348 - หว่านล้อม
348 - หว่านล้อม
สุดท้ายแล้วการแลกเปลี่ยนก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเย่ฟ่านไม่สามารถสรรหาสิ่งล้ำค่าไปแลกเปลี่ยนกับวิชาพวกนั้นได้
ในวันต่อมาเย่ฟ่านมักถูกสุนัขสีดำกัดอยู่เสมอ สุนัขสีดำตัวใหญ่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขาอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวด้านนอกของหมู่บ้านหินเขาจะถูกจู่โจมทันที
“ไอ้บ้าเอ๊ย โดนหมากัดทุกวัน ดูเหมือนปีนี้ข้าจะโชคร้ายจริงๆ?” เขาพูดไม่ออกจริงๆ เขาไม่เคยเห็นสุนัขที่มีความพยาบาทเช่นนี้มาก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของเขาที่สามารถเปรียบเทียบเหล็กศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาคงทนไม่ไหวจริงๆ ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีรอยฟกช้ำตามร่างกายอยู่บ้าง
“กัดข้าอีกแล้ว มาดูเถอะว่าข้าจะเอาเจ้าไปย่างได้หรือไม่”
เย่ฟ่านยังได้ลงมือหลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรับมือกับสุนัขสีดําตัวใหญ่นี้ได้ ร่างสีดำวาววับนั้นแข็งแกร่งเกินไป และฝ่ามือสีทองที่เคยทำให้ท้องฟ้าสั่นไหวของเขาก็ไม่สามารถแตะต้องมันได้แม้แต่น้อย
“เจ้าสาระเลวนี่ผิดปกติมากเกินไป”
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก สุนัขสีดำตัวนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่ไม่แตกต่างจากผู้ฝึกตนอาณาจักรลึกลับที่สี่
เย่ฟ่านสังเกตว่าในช่วงสิบวันสุนัขสีดำตัวใหญ่ไปที่ภูเขาสีม่วงทุกเช้า ส่วนในช่วงบ่ายมันจะดูดกลืนกินแสงอาทิตย์และในช่วงเย็นก็จะดูดกลืนแสงของดวงจันทร์
เขาไม่รู้ว่ามันทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรแต่กิจวัตรของมันมีก็เพียงเท่านี้และไม่มีกิจกรรมอื่นใดอีก
“จักรพรรดิดำ นั่นเป็นการฝึกฝนของเจ้าหรือ เห็นได้ชัดว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไม่มีแม้แต่น้อย แต่เจ้าบินบนฟ้าได้อย่างไร?”
เจ้าหมาสีดำตัวใหญ่จ้องเขม็งมาที่เขาและกล่าวว่า
“เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ของข้านับไม่ถ้วน และอาณาจักรของข้าก็กลับคืนสู่ธรรมชาติแล้ว บุคคลตัวเล็กๆอย่างเจ้าจะสามารถเข้าใจความลึกลับของเรื่องนี้ได้อย่างไร?”
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอคัมภีร์ของเจ้าสักเล่มหน่อยสิ เอาแบบที่มนุษย์เขาฝึกฝนกัน เอาเล่มที่เจ้าคิดว่าแย่ที่สุดของเจ้าก็ได้?” เย่ฟ่านพยายามหว่านล้อม
“ถ้าเจ้าต้องการคัมภีร์โบราณ มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หา ต้นกำเนิดสวรรค์สักชิ้นให้ข้ากินแล้วข้าจะบอกเจ้าอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่ฟ่านก็โวยวายขึ้นว่า
“ถ้าเจ้าอยากกินมากนักทำไมไม่เข้าไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดแล้วหากินเอง?!”
“ถ้าไม่มีความสามารถก็อย่าพูดถึงมันอีก”
“อันที่จริง ข้ารู้ที่อยู่ของคัมภีร์โบราณของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์อสูรเจ้าสนใจหรือไม่” เย่ฟ่านกล่าวอย่างสบายๆ
"วิชากระจอกกระจอกแบบนั้นเจ้าเก็บไว้ใช้เองเถอะ"
สุนัขสีดำตัวใหญ่แสดงความรังเกียจโดยไม่หันศีรษะกลับมาด้วยซ้ำ
เย่ฟ่านพยายามหว่านล้อมมันอยู่หลายวันแล้วแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายเขาจึงได้เลิกล้มความพยายาม แต่ในขณะที่พวกเขากำลังแยกย้ายกันไปนั้นสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็วิ่งกลับมาด้วยท่าทางตื่นเต้น
“มีธุระอะไร?”
“เจ้าเคยกินเนื้อของจักรพรรดิอสูรหรือไม่ ข้าได้กลิ่นเลือดระดับสูงของอสูรอยู่ในร่างกายของเจ้า?” ดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่เต็มไปด้วยความสนใจ
“เจ้าคิดว่าข้าโหดร้ายเหมือนเจ้าหรือ? ข้าไม่เคยฆ่าใครเลยในชีวิต”
“ถุย! จักรพรรดิคนนี้คงกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้วหากเชื่อคำพูดของเจ้า!”
“ตอนนี้เจ้าเชื่อแล้ว นี่คือแก่นแท้ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์อสูร ข้ารู้ที่อยู่ของพระคัมภีร์โบราณของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่บางเล่มจริงๆ” เย่ฟ่านพยายามหว่านล้อมอีกครั้ง
“ไม่น่าแปลกใจที่ข้าอยากจะกินเจ้าตลอดเวลา ที่แท้ก็มีร่องรอยของแก่นแท้จักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในตัวของเจ้า” สุนัขสีดำเลียริมฝีปากของตัวเอง
“เจ้าดำ เจ้าคิดจะทำอะไร”
“จักรพรรดิผู้นี้ต้องการจะกินเจ้า!”
สุนัขตัวใหญ่สีดำอ้าปากกว้างราวกับชามใบใหญ่แล้วพุ่งเข้าหาเย่ฟ่าน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ทำการต่อสู้กันอีกครั้ง ที่ด้านนอกของหมู่บ้านหินเกิดเสียงคล้ายกับการตีเหล็กอยู่ตลอดเวลา
หลังจากผ่านไปสองชั่วยามแขนของเย่ฟ่านก็ชาและเขาไม่สามารถขยับได้
"เจ้าบ้า ข้าโดนสุนัขกัดอีกแล้ว!"
เย่ฟ่านมองไปที่รอยฟันเขี้ยวบนร่างกายของเขา หากเป็นผู้ฝึกฝนคนอื่นเกรงว่าร่างกายของพวกเขาคงพังยับเยินแล้ว
สุนัขสีดำตัวใหญ่หอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยและกล่าวว่า
"ข้าเชื่อเจ้า เจ้ากลั่นแก่นแท้โลหิตของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้ผิวหนังของเจ้าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง พวกเรามาตกลงกันใหม่ ขอเพียงเจ้ามอบต้นกำเนิดสวรรค์ให้ข้า ข้าก็จะบอกที่อยู่ของคัมภีร์ที่มีใครเทียบได้ให้กับเจ้า” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตะโกนมาจากด้านหลัง
"ไม่สนใจ!"
เย่ฟ่านบินไปที่หมู่บ้านหินโดยไม่หันกลับมามอง เห็นได้ชัดว่าสุนัขตัวใหญ่ถูกล่อลวงแล้ว แต่เย่ฟ่านยังคงรักษาความสงบเพื่อให้มันอดกลั้นไม่ไหว
สองวันต่อมาจักรพรรดิดำสงบมากและไม่ได้มาหาเขาเลย แต่ในวันที่สี่ เจ้าหมาสีดำตัวใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นและพูดว่า
"ข้าพูดไปแล้ว เจ้าหนู เจ้าจงใจทำให้ข้าเกิดความอยากจนทนไม่ไหว ตอนนี้พวกเรามานั่งลงคุยกันดีๆดีกว่า"
"เจ้าพาข้าไปค้นหาต้นกำเนิดสวรรค์สามชิ้นแล้วข้าจะบอกที่อยู่ของคัมภีร์จักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่ให้เจ้า"
“ถุย!.”
สุนัขสีดำตัวใหญ่เกือบจะอดกลั้นความโกรธแค้นไว้ไม่ไหว
"ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าข้าไม่เคยพูดก็แล้วกัน" เย่ฟ่านพูดอย่างไม่เร่งรีบ
“เจ้าหนูเจ้าขู่เข็ญข้า บอกกับเจ้าข้าไม่มีต้นกำเนิดสวรรค์อะไรเลย หากเจ้าต้องการได้รับคัมภีร์ที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งไว้เบื้องหลังเจ้าต่างหากที่ต้องมอบต้นกำเนิดสวรรค์ให้ข้า” สุนัขสีดำตัวใหญ่กัดฟัน
“แล้วข้าจะไปเคยเห็นต้นกำเนิดสวรรค์จากที่ไหน หน้าตาของมันเป็นยังไงข้าก็ยังไม่รู้เลย”
"อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้ามี "คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรรค์" ต่อให้เจ้าไม่มีมันในตอนนี้ในอนาคตก็ต้องมีอย่างแน่นอน”
"ถ้าอย่างนั้นเมื่อข้ามีมันในอนาคตเจ้าค่อยมาพูดเรื่องนี้อีกครั้งก็แล้วกัน"
วันรุ่งขึ้นการทะเลาะวิวาทก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
"ไอ้หนู ขอต้นกำเนิดสวรรค์สักชิ้นหนึ่งให้ข้า ข้าจะบอกเจ้าที่อยู่ของพระคัมภีร์โบราณ ให้สิบจิน ข้าจะท่องพระคัมภีร์โบราณครึ่งหนึ่งให้เจ้าฟัง ให้ห้าสิบจินข้าจะให้คัมภีร์โบราณฉบับสมบูรณ์แก่เจ้า” จักรพรรดิดำชักนำอย่างอดทน
“ทำไมเจ้าไม่กระโดดลงไปในเหมืองโบราณต้นกำเนิดล่ะ? เจ้าคิดว่าต้นกำเนิดสวรรค์นั้นเป็นหัวมันหรือข้าถึงจะมอบให้เจ้าห้าสิบจิน?” นิ้วของเย่ฟ่านเปลี่ยนเป็นสีทองซีดในขณะที่กระแทกเข้าใส่ศีรษะของสุนัขตัวใหญ่
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันข้าจะลดราคาให้เจ้า เจ้าบอกที่อยู่ของคัมภีร์จักรพรรดิอสูรมาให้ข้าแล้วข้าจะบอกที่อยู่ของคัมภีร์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ให้กับเจ้า”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเจ้ามอบต้นกำเนิดสวรรค์ให้ข้าแล้วข้าจะบอกที่อยู่ของคัมภีร์จักรพรรดิอสูรให้เจ้า” เย่ฟ่านย้อนกลับด้วยรอยยิ้ม
“เด็กน้อยเจ้าไร้ยางอายจริงๆ!” ในที่สุดเสียงของสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็อ่อนลงเล็กน้อย
“เจ้ามีชีวิตอยู่มานานเกินไปใครจะรู้ว่าคำพูดของเจ้าสามารถเชื่อถือได้หรือไม่”
เย่ฟ่านหยิบเต่าหยกออกมาและเล่นกับมันในมือของเขา เขาทำอย่างจงใจเพื่อสังเกตดูว่าสุนัขสีดำตัวนี้จะมองเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่
ผลที่ได้เกินความคาดหมายของเขา สุนัขตัวใหญ่สีดำตัวใหญ่ดวงตาแดงก่ำและกระโจนเข้าหาเขาด้วยความดุร้าย
แม้ว่าเย่ฟ่านจะตั้งรับแต่เขาก็ยังถูกกัดสองครั้ง แต่โชคดีที่เขายังสามารถรักษาเต่าหยกไว้ได้
“ไอ้บ้าเอ๊ย ข้าโดนหมากัดอีกแล้ว!” เย่ฟ่านโกรธมาก อยากจะถลกหนังและกินเนื้อของมันจริงๆ
“ไอ้หนู อะไรถูกหมากัดอีกแล้ว เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือ” สุนัขสีดำตัวใหญ่ใช้สายตาจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวของเย่ฟ่านโดยตั้งใจจะแย่งชิงเต่าหยกตัวนั้นให้ได้
“น้องชาย ขอข้าดูหยกหักในมือของเจ้าหน่อย” สุนัขสีดำตัวใหญ่มีน้ำเสียงอ่อนลงมาก
“ไม่มีทาง ให้เจ้าดูก็เหมือนกับขว้างซาลาเปาใส่หมา (เอาคืนไม่ได้) อย่าแม้แต่จะคิด” เย่ฟ่านปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
"มันเป็นแค่หยกหัก เจ้าตระหนี่เกินไปแล้ว ข้ารู้สึกว่าของชิ้นนั้นมีความคุ้นเคยเล็กน้อยข้าอาจจะบอกเจ้าได้ว่ามันมีต้นกำเนิดแบบไหน แต่ในเมื่อเจ้าไม่สนใจก็แล้วไปเถอะ?"
มันแสดงสีหน้าไม่กังวลแล้วเดินจากไป