ตอนที่ 125+126 แต่งงานแล้ว
“ค่ะ” เจียงเหยาตอบโดยไม่ลังเลใด ๆ
ถ้าหากเจ้าบ่าวเป็นพี่ใหญ่ของลู่ชิงสี ก็เท่ากับว่าเป็นพี่ใหญ่ของเธอด้วย เป็นเรื่องปกติสำหรับ
ถ้าเจียงเหยาลงเอยโดยการออกเดทกับผู้ชายคนอื่น และลู่ชิงสีทำให้พวกเขาต้องเลิกรากัน เจียงเหยาคงจะเกลียดเขาสุดขั้วหัวใจอย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อจะได้อยู่กับเธอตลอดไป วิธีเดียวคือการแต่งงานกับเธอก่อน
พวกเขาหยุดรบกวนเจียงเหยา หลังจากที่พวกเขารู้ว่าโทรศัพท์เป็นของขวัญจากสามีของเธอ แม้ว่าสามีจะมอบของขวัญให้กับภรรยานั้นเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเขาก็คาดเดาว่าสามีของเธอคงจะมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย และไม่ใช่สามีประเภทขี้งก เขาเต็มใจมอบของขวัญราคาแพงให้กับเธอ ความประทับใจครั้งแรกของพวกเขาที่มีต่อเจียงเหยา ยังบ่งบอกว่าเธอมาจากครอบครัวที่มีฐานะด้วย
สาว ๆ ต่างอยากรู้เกี่ยวกับสามีของเจียงเหยามากขึ้น แต่การถามถึงเรื่องนี้ก็ถือว่าค่อนข้างน่าอึดอัดเพราะพวกเขาเพิ่งจะรู้จักกันเพียงวันเดียวเอง
หลินเฉียวอยู่เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
“ใช่แล้ว เจียงเหยา พิธีเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับนักศึกษาใหม่จะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า ได้ยินมาว่าทางมหาวิทยาลัยตั้งใจคัดเลือกนักศึกษาใหม่เป็นตัวแทนในการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีด้วย ตอนนี้มีผู้สมัครสามคน และสองคนในนั้นอยู่ในห้องนี้แล้ว!” เธอขยิบตาให้เจียงเหยาและพูดด้วยน้ำเสียงซุกซน
“เดาสิ ว่าคนนั้นเป็นใคร”
เจียงเหยารู้อยู่แล้วว่าเป็นเวินเสวี่ยฮุ่ยและหลินเฉียวอยู่
เธอได้อันสองในด้านวิทยาศาสตร์ของการสอบเข้าวิทยาลัยระดับจังหวัด เธอสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ แต่เธอเลือกมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้สมัคร เพราะเป็นคนที่ทำคะแนนได้สูงสุดในแผนก
ส่วนเวินเสวี่ยฮุ่ยมีผลการเรียนดีในการสอบเข้า และยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นลูกสาวของอธิการบดีมหาวิทยาลัยนี้อีกด้วย เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลสำหรับเธอที่จะเป็นผู้สมัครเนื่องจากมีผลการเรียนดีและมีคนที่สนับสนุนอยู่
ทว่าจากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เธอรู้ว่าผู้สมัครอีกคนจะได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนนักศึกษาใหม่ในการกล่าวสุนทรพจน์ คืนนั้นคือจางซีชิง เธอเป็นอัจฉริยะด้านเปียโน ที่ได้รับเลือกให้เข้าเรียนภาควิชาศิลปศาสตร์ เมื่ออายุเพียงสิบแปดปี เธอได้รับรางวัลมากมายจากการแข่งขันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
เหตุผลที่เจียงเหยารู้จักจางซีชิง เป็นอย่างดี เพราะหลีหรงฮุย เจ้าคนขี้โกงนั่น ใช้คำพูดที่ว่า : เธอป่วย เธอป่วยหนัก! ก่อนที่เธอจะกลับมาเกิดใหม่ หลี่หรงฮุยได้ทิ้งเวินเสวี่ยฮุ่ย และไปอยู่กับจางซีชิง เรื่องนี้แหละทำให้เจียงเหยาเกลียดชังทั้งสองคนนัก
ดังนั้นเจียงเหยาจึงไร้อารมณ์เกี่ยวกับผู้สมัครอีกหนึ่งรายคนนั้น มันคงคล้ายกับชีวิตก่อนหน้าของเธอมากที่สุด หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างไรเสีย เธอรู้สึกรังเกียจและไม่ชอบใจเมื่อคิดถึงจางซีชิง
“ห้องพักของเรามีคนสมัครถึงสองคน! ไม่ว่าเธอหรือเวินเสวี่ยฮุ่ยได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน พวกเราก็จะดังไปด้วย!” โจวเสี่ยวเซียเชียร์อย่างร่าเริง “เราโชคดีมากที่มีคนสมัครถึงสองคนในห้องพักของเรา!”
“ผู้สมัครอีกรายเขาก็เก่งไม่น้อยเหมือนกัน” เจียงเหยากล่าวด้วยความเขินอายที่จะพูดความจริง เหนืออารมณ์ปิติยินดีของโจวเสี่ยวเซีย
หลินเฉียวอยู่พบว่าใบหน้าของเจียงเหยาไร้อารมณ์แปลก ๆ คนอื่น ๆ มักจะตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ แต่เจียงเหยาดูเหมือนจะไม่เต็มใจและมองโลกในแง่ร้าย เธอสงสัยว่าทำไมเจียงเหยาจึงมีพฤติกรรมผิดปกติ
การกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะตัวแทนนักศึกษาใหม่คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี สามารถเพิ่มลงในประวัติย่อและช่วยให้เธอได้รับโอกาสในการทำงานในอนาคตได้ด้วย
“ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาใหม่แล้วล่ะ ว่าใครน่าดึงดูดที่สุดในหมู่ผู้สมัคร” หลี่อี้กลอกตาอย่างรำคาญ แต่มองเจียงเหยาและกล่าวว่า “เธออยู่ในอันดับที่สูงมากในการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการนั่น ฉันได้ยินมาอย่างนั้นนะ”