1117-1118
3/10
Ep.1117
ซูเฉินลอยอยู่กลางอวกาศ เฝ้ารอการมาถึงของติงเซิงอย่างเงียบๆ
สิบลมหายใจต่อมา ติงเซิงที่ท่วมไปด้วยกลิ่นอายสังหารพุ่งตรงมาเป็นเส้นแสง เมื่อเขาเห็นซูเฉิน เจ้าตัวชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยถามเสียงเย็นว่า “มนุษย์ นี่เจ้าจงใจรอข้างั้นหรือ?”
“ถูกต้อง” ซูเฉินกล่าวเสียงเรียบ
ระหว่งนั้นเอง จิตสังหารกระพือฟุ้งไปทั่วร่างติงเซิง เขากวาดสายตาสำรวจซูเฉิน กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ผู้ใดเป็นคนฆ่าชาวเผ่าข้า?”
กลิ่นอายของอสูรร้ายยังคงหลงเหลืออยู่กลางอวกาศ เขาสัมผัสถึงมันได้ ว่าอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าทั้งหมดในที่นี้ได้ตายไปแล้ว
กระนั้น ซูเฉินมีฐานฝึกตนเพียงระดับเทวะขั้น 10 เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเป็นผู้ลงมือกระทำได้
ด้วยเหตุนี้ เขาเลยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจมีผู้แข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
“ฝีมือฉันเอง!”
ซูเฉินยอมรับอย่างใจกว้าง
“เจ้าน่ะหรือฆ่าพวกเขา?” ติงเซิงเบิกตากว้าง ใช้สายตาประเมินซูเฉินอีกรอบ ก่อนหัวเราะเยาะออกมา “ขยะเช่นเจ้าจะมีความสามารถสังหารขอบเขตเทพเจ้าได้อย่างไร? วาจาใหญ่โต!”
ต่อให้ระดับเทวะขั้น 10 สิบคนร่วมมือกันก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของขอบเขตเทพเจ้าได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าในที่นี้มีอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าอยู่ถึงสิบตน แต่ซูเฉินเอ่ยปากว่าเป็นคนลงมือ? ช่างน่าขันสิ้นดี
“ถ้าแกไม่เชื่อ งั้นลองมาพิสูจน์ด้วยตัวเองดูดีไหม?”
ซูเฉินเบ้ปาก เอ่ยคำกระตุ้นยั่วโมโห
หือ?
เห็นซูเฉินใจกล้าไม่หวาดกลัว ติงเซิงลอบอุทานในใจ เป็นไปได้ไหมว่ามนุษย์ผู้นี้จงใจปกปิดฐานฝึกตน และต้องการแสร้งทำเป็นหมูกินเสือ?
คิดได้แบบนั้น ดวงตาของติงเซิงทอประกายเย็นยะเยือก ยกหอกสีม่วงขึ้นมา ตรงเข้าสังหารซูเฉิน
ไม่ว่าซูเฉินจะปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้หรือไม่ ตราบใดที่มีหอกยาวเล่มนี้อยู่ในมือ เขามั่นใจว่าซามารถคว่ำซูเฉินได้ด้วยการโจมตีเดียว
เริ่มสู้กันแล้ว!
หวูซางและคนอื่นๆรู้สึกแข้งขาเกร็งขึ้นมา ทุกคนจับจ้องซูเฉินไม่วางใจ ในหัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล
ใบหน้าของซูเฉินสงบนิ่งไม่หวั่นไหว ขณะที่ติงเซิงค่อยๆประชิดเข้ามา ร่างเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นทันที พริบตาเดียวสูงเป็นสิบจั้ง ในเวลาเดียวกัน ฐานฝึกตนค่อยๆขยับขึ้น
เมื่อถึงจุดยอด ซูเฉินก็ได้ยกระดับสู่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา!
เมื่อก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้า ซูเฉินสัมผัสได้เลยว่าในร่างเขาเปี่ยมไปด้วยพละกำลังจนแทบจะระเบิดออกมา
บังเกิดความรู้สึกว่า แค่พลิกฝ่ามือ ก็สามารถก่อเมฆลมฝนได้ ราวกับทุกสรรพสิ่งในโลกหล้าตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
“ติงเซิง แกมาหาที่ตายแท้ๆ!”
ซูเฉินระเบิดความั่นใจออกมาในคราเดียว หัวเราะลั่นเสียงดัง
“ช่างอวดดี!” ติงเซิงแผดเสียงเย็น หอกผ่านภาสีม่วงในมือเขาทอแสงระยิบระยับไม่หยุด อำนาจทำลายล้างที่สามารถผ่าท้องฟ้าตัดอวกาศแผ่ออกมาจากมัน
ซูเฉินปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ เรื่องนี้เขาคาดการณ์ไว้นานแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลย
ต้องเผชิญหน้ากับหอกผ่านภาที่ให้ความกดดันดั่งอุกกาบาตพุ่งเข้ามา มุมปากของซูเฉินผุดรอยยิ้มหยาม
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น บนฝ่ามือเขาปรากฏแสงสีทองเจิดจ้า จากนั้นหุ้มทับไว้ด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ แล้วเอื้อมออกไปคว้าหอกผ่านภา
ซูเฉินบ้าไปแล้ว!
เห็นภาพนี้ หัวใจของหวูซางและคนอื่นๆเต้นระรัว
พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าซูเฉินคิดจะใช้มือเปล่าสู้กับหอกผ่านภา!
ยังไงก็ตาม หอกผ่านภาเห็นได้ชัดว่าเป็น สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า ที่มิอาจทำลายได้!
แล้วซูเฉินกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?
ในความเป็นจริงแล้ว การคว้าอาวุธด้วยมือเปล่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของซูเฉิน เพียงแต่ว่าทั้งสามคนบนรถศึกไม่เคยเห็นมันมาก่อน
หากเปลี่ยนเป็นพวกฉีมู่เฟิง คงไม่เอะอะโวยวายขนาดนี้
“เป็นเจ้าเองนะที่ร้องขอความตาย!”
ติงเซิงอึ้งไปพักหนึ่ง เมื่อได้สติหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ซูเฉินกล้าคว้าหอกผ่านภาด้วยมือเปล่า ในความคิดเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการฆ่าตัวตาย และเขายังเชื่อด้วยว่า ตราบใดที่ซูเฉินแตะโดนมัน อานุภาพของหอกจะทิ่มแทง และบดขยี้กระดูกของซูเฉินจนกลายเป็นเถ้าถ่าน!
4/10
Ep.1118
วินาทีถัดมา ปลายแหลมของหอกผ่านภา ทิ่มแทงลงบนฝ่ามือของซูเฉิน พลังฉีกกระชากกระพือขึ้นในพริบตา
ในคราเดียว ระลอกคลื่นทำลายล้างกวาดออกไปทั่วอวกาศโดยรอบ
หวูซางและคนอื่นๆบน [รถศึกอัจฉริยะ] หัวใจเต้นแรง กระเด้งขึ้นมาถึงลำคอ
ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่าสะพรึงสุดขีดเช่นนี้ ซูเฉินจะสามารถต้านทานได้จริงหรือ?
ระหว่างนั้นเอง แสงสีม่วงสว่างจ้าสะท้อนออกมาจากฝ่ามือของซูเฉิน
รังสีแสงสีม่วงนี้ คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าหอกผ่านภากำลังปลดปล่อยพลังออกมาจนถึงขีดสุด
“ไปลงนรกซะ!”
ติงเซิงคำรามดุร้าย
เมื่อเห็นว่าการโจมตีระลอกแรกไม่สามารถทำอะไรซูเฉินได้ เขาก็ไม่ออมแรงอีกต่อไป ทุ่มสุดกำลังเพื่อขจัดตัวปัญหาตรงหน้า
สองมือยกขึ้นกำหอกผ่านภา ผลักดันโจมตีซูเฉินอย่างไร้ปราณี
บังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
เห็นแค่เพียงทั้งร่างของซูเฉินถูกแสงสีม่วงกลืนหายไป
“ซูเฉินนนนนน!!!”
ใบหน้าของหวูซางซีดขาว ร้องคำรามออกมา
“ซูเฉินจบสิ้นแล้ว”
ใบหน้าของ ฉีชิงเฉวียนและเสิ่นหยวนไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง หัวใจดิ่งลึกลงก้นบึ้งหุบเหว
ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ทั้งหมดต่างเห็นพ้องว่า ซูเฉินคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“หอกผ่านภา ชื่อนี้จริงแท้ไม่ปลอมแปลง --แต่มันก็ได้แค่นี้แหละ!”
ระหว่างนั้นเอง เสียงแผดเย็นดังก้องไปทั่วอวกาศ บาดลึกเข้ามาในหูของทุกคน
“ซูเฉิน ... ยังไม่ตาย!”
หวูซางและคนอื่นๆตกตะลึง พวกเขาได้ยินเต็มสองรูหูว่าเสียงที่เปล่งออกมาคือซูเฉินอย่างไม่ต้องสงสัย
ทันใดนั้นเอง ทุกสายตาเบิกกว้าง จ้องมองไปยังตำแหน่งที่ปกคลุมไปด้วยรังสีแสงสีม่วง
เมื่อแสงสีม่วงค่อยๆจางลง เห็นแค่เพียงยักษ์สิบจั้งที่สวมใส่ชุดเกราะทองคำลอยนิ่งอยู่กลางอวกาศ ยืนหยัดไม่สะทกสะท้านอยู่ในจุดเดิม ทั่วทั้งร่างว่ายวนไปด้วยระลอกคลื่นความแข็งแกร่งที่ทรงพลังอย่างไม่สามารถหาผู้ใดเทียบ องอาจดั่งเทพสงครามก็มิปาน!
“นั่นซูเฉิน! เขายังมีชีวิตอยู่!”
ฉีชิงเฉวียน ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”
มองไปยังซูเฉินที่ไม่เพียงยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มุมปากของติงเซิงสั่นสะริก ในดวงาเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้ เขาไม่นึกฝันมาก่อนเลยว่าซูเฉินจะสามารถใช้ร่างกายป้องกันการโจมตีของหอกผ่านภาได้
ต้องรู้นะว่า หอกผ่านภาคืออาวุธระดับเทพเจ้า !
ในสภาวะปลดปล่อยพลังออกมาเต็มที ต่อให้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างกู่ป้าเทียน ก็ยังไม่กล้าใช้ร่างกายเพียวๆเข้าทานรับ
แล้วมนุษย์เบื้องหน้าสามารถทำได้อย่างไร? นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือไม่?
สายตาคล้ายเกิดอาการเหม่อลอย ติงเซิงในเวลานี้มองซูเฉินราวกับเป็นเทพเจ้าจริงๆ
“ก็แค่ทักษะกระจ้อยร่อย กล้าดียังไงมาอวดดีต่อหน้าฉัน?”
ซูเฉินส่งเสียงฮึในลำคอ ฉวยโอกาสตอนติงเซิงยังเหม่อลอย เปิดใช้งาน [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] อย่างกะทันหัน ทุ่มแรงออกไปทันที คว้าแย่งหอกผ่านภามาตรงๆ
“นี่เจ้า ..!”
สีหน้าของติงเซิงแปรเปลี่ยนไป สูญสิ้นหอกผ่านภาในมือ กำลังรบของเขาลดทอนลงเป็นอย่างมาก
เวลานี้อย่าว่าแต่ฆ่าซูเฉินเลย กระทั่งชีวิตก็ยังไม่รู้ว่าจะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่
“มนุษย์ เจ้าเป็นใครกันแน่?”
ติงเซิงพยายามระงับความหวาดกลัวของเขา เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ
ยอดฝีมือเช่นนี้ได้ปรากฏกายขึ้นภายในหมื่นเผ่าพันธุ์ นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่คาดฝันมาก่อน
หากรู้เร็วกว่านี้ เขาคงไม่บุกเข้ามาตรงๆอย่างโง่งมเช่นนี้
แต่เมื่อเรื่องราวมันได้ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว ต่อให้เสียใจจนลำไส้บิดเป็นสีเขียวก็ไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ได้
“เป็นแค่มดปลวก มีคุณสมบัติอะไรมาถามชื่อฉัน?” ซูเฉินแค่นเสียงเย็น
ติงเซิงเป็นถึงผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา แต่ในสายตาซูเฉิน เขาไม่ต่างอะไรกับมดปลวก
หากคิดสังหาร เพียงกระดิกนิ้วทุกอย่างก็จบแล้ว
ใบหน้าของติงเซิงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ขนาดถูกเปรียบเทียบกับมดปลวก เขายังไม่อาจเปล่งเสียงหักล้างได้
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง เขากลับกลายเป็นเพียงตัวตนกะจ้อยร่อย