ตอนที่ 1117-1118 MC เป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัทกง

เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก

เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “เป็นไปไม่ได้.. 30...30ล้านเหรอคะ!”

“ใช่แล้วล่ะ 30 ล้าน” ลินดายิ้ม

“อันที่จริง MC เซ็นสัญญากับพรีเซ็นเตอร์รายอื่น พวกเขาก็ให้ค่าตัวเท่ากัน แต่ฉันคิดว่าเพราะยังเป็นดาราหน้าใหม่และยังไม่มีชื่อเสียง พวกเขาจะไม่ให้เงินเท่ากับดาราระดับ A แก่เธอเสียอีก”

“ฉันแปลกใจที่พวกเขาไม่ขอลดค่าตัว”

“แน่นอน ฉันรู้ว่าตอนนี้เธออยู่กับประธานเหมา คงไม่ได้กังวลเรื่องเงิน บางทีสามสิบล้านหยวน ก็คง...”

“เป็นเงินที่เยอะมาก! ฉันพอใจมากค่ะ! ขอบคุณคะพี่เซี่ย!” เฉียวเมียนเมียนขัดจังหวะเธออย่างตื่นเต้น

“อีกอย่างพี่เซี่ยคะ ฉันยังขาดเงินค่ะ ฉันคบกับเหมาเยซื่อก็จริง เขาก็ใจดีกับฉันมาก แต่ฉันก็หวังว่าจะใช้เงินของตัวเอง”

ลินดามองดูเธอครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ฉันเข้าใจ ของบางอย่างอยู่ในมือของเราก็ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากกว่า พูดถึงเรื่องนี้ ฉันต้องโทรหาพวกเขาตอนนี้คุยเรื่องเซ็นสัญญาเลย? ส่วนเวลาถ่ายทำโฆษณานั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมการของพวกเขา”

“ได้ค่ะ”

หลังจากได้รับการยินยอมจากเฉียวเมียนเมียนแล้ว ลินดาก็หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วโทรออก

...

ในอีกห้องของคลับเฮ้าส์เดียวกัน

CEO ของแบรนด์ MC ยืนเคียงข้างชายคนหนึ่งด้วยท่าทางให้ความเคารพ

“นายน้อยกง สัญญากับคุณเฉียวได้รับข้อสรุปแล้ว ตอนนี้เราแค่รอให้คุณเฉียวเซ็นสัญญาก่อน ถึงจะเลือกวันเวลาถ่ายทำโฆษณาสำหรับฤดูกาลหน้าได้”

ตามที่ CEO ของแบรนด์รายงาน เขามองลงไปที่ชายที่นั่งบนโซฟาแล้วรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

พวกเขาได้เลือกพรีเซ็นเตอร์สำหรับฤดูกาลหน้าไว้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ตกลงเซ็นสัญญาไปแล้วด้วย

เขาพอใจกับพรีเซ็นเตอร์คนนั้นมากเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักาณ์หรือชื่อเสียง เขาเป็นดาราที่สามารถเพิ่มยอดขายในฤดูกาลหน้าได้อย่างแน่นอน

แต่จู่ ๆ นายน้อยกงก็ขอให้เปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์มาเป็นคุณเฉียว ดาราหน้าใหม่

คงจะดีถ้าเป็นไอดอลหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง

แต่นี่เธอเป็นดาราหน้าใหม่ ที่ยังไม่มีผลงานอะไรเลยด้วยซ้ำ

เขาเคยขอให้ใครคนหนึ่งช่วยดู

ดาราหน้าใหม่คนนี้มีผู้ติดตามเพียงหนึ่งล้านคนบนเว่ยป๋อ เทียบอะไรไม่ได้เลยกับดาราที่เขากำลังให้ความสนใจอยู่ก่อน

ยิ่งแกว่านั้น แฟน ๆ หนึ่งล้านของเธอต่างก็ติดตามเธอเพราะเรื่องอื้อฉาว

ก็ไม่ต่างจากการไม่มีฐานแฟนคลับ

กล่าวโดยสรุป CEO ของแบรนด์ไม่พอใจกับดาราหน้าใหม่ของกงเซลี

แต่ต่อให้ไม่พอใจเพียงใด เขาก็ไม่กล้าแสดงออกมา

เขาเป็นเพียง CEO ของ MC

แต่ MC ทั้งหมดอยู่ภายใต้บริษัทกง

แล้งนายน้อยตระกูลกงต้องการให้ดาราหญิงคนนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ในฤดูกาลหน้า ใครจะกล้าค้าน?

แม้ว่าเขาจะเลือกนักเรียนชั้นประถม ก็ตามที

ตราบใดที่นายน้อยกงชอบ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเขา

ไม่ว่ายอดขายจะดีหรือไม่ ก็ไม่กระทบอะไรกับบริษัทกง

ถ้าแม้แต่เขาไม่สนใจเรือ่งนี้ คนอื่นจะพูดอะไรได้อีก?

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ CEO ของแบรนด์ไม่เข้าใจคือ นายน้อยกงสนใจดาราหน้าใหม่คนนั้นจริง ๆ เหรอ?

ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นข่าวลือทุกประเภท

ในเวลานั้น คนที่อยู่ข้าง ๆ นายน้อยกงมาสองสามปีก็ไม่สนใจข่าวลือเหล่านั้นอย่างจริงจัง

เพราพวกเขารู้ดีว่านายน้องกงชอบคุณหนูตระกูลเซิน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายน้องกงมีเพื่อนหญิงหลายคน แต่เขาไม่เคยออกเดทอย่างเป็นทางการกับใครแม้แต่คนเดียว

__

เขาคงกำลังรอคุณหนูเซิน

เขาให้ความสำคัญกับแค่คุณหนูใหญ่ของตระกูลเซินเช่นนี้ แล้วเขาจะไปรักผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร?

นอกจากนี้ เธอยังเป็นดาราใหม่ในวงการบันเทิง มีอะไรดีไปกว่าคุณหนูเซิน

เธอเป็นเพียงคนสวยคนหนึ่งในวงการบันเทิง

แต่นายน้อยกงเป็นใคร?

เขาเห็นคนสวยมามากมายตั้งแต่เด็ก

เขาจะตกหลุมรักเธอเพียงเพราะเธอสวยได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม..

นายน้อยกงก็ยกงานพรีเซ็นเตอร์ของ MC สำหรับฤดูกาลหน้าแก่ดาราหน้าใหม่คนนั้น

ไม่อีกนานคงได้เห็นข่าวลือทางออนไลน์อีกเป็นแน่

นายน้อยกง...คงชอบดาราหน้าใหม่คนนั้นจริง ๆ!

บางทีหลังจากกที่เฝ้ารอคุณหนูเซินมานานหลายปี แต่เธอไม่ตอบรับเลย อาจทำให้หัวใจของนายน้อยกงเย็นชา

..

กงเซลีนอนอย่างเกียจคร้านอยู่บนโซฟา หลังจากฟังรายงานของ CEO เขาเพียงพยักหน้า “โอเค เซ็นสัญญากับพวกเขาให้เร็วที่สุด หลังจากเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการแล้ว ให้เว่ยป๋อทางการปล่อยข่าวได้”

“ครับ นายน้อยกง แต่...”

กงเซลีเหลือบมองไปที่เขา “แต่อะไร?”

CEO ของ MC มองไปที่การแสดงออกของเขาและลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างระมัดระวังว่า “พรีเซ็นเตอร์ที่เราเซ็นสัญญาในซีซั่นที่ผ่านมา นำเสนอสินค้าเก่งมาก หลังจากเซ็นสัญญากับเขา ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า แฟนคลับของเขาก็ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราเพราะเขาด้วยครับ”

“เราได้เปิดเผยในเว่ยป๋อไปแล้วว่าเราจะเซ็นสัญญากับเขาต่อ ถ้าแฟนคลับรู้ว่าเราเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ พวกเขาอาจจะเลิกซื้อผลิตภัณฑ์ของเราในอนาคตก็ได้นะครับ”

CEO ค่อนข้างเป็นกังวลกับเรื่องนี้

เขากังวลว่าหากให้เฉียวเมียนเมียนเป็นพรีเซ็นเตอร์ในซีซั่นถัดไป ยอดขายของ MC จะลดลงอย่างมาก

ทว่าเขาไม่กล้าพูดออกไปตรง ๆ

ท้ายที่สุด ดาราหน้าใหม่คนนั้นคือคนที่นายน้อยกงชื่นชอบ

ถ้าเขาแสดงความรังเกียจออกไป เขาอาจจะถูกนายน้อยกงต่อว่าภายหลังได้

เมื่อนายน้อยกงต่อว่าให้เขา เขาคงไม่สามารถเป็น CEO ที่นี่ได้อีก

CEO ไม่กล้าพูดออกไปตรง ๆ ก็จริง แต่กงเซลีก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเขาหมายถึงอะไร

เขาตอบด้วยท่าทางที่ไม่ใส่ใจว่า “MC มีชื่อเสียงในตัวอยู่แล้ว เพื่อให้ได้ตำแหน่งเครื่องสำอางชั้นนำของโลก หากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเราไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าดาราจะขายของดีสักเท่าไหร่ พวกเขาก็เพิ่มยอดขายให้เราได้ไม่เกินหนึ่งหรือสองซีซั่นหรอก”

“สิ่งที่เราต้องการคือลูกค้าที่สนใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ลูกค้าที่ตามไอดอลของตัวเองอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ อย่างหลังน่ะไม่ใช่ลูกค้าหลักของ MC เรา เพราะงั้นถ้าต้องเสียลูกค้าแบบนี้ก็ไม่น่าเสียดายหรอก”

CEO : “...”

ชายหนุ่มผู้นี้ไม่สนใจลูกค้า!

แต่สำหรับ CEO อย่างเขา ตราบใดที่ยอดขายเพิ่มขึ้น สำหรับเขาแล้ว เขาชอบทั้งนั้นล่ะ!

“นายน้อยกงพูดถูกครับ” CEO ได้แต่บ่นอยู่ในใจ แต่เบื้องหน้าเขาพูดอย่างสุภาพว่า “นายน้องกงเป็นคนที่มองเห็นปัญหาได้อย่างชัดเจน ลูกค้าที่ไม่มีเสถียรภาพย่อมไม่ใช่ลูกค้าหลักของทาง MC เรา”

เขาเพิ่งประจบสอพลอเสร็จ มือถือก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าเป็นสายมาจากผู้จัดการของดาราหน้าใหม่คนนั้น CEP จึงถือโทรศัพท์ของเขาและกล่าวว่า “นายน้อยกง พวกเขาโทรมาครับ น่าจะเกี่ยวกับสัญญา”

กงเซลีพยักหน้า “รับโทรศัพท์สิ”

“ครับ”

CEO รับสายทันที หลังจากคุยกันไม่กี่นาที เขาก็วางสาย

“นายน้อยกงครับ คุณเฉียวเองก็อยู่ที่นี่ ผู้จัดการของเธอได้ขอมาเซ็นสัญญาวันนี้ คุณคิดเห็นว่าอย่างไร..”

“ทางเราเองก็จะเซ็นวันนี้” การแสดงออกที่เกียจคร้านของกงเซลีเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะยังดูเฉยเมย แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อได้ยินชื่อของเฉียวเมียนเมียน