Dual Cultivation บทที่ 790 บรรพบุรุษเซียน (ฟรี)
เมื่อเซียนหนี่จัดการกับคนใช้แล้ว เขาก็ไปที่ห้องประชุมและตรงเข้าไปข้างในโดยไม่แม้แต่จะเคาะประตู
"ใครกล้าขัดจังหวะการประชุมของเราโดยไม่เคาะประตู ระบุตัวตนของเจ้าออกมา" หนึ่งในคนที่นั่นตะโกนก่อนที่จะมองที่เซียนหนี่
อย่างไรก็ตามเซียนหนี่เพิกเฉยต่อแขกในห้องและมองตรงไปยังชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ที่ปลายสุดของห้อง และเขาก็พูดว่า "เฮ้ ตอนนี้การประชุมหยุดแล้ว เรามีแขกคนสำคัญที่ต้องให้ความบันเทิง"
ชายวัยกลางคนกรามร่วงลงกับพื้นเมื่อเห็นเซียนหนี่แต่แขกคนอื่นๆยังจำเซียนหนี่ไม่ได้
"เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร นั่นคือท่านจักรพรรดิที่เจ้ากำลังพูดด้วย”
"ข้ามิเคยเห็นเจ้ามาก่อน เจ้าคือใคร"
"พวกเจ้าทุกคนหุบปาก" ชายวัยกลางคนพลันคำราม ทำให้ทั้งห้องเงียบไปทันที
จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและเดินไปข้างหน้าเซียนหนี่ ก่อนที่จะโค้งคำนับด้วยความเคารพ
"ยินดีต้อนรับกลับมา บรรพบุรุษ"
"บ-บรรพบุรุษงั้นรึ"
แขกในห้องเริ่มเหงื่อตกในทันที รู้สึกเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคอ
“เซียนฮั่นเถียน นับเป็นเวลา 200 ปีแล้ว” เซียนหนี่พูดด้วยใบหน้าเมินเฉย
จากนั้นเขาก็หันไปมองแขกและพูดว่า "กลุ่มตระกูลอมตะ ใช้เวลาเพียง 200 ปีเท่านั้นในการลืมใบหน้าของข้า ข้าจะไปเยี่ยมตระกูลของเจ้าในไม่ช้า อนาคตจะได้สนทนากับบรรพบุรุษพวกเจ้าหากพวกเขายังมีชีวิตอยู่”
"ด-ได้โปรดเมตตา พวกเรามีตาแต่จำท่านผู้ทรงเกียรติมิได้ เราคิดผิด บรรพบุรุษเซียน"
แขกในห้องรีบลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะนั่งคำนับลงกับพื้นทันที
อย่างไรก็ตามเซียนหนี่ไม่สนใจพวกเขาและพูดกับเซียนฮั่นเถียนว่า "นำคนที่เหลือของตระกูลไปที่ห้องพักของราชวงศ์ เราปล่อยให้แขกของเรารอนานเกินไปมิได้"
"ขอรับ บรรพบุรุษ…" เซียนฮั่นเถียนพยักหน้า อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกตกใจอยู่ข้างใน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเซียนหนี่แสดงอาการใจร้อนและค่อนข้างกระวนกระวาย แขกประเภทไหนที่สามารถทำให้บรรพบุรุษของพวกเขาทำเช่นนี้ได้
เมื่อเซียนหนี่ออกจากห้องเซียนหนี่ออกจากห้องแล้ว เซียนฮั่นเถียนก็หันไปมองคนที่ยังคงนั่งคำนับอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า "ข้าอยากจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าเองก็ผิดเหมือนกัน ส่วนเรื่องประชุมเราคงต้องพักไว้ก่อน"
เวลาต่อมาหลังจากนั้นเซียนฮั่นเถียนก็ไปรวบรวมคนในตระกูลก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกของราชวงศ์ที่เซียนหนี่รออยู่
"นี่มันเรื่องอะไรกัน พ่อ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าใกล้จะก้าวผ่านระดับแล้ว..." หนึ่งในลูกของเซียนฮั่นเถียนพูดกับเขา
"ถ้ามิสำคัญทำไมข้าถึงหยุดประชุมเพื่อรวบรวมพวกเจ้าทั้งหมด บรรพบุรุษกลับมาแล้วและเขาต้องการให้เราทุกคนได้พบกับแขก" เซียนฮั่นเถียนอธิบายแก่พวกเขาขณะที่ตรงไปยังห้องรับรองของราชวงศ์
"อะไรนะ บรรพบุรุษงั้นรึ กี่ปีแล้วตั้งแต่เขามาเยี่ยมเราครั้งสุดท้าย100 ปี 200 ปี"
"บรรพบุรุษจะปรากฏตัวขึ้นเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเช่นนั้น แต่ทุกครั้งที่เขาทำ จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น" เซียนฮั่นเถียนถอนหายใจ
"เจ้าคิดว่าแขกเหล่านี้เป็นใคร ผู้คนจากเก้าตระกูลอมตะงั้นรึ" อีกคนถาม
"เก้าตระกูลอมตะอาจเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในทวีปตะวันตก ต่ำกว่าตระกูลเซียนของเราเท่านั้น แต่พวกเขาก็มิได้อยู่ในสายตาของบรรพบุรุษของเรา ข้าเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว แต่บรรพบุรุษเป็นตัวตนที่มิมีใครเทียบได้ภายในทวีปตะวันตก มิมีตระกูลหรือนิกายใดที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้อย่าว่าแต่จะคนเดียว" เซียนฮั่นเถียนกล่าวด้วยความชื่นชมในน้ำเสียง
เวลาต่อมาหลังจากนั้น พวกเขาก็มาถึงห้องรับแขก และเซียนหนี่ก็กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างนอก
"คารวะบรรพบุรุษ"
ทุกคนที่นั่นทักทายเซียนหนี่ทันทีที่พวกเขาอยู่ใกล้พอ
"พวกเจ้าใช้เวลานานพอสมควร เข้ามาข้างในข้าจะแนะนำเจ้าให้แขกของเรารู้จัก"
เซียนหนี่เปิดประตูและเดินเข้าไปข้างใน
เซียนฮั่นเถียนติดตามเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆที่นั่น
ภายในห้อง ซูหยางและเหลียนลี่กำลังนั่งจิบชาบนโซฟาอย่างสบายๆ ขณะที่เซี่ยวหรงกำลังหลับตาอยู่บนเตียง
"นี่อะไรกัน เจ้ามิต้องพาทั้งตระกูลมาก็ได้" ซูหยางพูดด้วยรอยยิ้มหลังจากวางถ้วยน้ำชาลง
"ฮ่าฮ่าฮ่า มิต้องถ่อมตัว ให้ข้าแนะนำเจ้าให้รู้จักกับตระกูลของข้า เพื่อนร่วมวิถี" เซียนหนี่พูดก่อนจะหันไปมองตระกูลของตัวเองด้วยสายตาที่เฉียบคม
เซียนฮั่นเถียนก้าวไปข้างหน้าทันทีหลังจากเห็นการจ้องมองที่คุกคามและกล่าวว่า "ข้าคือเซียนฮั่นเถียน จักรพรรดิองค์ปัจจุบันที่ปกครองทวีปตะวันตก"
หลังจากที่เซียนฮั่นเถียนแนะนำตัวแล้ว หญิงสาวสวยที่อยู่ข้างๆ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า "ผู้ต่ำต้อยคนนี้เรียกว่า เว่ยเว่ย และข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของเก้าตระกูลอมตะก่อนที่จะมาเป็นภรรยาในครัวเรือนนี้”
หลังจากการแนะนำตัวของภรรยาของเซียนฮั่นเถียนแล้ว เด็กๆก็ก้าวไปข้างหน้าและแนะนำตัวเอง อย่างไรก็ตามพวกเขามีมากกว่าหนึ่งโหล ดังนั้นจึงใช้เวลาพอสมควร
เมื่อทุกคนจากตระกูลเซียนแนะนำตัวเองแล้ว ซูหยางก็พูดว่า "ข้าชื่อซูหยางจากทวีปตะวันออก"
"ทวีปตะวันออกงั้นรึ" ตระกูลเซียนจ้องมาที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
"ข้าชื่อเหลียนลี่และข้ามาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง ก่อนจะติดตามซูหยาง"
"ทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง"
ตระกูลเซียนหันไปมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง
แม้แต่เซียนหนี่ก็ยังแปลกใจกับการแนะนำของเหลียนลี่ เนื่องจากเขาคิดว่าเธอมาจากทวีปตะวันออกเช่นเดียวกับซูหยาง
## อาาา~ มาเจอกันที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co นะคะ
"เอาหละ ข้ามิรู้ว่าชายชราคนนั้นพาพวกเจ้าทั้งหมดมาที่นี่ทำไม แต่ข้ากำลังมองหาสิ่งเดียวเท่านั้น รากแห่งการคืนชีพ" ซูหยางพูดกับพวกเขาในเวลาต่อมา และเขาก็พูดต่อไปว่า "แน่นอนข้ามิได้ขอให้พวกเจ้ามอบมันให้ฟรีๆ ข้ายินดีที่จะแลกเปลี่ยนอะไรก็ได้จากของกองนี้เพื่อมัน"
จากนั้นซูหยางก็เทสมบัติของชิวเยว่ลงบนโต๊ะ ทำให้ทุกคนตกใจ
"หากเจ้าไม่ชอบสมบัติเหล่านี้ ข้าก็สามารถเสนอคัมภีร์ปราณให้ได้ คัมภีร์ปราณระดับเซียน หรือแม้แต่คัมภีร์ปราณระดับเทพ จงใช้เวลาทั้งหมดเพื่อคิดเกี่ยวกับข้อเสนอของข้า"
หลังจากจบประโยค ซูหยางก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาและเริ่มดื่มชาอีกครั้ง