ตอนที่แล้วบทที่ 9 เป็นเด็กดี น่ารักมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 ป๊ะป๋าแข็งแรงมาก

บทที่ 10 ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นใบ้


เขาดูอายุประมาณหกหรือเจ็ดขวบ มีเส้นผมสีดํายาว เขาสวมเสื้อแขนสั้นสีดําและกางเกงขายาวสีเบจ

อาจเป็นเพราะเด็กชายคนนี้ผอมเกินไป จึงทำให้เสื้อผ้าของเขานั้นหลวมมาก เด็กน้อยถือถุงพลาสติกสีดําขนาดใหญ่ไว้ในมือ และอีกมือหนึ่งก็กําลังคุ้ยถังขยะ เพื่อหาขวดน้ำแร่หรือกระป๋องจากในถังนั้น เมื่อเจอแล้วก็นำมาใส่ไว้ในถุงพลาสติกของตัวเอง

หลังจากค้นหาสิ่งที่ต้องการเจอแล้ว เขาก็หันไปรอบๆ และไปเปิดถังขยะอีกใบหนึ่ง ซึ่งท่าทางที่คุ้นเคยนั้นดูเหมือนจะทํามาหลายครั้งแล้ว

ซูเชิ่งจิ่งเคยเจอเขาหลายครั้ง และทุกครั้งที่เจอเด็กน้อยคนนี้ก็กำลังเก็บขยะอยู่เสมอ จากนั้น ซูเชิ่งจิ่งก็จูงมือซูจิ่วเดินไปพร้อมขมวดคิ้วและถามว่า “ทําไมเธอถึงเก็บขยะอีกแล้ว ครอบครัวของเธออยู่ที่ไหน?”

เด็กชายตัวน้อยไม่พูดอะไรออกมา เขาเพียงมองหน้าคนถามอยู่แวบหนึ่ง จากนั้น ก็มองไปที่ซูจิ่วที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วถอนสายตากลับ และก็ค้นหาสิ่งที่ต้องการในถังขยะต่อ

เพียงแค่ชำเลืองมอง ซูจิ่วก็ตกใจมาก

ดวงตาคู่นั้นช่างลึกล้ำเหลือเกิน เขายังเป็นแค่เด็กไม่ใช่เหรอ? ซึ่งกำลังอยู่ในวัยที่ไร้เดียงสา แต่ทำไมถึงได้มีดวงตาที่ลึกล้ำและคาดเดาไม่ได้เช่นนั้น ราวกับเป็นผู้ใหญ่

และมันเป็นประเภทที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน

ซูเชิ่งจิ่งหยิบกระเป๋าสตางค์ออกจากกระเป๋า เขาไม่ได้มีเงินมากนัก และยังต้องซื้อของใช้ประจําวันให้ซูจิ่วอีกในภายหลัง ซึ่งกลัวว่ามันจะไม่เพียงพอ เขาจึงหยิบเงินออกมาห้าสิบหยวนแล้วยื่นให้กับเด็กน้อย “เอาไปซื้อของกิน”

## ติดตามเรื่องราวของเด็กหญิงตัวเล็กได้ที่ thai-novel.com หรือ mynovel.co ได้เลยนะคะ

เด็กชายตัวน้อยตะลึงงันไปครู่หนึ่ง และดวงตาสีดําสนิทของเขาก็จ้องเขม็งไปที่เงินนั่น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการมันมาก

แต่เขารู้ว่าไม่สามารถขอเงินคนอื่นได้ตามใจชอบ ดังนั้น เขาจึงไม่เอื้อมมือไปหยิบมันมา ริมฝีปากบางเม้มเข้ามากันจนแน่น

ซูจิ่วเอาเงินมาไว้ในมือเธอโดยตรงและยิ้มหวานให้เขา “พี่ชาย เอาเงินนี่ไปเถอะ แต่ถ้าคิดว่าเอาไปใช้ฟรีๆไม่ได้ ก็รอจนกว่าจะโตพอที่จะหาเงินได้ แล้วค่อยเอาเงินมาคืนป๊ะป๋า”

คําพูดนั้นทําให้เด็กชายตัวน้อยขยับตัว และพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้น เขาก็เอื้อมมือไปรับเงิน และมองเธออย่างจริงจัง

เธอย้ายมาใหม่เหรอ?

น่ารักจังเลย

หูของเขาแดงระเรื่อ เขาพยักหน้าอย่างเขินอายเล็กน้อย และรีบหลบสายตาของซูจิ่ว จากนั้น เขาก็เก็บเงินอย่างระมัดระวัง และหันไปหาถังขยะต่อ

เมื่อเดินออกไปนอกชุมชน ซูจิ่วก็หันกลับไปมองเขาอีกครั้ง ภายในใจของเธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

ให้เด็กตัวเล็กๆ ออกมาเก็บขยะแบบนี้ ชีวิตของเขาต้องลําบากมากใช่ไหม?

เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ป๊ะป๋า เขาเป็นใคร?”

“เขาอาศัยอยู่ในตึกของเรา และยังเคยได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นใบ้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ป๊ะป๋าก็ยังไม่เคยได้ยินเขาพูดออกมาเลย”

“ทำไมเขาต้องมาเก็บขยะ ครอบครัวของเขายากจนเหรอ?”

“มีคนอาศัยอยู่ที่นี่ไม่มากนัก รวมถึงป๊ะป๋าด้วย” ซูเชิ่งจิ่งรู้สึกละอายใจเล็กน้อยและมองลงมาที่ซูจิ่ว “ลูกรังเกียจป๊ะป๋าไหม?”

ซูจิ่วส่ายหน้าและเงยหน้าขึ้นยิ้มให้อย่างสดใส “แน่นอนว่าไม่ ป๊ะป๋าเป็นป๊ะป๋าที่ดีที่สุดในโลก!”

เพียงแค่ประโยคเดียว ก็สามารถทําให้หัวใจของซูเชิ่งจิ่งอ่อนตัวลงกลายเป็นแอ่งน้ำได้อย่างง่ายดาย

ใช้ได้! จากนี้ไปเขาจะต้องรับผิดชอบและพยายามเลี้ยงดูเธอให้ดีที่สุด!

เมื่อมาถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ซูเชิ่งจิ่งก็เดินไปหยิบรถเข็น จากนั้นก็อุ้มซูจิ่วและวางเธอไว้ในนั้น

ใบหน้าเล็กๆ ของซูจิ่วแดงระเรื่อทันที ซึ่งตอนนี้เธอรู้สึกอายมาก

ตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งอยู่ในรถเข็นเหมือนเด็กทารก...ซึ่งมันน่าอายจริงๆ

เมื่อเห็นว่าซูจิ่วรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ซูเชิ่งจิ่งจึงคิดว่าเธอไม่ชอบนั่ง เขาจึงก้มศีรษะลงแล้วถามว่า “ป๊ะป๋าควรอุ้มลูกไหม?”

ซูจิ่วรีบส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกป๊ะป๋า หนูนั่งในรถก็พอ ป๊ะป๋าคงจะเหนื่อยมากแน่ๆ ถ้าอุ้มหนูไว้”

“......” ซูเชิ่งจิ่งสำลักทันที เขารู้สึกปลื้มปิติและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ให้ตายสิ นางฟ้าตัวน้อยนี่อะไรกัน?

ช่างน่ารักจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด