บทที่ 518 ลูกไม้ตื้นๆ(ตอนฟรี)
บทที่ 518 ลูกไม้ตื้นๆ
เมื่อท้องฟ้าทางฝั่งตะวันออกเปลี่ยนเป็นสีขาว การเข้าเรียนในภาคการศึกษาแรกของสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจวสำหรับจี้เฟิงก็จบลงในที่สุด
นี่เป็นวันที่สองหลังจากที่สอบเสร็จ เพราะเมื่อคืนนี้จี้เฟิงนอนดึก จึงทำให้วันนี้เขาตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า แม้ว่าเวลานี้อาจจะยังเช้าอยู่สำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับจี้เฟิงที่ปกติเขาจะตื่นตอนตีห้าในทุกๆวัน นี่นับว่าเป็นความเกียจคร้านอย่างไม่ต้องสงสัย
“นานๆ ดื่มทีก็ได้เรื่องเลย!”
จี้เฟิงส่ายหัว แม้ว่าเมื่อวานเขาจะไม่ได้ดื่มมาก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพเพื่อขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย จี้เฟิงจึงรู้สึกมึนเมาเล็กน้อยและหลับยาวมาจนถึงเจ็ดโมงเช้า แต่มาคิดๆดูแล้ว การที่เขาตื่นสายในเช้าวันนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแอลกอฮอล์เลย
จี้เฟิงลุกขึ้นนั่งบนเตียง และกระตุ้นกระแสไฟฟ้าชีวภาพในร่างกายและกำจัดแอลกอฮอล์ที่เหลือทั้งหมด จากนั้นเขาก็ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเขาตื่นได้อย่างเต็มตาเขาก็เดินลงบันไดไป
เซียวหยูซวนและถงเล่ยเตรียมอาหารเช้าเสร็จนานแล้ว เมื่อเห็นจี้เฟิงเดินลงมา ถงเล่ยที่นั่งอยู่ข้างๆโต๊ะอาหารก็ยิ้มหวาน “รีบมาทานข้าวเช้าได้แล้ว วันนี้นายตื่นสายนะ!”
จี้เฟิงยิ้มและเดินเข้าไปถามอย่างเป็นกันเอง “แม่ฉันอยู่ไหน?”
“คุณป้าไปที่บ้านเลขาจี้ บอกว่าจะไปเล่นไพ่กับอาซ้อจี้ บอดี้การ์ดส่วนตัวก็ไปด้วย” เซียวหยูซวนอธิบายและกล่าวต่อว่า “จี้เฟิง เมื่อวานนายดื่มเหล้าไปมากแค่ไหนกันเนี่ย ทำไมวันนี้ถึงได้ตื่นสายจัง?”
จี้เฟิงยิ้มและชู้นิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “ไวน์แดงขวดนึง!”
“หนึ่งขวด?!” เซียวหยูซวนโกรธขึ้นมาทันทีและพูดเสียงดุ “ทำไมถึงได้ดื่มเยอะแบบนั้น!”
จี้เฟิงส่ายหัว เขายิ้มและกล่าวว่า “การได้ดื่มกับคนจากตระกูลเหอไม่ใช่โอกาสที่จะมีกันบ่อยๆ แล้วอีกอย่างไวน์แดงขวดเดียวแต่ดื่มกันตั้งสามคน”
จี้เฟิงหวังว่าจะสามารถทำความรู้จักกับเหอหงเหว่ยได้มากขึ้นระหว่างมื้ออาหาร หรือสามารถเรียนรู้ข้อดีบางอย่างจากเขาได้ เหอหงเหว่ยเป็นผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นซานเจี๊ยแห่งหยานจิง แน่นอนว่าเหอหงเหว่ยเป็นคนที่มีความสามารถมากมาย
แม้ว่าครั้งนี้จี้เฟิงจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากนัก แต่ความเข้าใจของเขาที่มีต่อเหอหงเหว่ยก็ลึกซึ้งขึ้นมาก
ในความเป็นจริง แม้ว่าจี้เฟิงจะไม่ได้ชอบเหอหงเหว่ยมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหอหงเหว่ยเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก เขาเป็นคนที่มีความรู้รอบตัวสูง สามารถพูดคุยได้ทุกหัวข้อ เวลาพูดคุยเหอหงเหว่ยจะสามารถเข้าใจถึงประเด็นหลักได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าการเข้าสังคมก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาไม่น้อยเหมือนกัน
แน่นอนว่ายังมีอีกอย่างหนึ่งที่จี้เฟิงรู้สึกชื่นชมเหอหงเหว่ยอยู่มาก นั่นก็คือความเข้าใจในจังหวะเวลาของเหอหงเหว่ย ระหว่างมื้ออาหาร จี้เฟิงตั้งใจถามเกี่ยวกับบริษัทเทียนเหยาของเหอหงเหว่ยโดยเฉพาะ แต่เขาก็ถามด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่าง
นอกจากจะไม่มีท่าทีไม่พอใจแล้ว เหอหงเหว่ยไม่ได้ปิดบังอะไรมาก แต่พูดอย่างตรงไปตรงมา แม้แต่วิธีใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเขาก็ไม่กลัวที่จะพูดออกมา
จากการแนะนำเรื่องต่างๆของเหอหงเหว่ย จี้เฟิงจึงค่อยๆเข้าใจว่าทำไมเหอหงเหว่ยถึงกลายเป็นผู้นำรุ่นที่สามของตระกูลเหอ ผู้ชายคนนี้มีความสามารถรอบตัวมากจริงๆ!
แม้ว่าเหอหงเหว่ยจะไม่ได้อธิบายอะไรมากเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของตัวเขาเอง แต่แค่สิ่งที่เขาพูดเพียงไม่กี่คำ จี้เฟิงก็ฟังออกว่าเหอหงเหว่ยนั้นเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน
ถึงขนาดที่จี้เฟิงเองก็มีความคิดแปลกๆ เขาคิดว่าถ้าเหอหงเหว่ยไม่ใช่คนของตระกูลเหอก็คงจะดี ตอนนี้จี้เฟิงเข้าใจสถานการณ์โดยรวมได้อย่างแม่นยำ เพราะในมือของเขามีเทคโนโลยีจากกาแล็กซีแกมมาอยู่ มันทำให้เขารู้แนวโน้มในอนาคต นี่จึงเป็นวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร!
ส่วนเหอหงเหว่ยนั้นเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า เห็นได้จากการแนะนำบริษัทเทียนเหยาของเขา
และถ้าเขาสามารถเอาเหอหงเหว่ยมาเป็นพรรคพวกได้ เขาก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ เหอหงเหว่ยจะเป็นผู้รับผิดชอบในบางส่วน และจี้เฟิงก็เชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการรวมดาบสองเล่มอย่างแน่นอน!
....และมันเป็นการที่ชายสองคนรวมดาบเข้าด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อแนวคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของจี้เฟิง เขาก็ปฏิเสธมันทันที
ล้อเล่นหน่า!
เหอหงเหว่ยคือใคร? เขาคือผู้นำรุ่นที่สามของตระกูลเหอ คนแบบนั้นจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยของเขางั้นหรือ?
หรือให้เหอหงเหว่ยจะตอบตกลง แต่จี้เฟิงก็ไม่กล้าใช้งานเขาอยู่ดี!
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจี้เฟิงใช้งานเขาจริงๆ คนของตระกูลเหอจะต้องบ้าคลั่งอย่างแน่นอน!
“ตาบ๊อง! คิดอะไรอยู่ถึงได้หัวเราะอยู่คนเดียว?” เซียวหยูซวนที่กำลังเทน้ำเต้าหู้ใส่แก้วให้จี้เฟิงถามด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานเมื่อเห็นจี้เฟิงกำลังหัวเราะอย่างโง่งม
จี้เฟิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่กำลังนึกถึงสิ่งที่น่าสนใจนิดหน่อย อ้อ! จริงด้วยสิ! วันนี้เป็นวันที่ต้องไปทัศนศึกษาใช่มั้ย?”
“อื้ม มีนัดรวมตัวตอนเก้าโมงที่ประตูตะวันตกของมหาลัย หัวหน้าทีมได้ติดต่อรถบัสไว้แล้ว!” เซียวหยูซวนพยักเล็กน้อย “ฉันจ่ายค่าลงทะเบียนสำหรับพวกเราสามคนไว้เรียบร้อยแล้ว ทานข้าวเสร็จเราก็ตรงไปที่นั่นได้เลย”
จี้เฟิงยิ้มและถามว่า “หลิวเฉินเซิ่งล่ะ? เขาไปด้วยรึเปล่า?”
“ฉันถามหัวหน้าทีมแล้ว หลิวเฉินเซิ่งจะกลับบ้านเกิด เขาไม่มีทางไปหรอก!” เซียวหยูซวนหัวเราะคิกคัก “นักเลงน้อย นายยังหึงอยู่อีกเหรอ?”
จี้เฟิงแค่นเสียง “มันไม่ได้เรียกว่าหึงหวง แต่ฉันแค่เป็นห่วงเธอ กลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับเธอต่างหาก เธอลองคิดดูสิ หลิวเฉินเซิ่งมีนิสัยยังไง ดูจากที่เขากล่าวหาฉัน ฉันก็แค่ไม่ไว้ใจหากเธอต้องอยู่กับเขา!”
“ฉันจะระวังตัวนะ!” เซียวหยูซวนตบไหล่จี้เฟิงเบาๆด้วยรอยยิ้ม “รีบกินเร็วเข้าเถอะ เดี๋ยวนายต้องเป็นคนขับรถให้พวกเรา!”
“อ้าว! มีรถบัสไม่ใช่เหรอ?” จี้เฟิงเอียงคอและถามด้วยความสงสัย “พวกเราต้องขับรถไปด้วยเหรอ?”
เซียวหยูซวนยิ้มและกล่าวว่า “มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ลงสมัครไปทัศนศึกษาในครั้งนี้ ฉันกลัวว่ารถบัสอาจจะไม่พอ นอกจากนี้พวกเราก็มีรถส่วนตัว เดินทางด้วยรถของตัวเองสะดวกจะตาย ยังไงก็ตาม อ่างเก็บน้ำทางทิศตะวันออกมันก็อยู่ไม่ไกลมาก ขับรถไปประมาณสองชั่วโมงกว่าๆก็น่าจะถึงแล้ว”
“โอเค!” จี้เฟิงยิ้มและพยักหน้า “ฉันเองก็ทำใจไม่ได้ที่จะให้แฟนสาวที่สวยเหมือนนางฟ้าทั้งสองคนของฉันไปเบียดเสียดกับคนอื่นเหมือนกัน!”
“ปากหวานไปเรื่อยเลย! รีบกินข้าวเถอะ!” เซียวหยูซวนและถงเล่ยหัวเราะคิกคัก
......................
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ จี้เฟิงได้โทรหาแม่ของเขาและบอกว่าจะไปทัศนศึกษากับทางมหาวิทยาลัยซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสองวัน จากนั้นพาเซียวหยูซวนและถงเล่ยไปมหาวิทยาลัยด้วยรถ BMW x6 ของเขา
เซียวหยูซวนได้นัดพบกับคนอื่นๆที่ประตูทิศตะวันตกของมหาวิทยาลัย เมื่อจี้เฟิงมาถึงก็เป็นเวลา 8.30 น. นักศึกษาส่วนใหญ่มาถึงแล้ว มองอย่างคร่าวๆน่าจะมีประมาณ 50-60 คน
“หึหึ!”
จู่ๆจี้เฟิงที่นั่งอยู่ในรถก็หัวเราะออกมา “หยูซวน ดูเหมือนว่าจำนวนคนที่ลงทะเบียนในครั้งนี้จะมีไม่น้อยเลย!”
โดยทั่วไปแล้วในหนึ่งคลาสจะมีนักศึกษาประมาณ 40-45 คน และอาจจะมีนักศึกษาที่ไม่ได้ไปด้วย จึงเห็นได้ชัดว่าในกลุ่มคนเหล่านี้มีนักศึกษาจากชั้นเรียนอื่น
เซียวหยูซวนหัวเราะเบาๆ “มีนักศึกษาหลายคนในคลาสที่รีบกลับบ้าน พวกเขาจึงไม่ได้ไปด้วย ตอนนี้น่าจะมีนักศึกษาจากคลาสอื่นๆมาด้วย”
ถงเล่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่คมชัดว่า “พี่หยูซวน งั้นพี่ก็ลงไปทักทายพวกนักศึกษาก่อนเถอะ!”
จี้เฟิงพยักหน้าและยิ้ม “นั่นน่ะสิหยูซวนในฐานะอาจารย์ เธอต้องลงไปพบนักศึกษาก่อน พวกเขาจะได้รู้ว่าเธอมาถึงแล้ว หลังจากนั้นเธอค่อยกลับมา จะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับพวกเขาบนรถบัส”
เซียวหยูซวนกลอกตาใส่จี้เฟิงอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “นายคิดว่าหลังจากที่ฉันไปพบพวกเขาแล้วฉันจะได้กลับมาอีกงั้นเหรอ? จะต้องมีอาจารย์คอยนำทีม!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ในความเป็นจริงแล้วรถบัสคันหนึ่งสามารถนั่งได้อย่างน้อยหกสิบถึงเจ็ดสิบคน และหลังจากที่เซียวหยูซวนไปพบกับนักศึกษาคนอื่นๆ เธอจะต้องเดินทางไปกับพวกเขาอย่างแน่นอน ก็เหมือนอย่างที่เธอพูด อย่างน้อยจะต้องมีอาจารย์คนหนึ่งคอยนำทีม
“อีกเดี๋ยวพวกนายก็ขับรถตามหลังรถบัสไปก็ได้” เซียวหยูซวนพูดพลางหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปจูบใบหน้าของถงเล่ยเบาๆ เธอหัวเราะคิกคักและลงจากรถเดินไปหานักศึกษา
จี้เฟิงหัวเราะ แต่เมื่อเห็นถงเล่ยหน้าแดง เธอก็อดไม่ได้ที่จะบุ้ยปากพูด “ตอนนี้พี่หยูซวนทำตัวแย่ลงเรื่อยๆเลย ชอบทำให้หน้าฉันเปื้อนลิปสติกของเธอ!”
“ก็เพราะหยูซวนชอบเธอมากน่ะสิ!” จี้เฟิงหัวเราะและมองไปที่ถงเล่ย เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและกล่าวว่า “ก็เธอน่ารักขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่หยูซวนจะจูบเธอ!”
เมื่อเห็นสายตาแปลกๆของจี้เฟิง ถงเล่ยก็ย่นจมูกเล็กๆน่ารักๆและพูดว่า “พวกนายนี่แย่ที่สุดเลย!”
จี้เฟิงหัวเราะคิกคักและหันกลับไปมองที่ด้านนอก เขาเห็นเซียวหยูซวนขึ้นรถบัสไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยก็คือเหมือนเขาจะเห็นหลิวเฉินเซิ่งผ่านหน้าต่างรถบัส!
อ้าว... ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ไปด้วยหรอกเหรอ?
จี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีเพื่อจะโทรตามเซียวหยูซวนกลับมา แต่หลังจากคิดไปคิดมา เขาก็เก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา
“จี้เฟิง มีอะไรเหรอ?” ถงเล่ยสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของจี้เฟิงและถามด้วยความกังวล
“ไม่มีอะไรมาก ฉันเหมือนจะเห็นคนที่ไม่ควรปรากฏตัวที่นี่” จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยและพูดอย่างสงสัย “ดูเหมือนฉันจะเห็นหลิวเฉินเซิ่ง... อยู่บนรถบัสของเซียวหยูซวน!”
“อ๊าา—!”
ถงเล่ยร้องออกมาด้วยความตกใจและรีบพูดขึ้นทันที “นี่.. เป็นไปได้ยังไง? ก็พี่หยูซวนบอกว่าหลิวเฉินเซิ่งจะกลับบ้านเกิด เลยมาไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมจู่ๆคนเลวนี่ถึงโผล่มาอยู่บนรถบัสได้?”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ก็คงจะเปลี่ยนใจกะทันหัน... หรือไม่ก็เป็นแผนการของเขาตั้งแต่แรกแล้ว!”
จี้เฟิงรู้ดีว่าเซียวหยูซวนไม่มีทางโกหกเขา ดังนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียวคือหลิวเฉินเซิ่งหลอกเซียวหยูซวน หรือไม่ก็เล่นกลบางอย่างที่ทำให้เซียวหยูซวนเข้าใจผิด
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย ถ้าเขาใช้วิธีนี้... มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย
แต่พอคิดถึงวิธีการของหลิวเฉินเซิ่งครั้งก่อน จี้เฟิงก็อดส่ายหัวอีกครั้งไม่ได้ บางทีเขาอาจจะทำได้แค่การเล่นกลแบบเด็กๆแบบนี้ก็ได้ ช่างไม่มีไอคิวเลยจริงๆ
“จริงอย่างที่นายว่า เขาไม่รู้ตัวเลยหรือยังไงว่าพี่หยูซวนไม่ชอบเขาแค่ไหน!” ถงเล่ยอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจและเบ้ปากของเธอเล็กน้อย
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “ปล่อยไปก่อน ไม่ต้องพูดมากแล้ว พวกเราก็ขับตามรถบัสไป ตราบใดที่หลิวเฉินเซิ่งไม่ได้เล่นลูกไม้อะไร เราก็ไม่ต้องไปสนใจเขา อุตส่าห์ได้ไปเที่ยวด้วยกันทั้งที ถึงแม้จะเป็นการทัศนศึกษาก็เถอะ แต่ก็ไม่ควรเก็บเรื่องไร้สาระของคนไร้สาระมาให้ปวดหัวซะเปล่าๆ เขาไม่มีความหมายอะไรกับเราขนาดนั้นหรอก!”
...จบบทที่ 518~❤️