ตอนที่ 225 : ช่วงเวลาที่แย่สุดๆสำหรับการแอบอ้างเป็นออดี้!
ตอนที่ 225 : ช่วงเวลาที่แย่สุดๆสำหรับการแอบอ้างเป็นออดี้!
สิ่งต่างๆก็ยังคงดำเนินต่อไป
และเรื่องของนาฬิกาเรือนละ 500,000 ของปรมาจารย์การจับผิดที่ถูกเอามาโอ้อวดก่อนหน้านี้ก็ถูกวาเชอรอง กงสตองแตงทำการตรวจสอบเลยเผยผลการตรวจสอบผ่านทางบัญชีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง!
“หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการตรวจสอบนาฬิกาอีกเรือนที่ปรากฏในคริปของคนขับตี้ตี้แล้ว เจ้าของนาฬิกาที่เป็นเจ้าของ ID ที่มีชื่อว่า [ปรมาจารย์การจับผิด] ได้ทำการแสดงนาฬิกามูลค่า 500,000 ออกมาทางทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการตรวจสอบและพบว่ามันคือสินค้าลอกเลียนแบบระดับสูงและเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางด้านกฏหมาย ทางบริษัทเราได้ทำการรายงานเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะแล้วและเราจะทำการยื่นฟ้องเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป”
ปรมาจารย์การจับผิด “….”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
ตบหน้าอย่างต่อเนื่อง!
นาฬิกาวาเชอรอง กงสตองแตงมูลค่า 500,000 ของเขาเป็นของปลอมจริงๆหรอ?
เป็นไปได้ยังไงกัน?
ถึงมันจะเป็นของมือสอง แต่ฉันก็ได้ตรวจสอบดูอยู่พักหนึ่งจนมั่นใจว่ามันเป็นของแท้!
ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีครับ ผมมาจากกองสืบสวนทางเศรษฐกิจของสถานนีตำรวจของเมืองหลวง ผมได้รับการรายงานว่าคุณมีนาฬิกาวาเชอรอง กงสตองแตงของปลอมอยู่ในครอบครอง ผมหวังว่าคุณจะช่วยอธิบายถึงที่มาของมันได้และให้ความร่วมมือกับเราในการหาเบาะแสพของสินค้าเลียนแบบ...”
ปรมาจารย์การจับผิดร้องไห้ออกมา~~
ในช่องแชทเต็มไปด้วยการหัวเราะเยาะ
“นี่มันฉากการพลิกคว่าครั้งยิ่งใหญ่!”
“ปรามาจารย์ของพวกเราพลาดแล้ว!”
“นี่มันไร้สาระมาก!”
“พวกนายไม่เข้าใจหรอกปรมาจารย์อาจจะซื้อมาแล้วตรวจสอบหลังจากนั้นก็ไปเรียกร้องค่าเสียหายแน่ๆ!”
“หืม! ปรมาจารย์ของเราเกลียดของเลียนแบบเป็นที่สุดไม่ใช่หรอ...”
ที่สนุกที่สุดก็คือ....
ผู้คนนั้นพากันให้ความสนใจเจียงเฉินกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เสื้อกุชชี่ก็เป็นของจริง นาฬิกาก็ของจริง แล้วรถออดี้ล่ะ?
รถออดี้คันนี้ถูกดัดแปลงมาจากรถรุ่นอื่นรึเปล่า?
บริษัทเบนท์ลี่ย์ก็เข้ามาเล่นตลกด้วยเหมือนกับ หลังจากที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เห็นว่าคริปวีดีโอนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พวกเขาก็เลยเข้ามาร่วมสนุกด้วยการพูดไร้สาระออกมา
“หลังจากการประเมิณโดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทเรา พวกเราก็ได้รับการยืนยันว่ารถออดี้ในวีดีโอไม่ใช่รถออดี้จริงๆ! แต่เป็นรถเบนท์ลี่ย์ที่ผลิตโดยบริษัทของเรา! น้องชายตี้ตี้คนนี้ก็ชั่งซุกซนจริงๆถึงกับเปลี่ยนรถเบนท์ลี่ย์ของเราให้กลายเป็นออดี้ได้! และบริษัทของเราก็ยินดีที่จะมอบรถเบนท์ลีย์ให้ฟรีๆหนึ่งคันหากน้องชายยอมมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเรา!”
ช่องแชทตกตะลึง!
“บริษัทเบนท์ลี่ย์เลิกสร้างปัญหาได้แล้ว!”
“ออดี้คันนี้จริงๆแล้วเป็นเบนท์ลี่ย์? นี่ฉันตาบอดรึยังไง?!”
“น้องสาวแกสิ! คิดว่าพวกฉันดูไม่ออกหรอว่าออดี้กับเบนท์ลี่ย์แตกต่างกันตรงไหน?!”
“นี่เป็นช่วงเวลาที่แย่สุดๆสำหรับการแอบอ้างเป็นออดี้!”
ฝั่งบริษัทออดี้~~
เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินนั้นใส่ทั้งนาฬิกาวาเชอรอง กงสตองแตงมูลค่า 20.88 ล้านและเสื้อกุชชี่สั่งทำพิเศษราคาตัวละ 3 ล้านแต่เขากลับ~~
ขับรถออดี้คันละ 200,000!
มันทำให้ประธานบริษัทออดี้มีความสุขมาก!
สิ่งนี้หมายความว่าอะไรน่ะหรอ?
นี่มันแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ออดี้นั้นสามารถเทียบได้กับแบรนด์นาฬิกาวาเชอรอง กงสตองแตงและกุชชี่ที่เป็นสินค้าหรูหรา!
ให้ตายเถอะการโปรโมทครั้งนี้มันดีจริงๆ!
ดีการถ่ายโฆษณามาก!
แต่สุดท้ายรอยยิ้มของเขาก็ต้องแข็งค้างอย่างคาดไม่ถึง~~
เบนท์ลี่ย์กลับกระโดดออกมาแล้วพูดเรื่องไร้สารถว่ารถออดี้แท้จริงแล้วเป็นเบนท์ลีย์?!
พระเจ้าใครจะไปทนได้
ประธานบริษัทออดี้สั่งการให้โต้กลับทันที
บัญชีอย่างเป็นทางการของออดี้ทำการโพสต์ทันที
“บริษัทเบนท์ลี่ย์ไร้ยางอาย! เห็นชัดๆว่ามันคือรถออดี้! นี่มันรถออดี้ของพวกเรา! มันจะไปเป็นเบนท์ลี่ย์ของพวกคุณได้ยังไงกัน? น้องชายในวีดีโอถ้าคุณยอมรับว่ารถที่นายใช้เป็นของออดี้จริงๆ ทางบริษัทออดี้ยินดีที่จะมอบรถออดี้ให้นายเลย 5 คันฟรีๆ! และที่สำคัญนะน้องชายนายมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเราเถอะ!”
ความคิดเห็นเข้ามาอย่างถล่มทลาย
“พระเจ้า! นี่มันบ้าไปแล้ว!”
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ออดี้ไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นเบนท์ลี่ย์!”
“โลกนี้มันบ้าไปแล้ว! แม้แต่เบนท์ลีย์ยังต้องการปลอมเป็นออดี้~~”
“….”
เมื่อได้เห็นการโต้ตอบที่สนุกสนานเหล่านี้เจียงเฉินก็ได้แต่ยักไหล่
พูดไม่ออก
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ไม่นานก็มีทีมจากเบนท์ลี่ย์และออดี้โทรติดต่อเขาเข้ามา
“หน่อมหล่อฟังฉันนะ นายสวมนาฬิกาเรือนละ 20.88 ล้าน! ชุดตัวละ 3 ล้าน! แต่ขับรถออดี้คันละ 200,000 ได้ยังไงกัน? มันทำให้ภาพลักษณ์ของนายดูด้อยลงนะ! ดังนั้นทางบริษัทเบนท์ลี่ย์จึงขอเสนอรถเบนท์ลี่ย์มูลค่า 3 ล้านให้กับนายเลย!”
จากนั้นทีมจากออดี้ก็เข้ามา “หนุ่มหล่อ เรื่องนั้นนายไม่ต้องไปสนหรอก! ฉันจะให้นาย 5 ล้านเลยดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถ!”
เบนท์ลี่ย์ “บ้าจริง! ฉันให้ 10 ล้านพร้อมกับรถเบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์มูลค่า 3 ล้านเลย!”
ออดี้ “ทางนี้ให้ 20 ล้าน!”
เจียงเฉินทำการบล็อคทั้งคู่ไป!
จบ!
ฉันจะไปขับตี้ตี้ต่อแล้ว!
ใครจะไปสนใจเงินเล็กน้อยๆแบบนั้นกัน?!!
ทันใดนั้นร่างกายของเจียงเฉินก็ต้องสั่นเทา!
[ติ๊ง! เปิดใช้งานกิจกรรมที่ซ่อนอยู่! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ!]
[รางวัล : หนึ่งในปราสาทขนาดใหญ่และงดงามที่สุดในฝั่งประเทศตะวันตก[ปราสาทนอยชวานสไตน์]]
[ระบบสัมผัสประสบการณ์ชีวิตระดับ 2 เจียงเฉิน“???”]
ปราสาท?
อะไรกัน?
ฉันอยู่ประเทศจีนนำทำไมต้องเอาประสาทจะประเทศตะวันตกมาให้ด้วย?!
เจียงเฉินสำรวจข้อมูลมันโดยไม่รู้ตัว!
หลังจากนั้นเขาก็ตกตะลึง!
ปราสาทนอยชวานสไตน์ : นั้นเป็นถึงปราสาทที่เป็นต้นแบบของประสาทดิสนีย์หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งนั่นก็คือปราสาทซินเดอเรลล่า!
มันถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1869!
ปราสาทแห่งนี้เต็มไปด้วยศิลปะ มีรายละเอียดของสถาปัตยกรรมแบบโกธิคให้เห็นได้ทั่วไปทั้งที่ประตู หน้าต่างและเสาทั้งหมดนั้นก็จะเป็นสไตล์บาร็อคทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับนั้นก็มักจะเป็นรูปหงส์ในลักษณะท่าทางที่ต่างกันออกไป การตกแต่งภายในนั้นหรูหราเป็นอย่างมากมันนั้นไม่ต่างจากผลงานชั้นโบว์แดงของเหล่าชั่งฝีมือโดยแท้
ปราสาทสีขาวแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูงมันถูกล้อมลอบไปด้วยภูเขาและทะเลสาบ ดังนั้นตลอดทั้งปีที่นี่นั้นจะให้วิวทิวทัศน์ที่ต่างกันออกไปราวกับอยู่ในเทพนิยาย
ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีคนพากันเข้ามาถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมันและเปป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดแห่งหนึ่ง!
ตลอดทางการเดินทางเพียงแค่วิวทิวทัศน์ตามทางรถไฟก็ทำให้ผู้คนหลงใหลไปกับมันได้แล้ว ที่นี่นั้นเหมือนดินแดนตามนิทานพื้นบ้านที่เกี่ยวกับเวทมนต์ ราชา อัศวิน....
สุดยอด!
แม้แต่เจียงเฉินก็ยังต้องตกตะลึง!
เขาเข้าไปดูภาพของปราสาททันที [รูปภาพ]
สวยมาก!
มีฝูงวัวและฝูงแกะเดินไปตามแนวเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าที่แสนอ่อนนุ่ม และยังมีเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีและทะเลสาบที่กว้างใหญ่
และก็มีปราสาทที่สวยงามตั้งอยู่!
และตอนนี้ปราสาทหลังนั้นก็เป็นของเขาแล้ว!
ต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่คนในราชวงศ์ของยุโรปส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีปราสาทเป็นของตัวเอง! แม้แต่ควีนอลิซาเบธของอังกฤษก็ยังมีปราสาทในจำนวนที่สามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว และสำหรับเจ้าชายผู้น่าสงสารคนอื่นๆน่ะหรอ? พวกเขาไม่มีเลย!
และตอนนี้เจียงเฉินก็ได้ครอบครองหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในประเทศตะวันตกแล้ว!
เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะชื่นชมออกมา “ระบบ นายสุดยอดมาก!!”
.....
.....
ในเวลากลางคืนคลับเฮาส์ “ดอกจันทราดับ”
ที่นี่คือหนึ่งในหนึ่งในคลับเฮาส์ที่หรูหราที่สุดในเมืองหลวง
ในเวลานี้เองในห้องวีไอพีของคลับก็มีชายคนหนึ่งที่กำลังโกรธจัดและปาข้าวของไปทั่วทุกที่
เขาก็คือ ซงเซจิ!
นักแสดงหนุ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน!
“แม่งเอ๊ย!!!”
ซงเซจิปาโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงพื้นก่อนจะเอาเท้ากระทืบซ้ำอีกครั้งราวกับว่าถ้าเขานั้นไม่ได้ทำแบบนี้ความโกรธของเขาก็จะไม่มีวันลดลง
บนหน้าจอนั้นมีข่าวบันเทิงเกี่ยวกับตัวเขาที่กำลังถูกเยาะเย้ย
[ซงเซจิพบกับการต้อนรับที่มีแต่ลมหนาว]
[ซงเซจิพาบอดี้การ์ดมานับสิบคนแต่กลับไม่มีแฟนๆมารอต้อนรับ!]
[ซงเซจิกระอักเลือดที่สนามบิน คาดว่ากำลังป่วยหนัก...]
[….]
“แม่งเอ๊ยทำไมการมาจีนครั้งนี้มีแต่ความโชคร้าย!”
“ตอนมาถึงที่สนามบินฉันควรต้องได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสิ!”
“แล้วทำไมอยู่ความสนใจที่ควรจะเป็นของฉันถึงถูกคนอื่นแย่งชิงไป!”
“ไอ้เวรนั่นอย่าให้ฉันเจอตัวเด็ดขาด! ไม่งั้นฉันจะให้มันได้รู้ว่าคำว่าเสียใจมันเขียนยังไง!”
ซงเซจิอารมณ์เสียจนหน้ากระตุก~~
อาสศัยละครเรื่อง “ทายาทจากดวงจันทร์” เขานั้นสามารถเก็บเกี่ยวหัวใจของสาวๆทั้งในเกาหลี ญี่ปุ่นและจีนมาได้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในจีนเขานั้นมีแฟนคลับอยู่หลายสิบล้านคน! แต่เพียงแค่เจียงเฉินปรากฏตัวที่สนามบินโดยบังเอิญทุกอย่างของเขาก็พังทลาย!
ความหล่อของเจียงเฉินนั้นอยู่ที่: 9999+ คะแนน!
ส่วนใบหน้าของซงเซจิ : 80 คะแนน!
สื่อต่างๆก็พากันเยาะเย้ยซงเซจิว่าเป็นเจ้าของ “ใบหน้าที่น่าขยะแขยง” ตามคำล่าวของอดีตแฟนๆ
แฟนคลับของเขาจากหลายสิบล้านคนลดลงไป ¾ เพียงชั่วข้ามคืน!
“ไอเวร! ไอ้เวร!!!”
ซงเซจิโกรธมาก “คนในประเทศจีนมันมีแต่พวกโง่ทั้งนั้น! มีแต่พวกตาบอด! ฉันซงเซจิคือผู้ชายที่หล่อที่สุดในจักรวาล! บนโลกนี้ไม่มีใครหล่อไปกว่าฉัน! เจ้าพวกแฟนคลับคนจีนมันตาบอดกันไปหมดแล้วรึยังไง?!”
ข้างๆเขามีเหมิงไห่ประธานของอี้ต๋าพิคเจอร์สพอได้ยินอีกฝ่ายด่าทอคนจีนมุมปากของเขาก็กระตุกขึ้นมา
แกกล้าด่าฉันงั้นหรอ?
ซงเซจิคนนี้เป็นหมาบ้ารึยังไงกัน?
คนจากเกาหลีไร้มารยาทขนาดนี้เลยหรอ?
กล้าดียังไงมาที่จีนเพื่อหาเงินแต่กลับด่าคนจีน?!
โชคดีที่ผู้จัดการของซงเซจินั้นสังเกตุเห็นท่าทางและสีหน้าที่แย่ของเมิ่งไห่เขาก็รีบไอออกมา
จากนั้นก็รีบไปปิดปากเหม็นๆของซงเซจิ
ประเทศเกาหลีนั้นมีอาณาเขตอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นและแน่นอนว่าตลาดเศรษฐกิจนั้นย่อมมีขนาดที่เล็กไปด้วยแต่การัฒนาด้านวงการบันเทิงของประเทศเกาหลีนั้นเติบโตสูงมากจนไม่นานก็กลายมาเป็นอุตสาหกรรมส่งออกหลังของประเทศและก็มีการคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะทำการโปรโมทและนำเม็ดเงินเข้ามาสู่ประเทศอย่างมหาศาล
แต่ความจริงแล้วเหล่าดาราเหล่านี้ พวกเขาหลายๆคนต่างก็ผ่านการศัลยกรรมและฝึกร้องเพลงและการเต้นอย่างบ้าคลั่งส่วนเรื่องนอกเหนือจากนี้ก็แทบไม่รู้อะไรเลย
มารยาท?
ไม่ต้องพูดถึงเลย!
ตัวอย่างก็เห็นจากซงเซจิคนนี้อยู่ชัดๆ การมาที่ประเทศจีนของเขานั้นมีเพียงแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น-เพื่อเงิน!
ถ้าไม่ได้เงินเขาก็จะกลับทันที!
และยิ่งสถานการณ์ของซงเซจิในตอนนี้หากเขาไม่สามารถดึงความนิยมกลับมาได้เขานั้นก็จะต้องถูกบริษัทเลิกสัญญาอย่างแน่นอน
“ผมจะหาทางฟื้นคืนชื่อเสียงของผมให้ได้ครับ!”
ซงเซจิกัดฟันพูดออกมา
เมิ่งไห่ก็พยักหน้า
อี๋ต่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ทรงอิทธิพลมากในประเทศจีนและเมิ่งไห่นั้นก็มีอิทธิพลมากในวงการบันเทิงซึ่งเขานั้นด้อยกว่าหลิงหยุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประธานเมิ่งไห่นั้นก็ให้ความสำคัญกับซงเซจิเป็นอย่างมากเพราะเขานั้นได้ทำการศึกษาตลาดอย่างละเอียดและพบว่าในช่วงนี้กลุ่มผู้หญิงสาวนั้นกำลังติดตามดาราผู้ชายจากประเทศเกาหลีกันอย่างบ้าคลั่ง!
เขาก็เลยผุดแนวคิดขึ้นมาโดยการเซ็นสัญญากับดาราจากประเทศเกาหลีเพื่อจัดกิจกรรมในประเทศจีนและสร้างรายได้จากกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนี้!
ผู้หญิงประเภทนี้หลอกเอาเงินมาได้ที่สุดแล้ว!
แผนการนี้จะต้องสมบูรณ์แบบ!
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ชอบซงเซจิเท่าไหร่แต่เขาก็ยังต้องให้ความสำคัญกับอีกฝ่าย
เมื่อสามวันก่อน....
ครั้งแรกที่เมิ่งไห่ได้พบกับซงเซจิเมิ่งไห่นั้นก็ตื่นเต้นมาก
พวกเขากอดกันอย่างอบอุ่น
หลังจากนั้นก็พากันไปดื่ม
หลังจากดื่มไวน์กันไปสองสามแก้วพวกเขาก็เริ่มเรียกกันเป็นพี่น้อง
บรรยากาศเริ่มร้อนระอุ
หลังจากที่ซงเซจิเล่าเรื่อองที่สนามบินออกมาเมิ่งไห่ก็ทุบโต๊ะด้วยความโกรธ!
“น่าขยะแขยง!”
“คนๆนี้มันน่ารังเกียจจริงๆ!”
“บนโลกนี้มีคนเลวแบบนี้ได้ยังไงกัน?!”
“ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ยากที่จะทน!”
“เลวร้ายมาก!”
เมิ่งไห่เต็มไปด้วยความโกรธและด่าคนที่ผ่นมาตอนนั้นอย่างดุเดือน (เจียงเฉิน)
“ไม่ต้องกังวลนะน้องชาย ฉันจะหาตัวคนๆนั้นและแก้แค้นให้นายให้ได้!”
ประธานเมิ่งไห่ตบไหล่ของซงเซจิ
ซงเซจิซึ่งใจมาก!
เขานั้นไม่คิดว่าเมิ่งไห่จะจริงใจกับเขาขนาดนี้!
ประเทศจีนยังมีคนดี!
ขอบคุณมาก.jpg
“พี่ชายต่อไปนี้พี่จะเป็นพี่ชายของผม!”
“ยินดีมากน้องชาย ในฐานะพี่ชายฉันต้องให้ความยุติธรรมกับน้องชายของฉัน ไม่งั้นฉันจะเป็นพี่ได้ยังไง!”
“พี่ชาย!”
“น้องชาย!”
จากนั้นทั้งสองก็กอดกัน!
......
ไม่กี่วันต่อมาทั้งสองก็สนิทกัน
ซงเซจิโกรธและทุบโต๊ะ “ฉันสาบาน! ฉันจะต้องชำระบัญชีกับเขาให้ได้!”
เมื่อมองไปที่ซงเซจิที่กำลังอารมณ์เสียและขว้างข้าวของไปมาในดวงตาของเมิ่งไห่ก็ปรากฏร่องรอยของความดูถูก
ซงเซจิคนนี้แม้จะเคยร่วมงานกับคนดังมามากมายแต่กลับไม่สามารถทำตัวดีได้แม้แต่น้อย!
เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?