343 - เป็นสิ่งมีชีวิตจากดินแดนต้องห้ามจริงหรือ?
343 - เป็นสิ่งมีชีวิตจากดินแดนต้องห้ามจริงหรือ?
"ดูเหมือนมันจะตามหาข้า?"
ลานด้านหน้ามีเสียงตะโกนและกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ผู้คนมากมายบินขึ้นไปบนท้องฟ้าแต่สุดท้ายก็ตกลงมาอย่างไร้ความปราณี
เย่ฟ่านตกใจมาก ปีศาจร้ายตัวนั้นลงมืออย่างรุนแรงมากเกินไป เขาไม่รู้ว่ามันมาที่นี่เพื่ออะไร แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาบอกว่าเจ้าสิ่งนี้กำลังตามหาเขาอยู่
"ปัง!"
ห้องของเย่ฟ่านถูกทุบถล่มโดยตรงหน้าต่างถูกทุบ คานหัก เศษหินเศษอิฐปลิวว่อนและร่างสีดำยืนอยู่ในควันราวกับมัจจุราชที่ออกมาจากนรก
"เขาเป็นใครกันแน่?" ศิษย์หญิงในทะเลสาบหยกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
"พี่นางฟ้า เขาไม่ใช่คนแต่เป็นสัตว์ประหลาดที่วิ่งออกจากเหมืองโบราณต้นกำเนิด พวกเราต้องหนีเดี๋ยวนี้" หลี่เต๋อซ่งกลิ้งไปตามพื้นเพื่อหลีกหนีจากเศษอิฐเศษหินที่ปลิวว่อนไปมา
สัตว์ร้ายตัวนั้นดูน่ากลัวอย่างยิ่ง ดวงตาสีดำมืดของมันกวาดไปรอบๆคล้ายกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ศิษย์ของทะเลสาบหยกถอยหลัง สิ่งมีชีวิตนี้อันตรายเกินไป ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการต่อต้านของพวกเขาเป็นเพียงการละเล่นของเด็กๆ
พวกเขาต้องการหนี แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ขยับตัวเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นจะไล่ล่าสังหารในทันที
เสียงคำรามต่ำๆดังขึ้นทำให้จิตใจของทุกคนหนาวเหน็บราวกับตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง
"โฮก!"
เศษซากปรักหักพังกระจัดกระจายอยู่ทั่ว อาวุธของยอดฝีมืออาณาจักรตำหนักเต๋าไม่สามารถทำอันตรายมันได้แม้แต่น้อย
"ปู"
ทุกที่ที่หมอกสีดำหนาเคลื่อนผ่านร่างกายของลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและทะเลสาบหยกจะกลายเป็นหมอกเลือดอย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านจิตใจหนาวเหน็บอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตตัวนี้น่ากลัวเกินไป มันไม่มีทางที่เขาจะต่อต้านได้เลย
ปัง!
แสงสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้ากระแทกเข้าใส่สัตว์ร้ายตัวนั้นอย่างรุนแรง นี่เป็นการลงมือของผู้อาวุโสจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกอีกสองก็มาถึงแล้ว
"คร่อก…!"
แต่ก่อนที่ผู้อาวุโสจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกคนหนึ่งจะมีโอกาสได้ทำอะไร หมอกสีเทาอีกก้อนที่ไม่ทราบว่ามาจากที่ไหนก็ตัดผ่านร่างกายของนางจนฉีกออกเป็นสองส่วน
เย่ฟ่านใบหน้าซีดเผือด เขาลากหลี่เต๋อซ่งออกจากหินที่อยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่วา
"อย่าฆ่าข้า ... ข้าเป็นผู้ฝึกฝนที่หยาบกร้านรับรองว่าไม่ถูกปากเจ้าอย่างแน่นอน!" หลี่เต๋อซ่งจับศีรษะของตัวเองในขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัว
"ข้าเอง"
เย่ฟ่านตบเขาเพื่อเรียกสติแล้วถามว่า
"เจ้าเกิดมาพร้อมดวงตาหยิน นั่นคือสัตว์ที่ออกมาจากเขตต้องห้ามจริงๆ?"
"อย่าบอกนะว่าตอนที่พวกเราหนีออกมาเจ้าไม่เห็นมัน มันตามพวกเราตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะไปถึงถ้ำจันทราแล้ว" หลี่เต๋อซ่งเห็นว่าเป็นเย่ฟ่านก็สงบลงเล็กน้อย แต่ยังมีความกังวลอยู่ในดวงตาของเขา
"ใครจะตาดีเหมือนเจ้า" เย่ฟ่านยกยไหล่
"ตอนนี้มันไปไหนแล้วพวกเราหนีพ้นหรือยัง" หลี่เต๋อซ่งมองไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนกและพูดว่า "ยังไงพวกเราก็รีบไปกันเถอะ"
"อย่าห่วงเลยตอนนี้มีผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคอยรับหน้าอยู่" เย่ฟ่านถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย
เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากพื้นที่หวงห้ามมันค่อนข้างน่าสงสัย
เขารู้สึกเสมอว่าอีกฝ่ายอาจมาหาเขาเพราะสิ่งของบางอย่างที่อยู่ในร่างกายของเขานั่นเอง มิหนำซ้ำเงาสีเทาที่ปรากฏขึ้นในตอนท้ายเย่ฟ่านยังมองเห็นว่ามันถือกระบี่อีกด้วย
สถานที่แห่งนี้อยู่ได้ไม่นานและผู้คนในทะเลสาบหยกก็ไม่สามารถปกป้องเขาได้ เย่ฟ่านต้องการหลบหนีในขณะที่เกิดความโกลาหล
เย่ฟ่านถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทั้งหมดจากนั้นก็ใช้เปลวไฟของเตาเทพอัคคีเผาผลาญจนหมดสิ้น ในตอนนี้เขาเปลี่ยนชุดใหม่เป็นสีม่วงและใบหน้าของเขาก็ใหม่เอี่ยมเช่นกัน
"ไม่ถูกต้อง?" เขาหยุดอีกครั้ง
ถึงเขาจะเผาเสื้อผ้าไปจนหมดแล้วแต่หากอีกฝ่ายมาเพราะทองคำโลหิตหงส์ต่อให้เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ยังไงฝ่ายตรงข้ามก็ต้องรออยู่ด้านนอกอย่างแน่นอน
เขาคิดว่าการเคลื่อนไหวอย่างรีบร้อนมากเกินไปอาจจะกระตุ้นความสนใจของฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรอให้ความสงบจบลงก่อน
ลานด้านหน้าเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดและผู้อาวุโสในอาณาจักรลับที่สี่ก็ไม่สามารถหยุดเจ้าสิ่งนี้ได้ สิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองสองตัวนี้ยังเที่ยวฆ่าคนในขณะที่ผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตามความเร็วของมันไม่ทัน
"หากมันต้องการเต่าหยกที่อยู่ในตัวของข้ามันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเที่ยวฆ่าคนแบบนี้?"
เย่ฟ่านมองดูการกระทำของเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นอย่างตั้งใจ เขานึกหาเหตุผลอย่างอื่นที่สามารถดึงดูดใจปีศาจร้ายทั้งสองตัวนอกจากเต่าหยกไม่ได้
"ฆ่า……"
"ผู้เฒ่าไท่ซ่างกลับมาแล้ว!"
มีคนตะโกนด้วยความยินดี ในขณะเดียวกันมหาอำนาจอื่นๆที่มีเหมืองอยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ส่งคนมาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านกลายเป็นนักพรตอีกครั้งเขารีบวิ่งเข้าหาหลี่เต๋อซ่งพร้อมกับลากตัวฝ่ายตรงข้ามออกมาและกล่าวว่า
"มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากดินแดนต้องห้ามจริงหรือ ใช้ตาของเจ้าดูอีกครั้งหน่อย เหตุไฉนข้าจึงรู้สึกว่ามันถือกระบี่? "
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหลี่เต๋อซ่งก็ตัวสั่น เขาใช้ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาจ้องมองไปยังหมอกสีเทาทั้งสองก้อนซึ่งกำลังไล่ล่าผู้คนอย่างบ้าคลั่ง
"เป็นสัตว์ในแดนต้องห้ามจริงหรือไม่?"
"นี่...ข้ามองเห็นไม่ชัดแต่ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ในเงาสีเทาก้อนหนึ่งมีรูปร่างเหมือนมนุษย์และมีผมสีขาวเล็กน้อย" เสียงของหลี่เต๋อซ่งสั่นเทา
เย่ฟ่านรีบวิ่งกลับเข้าไปในเงามืดพร้อมกับเปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็นเด็กหนุ่มคนใหม่อีกครั้ง เขาต้องอาศัยความชุลมุนในครั้งนี้นี้ออกไปให้ได้
ตอนนี้เขาแทบจะมั่นใจแล้วว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในหมอกสีเทานั้นคือตัวอะไรกันแน่?
เย่ฟ่านรู้สึกว่ามันต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจากดินแดนต้องห้ามอย่างแน่นอน เจ้าสิ่งนั้นเป็นมนุษย์คนหนึ่งมิหนำซ้ำยังมีเจตนาอาศัยช่วงชุลมุนแย่งชิงเอาทองคำโลหิตหงส์ของเขา
"ใบมีดผุไม่คิดว่าเจ้าจะน่ากลัวขนาดนี้!"
เย่ฟ่านยังคงรู้สึกสยดสยองอย่างยิ่งในตอนที่กระบี่เล่มนั้นตัดแบ่งร่างกายของผู้อาวุโสอาณาจักรลึกลับที่สี่ให้ขาดเป็นสองท่อน
ใบมีดผุๆมีเจตนาลึกซึ้งอย่างแน่นอน บางทีเขาอาจจะหลอกล่อผู้คนให้เข้าสู่ดินแดนต้องห้ามเพื่อใช้เป็นอาหารให้กับปีศาจร้ายตัวนั้น และตอนนี้เจตนาของเขาก็ชัดเจนอย่างยิ่งว่าต้องการแย่งชิงทองคำโลหิตของของเย่ฟ่าน
…………..
คืนนี้เมืองต้นกำเนิดตกอยู่ในสถานการณ์ปั่นป่วนครั้งใหญ่ ลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและทะเลสาบหยกถูกสังหารไป 27 คน
ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสอาณาจักรลับที่สามก็เสียชีวิตไปถึง 18 นั่นรวมไปถึงสองผู้อาวุโสไท่ซ่างที่อยู่ในอาณาจักรลึกลับที่สี่
ผู้บ่มเพาะ 47 คน ถูกสังหารอย่างน่าสังเวช แต่ที่น่าแปลกใจคือผู้ที่ตายส่วนใหญ่แทบจะมาจากกระบี่ทั้งสิ้น หลังจากสังหารจนพอใจเงาลึกลับสองเส้นก็บินออกจากเมืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อท้องฟ้าแจ่มใสข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งภาคเหนือในทันที
ในครั้งนี้ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง!
" ใบมีดผุลงมือโหดเหี้ยมจริงๆ หากเขาจับตัวข้าได้รับรองว่าข้าจะต้องตายอย่างน่าสังเวชที่สุด" เย่ฟ่านใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ
หลังจากที่ออกจากสถานที่ทำเหมืองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกเย่ฟ่านก็มาซ่อนตัวอยู่ในเมืองต้นกำเนิดสามวันเพื่อดูว่าจะมียอดฝีมืออาวุโสมากแค่ไหนที่มาถึงที่นี่
สามวันต่อมาเย่ฟ่านเดินทางไกลอีกครั้ง วิธีการที่ดีที่สุดก็คือออกห่างจากความวุ่นวายทั้งหมดเพื่อไม่ให้ภัยลามเข้าหาตัวเอง
แต่ในขณะเดียวกันเขายังคงต้องการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก น่าเสียดายที่อัตลักษณ์ของนักพรตที่ครอบครองทองคำโลหิตหงส์ไม่สามารถใช้ได้แล้ว!
ครึ่งเดือนต่อมาเย่ฟ่านได้ข้ามพื้นที่สีแดงขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองต้นกำเนิดหลายหมื่นลี้เพื่อกลับสู่ภูเขาสีม่วง
แต่ทันทีที่เขากำลังเข้าสู่หมู่บ้านหินเงาสีดำขนาดใหญ่ก็บินลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกเขาให้ตกลงพื้นอย่างรุนแรง
เย่ฟ่านพยายามพลิกตัวขึ้นยืนแต่อุ้งเท้าสีดำขนาดใหญ่ก็กดร่างกายของเขาให้แนบกับพื้นอย่างแน่นหนา
เมื่อได้สติเย่ฟ่านจึงมองขึ้นไปและเห็นว่าสิ่งที่ทำร้ายเขาคือสุนัขสีดำตัวใหญ่