บทที่ 376 อาสาสมัคร
บทที่ 376 อาสาสมัคร
“นี่อะไร?”
อาเถาหยิบหลอดทดลองใสสะอาดตรงหน้าและถามออกมาด้วยความแปลกใจ
เย่จงหมิงจัดระเบียบภาษาในใจแล้วพูดกับชายชราว่า “นี่เป็นยาชนิดหนึ่งจากบ้านเกิดของข้า ในที่ของพวกเรามีเพียงการกินยานี้เท่านั้นที่จะทำให้ความแข็งแกร่งก้าวไปสู่ขอบเขตใหม่”
อาเถาตั้งใจฟัง โดยเฉพาะเมื่อเย่จงหมิงกล่าวคำว่า ‘บ้านเกิดของข้า’ ร่างกายของอาเถาถึงกับเอนไปข้างหน้าราวกับจะกลัวพลาดเบาะแส
“ข้าเคยสงสัยว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับมรณาชนหรือไม่ แต่ข้าไม่อาจเอาชีวิตของนักรบเผ่าอาเถามาล้อเล่นได้ ดังนั้นข้าจึงได้แต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้……”
เย่จงหมิงไม่ได้พูดต่อ แต่อาเถาก็เข้าใจความหมาย เมื่อได้ยินสิ่งนี้อารมณ์ของอาเถาก็มีทั้งความสุขและความซับซ้อน ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนี้ มีความหวงแหนเผ่าชนของเขา นี่เป็นสิ่งที่อาเถาอยากเห็นมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เผ่าต๋าปู้ก็เป็นมรณาชนเช่นกัน
สิ่งต่างๆไม่ได้เรียบง่ายเหมือนสีขาวกับสีดำ อาเถาได้แต่ถอนหายใจ
“แม้ว่าจะไม่มีผลทดลองขั้นสุดท้าย แต่ตอนนี้ก็เกือบสามวันแล้ว ผลที่ได้ดูเหมือนจะดีมาก ความแข็งแกร่งของผู้ที่ได้ยานี้เพิ่มขึ้น ยาระดับ 1 ดาวนี้ ภายในสองวันทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาหนึ่งในสี่ส่วน”
ดวงตาของอาเถาสว่างขึ้นทันที เพิ่มขึ้นหนึ่งในสี่ส่วนเชียวหรือ? !
คนที่เย่จงหมิงนำไปทดลอง อาเถารู้ดีว่ามีความแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 2 เกือบถึงระดับ 3 ความแข็งแกร่งของบุคคลผู้นี้กลับเพิ่มขึ้นหนึ่งในสี่ส่วนภายในสองวัน มันน่าเหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า?
“หลอดนี้เป็นระดับ 1 ดาว ส่วนนี่เป็น 2 ดาว ข้ามียาอยู่ในมือไม่มาก และมีระดับสูงสุดอยู่ที่ 2 ดาว ข้าเลยไม่อยากเสียมันไปให้คนอื่น”
อาเถาเข้าใจ ยาในมือของเย่จงหมิงมีไม่มาก ดังนั้นหากยังทำการทดลองเพื่อให้เข้าใจผลที่มีต่อมรณาชนอย่างละเอียดต่อไปแล้วล่ะก็ สุดท้ายปริมาณยาก็จะเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย แม้จะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลข้างเคียง แต่มันก็จะไม่ช่วยอะไรเผ่าได้มากนัก
แต่สิ่งที่ยังไม่ผ่านการทดลองอย่างสมบูรณ์ก็อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นในภายหลัง……
อาเถาขมวดคิ้วกลัวกับการตัดสินใจเล็กน้อย นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย แม้เขาจะเป็นหัวหน้าเผ่า เขาก็ไม่อาจรีบร้อนตัดสินใจได้
เย่จงหมิงมองหน้าอาเถาแล้วเสนอแนะ
“งั้นก็ลองหากลุ่มผู้สมัครใจทดลองประสิทธิภาพของยาและดูผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ โดยควบคุมจำนวนอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น หากไม่มีผลข้างเคียงจริงๆ ของดีแบบนี้จะได้ไม่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์”
“แต่……” อาเถายังคิดไม่ตก การตายของคนๆหนึ่งนั้นยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับทั้งเผ่า
“ผลตอบแทนสูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง การพัฒนาไปทีละก้าวใช้เวลานานเกินไปสำหรับท่านและข้า ในเมื่อมีทางลัดที่เป็นไปได้ ท่านต้องมีความกล้าที่จะเดิมพัน และยานี้ข้ามั่นใจถึง 8 ใน 10 ส่วนว่าไม่มีอันตราย โดยมีโอกาสล้มเหลวเพียง 2 ส่วน ความน่าจะเป็นนี้คุ้มค่าที่จะลอง”
ชายชรายืนขึ้นเดินไปเดินมาในเต็นท์ สุดท้ายก็กัดฟันพูดว่า “ได้ แต่อาสาสมัครกลุ่มแรกจะคัดเลือกจากคนที่มีระดับต่ำกว่า 2 เท่านั้น หลังจากยืนยันได้แล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าก็สามารถจัดการได้เต็มที่!”
เย่จงหมิงยิ้มและกล่าวว่า “ข้าก็ตั้งใจเช่นนั้นเหมือนกัน”
……
ข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเผ่าอย่างรวดเร็ว เผ่าอาเถาก็ระเบิดทันที ความตื่นเต้นนี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แม้แต่ตอนที่พิชิตเผ่าต๋าปู้ได้
เป็นไปไม่ได้ มียาที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้โดยไม่ต้องฝึกฝนอย่างหนักด้วย นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ไม่ต้องพูดถึงมรณาชนคนธรรมดาในเผ่าอาเถา หากนำมันไปยังเมืองราชามรณาชน เหล่าราชาทั้งหลายก็คงถูกล่อลวงเช่นกัน
ตลอดทั้งวัน นี่คือสิ่งที่ทุกคนพูดถึง
เผ่าอาเถาที่แต่เดิมมีความกลมเกลียวกันมาก กลายเป็นคนกลุ่มแรกที่มีการทะเลาะวิวาทกันมากเพราะยานี้
ความปรารถนาในความแข็งแกร่งของผู้ชายเป็นเรื่องผิดปกติเสมอ พวกเขาไม่เต็มใจจะทิ้งโอกาสที่จะแข็งแกร่งขึ้นไป แม้ว่าโอกาสนี้จะมาพร้อมความเสี่ยงอย่างมากก็ตาม
แต่ผู้ชายเหล่านี้ยังมี พ่อแม่ ภรรยาและลูกๆอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาเหล่านี้หวังเพียงว่า ผู้ชายของตนจะปลอดภัย มีสุขภาพแข็งแรง และแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก เพราะถ้าผู้ชายของตนตายไป พวกเขาก็จะไม่เหลืออะไรเลย
นี่คือความขัดแย้งที่เกิดจากความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน
เมื่อจบวัน ทรายตกจนหมด ชนเผ่าอาเถาทั้งหมดก็มารวมตัวกันรอบกองไฟ พวกเขามองไปยังเย่จงหมิงกับอาเถาหัวหน้าเผ่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยอารมณ์ซับซ้อนที่สะสมจนถึงขีดสุด
“เมื่อวานนี้ เรื่องยานี้เป็นที่ชัดเจนแล้ว ครั้งนี้เราต้องการนักรบที่เต็มใจมาเสี่ยงเพื่อการพัฒนาของเผ่าห้าคน เด็กๆ ข้าขอให้พวกเจ้าคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ”
อาเถามองดูผู้คนที่อยู่ตรงหน้า และอธิบายผลที่เป็นไปได้เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ชี้ไปยังยาระดับ 1 ดาว 5 หลอด และกล่าวว่า
“สามสิบลมหายใจต่อจากนี้ ผู้ยินดีที่จะดื่มยานี้ขอให้ก้าวออกมา”
ฉากความเงียบสงบแต่เดิมกลายเป็นเสียงอึกทึก หลายครอบครัวโต้เถียงกันเป็นครั้งสุดท้าย บางคนประสบความสำเร็จ และบางคนก็ล้มเหลว
สามสิบลมหายใจผ่านไป คนในเผ่าเกือบ 20 คนก็ก้าวออกมา
อาเถากวาดสายตามองหน้าคนเหล่านั้น ด้วยสีหน้าที่ไม่น่าดูเล็กน้อย
เย่จงหมิงส่ายหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็น ในใจก็คิดว่า นี่พวกเขาคิดว่าสิ่งนี้ไม่มีปัญหาหรือไง
ครึ่งหนึ่งของคนที่ออกมานั้น มีทั้งคนแก่ คนอ่อนแอ คนป่วย และคนทุพพลภาพ ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel คนที่ได้รับบาดเจ็บจนรักษาไม่หายเหล่านี้ ต้องออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยความไม่เต็มใจ บางคนที่แก่ก็รู้สึกว่า ตนเองควรรับความเสี่ยงนี้ไว้ หากเกิดผิดพลาดขึ้นมาก็จะเป็นการเหลือเมล็ดพันธุ์ดีๆไว้ให้เผ่า แต่ถ้าเกิดมันดีขึ้นมาจริงๆ ค่อยให้พวกเด็กๆกิน
นอกจากคนเหล่านี้ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือไม่กี่คนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้อาเถากับเย่จงหมิงส่ายหน้า เพราะคนเหล่านี้คือสมาชิกที่ดีที่สุด และเป็นสมาชิกหลักของเผ่า
คนเหล่านี้ก็คือ หัวหน้าทีมล่าสัตว์ ตี้นั่วและไคนั่ว สองผู้อาวุโสอันทรงเกียรติของเผ่าที่มีความแข็งแกร่งเป็นรองเพียงหัวหน้าทีมล่าสัตว์หนุ่มทั้งคู่เท่านั้น และ…… สตรีศักดิ์สิทธิ์มี่หยา
อาเถาสามารถยอมรับได้หากผู้อื่นเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่ใช่สำหรับคนเหล่านี้ เพราะพวกเขาเป็นแกนหลักและเป็นความหวังของเผ่า พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เสี่ยงภัย
“พวกเจ้า กลับมาหาข้าเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของอาเถาแย่มาก เขาดุคนเหล่านั้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“ท่านผู้เฒ่า ให้พวกเราทำเถอะ ถ้ายานี้ได้ผล เราก็……”
“ไสหัวไป!”
อาเถาผู้ไม่ค่อยเกรี้ยวกราดคำรามลั่น ทำให้หลายคนถึงกับตัวสั่นสะท้าน สองหัวหน้าทีมล่าสัตว์ กับสองผู้อาวุโส กัดฟันถอยกลับออกไปอย่างไม่เต็มใจ มีเพียงมี่หยาเท่านั้นที่มองหน้าอาเถาอย่างดื้อรั้น
“ท่านปู่ผู้เฒ่า ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกแล้ว หากเราไม่สามารถแข็งแกร่งได้เร็วพอ หลังจากฤดูหนาว การประชุมมรณาชนที่จะมาถึง เหล่าราชาจะยอมปล่อยเรื่องที่พวกเราเข่นฆ่ามรณาชนเผ่าอื่นหรือ? ไม่ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ตาม แม้ว่าจะเป็นการทำลายล้างเพื่อศักดิ์ศรี เหล่าราชาก็จะไม่ยอมปล่อยเรา ความหวังเดียวที่เราจะมีชีวิตรอด คือต้องแข็งแกร่งจนพวกเขาต้องอิจฉา ถ้าทำได้ดังนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก แม้ว่าการดื่มยานี้จะสามารถฆ่าคนได้จริงๆก็ตาม แต่ข้ายินดีทดลองเพื่อเผ่าของเรา!”
คำพูดนี้ทรงพลังมากจนเย่จงหมิงต้องประทับใจ
ชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่อ่อนแอและถูกปิดกั้น ยังมีคนที่มีวิสัยทัศน์ดีๆเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย
เย่จงหมิงรู้ว่าในเวลานี้อย่างน้อยมีสองคนในเผ่าเล็กๆที่มองเห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงในการกระทำของเขา คนหนึ่งคืออาเถา อีกคนคือมี่หยา
พวกเขารู้ดีว่า สิ่งที่เย่จงหมิงทำเพื่อความแข็งแกร่งของเผ่าอาเถานั้น ความจริงไม่มีอะไรมากไปกว่าการผูกเผ่าอาเถาไว้กับรถศึกของเขา และทำให้เผ่าอาเถากลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเขาเอง
เพียงแต่เรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย อาเถารู้แต่ไม่พูด ส่วนมี่หยาแค่พูดในสิ่งที่รู้
“ข้าได้ยินมาว่า ยามีสองชนิด ข้าอยากได้ยาที่ดีกว่านี้”
*******
ผู้แปล - ยังไม่ทันหายดี พรุ่งนี้ต้องไปโรงหมอ ติดต่อเรื่องเอกสารอีกแล้ว เฮ้อ......