1115-1116
1/10
Ep.1115
“ซูเฉิน เจ้าไม่เข้าใจ”
หวูซางถอนหายใจ ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ในบรรดาอสูรร้าย มีผู้แข็งแกร่งระดับขอบเขตเทพเจ้าอยู่มากถึง 100 ตน และ 10 ตนที่เจ้าฆ่าไปจัดอยู่ในจำพวกอ่อนแอที่สุด”
ซู๊ดดดดด!
ฉีชิงเฉวียนสูดหายใจลึก อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้า 100 ตน ช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน มันทำให้เขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
หางตาของซูเฉินกระตุกเช่นกัน เอ่ยปากถาม “ผู้อาวุโส ถ้างั้นแล้วผู้แข็งแกร่งที่สุดในฝ่ายอสูรร้ายอยู่ที่ขั้นไหน?”
กำลังรบที่เขาเพิ่งแสดงออกมา เป็นเพียงส่วนปลายของยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ไพ่ตายอีกสามใบอย่าง [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] [พายุกาแลคซี] และ[หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ยังไม่ถูกนำออกมาใช้เลย
ดังนั้น ในส่วนของอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้า อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเท่าไหร่นัก
“ในบรรดาอสรูร้าย ผู้แข็งแกร่งที่สุดมีชื่อว่ากู่ป้าเทียน มีฐานฝึกตนสูงส่งถึงระดับ ขอบเขตเทพเจ้าสามดาราครอบครองความแข็งแกร่งมิอาจหาผู้ใดเทียบ!” หวูซางกล่วเสียงขรึม
แม้กู่ป้าเทียนจะเป็นศัตรูของหมื่นเผ่าพันธุ์ แต่ฟังจากน้ำเสียงของหวูซาง คล้ายให้ความเคารพอีกฝ่ายอยู่หลายส่วน ซึ่งนี่คือความเลื่อมใสต่อผู้แข็งแกร่งที่สุด
“ขอบเขตเทพเจ้าเองก็มีแบ่งเป็นขั้นด้วยหรอ?” ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
เนื่องจากยังไม่ได้แลกเปลี่ยนชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 22 อย่างเต็มรูปแบบ] ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าขอบเขตเทพเจ้ายังมีแบ่งระดับด้วย
“ลำดับขั้นของขอบเขตเทพเจ้าก็เหมือนกับฐานฝึกตนทั่วไปและระดับเทวะ ถูกแบ่งออกเป็นสิบขั้น ขั้นต่ำสุดคือขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา สูงสุดคือขอบเขตเทพเจ้าสิบดารา” หวูซางอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินครุ่นคิดพึมพำ
ปัจจุบันเขาอยู่แค่ระดับเทวะขั้น 10 เท่านั้น กู่ป้าเทียน อยู่สูงกว่าเขาถึงสามขั้น ต่อให้เปิดใช้งาน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] เพื่อก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดาราก็ยังมีช่องว่างสองขั้นคั่นกลางระหว่างพวกเขา
หากแค่ขั้นเดียว เขามั่นใจว่าสามรรถสังหารกู่ป้าเทียนได้ แต่ถ้า 2 ขั้นนี่ .. ตอนนี้ยังค่อนข้างตึงมือเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม โชคดีก็คือศึกนี้เขาสามารถเก็บชิ้นส่วนได้นับล้าน และหากทุกชิ้นถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน บวกกับที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ ยอดรวมทั้งสิ้นจะมีเกือบ 1.4 ล้านจุด
ซึ่งราคาแลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 22 อย่างเต็มรูปแบบ] ต้องใช้แต้ม 1.5 ล้าน ยังเหลือส่วนต่างอีกประมาณแสนกว่าๆ
ขณะที่บนเกาะซิงหยวนมีสัตว์ร้ายมิติอยู่มากมาย หากฆ่าพวกมันทั้งหมด ปัญหาขาดแคลนแสนแต้มก็น่าจะถูกแก้ไขได้พอดิบพอดี
ด้วยประการนี้ เขาก็จะสามารถยกระดับเป็นขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา ได้ บวกกับท่า [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] ก็จะขึ้นเป็นสองดาราได้ในที่สุด
คิดได้แบบนี้ ความตึงเครียดในใจซูเฉินก็ผ่อนคลายลงมาก
หวูซางเห็นซูเฉินดูจะไม่ใส่ใจนัก เลยเกิดความกังวลว่าซูเฉินอาจกำลังประมาทศัตรู ต้องย้ำเตือนอีกครั้ง
“ซูเฉิน กู่ป้าเทียนนอกจากจะเป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าแล้ว เขายังมีกระบี่สวรรค์อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งมันไม่ใช่แค่สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงมากอีกด้วย”
“อำนาจของกระบี่สามารถสั่นสะเทือนไปทั่วห้วงอวกาศ กระทั่งกงล้อดาราหมื่นปีแสงของข้าก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้”
“ดูเหมือว่ากู่ป้าเทียนจะเป็นยอดฝีมือของจริง”
ซูเฉินหรี่ตาลง พึมพำกับตัวเอง
กู่ป้าเทียนอยู่ในระดับขอบเขตเทพเจ้าสามดารา บวกกับสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าในมือ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเทียบเท่าได้กับขอบเขตเทพเจ้าสี่ดาราแน่นอน
อย่างไม่ก็ตาม ซูเฉินยังคงไม่สะทกสะท้าน
แม้เขาจะไม่มี สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า แต่เขายังมีกระบวนท่า [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ซึ่งใช้กระบี่เทวะ 5,000 เล่ม บวกกับกระบี่พลังจิต 2,500 เล่ม และกระบี่มนตราอีก 2,500 เล่ม
ด้วยพลังอำนาจของมัน ย่อมเหนือกว่ากระบี่สวรรค์ของของกู่ป้าเทียนอย่างแน่นอน
ในเรื่องความมั่นใจ ซูเฉินนับว่ายังพอมีอยู่บ้าง
ดังนั้น การเอาชนะกู่ป้าเทียนจึงไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
“ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวลไป ผมมั่นใจว่าจะสามารถโค่นกู่ป้าเทียนได้”
เอ๋?
มองไปยังรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของซูเฉิน หวูซางทึ่งไปพักหนึ่ง
มันเป็นเรื่องจริงที่ซูเฉินคืออัจฉริยะยากหาตัวจับ แต่หากเอ่ยปากว่าสามารถเอาชนะ กู่ป้าเทียน เขาไม่อาจทำใจเชื่อได้ เพราะสุดท้าย ทั้งสองห่างชั้นกันถึง 3 ขั้น!
--ช่องว่างมันกว้างใหญ่เกินไป!
2/10
Ep.1116
ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไร กำลังจะเปิด [มิติสันโดษ] เพื่อเรียกคนอื่นๆออกมาช่วยกันกวาดล้างเกาะซิงหยวน แต่จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้นซะก่อน “เจ้านาย ข้ารับรู้ได้ว่ามีตัวตนที่ทรงพลังเป็นพิเศษกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเรา”
หัวใจของซูเฉินกระตุกวูบ นกสำรวจได้ยกระดับสู่ระดับเทวะขั้น 10 แล้ว การที่สามารถทำให้มันรับรู้ถึงอันตรายได้ แสดงว่าต้องเป็นผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาเอ่ยปากสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] ทันที “เสี่ยวจือ สแกนออกไป”
ไม่นาน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ตอบกลับมาว่า “เจ้านาย มีอสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารากำลังใกล้เข้ามา”
สิ้นเสียง ภาพของอสูรร้ายตนนั้นก็ฉายขึ้นบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
ซูเฉินกวาดตามอง เห็นแค่เพียงชายหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งแต่มีร่างกายบึกบึนดั่งขุนเขา ถือหอกยาวสีม่วงไว้ในมือ กำลังมุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ
ดูจากรูปลักษณ์แล้ว ชายผู้นี้มีลักษณะสอดคล้องกับพวกอสูรร้ายจริงๆ
“ซูเฉิน เจ้าหมอนี่ชื่อติงเซิง แม้เขาจะอยู่ใน ขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา แต่กำลังรบทรงพลังมาก เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้ดี” ผู้ทรงเกียรติเสิ่นหยวน กล่าวเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“นี่ผู้อาวุโสรู้จักเขาด้วย?” ซูเฉินถามด้วยความสงสัย
หวูซางไม่รู้จักอสูรร้ายตนนี้เลยสักนิด ตรงกันข้าม กลับเป็นเสิ่นหยวนที่สามารถระบุตัวตนของมันได้ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เสิ่นหยวนอธิบายว่า “ในมหาศึกเมื่อหมื่นปีก่อน ร่างหลักของข้าเคยเผชิญหน้ากับเขา แต่ก็ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สาเหตุก็คือหอกยาวในมือเขา”
หอกยาว?
ซูเฉินเบนสายตาไปยังหอกสีม่วงในมือศัตรู เห็นแค่เพียงแสงสีม่วงแวววับกำลังโอบล้อมตัวหอกอยู่ มองไปดูมีเสน่ห์น่ายำเกรงไม่น้อย คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธคุณภาพสูง
เสิ่นหยวน กล่าวต่อว่า “หอกยาวเล่มนี้เรียกว่าหอกผ่านภา เป็นสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าครอบครองอำนาจตัดมิติ มีพลังทำลายล้างสูง”
“ที่แท้ก็เป็น สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า !”
สีหน้าของหวูซางพลันแข็งค้าง เขาเข้าใจถึงความร้ายกาจของ สิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า เป็นอย่างดี เพราะในมือเขาเองก็มีกงล้อดาราหมื่นปีแสงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม กงล้อดาราหมื่นปีแสงจัดเป็นสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าประเภทป้องกัน ขณะที่หอกผ่านภาเป็นประเภทโจมตี หากไม่มีการป้องกันที่แข็งแกร่ง มีโอกาสตายในการโจมตีเดียว
ดังนั้น ลึกข้างในหัวใจเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มกังวล
เมื่อซูเฉินได้ยินว่าหอกผ่านภาคือสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า เขาไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว ตรงกันข้าม ในแววตากลับฉายไปด้วยความตื่นเต้น
หากเขาชิงหอกผ่านภามาได้ แล้วทำการย่อยสลายเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน มันจะต้องได้แต้มเป็นจำนวนมหาศาลแน่!
บวกกับชิ้นส่วนที่ฆ่าติงเซิงได้ แล้วรวมแต้มพลังงานทั้งสองเข้าด้วยกัน ก็น่าจะเกินพอแล้วที่จะใช้ยกระดับสู่ขอบเขตเทพเจ้า
ซูเฉินเลียริมฝีปาก หันไปกล่าวกับหวูซาง “ผู้อาวุโส พวกท่านรออยู่ข้างในนี้ ผมจะออกไปฆ่าเจ้าติงเซิง!”
“ซูเฉิน ช้าก่อน” หวูซางหยุดเขา ยื่นกงล้อดาราหมื่นปีแสงให้ซูเฉิน และกล่าวว่า “เก็บมันไว้ ใช้ป้องกันตัวยามฉุกเฉิน”
ในเมื่อติงเซิงบุกเข้ามาเพื่อสังหารพวกเขา ด้วยอุปนิสัยของซูเฉินแล้ว ย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในครั้งนี้ได้
แต่ติงเซิงมีสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าในมือ เขากังวลว่าซูเฉินจะเสียเปรียบ จึงมอบกงล้อดาราหมื่นปีแสงให้
ด้วยสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ข้อได้เปรียบที่ติงเซิงมีสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าในครอบครองก็จะหายไป
“ผู้อาวุโส ท่านนำมันกลับไปเถอะ ติงเซิงไม่ต่างจากมดในสายตาผม หากคิดฆ่ามัน ผมทำได้อย่างง่ายดาย!”
ซูเฉินยิ้ม ก้าวเดินออกจาก [รถศึกอัจฉริยะ]
“นี่ ...” หวูซางตะลึงลาน
ฉีชิงเฉวียนและเสิ่นหยวนพอได้ฟังก็อ้าปากค้างเช่นกัน
แม้กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับ อสูรร้ายขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา ที่ครอบครองสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้า ซูเฉินกลับเอ่ยปากราวกับไม่ใช่ปัญหาใดๆ
ต้องรู้นะว่าติงเซิงไม่เหมือนคนอื่นๆ อีกฝ่ายไม่เพียงแต่ผ่านมหาศึกเมื่อหมื่นปีก่อนมาแล้วเท่านั้น แต่ยังมีประสบการณ์ต่อสู้อีกมามาย ไหนจะสิ่งประดิษฐ์เทพเจ้าอีก คาดว่าด้านกำลังรบของเขา อาจเกือบเทียบเคียงได้เลยกับ ขอบเขตเทพเจ้าสองดารา
แต่ซูเฉินกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา นี่มันจะอวดดีเกินไปหน่อยกระมัง!