ตอนที่แล้ว1117-1118
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1121-1122

1119-1120


5/10

Ep.1119

“กู่ป้าเทียนอยู่ที่ไหน?”

ซูเฉินปล่อยพลังจิต พันธนาการติงเซิงเอาไว้ กระชากเสียงเย็นเค้นถาม

สำหรับตอนนี้ ขอบเขตเทพเจ้าคนเดียวที่สามารถคุกคามซูเฉินได้ คือกู่ป้าเทียน

ดังนั้น เขาจึงให้ความสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกู่ป้าเทียน

“มนุษย์! ถ้าอยากจะฆ่าก็ฆ่าเสีย! ข้าไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น!”

ติงเซิงกัดฟัน ถลึงมองซูเฉินด้วยความโกรธ

เขารู้ดี ว่าเมื่อตกอยู่ในมือซูเฉินแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางรอดไปได้

เมื่อเป็นอย่างนั้น แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ต้องการเปิดปากสารภาพมันออกมา

“ฉันละชื่นชมในความกล้าของแกจริงๆ” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย มุมปากค่อยๆยกโค้งเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

คิดจัดการกับคนปากแข็งอย่างเจ้าหมอนี่ เกรงว่าคงต้องใช้วิธีการทรมาน แต่ไอ้เรื่องจากเฉือนเนื้อถลักหนังจนถึงกระดูก เขาไม่เชี่ยวชาญ ทว่าหากเป็นแค่การหักกระดูก ฉีกแขนฉีกขาล่ะก็ของถนัดเขาเลย

วินาทีถัดมา ท่ามกลางเสียงกรีดร้องน่าสังเวช แขนทั้งสองข้างของติงเซิงหลุดออกจากร่าง

“ถ้าแกยังปากแข็งอีก ฉันจะฉีกส่วนที่เหลือต่อ!” ใบหน้าของซูเฉินไม่แสดงห้วงอารมณ์หวั่นไหวใดๆ จ้องติงเซิงเขม็ง เอ่ยอย่างเฉยเมย

“เจ้ามันไม่ใช่มนุษย์! เจ้ามันมารร้าย!”

ติงเซิงหวาดกลัว ที่กลัวไม่ใช่ความตาย แต่หวาดกลัวเพราะเขาไม่สามารถทนต่อการทรมานมันโหดร้ายเช่นนี้ได้

ใบหน้าของซูเฉินหมองลงทันใด ซัดหนึ่งหมัดออกไปโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆล่วงหน้า ทุบต้นขาข้างหนึ่งของติงเซิง กระดูกแหลกเป็นชิ้นๆ

“อ๊ากกกกก!”

ติงเซิงร้องโหยหวนน่าสังเวชอีกครั้ง

“ฉันจะให้โอกาสแกอีกเป็นครั้งสุดท้าย!”

ซูเฉินหรี่ตาลง น้ำเสียงของเขายิ่งนานยิ่งเย็นเยียบ

“นายเหนือหัวกู่ ยังคงอยู่ในเขตแดนซงหมานของพวกเรา เวลานี้ เขายังไม่สามารถฝ่าเข้ามาในเขตแดนเจินหวนของพวกเจ้าได้!” ติงเซิงยอมแพ้ รีบสารภาพออกมา เพราะกลัวว่าหากตอบไม่ทันใจ อาจต้องตกอยู่ภายใต้การทรมานของซูเฉินอีก

ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นมาทันที นายเหนือหัวกู่ที่ติงเซิงพูดถึง น่าจะเป็นกู่ป้าเทียน ส่วนเรื่องเขตแดนซงหมาน น่าจะหมายถึงโลกของอสูรร้าย และเขตแดนเจินหวนน่าจะหมายถึงโลกที่พวกเขาอยู่ตอนนี้

“เพราะทางผ่านมิติยังไม่เสถียร กู่ป้าเทียนเลยยังเข้ามาเขตแดนเจินหวนไม่ได้ถูกไหม?” ซูเฉินถาม

หากทางผ่านเขตแดนยังไม่เสถียร มันจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง นั่นคือยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งเท่าใด ก็ยิ่งผ่านเข้ามาได้ยากขึ้นเท่านั้น

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาจึงสรุปออกมาเช่นนี้

“ใช่” ติงเซิงกล่าวคล้อยตาม อย่างไรก็ตาม ขณะตอบ เขาเบนสายตาหลบไปวูบหนึ่ง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ซูเฉินสังเกตเห็นมันได้

“ดูเหมือนว่าฉันจะมอบบทเรียนให้แกไม่มากพอ เลยยังกล้าไม่ยอมบอกความจริง!”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็น แกล้งทำท่าจะลงมืออีกครั้ง

“ได้โปรดอย่า! ข้ายอมบอกแล้ว”

ใบหน้าของติงเซิงแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาว เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “เหตุผลที่นายเหนือหัวกู่ไม่ได้เข้ามา นอกจากเรื่องที่ทางผ่านเขตแดนยังไม่เสถียรแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นคือเขากำลังหลอมเกราะในระดับเทพเจ้าอยู่ เวลานี้ถึงช่วงสำคัญ อีกไม่ช้าก็จะหลอมสำเร็จแล้ว”

เกราะระดับเทพเจ้า ...

ซูเฉินทวนคำเสียงกระซิบ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

กู่ป้าเทียนคือยอดฝีมือขอบเขตเทพเจ้าสามดารา ซึ่งเดิมก็มีกระบี่สวรรค์อยู่แล้ว หากหลอมเกราะเทพเจ้าสำเร็จอีกชิ้น บนร่างเขาคงไม่มีจุดอ่อนใดๆ อาจกล่าวได้เลยว่าครบครันทั้งบุกโจมตีและตั้งรับ กำลังรบพุ่งทะยานอย่างไม่ต้องสงสัย และอาจขยับไปเกือบเทียบเคียงกับขอบเขตเทพเจ้าห้าดาราได้เลย

“ดูเหมือนว่าฉันต้องรีบยกระดับฐานฝึกตนให้เร็วกว่านี้ซะแล้ว” ซูเฉินงึมงำเสียงขรึม

เมื่อรู้ว่ากู่ป้าเทียนมีสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าถึงสองชิ้น เรื่องนี้สร้างแรงกดดันแก่เขาเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม  ตราบใดที่เขายกระดับสู่ ขอบเขตเทพเจ้า ซูเฉินยังคงมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับ กู่ป้าเทียน ได้

เขาสลายความคิดแง่ร้ายออกไป เอ่ยถามต่อว่า “แล้วอสูรร้ายใน ขอบเขตเทพเจ้า สองดาราของพวกแก จะบุกเข้าทางผ่านเขตแดนนี้มาได้เมื่อไหร่?”

“ทางผ่านเขตแดนยังไม่เสถียร ต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง คาดว่าภายในหนึ่งเดือนพวกเขาถึงจะสามารถเข้ามาได้”

ติงเซิงสารภาพตรงๆ

6/10

Ep.1120

หนึ่งเดือน ...

ดวงตาของซูเฉินวูบไหวเป็นประกาย จากนั้นชกเปรี้ยงออกไป ระเบิดหัวติงเซิง

หลังจากเก็บรวบรวมชิ้นส่วนที่ดรอปแล้ว เขาก็กลับมายัง [รถศึกอัจฉริยะ]

“ซูเฉิน ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมีกำลังรบแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”

หวูซางถอนหายใจ ร่องรอยของความตกตะลึงยังไม่จางหายไปจากใบหน้าเขา

ซูเฉินยังไม่ทันก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้าด้วยซ้ำ แต่เขากลับสามารถสังหาร อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราที่มีสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าได้อย่างง่ายดาย

เช่นนั้นหลังจากก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้าแล้ว บางทีเขาอาจแกร่งพอที่จะงัดข้อกับกู่ป้าเทียนได้จริงๆก็ได้

“ผู้อาวุโสยอกันเกินไปแล้ว” ซูเฉินกล่าวถ่อมตน

“ซูเฉิน ข้าว่าพวกเราควรรีบปิดผนึกอุโมงค์ผ่านเขตแดน” หวูซางเอ่ยเตือนอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ ซูเฉินไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ติงเซิงก็บุกเข้ามาเสียก่อน

“ผู้อาวุโส ผมไม่คิดว่าพวกเราควรปิดผนึกอุโมงค์ทางผ่านเขตแดนนั่น” ซูเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

การเป็นเต่าหัวหดไม่ใช่นิสัยของเขา ไม่ว่าไอ้หน้าไหน ตราบใดที่กล้ามาตอแย เขาจะสนองคืนมันให้สาสม

แล้วอีกอย่าง เขาอยากรอให้พวกอสูรร้ายบุกเข้ามาอีกครั้ง จะได้ถือโอาสนี้กำจัดพวกมันให้สิ้นซาก และสะสมแต้มพลังงาน

ไม่ปิดผนึก?

สีหน้าของหวูซางและอีกสองคนแปรเปลี่ยนไป อีกฝ่ายมีอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าอยู่มากกว่า 100 ตน  แม้บางส่วนจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่ยังเหลืออีก 80 กว่าตน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพวกมันยังมีกู่ป้าเทียนในระดับขอบเขตเทพเจ้าสามดารา

แม้กำลังรบของซูเฉิน ในเชิงรายบุคคลอาจแข็งแกร่งกว่าพวกมันก็ตาม แต่ในความเห็นของทั้งสาม ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน แต่หากยังไม่ยกระดับสู่ขอบเขตเทพเจ้า ซูเฉินก็ยังไม่ใช่คู่มือของกู่ป้าเทียนอยู่ดี

หรือต่อให้ยกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้าได้ อย่างมากสุดคงทำได้แค่สู้เสมอกัน

ดังนั้น การตัดสินใจแบบนี้ของซูเฉิน สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

“ผู้อาวุโสทั้งสามโปรดวางใจ กู่ป้าเทียนยังไม่สามารถบุกเข้ามาที่นี่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนเขาจะบุกเข้ามาได้ ระหว่างนั้นผมคงยกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้าไปเรียบร้อยแล้ว”

เพื่อสร้างความมั่นใจแก่หวูซางและคนอื่นๆ ซูเฉินชี้ให้เห็นว่าเขากำลังจะยกระดับแล้ว

เพิ่งฆ่าติงเซิงไป กอยโกยชิ้นส่วนได้มากถึง 50,000 - 60,000 และหากนำหอกผ่านภไปย่อยสลาย แต้มพลังงานสะสมน่าจะมากพอให้สามารถแลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 22 อย่างเต็มรูปแบบ] ได้แล้ว

“นี่เจ้ากำลังถึงจุดที่ใกล้ตัดผ่านสู่ขอบเขตเทพเจ้าอย่างงั้นหรือ?”

หวูซางและอีกสองคนตกใจมาก ด้วยศักยภาพของซูเฉิน และลูกเล่นไม่มีที่สิ้นสุดของเขา หากเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าสองดารา ก็ยังสามารถบดขยี้พวกมันได้

ด้วยประการนี้ เท่ากับภายในระยะเวลาสั้นๆช่วงหนึ่ง พวกเขาไม่จำเป็นต้องปิดผนึกอุโมงค์เขตแดน

เมื่อคิดได้ถึงเรื่องนี้ หวูซางผ่อนลมหายใจโล่งอก แต่ยังคงมีความกังวลในใจ กล่าวกับซูเฉินว่า “ซูเฉิน ตอนนี้หากไม่ปิดผนึกก็ไม่เป็นไร แต่ก่อนที่อุโมงค์ผ่านเขตแดนจะเสถียรอย่างสมบูรณ์ พวกเราต้องปิดผนึกมัน”

“ผู้อาวุโส ตราบใดที่ผมสามารถก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้า ผมมั่นใจว่าจะจัดการกับกู่ป้าเทียนได้” ซูเฉินยิ้ม

เขาสังเกตได้ว่าหวูซางกำลังกังวลว่าเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่ป้าเทียน

“เจ้ารู้แค่หนึ่ง แต่ยังไม่รู้อีกหนึ่ง” หวูซางยิ้มขม อธิบายว่า “กู่ป้าเทียนไม่เพียงแข็งแกร่งในด้านกำลังรบเท่านั้น แต่เขาผู้นี้เป็นคนมีจิตใจละเอียดรอบคอบมากเช่นกัน หากรู้ว่าอสูรร้ายในขอบเขตเทพเจ้าหลายตนตายลง เขาอาจไม่ยอมเข้ามาที่นี่”

“งั้นก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรอที่เขาไม่เข้ามา?” ซูเฉินถามด้วยความสงสัย

หวูซางกล่าวอีกครั้งว่า “แต่เขาจะไม่อยู่เฉย เขาต้องส่งผู้แข็งแกร่งจำนวนมากออกมาแน่นอน หรือต่อให้มาด้วยตัวเอง ก็คงมาพร้อมกับผู้ที่ครอบครองกำลังรบไม่ด้อยไปกว่าตน”

ซูเฉินตกตะลึง ไม่ใช่ว่าในเผ่าอสูรร้ายมีแค่กู่ป้าเทียนที่ทรงพลังที่สุดคนเดียวหรอกหรอ? แล้วเขาจะนำผู้แข็งแกร่งที่มีกำลังรบทัดเทียมกันมาจากที่ไหนอีก?

อย่าบอกนะว่าไปเชื้อเชิญจากเขตแดนอื่น??

ทันใดนั้นเอง ซูเฉินก็ฉุกคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ในเมื่อมีเขตแดนเจินหวนและเขตแดนซงหมาน งั้นบางทีก็อาจมีเขตแดนอื่นๆอยู่ด้วยก็ได้

ได้ข้อสรุปดังนี้  สีหน้าของซูเฉินเริ่มเคร่งเครียดจริงจัง ถามหยั่งเชิง “ที่ผู้อาวุโสต้องการจะสื่อก็คือ ... กู่ป้าเทียน สามารถเชิญผู้แข็งแกร่งจากเขตแดนอื่นมาได้ถูกไหม?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด