1121-1122
7/10
Ep.1121
“ใช่” หวูซางพยักหน้าอย่างแรง แสดงให้เห็นว่าเขาพูดจริง ก่อนอธิบายเพิ่มว่า “มีอยู่สามเขตแดนที่อยู่ใกล้กับเขตแดนเจินหวนของพวกเรา นั่นคือเขตแดนซงหมาน เขตแดนต้าเชี่ยน และเขตแดนมู่กวง”
“ในบรรดาพวกเขา เขตแดนมู่กวงตั้งตนเป็นกลาง แต่เขตแดนซงหมานและเขตแดนต้าเชี่ยนล้วนต้องการรุกรานเขตแดนของพวกเรา มหาศึกเมื่อหมื่นปีก่อน ก็มีผู้แข็งแกร่งจากเขตแดนต้าเชี่ยนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก”
“นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม หากกู่ป้าเทียนเอ่ยปากเชื้อเชิญ เหล่าผู้แข็งแกร่งจากเขตแดนต้าเชี่ยนย่อมไม่ปฏิเสธ เมื่อถึงเวลานั้น ยอดฝีมือที่เจ้าต้องเผชิญ จะไม่ได้มีเพียงกู่ป้าเทียนอีกต่อไป”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของซูเฉินเริ่มกระชับขึ้น หากให้รับมือกับกู่ป้าเทียนคนเดียว เขาไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย แต่หากต้องรับมือศัตรในระดับเดียวกับกู่ป้าเทียนมากกว่าหนึ่งคน เขาไม่มั่นเลยสักนิด
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะสามารถยกระดับฐานฝึกตนให้อยู่ในระดับขอบเขตเทพเจ้าสองดารา
อย่างไรก็ตาม หากต้องการยกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้าสองดารา แต้มพลังงานที่จำเป็นต่อการแลกเปลี่ยนคงมีจำนวนมหาศาล มีแนวโน้มว่าอาจทะลุเกิน 2 ล้านจุด
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้ หากคิดเก็บรวบรวม 2 ล้านแต้มพลังงาน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
“ฉันควรทำยังไงดี?”
ซูเฉินหรี่ตาลง ไตร่ตรองพึมพำ
ปัจจุบัน กำลังรบระดับขอบเขตเทพเจ้าฝั่งเขามีหวูซาง , อสูรเทพปลุกพลัง และหุ่นเชิดเผ่าจักรกล
แต่อสูรเทพปลุกพลัง ไม่ได้เชี่ยวชาญการต่อสู้ ความสามารถในการสู้จริงๆของมันเทียบได้กับระดับเทวะขั้น 10 เท่านั้น
ส่วนหุ่นเชิดในขอบเขตเทพเจ้าเองก็คล้ายๆกัน ความสามารถในการต่อสู้มีจำกัดมาก
ด้านหวูซาง อีกฝ่ายมีกงล้อดาราหมื่นปีแสงอยู่ในมือ หากต้องรับมือกับขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราทั่วไปถือว่าพอไหว แต่คงยากถ้าให้สู้กับขอบเขตเทพเจ้าสองดารา
ดังนั้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่สามารถตั้งความหวังได้ ซูเฉินได้แต่ต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น
หลังจากทบทวนอยู่พักหนึ่ง จู่ๆซูเฉินก็นึกถึง [รถศึกอัจฉริยะ]
[รถศึกอัจฉริยะ] อยู่แค่ในขั้น21 เท่านั้น ยังไม่ถึงรูปแบบสุดท้ายที่ดีที่สุด
ไม่เหมือนกับพวก [นักรบจักรกล] ที่เมื่อถึงระดับเทวะขั้น 10 ก็นับว่ามาถึงรูปแบบสูงสุดแล้วไม่สามารถอัพเกรดได้อีกต่อไป ขณะที่ [รถศึกอัจฉริยะ] ยังสามารถอัพเกรดต่อไปได้
และตราบใดที่มันสามารถอัพเกรดเป็นขั้น 24 [รถศึกอัจฉริยะ] ก็จะสามารถต้านทานพลังในระดับเดียวกับกู่ป้าเทียนได้อย่างสมบูรณ์ และซูเฉินก็จะใช้โอกาสนี้สังหารพวกมัน
แต่ประเด็นก็คือ [รถศึกอัจฉริยะ] หากคิดอัพเกรดสู่รูปแบบต่อไป สิ่งที่ต้องใช้อัพเกรดไม่ใช่หัวใจจักรกลอีกต่อไป แต่เป็นแร่ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าผลึกหลวนฉิง
ซึ่งบนตัวเขาไม่มีแร่ที่ชื่อผลึกหลวนฉิงอยู่อยู่เลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหามันเจอได้ที่ไหน ข้างใน [มิติสันโดษ] ก็ไม่มีใครตอบได้ กระทั่งผู้แข็งแกร่งจากโบราณอย่างเสิ่นหยวนก็ยังไม่ทราบ
นี่แสดงให้เห็นว่า ผลึกหลวนฉิงคงต้องหายากมากๆ แต่ในอนาคตอันใกล้ ซูเฉินย่อมต้องเผชิญหน้ากับกู่ป้าเทียน ดังนั้นความช่วยเหลือของ [รถศึกอัจฉริยะ] คือทางออกเดียว
ซูเฉินนึกทบทวนอยู่ในใจ เอ่ยถามหวูซางว่า “ผู้อาวุโส ท่านเคยได้ยินเรื่องผลึกหลวนฉิงไหม?”
“ผลึกหยวนฉิงคือแร่ชั้นยอดชนิดหนึ่ง หน้าที่หลักของมันคือช่วยยกระดับแก่พวกหุ่นเชิด มูลค่าสูงกว่าหัวใจจักรกลมากนัก”
หวูซางเหมือนจะรู้จักผลึกหลวนฉิงเป็นอย่างดี เอ่ยออกมาอย่างช้าๆ
“นี่ท่านรู้?” ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าจะหาผลึกหลวนฉิงได้จากที่ไหน”
“ในเขตแดนเจินหวนของพวกเราไม่มี แต่ในเขตแดนมู่กวงน่าจะมี” หวูซางนึกพักหนึ่งก่อนตอบกลับ
“เขตแดนมู่กวง ...” ซูเฉินทวนคำ จากนั้นถามว่า “ผู้อาวุโส มีทางผ่านที่เชื่อมต่อไปยังเขตแดนมู่กวงไหม?”
ในเมื่อทราบที่อยู่ของผลึกหลวนฉิงแล้ว เขตแดนมู่กวงจึงกลายเป็นสถานที่หลักที่ต้องไปเยือน
“นี่เจ้าคิดจะไปเขตแดนมู่กวงอย่างงั้นหรือ?” หวูซางสะดุ้งโหยง
หากเข้าสู่เขตแดนมู่กวง ย่อมต้องพบเจออันตรายอย่างแน่นอน มีโอกาสสูงว่าจะถูกกลบฝังอยู่ที่นั่น
นอกจากนี้ เมื่อซูเฉินจากไป แล้วใครจะเป็นคนเฝ้าอุโมงค์ทางผ่านนี้?
ถ้าพวกอสูรร้ายบุกเข้ามาเล่า จะทำยังไง?
8/10
Ep.1122
“ใช่”
ซูเฉินพยักหน้า อธิบายว่า “ผลึกหลวนฉิงสำคัญต่อผมมาก ขอแค่สามารถตามหาผลึกหลวนฉิงได้มากพอ ผมมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับกู่ป้าเทียน และพรรคพวกของเขาได้”
หวูซางพอได้ฟัง ตริตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “ซูเฉิน ข้าว่าพวกเราปิดทางผ่านเขตแดนนี่เลยดีกว่า”
เขาไม่อยากให้ซูเฉินออกไปเสี่ยง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตของซูเฉินเกี่ยวพันธ์ถึงความเป็นความตายของทุกชีวิตในหมื่นเผ่าพันธุ์
หากเกิดอะไรขึ้นกับซูเฉิน ด้านหมื่นเผ่าพันธุ์หรือแม้แต่เขตแดนเจินหวนอาจล่มสลายลงได้ แทนที่จะเสี่ยง เช่นนั้นปิดผนึกทางผ่านเขตแดนนี่ซะเลยดีกว่า แค่นี้ก็จบทุกปัญหาได้แล้ว
ซูเฉินส่ายหัว “ผู้อาวุโส ครั้งนี้พวกเรามาไกลเกินกว่าจะถอยกลับแล้ว ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ ก็จะไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไป”
“แล้วอีกอย่าง หากปิดผนึกอุโมงค์ทางผ่าน มันจะนำสันติสุขมาให้พวกเราได้ซักกี่ปีเชียว? 1,000 หรือ 10,000 ปี? หากระหว่างช่วงเวลานั้น กู่ป้าเทียนยกระดับไปอีกขั้น หรือหาวิธีเปิดทางผ่านเขตแดนและบุกเข้ามาได้ พวกเราจะรับมืออย่างไร?”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของหวูซางเริ่มกระชับ แม้ว่าคำพูดของซูเฉินจะฟังดูน่ากลัว แต่ก็มีโอกาสเป็นเช่นนั้นจริงๆ
หากวันนั้นมาถึง เกรงว่าเขตแดนเจินหวนคงจมสู่หายนะอย่างไม่มีวันหวนกลับ
“ซูเฉิน แต่ถ้าเจ้าจากไป แล้วมีอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าสองดารา บุกเข้ามาเล่าจะทำอย่างไร?” หวูซางเอ่ยถามด้วยความกังวล
จากประโยคนี้ บอกได้ว่าเขายอมให้ซูเฉินเดินทางไปยังเขตแดนมู่กวงแล้ว แต่ยังไม่ลืมวางแผนสำรองไว้ก่อน เผื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
หากอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าสองดาราบุกเข้ามา อาศัยกำลังของเขาเพียงลำพัง ไม่สามารถต้านทานได้แน่ๆ
ซูเฉินคิดแผนรับมือเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ยิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ผมจะทิ้งร่างแยกเอาไว้ให้”
กำลังรบของจิตจำลองทัดเทียมกับเขา อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน กระบี่เทวะ 5,000 เล่ม จะถูกทิ้งไว้พร้อมกับมัน
ด้วยไพ่ตาย [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ต่อให้เป็น อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าสามดารา อย่างกู่ป้าเทียน ก็น่าจะมากพอให้สู้ไหว
ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ ไม่น่ามีปัญหาใดๆ
“ร่างแยก?” คิ้วของหวูซางขมวดมุ่น แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินได้เห็นพวกร่างแยกมาก่อน
ผู้ยิ่งใหญ่บางคน เมื่อรู้สึกสิ้นหวังเรื่องความก้าวหน้า เพื่อเสริมกำลังรบให้แกร่งยิ่งขึ้น มีหลายคนที่เลือกหันไปสร้างร่างแยกแทน
อย่างไรก็ตาม ร่างแยกโดยทั่วไปแล้วจะมีกำลังรบเพียงครึ่งหนึ่งของร่างหลักเท่านั้น มากสุดก็ไม่เกิน 70%
เช่นนั้นแล้ว หากอาศัยเพียงร่างแยกของซูเฉินให้รับมือกับอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าสองดารา มันจะรับภาระนี้ไหวหรือ?
“ผู้อาวุโส ร่างแยกของผมแตกต่างกับของคนอื่นๆ” รอยิ้มลึกล้ำที่แฝงไปด้วยความหมายปรากฏขึ้นบนมุมปากของซูเฉิน
เพื่อสร้างความั่นใจให้กับหวูซาง เขาตัดสินใจว่าจะให้จิตจำลองสำแดงกำลังรบออกมา
“ต่างกันยังไง?” หวูซางนิ่งงันไปชั่วขณะ
มีร่างแยกที่แตกต่างจากผู้อื่นด้วยหรือ?
ในส่วนของเรื่องนี้ เขามีความแคลงใจมาก
ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เอื้อมมือชี้ไปทางเกาะซิงหยวน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาราวกระซิบว่า “ผู้อาวุโส ท่านดูนั่นให้ดี”
สีหน้าของหวูซางและคนอื่นๆตึงเครียด ทั้งหมดเบนสายตาไปยังเกาะซิงหยวน
ระหว่างนั้นเอง ร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าเกาะซิงหยวน ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว มันเหมือนกับซูเฉินทุกประการ แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ กลิ่นอายระดับเทวะที่มันปลดปล่อยออกมา สูงถึงระดับเทวะขั้น 10
“ที่แท้ร่างแยกของเจ้าก็มีฐานฝึกตนเทียบเท่ากับร่างจริง 100%!”
หวูซางตื่นตะลึง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าไฉนซูเฉินถึงบอกว่าร่างแยกเขาแตกต่างจากของคนอื่นๆ ที่แท้ร่างแยกมีกำลังรบเท่ากับร่างหลัก นี่เป็นอะไรที่เขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนเลย! มันได้พลิกคว่ำความรู้ ความเข้าใจของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
และในเวลานี้ จิตจำลองที่ยืนตระหง่านเหนือของเกาะซิงหยวน กวาดสายตามองลงเบื้องล่าง ซัดหนึ่งหมัดออกไป
แทบจะในทันที เงาหมัดทองคำนับร้อยที่แต่ละหมัดมีขนาดใหญ่เท่าหินโม่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
และจากทุกๆเงาหมัด พวกมันปล่อยคลื่นความผันผวนของพลังทำลายล้างที่สามารถถล่มได้ทั้งสวรรค์และปฐพีออกมา
“ช่างเป็นทักษะลับสายหมัดอันทรงพลัง!”
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ หวูซางถึงกับอ้าปากค้าง