บทที่ 16 ลู่เจ๋อ: เชี่ย!!
หลังจากมีความสุขอยู่พักหนึ่ง ลู่เจ๋อก็นั่งลงอีกครั้ง
เป้าหมายของเขาคือมหาวิทยาลัยสหพันธ์ พลังปัจจุบันของเขายังห่างไกล เขาไม่ควรมั่นใจเกินไป
บำเพ็ญ บำเพ็ญ การบำเพ็ญทำให้ฉันมีความสุข!
เขาหยิบลูกแก้วสีแดงเล็ก ๆ ออกมา 10 ลูกแล้วกินมันในคราวเดียวแล้วเริ่มบำเพ็ญ หลังจากปรับแต่งกระดูกจนสมบูรณ์แล้ว เขาก็เริ่มปรับแต่งไขกระดูก
คลื่นความเจ็บปวดมาจากไขกระดูกของเขา หากช่วงนี้เขาไม่ได้ตายหลายครั้งอย่างเจ็บปวดเขาคงจะรับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหวจริง ๆ
ตอนนี้เขาขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จากนั้นเขาก็ใช้ลูกแก้วแสงเล็ก ๆ อีก 10 ลูกในคราวเดียว หลังจากกินไป 3 รอบติด ลู่เจ๋อก็ขมวดคิ้ว
บางทีลูกแก้วสีแดงเล็ก ๆ นี้อาจมีพลังงานไม่เพียงพอ หลังจากใช้ไป 30 ลูกเขาปรับแต่งได้ไม่ถึง 10% เลย
ขณะที่เขาใช้ลูกแก้วแสงสีแดงขนาดเล็ก ลู่เจ๋อรู้สึกว่าร่างกายของเขาสะท้อนกับพลังจิต นี่หมายความว่าพรสวรรค์ของเขากำลังพัฒนา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังช้าอยู่
เสียเวลามากเกินไป
ลู่เจ๋อมองลูกแก้วสีแดงขนาดใหญ่ 10 ลูกที่ลอยอยู่ในมิติจิตใจของเขา เขาหยิบออกมาหนึ่งลูกและตัดสินใจลอง
เขาใส่ลูกแก้วเข้าไปในปาก มันเปลี่ยนเป็นพลังงานรุนแรงพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา ผ่านผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกของเขา เมื่อมันพบว่าไม่มีอะไรต้องขัดเกลา พลังนี้จึงตรงเข้าสู่ไขกระดูกเขาทันที
อึ๊ก!!
ใบหน้าลู่เจ๋อซีดเพราะความเจ็บปวด เหงื่อไหลอาบหน้าผากเหมือนน้ำ
นี่ครั้งแรกของเขานะ จะอ่อนโยนกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ!
ลูกแก้วแสงไม่รู้…
เขากัดฟันและเริ่มโคจรพลัง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เจ๋อพบว่าลูกแก้วสีแดงขนาดใหญ่เพียงหนึ่งลูกก็เพิ่มระดับการปรับแต่งได้ถึง 10%!
นี่เท่ากับเขาย่อยลูกแก้วแสงขนาดเล็ก 30 ลูกในหนึ่งชั่วโมง
มันเจ็บปวดนิดหน่อย แต่ประสิทธิภาพก็มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า ถ้าเป็นแบบนี้อีก 2 วันเขาก็จะสามารถปรับแต่งไขกระดูกให้สมบูรณ์แบบได้
เมื่อถึงตอนนั้น เขาที่มีอวัยวะที่สมบูรณ์แบบ 5 อย่างและเทคนิคพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบ บางทีนักสู้ระดับ 9 ธรรมดาอาจไม่เพียงพอให้เขาเอาจริง
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ข้างนอกก็เริ่มสว่างแล้ว
เขาฝึกฝนเทคนิคหมัดพื้นฐานและเทคนิคท่าเท้าพื้นฐาน จากนั้นใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมงเพื่อย่อยลูกแก้วสีแดง ฟ้าข้างนอกก็เริ่มวันใหม่แล้ว
ตอนนี้เขาเป็นนักรบป้องกันตัวระดับ 5!
เขาลุกไปอาบน้ำ
เมื่อลู่เจ๋อเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกจากห้องน้ำ เขาก็เห็นลู่หลี่ในชุดนอนตุ๊กตาหมีสวมรองเท้าแตะกระต่ายสีขาวน่ารักเดินมา
มุมปากของลู่เจ๋อกระตุกเมื่อเห็นกระต่ายขาว ตอนนี้เขาอยากจะพุ่งเข้าไปทุบตีกระต่ายขาวทันทีที่เห็น
เมื่อลู่เจ๋อระงับความต้องการของเขา เสียงอันอ่อนโยนของลู่หลี่ก็ดังขึ้น “พี่ชาย ถ้าพี่จ้องเท้าของหลี่แบบนั้น คนจะคิดว่าพี่เป็นโรคจิตนะ”
มุมปากของลู่เจ๋อกระตุก “ที่นี่ไม่มีใครอยู่ ฉันไม่กลัว”
“ก็แล้วแต่” ลู่หลี่ถอนหายใจ “แต่หลี่จะคิดว่าพี่ชายเป็นโรคจิต”
"หืม?" ลู่เจ๋อเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ทำไมพี่ตกใจขนาดนั้น? หลี่ก็เป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกันนะ” ลู่หลี่ถอนหายใจ เธอทัดผมและยิ้มให้ลู่เจ๋อ
“แค่ก ฉันคิดว่าเราเป็นพี่น้องกันเลยไม่มีอะไรต้องกังวล” ลู่เจ๋อแตะจมูก
“เราไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดกันสักหน่อย?” ลู่หลี่พูด
“…ดูเหมือนจะจริง”
เขาเถียงไม่ออก
“พี่ควรระวังใช่ไหม? ตอนนี้พวกเราเป็นนักเรียนชายและนักเรียนหญิงม.ปลาย” ลู่หลี่พูดอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เธอเดินผ่านลู่เจ๋อ
ลู่เจ๋อมองดูชุดที่เขาสวมและรู้สึกว่าไม่เป็นไร แต่เนื่องจากน้องสาวพูดแบบนี้เขาจึงทำได้เพียงเห็นด้วย
จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “หลี่ พี่จะไปรอเธอที่สนามฝึก!”
เมื่อลู่หลี่ได้ยิน เท้าที่มุ่งหน้าไปยังห้องน้ำก็หยุดชะงัก เธอพยักหน้า “งั้นให้หลี่ดูว่าพี่ชายดีขึ้นมากแค่ไหน”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ลู่หลี่ได้เห็นความก้าวหน้าของลู่เจ๋อ พวกเขาซ้อมด้วยกันทุกเช้า จากจุดเริ่มต้น ลู่เจ๋อถูกทุบตีย่างหนัก แต่เมื่อวานนี้ลู่เจ๋อเกือบจะสู้เธอได้อย่างทัดเทียม
เธอรู้จักพลังของลู่เจ๋อมากที่สุด
วันนี้พี่ชายจะเซอร์ไพรส์อะไรเธออีก?
ลู่เจ๋อยิ้มและเดินลงไปที่สนามฝึก เขาหลับตาคิดถึงเทคนิคหมัดพื้นฐานและเทคนิคท่าเท้าพื้นฐาน จากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ
ร่างกายเขาเคลื่อนไหวเหมือนสายน้ำไหล
ลู่เจ๋อหมกมุ่นอยู่กับเทคนิคพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบของเขา เขาค่อย ๆ ขยับตัว ชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะหลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
ลู่หลี่เอนพิงประตูสนามฝึก เธอมองลู่เจ๋อโดยที่ริมฝีปากของเธอยกยิ้มนิด ๆ
เธออยู่ที่นี่มาครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ลู่เจ๋อหมกมุ่นอยู่กับสภาวะนี้และไม่ได้สังเกตเห็นเธอเลย
สภาวะสมบูรณ์?
ลู่หลี่ถอนหายใจ
เธอรู้สึกภาคภูมิใจในตัวพี่ชายแต่ก็รู้สึกซับซ้อนนิดหน่อย พี่โง่ที่น่ารักของเธอเปลี่ยนไปแล้ว...
จิตใจของเขาเปิดกว้างมากขึ้น และพรสวรรค์ของเขาก็ดีขึ้น แม้แต่ใบหน้าก็ยังไร้ยางอายมากขึ้น
2-3 วันนี้ลู่หลี่เห็นว่าลู่เจ๋อแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทีละขั้น ตอนนี้เธอคงไม่สามารถเอาชนะเขาได้
ลู่หลี่ยิ้มและคิดเล่น ๆ ว่าผู้ชายคนนี้จะแก้แค้นเธอยังไง
คิดแล้วเธอก็รู้สึกอยากจะไปจากที่นี่ หัวใจของเธอเต้นแรง
เขาจะยังท้าดวลกับเธอตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนรึเปล่า?
ครู่ต่อมาลู่เจ๋อก็หยุด เขาเปิดตาและพ่นลมหายใจออกมา
ตอนนั้นเองที่เขารู้ตัวว่าลู่หลี่ยืนอยู่ที่ประตูและยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนตามปกติ
มุมปากของลู่เจ๋อกระตุก เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกมากเกินไปจนลืมเธอ แค่มองดูรอยยิ้มอันชั่วร้ายของเธอ เธอคงอยากสร้างปัญหาให้เขาแน่ ๆ
ลู่เจ๋อรู้สึกหนาวเล็กน้อย
“อา ฮ่าฮ่า…หลี่ มาแล้วเหรอ พี่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกมากเกินไป มาถึงแล้วทำไมไม่เรียกล่ะ”
เขาจะได้เห็นก่อน
ลู่หลี่สะบัดผมยาวของเธอแล้วยิ้ม “พลังของพี่ชายคงจะพอ ๆ กับหลี่แล้วในตอนนี้ หลี่ไม่กล้ารบกวนพี่ชายลวก ๆ หรอก ถ้าพี่ชายตีหลี่ล่ะ?”
จากนั้นเธอก็ทำสายตาน่าสงสาร
เมื่อลู่เจ๋อได้ยินมุมปากของเขาก็กระตุก ผู้หญิงคนนี้เป็นนักแสดง!
“แค่ก อย่าพูดเล่น พี่ชายจะทตีน้องสาวของตัวเองได้ยังไง! ฉันเป็นพี่ที่ดีนะ!”
“จริงเหรอ ในเมื่อพี่ชายพูดอย่างนั้น พี่ต้องทำตามที่พูดนะ” ลู่หลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่าแผนของเธอประสบความสำเร็จ ก่อนที่ลู่เจ๋อจะได้พูดอะไร เธอก็พูดต่อว่า “พี่ต้องไม่ตีน้องนะ”
ลู่เจ๋อ: เชี่ย!!
แล้วฉันจะแก้แค้นยังไง!
--------------------------