ว ฉันเกรงว่าเมืองควินโนมิจะตกอยู่ในความโกลาหลไปพักใหญ่”

“ผู้เฒ่างู คุณมาช้าไป…สำหรับเมืองควินโนมิ ฉันเชื่อว่าคุณสามารถหาทางจัดการได้ นี่คือของขวัญชิ้นที่สอง ต่อจากนี้ยังมีของขวัญชิ้นที่สาม!”

ด้วยเหตุนี้ เมอร์ลินจึงเตรียมที่จะจากไป ทันใดนั้น ทหารหญิงที่อยู่ในอาการงุนงงในที่สุดก็หายจากอาการตกใจและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อคุกเข่าต่อหน้าเมอร์ลิน “ท่านพ่อมดผู้ทรงเกียรติ ได้โปรดพาฉันไปด้วย”

“พาไป? คุณไม่ได้มาจากเมืองควินโนมิงั้นเหรอ? ทำไมไม่กลับไปที่ตระกูลของคุณล่ะ?”

เมอร์ลินจ้องไปที่ทหารองครักษ์หญิงและถามอย่างสงสัย เขาได้ยินคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของเมืองอย่างคร่าว ๆ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจฆ่าเคานต์ควินโนมิ

ใบหน้าของทหารยามหญิงดูเศร้าสร้อยขึ้นขณะที่เธอพูดเบา ๆ ว่า “ท่านพ่อมดผู้มีเกียรติ ฉันมีชื่อเฟลินดา อย่างที่ท่านกล่าว ฉันมาจากเมืองควินโนมิแต่ฉันไม่สามารถกลับไปที่ตระกูลของฉันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่อยากกลับมาที่เมืองควินโนมิอีกเลย ได้โปรดพาฉันไปด้วย ฉันยินดีรับใช้เป็นสาวใช้ของท่าน!”

แม้ว่าเฟลินดาไม่เต็มใจที่จะออกจากเมืองควินโนมิเลยแต่บาดแผลในอดีตของเธอเกิดขึ้นที่นี่และความสิ้นหวังของเธอที่ผลักดันให้เธอพยายามเอาชีวิตของเคานต์ควินโนมิ แม้ว่าเธอจะล้มเหลวแต่เมอร์ลินก็สานต่อให้สำเร็จแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากออกจากเมืองนี้เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

ผู้เฒ่างูมองเฟลินดาอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นทันทีว่า “พ่อมดเมอร์ลิน คุณควรรับเธอไป คุณกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนตระกูลวิลสันเป็นตระกูลนักเวทย์ใช่หรือไม่? เธอมีคุณสมบัตินักเวทย์ แม้ว่าจะยุ่งยากสักหน่อยแต่เธอก็สามารถกลายเป็นนักเวทย์ระดับเริ่มต้นได้ ถ้าคุณเต็มใจที่จะดูแลเธอ เธอจะภักดีต่อตระกูลมากที่สุด”

ก่อนหน้านี้เมอร์ลินไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หลังจากคำแนะนำของผู้เฒ่างู เขาก็ลองตรวจสอบอย่างใกล้ชิดก็พบว่าเฟลินดามีคุณสมบัติของนักเวทย์จริง ๆ

ผู้ที่มีคุณสมบัตินักเวทย์นั้นหายากเกินไป แม้แต่ลูกของเมอร์ลิน ซีเลียกับโคซิออนก็ไม่มีคุณสมบัติของนักเวทย์เช่นกัน

และอย่างที่ผู้เฒ่างูได้กล่าวไว้ ตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของตระกูลวิลสันที่จะกลายเป็นตระกูลนักเวทย์ ในเวลานี้พวกเขาต้องการนักเวทย์จำนวนมาก นักเวทย์ที่ได้รับการดูแลจากตระกูลจะเป็นคนที่ภักดีที่สุด สำหรับเฟลินดาซึ่งไม่มีความรักต่อเมืองควินโนมิเป็นผู้สมัครที่เหมาะสม

บางทีเขาอาจจะต้องใช้ทรัพยากรบางอย่างกับเฟลินดาเพื่อเปลี่ยนเธอให้เป็นนักเวทย์ระดับเริ่มต้นแต่เมอร์ลินได้ใช้เวลาสองสามวันที่ผ่านมาในการสังหารนักเวทย์นับไม่ถ้วนและได้รับทรัพยากรที่ไม่รู้จบ การใช้เงินเพียงเล็กน้อยเพื่อฝึกฝนเฟลินดาก็ไม่มีอะไรมาก

“ตกลง เฟลินดา ฉันจะพาคุณไปแต่ไม่ใช่ในฐานะสาวใช้แต่จะเป็นอะไรนั้น ฉันจะไปหาคุณและแจ้งให้คุณทราบหลังจากที่ฉันกลับไปที่ปราสาทวิลสันแล้ว”

หลังจากหยุดชั่วคราว เมอร์ลินก็หันมองไปทางผู้เฒ่างูและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ท่านผู้เฒ่างู ถ้าฉันรบกวนคุณให้จัดคนส่งเฟลินดากลับไปที่ปราสาทวิลสันจะเป็นการรบกวนคุณหรือเปล่า?”

“ฮ่าฮ่า ไม่ใช่ปัญหา ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อหาคนส่งเธอไปที่ปราสาทวิลสัน”

ผู้เฒ่างูสัญญาอย่างสบาย ๆ เมอร์ลินไม่พูดอะไรมากและรีบบินไปจากเมืองควินโนมิพร้อมกับพ่อมดแบมมู

นอกจากเมืองทารันและเมืองควินโนมิแล้ว เมอร์ลินยังมีเป้าหมายที่สาม นั่นคือเมืองฟรานย่าซึ่งเป็นของขวัญชิ้นที่สามที่เมอร์ลินกำลังจะมอบให้กับองค์ชายแปด!

เมืองฟรานย่าอยู่ไม่ไกลจากเมืองควินโนมิมากนัก ดังนั้น เมื่อเมือง ควินโนมิได้พ่ายแพ้ต่อเมอร์ลินเพียงผู้เดียว เมืองฟรานย่าก็ได้รับข่าวเร็วนี้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ พวกเขาได้ยินมาว่าแม้แต่เมืองทารันซึ่งเป็นเมืองที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังถูกเมอร์ลินบุกโจมตีได้สำเร็จ ดังนั้น นักเวทย์แห่งเมืองฟรานย่าจึงไม่มีทางสงบลงได้ แม้แต่เคานต์ฟรานย่าเองก็รู้สึกกระวนกระวายใจ ในขณะที่เขาพยายามอย่างไม่ลดละที่จะหาวิธีการรับมือ

ในท้ายที่สุด เมืองฟรานย่าตัดสินใจที่จะไม่ต่อต้านและทำตามที่เมอร์ลินขอจากพวกเขา ไม่ว่าคำขอของเขาจะเรียกร้องมากเพียงใด เมืองฟรานย่าก็เต็มใจที่จะยอมรับ

เมื่อมาถึงจุดนี้ ท่านเคานต์ฟรานย่าก็เต็มไปด้วยความเสียใจอย่างนับไม่ถ้วน ถ้าเขาให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อองค์ชายองค์ใดคนหนึ่งในตอนแรก เรื่องมันจะไม่จบลงแบบนี้ ผลที่ตามมาอย่างหนึ่งของการรักษาความเป็นกลางก็คือเขาจะไม่ได้รับการปกป้องจากกองกำลังที่ทรงพลัง

*พรึ่บ! พรึ่บ!*

ร่างสองร่างลงมาอย่างรวดเร็วจากด้านบนเมืองฟรานย่า นั่นคือเมอร์ลินและพ่อมดแบมมู

“พ่อมดเมอร์ลิน ฉันรอท่านมานานแล้ว พวกเขาเหล่านี้คือนักเวทย์ทั้งหมดของเมืองฟรานย่าที่โจมตีปราสาทวิลสันในอดีต นอกจาก สเตอไนน์ นักเวทย์ระดับสี่ที่หลบหนีและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทันทีที่เขาได้ทราบข่าว ส่วนนักเวทย์ที่เหลือเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของฉันและเราจะทำทุกอย่างที่ท่านพูด!”

เคานต์ฟรานย่าโบกมือและห้าในหกนักเวทย์ถูกผลักไปข้างหน้า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้การควบคุมบางอย่าง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถร่ายคาถาใด ๆ ได้ สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากนั้น เคานต์ฟรานย่าก็ไม่พูดอะไรอีก เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรงเช่นกัน เขาได้มอบนักเวทย์เหล่านี้โดยไม่มีการต่อต้านและลดสถานะของตัวเองลงเพียงเพราะเขากลัวเมอร์ลิน

การกระทำครั้งก่อนของเมอร์ลินในเมืองควินโนมิทำให้เคานต์ฟรานย่าหวาดกลัว นักเวยท์นับไม่ถ้วนรวมถึงเคานต์ควินโนมิก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน อาจกล่าวได้ว่าเมืองควินโนมิพังทลายอย่างแท้จริง

สิ่งที่จะเกิดขึ้นถัดจากนี้ ตัวเมืองจะตกอยู่ภายใต้องค์ชายแปดและถูกควบคุมโดยเขาอย่างแน่นหนา มันจะไม่เชื่อมโยงกับตระกูลควินโนมิ อีกต่อไป

ความดุร้ายที่รุนแรงของเมอร์ลินตลอดการเดินทางของเขาทำให้เกิดความหนาวเย็นในหัวใจของเคานต์ฟรานย่า เขาไม่กล้าต่อต้าน และทำได้เพียงลดสถานะของตัวเองลง ปล่อยให้เมอร์ลินทำตามที่เขาต้องการ บางทีเขาอาจมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น

ทางด้านเมอร์ลิน เขามองไปที่เคานต์ฟรานย่าที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา ความตั้งใจที่จะฆ่าของเมอร์ลินก็ลดลงอย่างมาก ตลอดกระบวนการทั้งหมดนี้ เขาได้สังหารผู้คนจำนวนมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เขามีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ซึ่งก็คือการสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลวิลสัน เช่นเดียวกับตำแหน่งของเมอร์ลินในฐานะนักเวทย์ทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะนักเวทย์อัจฉริยะจากดินแดนมนต์ดำ

และตอนนี้ เมืองฟรานย่าเลิกต่อต้านเขาก่อนที่เขาจะมาถึงเสียอีก ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายของเมอร์ลินในการ ‘สร้างชื่อเสียง’ ได้บรรลุผลสำเร็จแล้ว ชื่อเสียงในปัจจุบันของเมอร์ลินนั้นน่ากลัวและเกรียงไกร หลังจากนี้ ใครก็ตามที่กล้ามายุ่งย่ามกับตระกูลวิลสันจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงการตอบโต้ของเมอร์ลิน แทนที่จะเป็นของดินแดนมนต์ดำ

*ฟึ่บ… ฟึ่บ… ฟึ่บ…*

เมอร์ลินดีดนิ้วของเขาและกระแสของเปลวไฟสีขาวก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้นักเวทย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเคานต์ฟรานย่ากลายเป็นเถ้าถ่าน

เมอร์ลินจะไม่แสดงความเมตตาแม้แต่น้อยต่อผู้ที่เคยโจมตีปราสาทวิลสันมาก่อน

เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินได้เผานักเวทย์เช่นนี้ เคานต์ฟรานย่าก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว การตัดสินใจของเมอร์ลินยังคงไม่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าอะไรรอเขาอยู่

*หวู่ม!*

อีกร่างหนึ่งบินเข้ามาจากระยะไกล เขาคือผู้เฒ่างูที่ตามหลังเมอร์ลินมา

เมื่อเห็นเคานต์ฟรานย่าแล้ว ผู้เฒ่างูก็พยักหน้าเห็นด้วย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดอะไร มีเพียงเมอร์ลินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

หลังจากการสังเกตอย่างใกล้ชิดสองสามรอบ ตอนนี้ผู้เฒ่างูเห็นว่าเมอร์ลินเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเขา ดังนั้นทัศนคติของเขาจึงเปลี่ยนไป

แม้ว่าพ่อมดลีโออาจเป็นเป้าหมายหลักของซื้อใจขององค์ชายแปด แต่ความสามารถในปัจจุบันของเมอร์ลินก็ควรค่าแก่การซื้อใจเช่นกัน

หลังจากพิจารณาอยู่นาน เมอร์ลินก็ค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้นและพูดกับผู้เฒ่างูว่า “ผู้เฒ่างู เมืองฟรานย่าเป็นของขวัญชิ้นที่สามที่ฉันมอบให้กับองค์ชายแปด! เคานต์ฟรานย่า คุณคิดว่าอย่างไร?”

เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินกำลังมองมาที่เขา เคาท์ฟรานย่ารู้สึกหนาวสั่นไปในหัวใจและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “พ่อมดเมอร์ลินพูดถูก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งเมืองฟรานย่าจะยอมรับคำสั่งและจงรักภักดีต่อองค์ชายแปด!”

“ฮ่าฮ่า พ่อมดเมอร์ลิน ของขวัญชิ้นที่สามของคุณไม่ใช่ของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฉันจะรายงานเรื่องนี้อย่างซื่อสัตย์ต่อองค์ชายแปด ฉันเชื่อว่าองค์ชายแปดจะขอบคุณพ่อมดเมอร์ลินมาก”

ความยินดีผุดขึ้นในหัวใจของผู้เฒ่างู อิทธิพลขององค์ชายแปดทางภาคใต้ของอาณาจักรไม่แข็งแรงมากนักแต่ตอนนี้พระองค์ได้รับเมืองทารัน เมืองควินโนมิและเมืองฟรานย่าในสภาพที่สมบูรณ์ เมืองทั้งสามนี้เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับเมืองปรากาซและเมืองเลบิส

ด้วยเหตุนี้ อิทธิพลขององค์ชายแปดในภาคใต้จึงขยายใหญ่ขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ นี่เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ!

“ผู้เฒ่างู ตอนนี้ฉันได้มอบของขวัญทั้งสามแล้ว ฉันจะกลับไปที่ปราสาทวิลสันก่อน”

เป้าหมายหลักของเมอร์ลินสำเร็จแล้วและเป้าหมายรองของเขาก็สำเร็จเช่นกัน ชื่อของเมอร์ลิน วิลสันจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่พ่อมดพเนจร ด้วยชื่อเสียงเหล่านี้จะช่วยพัฒนาตระกูลวิลสันให้กลายเป็นตระกูลนักเวทย์อย่างมั่นคงในอนาคต

ผู้เฒ่างูพยักหน้า “คุณอาจจะไม่ต้องรอนานนักก่อนที่ข่าวจากองค์ชายแปดจะมาถึง”

เมอร์ลินเข้าใจความหมายโดยนัยของผู้เฒ่างู เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรีบออกจากปราสาทวิลสัน เพราะองค์ชายแปดยังคงต้องการพบกับเมอร์ลินในเรื่องสำคัญ

“ฉันจะอยู่ในปราสาทวิลสัน อย่างน้อยครึ่งปี!”

หลังจากครุ่นคิดแล้ว เมอร์ลินก็ตอบเรียบ ๆ เขาจำเป็นต้องพัฒนาตระกูลวิลสันให้เป็นตระกูลนักเวทย์ มันจะต้องใช้เวลาและพลังงานอย่างมาก แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อมดแบมมูแต่การปรากฏตัวของเมอร์ลินก็ยังจำเป็นในปราสาทวิลสัน

“แบมมู กลับไปที่ปราสาทวิลสันกันเถอะ!”

เมอร์ลินบอกลาผู้เฒ่างูและรีบไปที่ปราสาทวิลสันพร้อมกับพ่อมดแบมมู

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด